การจัดการความรู ้: แนวคิดและกลยุทธ ์ในการสร ้างองค ์กร แห่งการเรียนรู ้ ดร.สุรพงษ ์ มาลี ผอ.กลุ่มยุทธศาสตร ์และนวัตกรรม ศูนย ์บริหาร กาลังคนภาคร ัฐ สานักพัฒนาระบบจาแนก ตาแหน่ งและค่าตอบแทน สานักงาน ก.พ. surapong@ocsc.go.th poksm@hotmail.com ลาดับการประชุมเชิงปฏิบต ั ก ิ าร • WHY: ทาไมต้องจัดการความรู ้ ่ ผลสัมฤทธิสู์ ง ยุทธศาสตร ์การพัฒนาสู ่การเป็ นองค ์กรทีมี (HPO) ่ การบริหารกิจการบ้านเมืองทีดี • WHAT: การจัดการความรู ้ คืออะไร – ความหมายและรู ปแบบของความรู ้ – กระบวนการในการจัดการความรู ้ ่ – เครืองมื อในการจ ัดการความรู ้ • HOW: การจัดทาแผนการจัดการความรู ้ ทาอย่างไร WHY? ความสาค ัญ ของการจัดการความรู ้ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ ์และ วิธก ี าร ่ พ.ศ. 2546 บริหารกิจการบ้านเมืองทีดี มาตรา 11 “ส่วนราชการมีหน้าที่ พัฒนาความรู ้ ในส่วน ราชการเพื่ อให้ม ี ล ก ั ษณะเป็ น องค ก ์ รแห่ ง การ เรีย นรู ้ อย่ า งสม่ าเสมอ โดยต้อ ง ร บ ั รู ข ้ ้อ มู ล ข่า วสาร และสามารถ ประมวลผลความรู ใ้ นด้าน ่ ามา ประยุกต ์ใช้ ในการปฏิบต ต่างๆ เพือน ั ริ าชการ ไ ด้ อ ย่ า ง ถู ก ต้ อ ง ร ว ด เ ร็ ว แ ล ะ เ ห ม า ะ ส ม กั บ ้ อ ง ส่ ง เสริม และพัฒ นา สถานการณ์ รวมทังต้ ค ว า ม รู ้ค ว า ม ส า ม า ร ถ ส ร ้า ง วิ ส ั ย ทั ศ น์ แ ล ะ การบู รณาการแนวทางการกาหนด ่ ่งสู ่ HPO ยุทธศาสตร ์ เพือมุ High Performance Organization possess a Sustained Competitive Advantage They get it by creating and delivering something to the market that is Valuable, Rare, and Hard to Imitate Creating and delivering this value demands the disciplined obsession of a High Performance Workforce And the way to build and focus High Performance Workforce is by using Strategic Measurements and High Performance Workforce Architecture ่ การจัดการความรู ้:เครืองมื อในการแปลง ยุทธศาสตร ์ไปสู ่การปฏิบต ั ิ Organization’s strategy “Must Do” Knowledge required to execute strategy Strategic gap Knowledge gap Organization’s capabilities “Can Do” Actual organization knowledge Peter M. Senge องค ์กรแห่งการ เรียนรู ้ Personal Mastery Mental Model Shared Vision Team Learning Systemic Thinking การจัดการความรู ้กับการบริหารทร ัพยากร บุคคล การจัดการความรู ้:แนวคิด • ความรู ้ : รู ปแบบ/ประเภทของ ความรู ้ • กระบวนการจัดการความรู ้ ่ อในการจัดการความรู ้ • เครืองมื ่ าคัญ ความรู ้ ถือ เป็ น “สินทร ัพย ์” อ ันเป็ น “ทุน” ทีส ขององค พันธกิ์กร จ ้ สินทร ัพย ์ระยะสัน • Inventory, Account Receivable สินทร ัพย ์ระยะยาว • Equipment, Property, Goodwill สภาพคล่อง (Liquidity): สินทร ัพย ์สามารถ แปลงเป็ นตัวเงินได้ ง่ ายเพียงไร ่ สินทร ัพย ์ซึงจับต้ องได้ กลยุทธ ์ ความพร ้อม (Readiness): ่ บ สินทร ัพย ์ซึงจ ั ทุนมนุ ษย ์ ต้องไม่ได้ชว ่ ยให้ • ทุนลู กค้า องค ์กรบรรลุ • ทุนองค ์กร วัตถุประสงค ์ ยุทธศาสตร ่ สินทร ัพย ์ซึงจับต้ องไม่ ได้ ์ Knowledge capital ได้มากน้อย ่ บต ้องไม่ได ้สามารถแปลงเป็ นผลลัพธ ์ขององค สินทร ัพย ์ซึงจั ์กรผ่านกระบวนการย ความสาคัญของทร ัพยากรบุคคล (ทุน มนุ ษย ์): การสร ้างขีด ่ น ความสามารถในการแข่งขันอย่างยังยื ราคา <60 ว ัน การโฆษณา <1 ปี นวัตกรรม < 2 ปี ระบบการผลิต < 3 ปี ช่องทางการกระจายสินค้า < 4 ปี ทุนมนุ ษย ์ (HUMAN Capital) > 7 ปี Some activities are much harder to replicate than others. ความรู ้ (Knowledge) ความรู ้คืออะไร ‘Knowledge Capital’ of an organisation can be identified in its human capital, customer capital and structural capital ความสามารถในการทาให้ สารสนเทศและ ข้อมู ล มาเป็ นการ ่ ประสิทธิภาพได้ กระทาทีมี ส่วนผสมของกรอบประสบการณ์ คุณค่า สารสนเทศ และ ่ ่ ่ าให้ ความเชียวชาญซึ งจะเป็ นกรอบทีท ความสัมพันธ ์ระหว่างข้อมู ล สารสนเทศ ความรู ้ และปั ญญา ปั ญ Wisdo ญา m Dat a Knowledg e Informati ความรู ้.....อยู ่ทไหน? ี่ 12 % Electronic knowledge bases 42 % Employee brains 20 % Electronic documents 26 % Paper documents รู ปแบบ/ประเภทของค Explicit knowledge can be articulated or codified in the form of words, numbers or symbols, and is more easily passed on or communicated. เอกสาร (Document) - กฎ ระเบียบ (Rule), วิธป ี ฏิบต ั งิ าน (Practice) ระบบ ่ างๆ – วีซด (System) สือต่ ี ี ดีวด ี ี เทป Internet Tacit knowledge is an individual’s intuitions, beliefs, assumptions and values formed as a result of experience, and the inferences the individual draws from that experience. ทักษะ (Skill ) ประสบการณ์ (Experience) ความคิด (Mind of individual ) พรสวรรค ์ (Talent ) ่ ัด ความรู ้ทีช แจ้ง (Explicit Knowledge) ่ งอยู ่ ความรู ้ทีฝั ในคน (Tacit Knowledge) ่ ัด ความรู ้ทีช แจ้ง (Explicit Knowledge) (1) อธิบายได้ แต่ไม่อยากอธิบาย( 2 ) อธิบายได้ แต่ยงั ไม่ถูกนาไปบัน (3) อธิบายไม่ได้ ่ งอยู ่ ความรู ้ทีฝั ในคน (Tacit Knowledge) Tomohiro Takahashi WHAT? การจัดการความรู ้: กระบวนการและเทคนิ ค IT IS NOT ENOUGH TO STARE UP THE STEPS WE MUST STEP UP THE STAIRS เพียงจ้องมองบันไดยังไม่ พอ ้ เราต้องก้าวขึนบันได องค ์ประกอบสาค ัญของการบริหาร จัดการความรู ้ 1. คน (People) เป็ นแหล่งความรู ้ และเป็ นผู น ้ าความรู ้ไปใช้ให้เกิด ประโยชน์ 2. เทคโนโลยี (Technology) ่ ่ เป็ นเครืองมื อเพือให้ คนสามารถค้นหา จัดเก็บ ่ แลกเปลียน ้ าความรู ้ไปใช้ได้อย่างง่ ายและรวดเร็วขึน ้ รวมทังน 3. กระบวนการจัดการความรู ้ (Knowledge Process) ่ าความรู ้จากแหล่งความรู ้ เป็ นการบริหารจัดการเพือน ไปให้ผูใ้ ช้ ่ าให้เกิดการปร ับปรุงประสิทธิภาพในการทางาน เพือท และเกิด กระบวนการจัดการความรู ้ • Creation and Acquisition: Organisations obtain the knowledge they need by buying, renting or developing it. • Codification: Make local and often tacit knowledge explicit and available for wide distribution. • Distribution: Make knowledge available to those who need it and can use it. • Use: Knowledge is applied to solving problems and creating new ideas. KM Implementation Techniques สร ้างกรอบความคิด ในการบริหาร Model Management Methods Capture Analysis KM Implementation วิเคาระห ์และ สังเคราะห ์ความรู ้ Knowledge Engineer Validation Modelling Organization สร ้างระบบสารสนเทศ จัดการความรู ้ Retrieval Dissemination Knowledge Worker Users Knowledge Engineer Analysis ่ บได้ การวิเคาระห ์ความรู ้ทีจั วิเคราะห ์และ สังเคราะห ์ความรู ้ Context Concept Artefact organization model task model knowledge model agent model communication model design model Capture ่ การจับความรู ้จากผู เ้ ชียวชาญ Validation การตรวจสอบความถูกต้อง ของความรู ้ Modelling การสังเคาระห ์ให้เหมาะสมก ับ การใช้งาน Organization Knowledge Worker Users สร ้างระบบสารสนเทศ จัดการความรู ้ การจัดเก็บความรู ้เป็ นระบบ Retrieval การค้นหาและเรียกใช้ความร knowledge manager defines knowledge strategy initiates knowledge development projects facilitates knowledge distribution elicits knowledge from knowledge provider specialist validates uses elicits requirements from KS KS knowledge engineer/analyst manages Delivers analysis models to knowledge user designs & implements knowledge system developer project manager manages Share &Dissemination การใช้ความรู ้ร่วมกน ั และ การกระจายความรู ้ การสร ้างความรู ้ (Knowledge Creation - SECI) Tacit Tacit Socialization (Self learning – CAL) Coaching & Mentoring Internalization (Private lesson – ICAI) Learn from a report Tacit Explicit Explicit Tacit Externalization Explicit (Group learning – CSCL) Dialog within team Answer questions Combination (Public lecture – CAI) E – mail a report สมุดหน้าเหลือง Explicit เอกสารวิจย ั Knowledge ความรู ้, Intranet, Internet ความรู ้ช ัดแจ้งจับต้องได้ est Practice Database Tacit Knowledge ่ งอยู ่ในคน ความรู ้ทีฝั IQCs ่ สัมมนาเรือง ความรู ้ต่าง ๆ nowledge Forum) Story Telling ชุมชนแห่งการ เรียนรู ้ (CoP) การหมุนงาน ทีมงาน ข้ามสายงาน ่ ยง ้ ระบบพีเลี ่ ตัวอย่างเครืองมื อและ ่ ้ การแบ่งปั นแลกเปลียนความรู (Knowledge Sharing) Explicit Knowledge • เอกสาร • ฐานความรู ้ • เทคโนโลยีสารสนเท Tacit Knowledge • ทีมข้ามสายงาน • กิจกรรมกลุ่ม คุณภาพ และนวัตกรรม • ชุมชนแห่งการ เรียนรู ้ ่ ยง ้ • ระบบพีเลี ่ • การสับเปลียน งาน กระบวนการจัดการความรู ้ (Knowledge Processes) ่ ต้ ่ องเรียนรู ้ (Knowledge 1. การกาหนดสิงที Identification) 2. การแสวงหาความรู ้ (Knowledge Acquisition) 3. การจัดเก็บและค้นคืนความรู ้ (Knowledge Storage & Retrieval) 4. การสร ้างความรู ้ (Knowledge Creation) ่ ้ 5. การประมวลและกลันกรองความรู (Knowledge Codification & Refinement) 6. การถ่ายโอนและใช้ประโยชน์จากความรู ้ (Knowledge Transfer Community of Practices (CoPs) / Knowledge Network) (ชุมชนนักปฏิบตั /ิ ชุมชนการปฏิ บต ั /ิ ชุมชนแห่งการเรียนรู ้/ เครือข่า ่ ่ • กลุ่มคนทีรวมตั วกน ั (จริงหรือเสมือน) เพือ ่ แลกเปลียนความรู ้ระหว่างกน ั ด้วยความสมัครใจโดย ่ มีเป้ าหมายร่วมก ันเพือ ่ ันและกน – ช่วยเหลือซึงก ั – ค้นหา ทบทวน รวบรวมและเผยแพร่ Best Practices ่ – รวบรวม ปร ับปรุง และเผยแพร่ความรู ้ทีใช้ ในงานประจา – สร ้างนวัตกรรมและองค ์ความรู ้ใหม่ๆร่วมกน ั สอดคล้องกับเป้ าหมายองค ์กร ่ าคัญของ CoP ลักษณะทีส • กลุ่ ม คนที่ รวมต ว ั กันโดย มี ค วามสนใจและ ่ ่ ความปรารถนา (Passion)ร่วมกันในเรืองใดเรื อง หนึ่ง (มี Knowledge Domain) ่ องคุยกัน - เข้าใจดีวา่ อะไรเป็ นประเด็นทีต้ • ปฏิส ม ั พัน ธ แ์ ละสร า้ งความสัม พัน ธ ใ์ นกลุ่ ม (เป็ น Community) ่ นและกันในการแก้ไขปั ญหาและตอบคาถาม - ช่วยเหลือซึงกั ่ - เชือมโยงกั นข้ามทีม หน่ วยงาน หรือ องค ์กร • แลกเปลี่ยนและพัฒ นาความรู ร้ ่ว มกัน (ต้อ ง Practice) ่ - แลกเปลียนข้ อมู ล เคล็ดลับ แนวทางแก้ไขปั ญหา และ Best Etienne Wenger ประเภทของ CoP ่ 1. Helping Communities: เพือแก้ ปัญหาประจาวน ั ่ และแลกเปลียนแนวคิ ดในกลุ่มสมาชิก 2. Best Practice Communities: เน้นการพัฒนา ตรวจสอบและเผยแพร่แนวปฏิบต ั ท ิ เป็ ี่ นเลิศ ่ ด 3. Knowledge-stewarding Communities : เพือจั ่ ระเบียบ ยกระดับและพัฒนาความรู ้ทีสมาชิ กใช้เป็ น ประจา ่ ฒนาแนวคิด 4. Innovation Communities: เพือพั ่ โดยเน้นการข้ามขอบเขตเพือผสมผสานสมาชิ กที่ แนวคิดของ Richard McDermott, จากการสารวจของ มุมมองต่างกัน APQC ประโยชน์ของ CoP ้ ระยะสัน • เวทีของการแก้ปัญหา ระดม สมอง ระยะยาว • เสริมสร ้างวัฒนธรรมการ ่ แลกเปลียนเรี ยนรู ้ขององค ์กร ่ • เกิ ด ความสามารถที ไม่ ่ • ได้แนวคิดทีหลากหลายจาก คาดการณ์ไว้ กลุ่ม • วิเคราะห ์ความแตกต่าง และ ้ั าหมายการปร ับปรุงได้ ้ ตงเป้ • ได้ขอ ้ มู ลมากขึนในการ อย่างมีประสิทธิภาพ ต ัดสินใจ • แหล่งรวบรวมและเผยแพร่วธ ิ ี • หาทางออก/คาตอบที่ ปฏิบต ั ท ิ เป็ ี่ นเลิศ รวดเร็ว • ลดระยะเวลา และการลงทุน ประโยชน์ของ CoP ้ ระยะสัน • เกิดความร่วมมือ และการ ประสานงาน ระหว่างหน่ วยงาน • ช่องทางในการเข้าหา ่ ผู เ้ ชียวชาญ ่ • ความมันใจในการเข้ าถึง และแก้ปัญหา • ความผู กพันในการเป็ นส่วน หนึ่งของกลุ่ม ระยะยาว • เกิดโอกาสพัฒนาองค ์กร อย่างก้าวกระโดด • เครือข่ายของกลุ่มวิชาชีพ ่ ยงในวิชาชีพเพิมขึ ่ น ้ • ชือเสี • ได้ร ับผลตอบแทนจากการ ้ จ้างงานสู งขึน • ร ักษาคนเก่ง ให้อยู ่กบ ั องค ์กร ได้ วงจรการเรียนรู ้ของสมาชิก CoP ่ ประยุกต ์ใช้ความรู ้ทีได้ CoP Meetingจาก CoP งานใน หน่ วยงาน ฐานความรู ้ นาความรู ้ใหม่ ป้ อนกลับ CoP ดร. ยุวดี เกตสัมพันธ ์ “ห ัวปลา” • Knowledge Vision ื่ มต่อก ับ “ภาพใหญ่” ต้องเชอ ต้องได้ Output, Outcomes ้ ” • ต้องเข้าใจบทบาท “คุณเอือ • ต้องใช ้ “ภาวะผูน ้ า” ในทุกระด ับ “หางปลา” • Knowledge Assets ได้มาจาก “คุณกิจ” ต ัวจริง • มีทงส ั้ ว่ นทีเ่ ป็น Explicit และ Tacit • มีระบบ/เทคโนโลยีทท ี่ าให้เข้าถึงได้ ้ ระโยชน์ได้ ง่าย สามารถนาไปใชป KA KV “ต ัวปลา” KS • Knowledge Sharing สงิ่ ทีเ่ ป็น Tacit • ทาให้ได้คด ิ และสร้างแรงบ ันดาลใจ ่ ยกระตุน • ให้ “คุณอานวย” ชว ้ และหมุน “เกลียวความรู”้ HOW? ้ ขันตอนการจัดท าแผน การจัดการความรู ้ การวางระบบบริหารจัดการสินทร ัพย ์ ่ บต้องไม่ได้ ทีจั 1. ทุนมนุ ษAssets ย์ Intangible Management Processes Human Capital Human ทักษะ คุณค่า ความรู ้ ขีด 2. ทุนข้อมู ลความสามา สารสนเทศ รถ ้ และทุนความรู Information Capital ระบบ ฐานข้ อมู เครือข่าย ล 3. ทุนองค ์การ Organization Capital ภาวะผู น ้ า ทางานเป็ นทีม วัฒนธรรม การถ่ายทอด องค ์กร เป้ าหมาย Capital Developmen t Plan การสร ้าง “ความ พร ้อม” ในการ ICT ่ ขับเคลือ Plan น ยุทธศาส • KM ตร ์ • Individual Scorecard (Strategi c กระบวนการจัดการความรู ้สาหร ับราชการ ไทย (Knowledge Management Process) ่ ้ เราต้องมีความรู ้เรืองอะไร 1. การบ่ งชีความรู ้ ่ ้ เรามีความรู ้เรืองนั นหรื อยัง (Knowledge Identification) ความรู ้อยู ่ทใคร ี่ อยู ่ในรู ปแบบอะไร จะเอามาเก็บรวมก ันได้อย่างไร 2. การสร ้างและแสวงหาความรู ้ (Knowledge Creation and Acquisition) จะแบ่งประเภท หัวข้ออย่างไร 3. การจัดความรู ้ให้เป็ นระบบ(Knowledge Organizatio จะทาให้เข้าใจง่ ายและสมบู รณ์ อย่างไร ่ 4. การประมวลและกลันกรองความรู ้ (Knowledge Codification and Refinement) เรานาความรู ้มาใช้งานได้ง่าย หรือไม่ 5. การเข้าถึงความรู ้ (Knowledge Access) มีการแบ่งปั นความรู ้ให้ก ันหรือไม่ ่ 6. การแบ่งปั นแลกเปลียนความรู ้ (Knowledge Sharing ้ าให้เกิดประโยชน์ก ับ ความรู ้นันท องค ์กรหรือไม่ ้ 7. การเรียนรู ้ (Learning) ่ การเชือมโยง KM สู ่ วิสย ั ทัศน์/ พันธกิจ/ ประเด็นยุทธศาสตร ์ ของ Change Management Process … KM Process … Change Management Process การเรียนรู ้ (Training Learning)& การยกย่อง ชมเชย และการให้ รางวัล การวัดผล (Measureme nts) กระบวนการจด ั การความรู ้ (Knowledge M anagem entProcess) CoP เร าต ้ งมี าม รู้ เร ้ ื่ อ ื่ งอ ะไ เร าต อ้ อ งมี คค วว าม รูเร อ งอ ะไ รร ้ รอ เร ามี าม รู้ เร ้ ื่ อ ื่ งนั ืย ้น เร ามี คค วว าม รูเร อ งนั น หห รอ ืย งั งั าบ่งชี รบ่งชี าม ้ว้ว 1.1.กก าร คค าม รูรู้ ้ (K nw ow de geId Id et n fia ct a tio n) (K no lele dg en iftiic io n) าม รู้ อ ้ ยู ่ ่ค ใ่ ค ใ่ น รูปแ บบอ ะไ คค วว าม รูอ ยู ที ่ ที ใ รรออ ยูยู ใ่ น รูปแ บบอ ะไ รร ะเอ าม าเก็ บร ได ้ ย่ างไ จจ ะเอ าม าเก็ บร วว มม กก น ัน ไั ด อ้ อ ย่ างไ รร าส รส ร้ งแ า้ งแ ะแ งห าค าม 2.2.กก าร รา ลล ะแ สส วว งห าค วว าม รูรู้ ้ (K nw ow de geCC ra et a tio ad nd cu qiu isi tio n) (K no lele dg re io nn an AA cq si tio n) Work Processes ะแ บ่งปร ะเภ ัข างไ จจ ะแ บ่งปร ะเภ ทท หห วั ว ข อ้ อ อ้ อ ย่ย่ างไ รร าจ รจ ัค าม รู้ ห ใ้ ห ้็ น ็น ระบบ( nw ow de geO O ra gn ain zt a tio n) 3.3.กก าร ด ัด ค วว าม รูใ เป ้ เป ระบบ( KK no lele dg rg zia io n) ะท ให ้ าใ ้ จ ใ ง่ย าย ะส บูร ณ์ างไ จจ ะท า ใา ห เข ้ เข ้ าจ ง่า แแ ลล ะส มม บูร ณ์ ออ ย่ย่ างไ รร ่ ั กรองความรู ้ าปร รปร ะม ะก ่ั น 4.4.กก าร ะม วว ลล แแ ลล ะก ลล น ก รองความรู ้ (K nw ow de geCC oid fia ct a tio ad nd e fin em et n (K no lele dg od fiic io nn an RR ef in em en )t) เร าน า ค าม รู้ ม ้ใ าช ใช งา ้ น ได ง่้ ย าย รื อ ไม่ เร าน า ค วว าม รูม า งา ้ น ได ง่้ า หห รอ ไื ม่ าเข รเข ้ งค งค าม (้ K nw ow de geAA ce css) ess) 5.5.กก าร าถึ ้ าถึ วว าม รูรู(้ K no lele dg cc าแ รแ บ่งปัน าม รู้ ห ใ้ ห ้ั น ัห รื อ ไม่ มีมี กก าร บ่งปัน คค วว าม รูใ ก้ ก น ห รอ ไื ม่ ้ า าม รู้ นั ้้ น ให ้ ดด ปร ะโ ช น์ ั งค งค รห รื อ ไม่ คค วว าม รูนั น ทท า ให เกิ ้ เกิ ปร ะโ ยย ช น์ กก บอ ั บอ ก์ ก ร์ ห รอ ไื ม่ ้ หรอ ให ้ งค รดี ขึ ไม่ ้ห ทท า ใา ห อ้ อ งค ก์ ก ร์ ดี ขึ นน รอ ื ไื ม่ กระบวนกา ร และ ่ เครืองมื อ (Process &Tools) (Recognition and Reward) วิสย ั ทัศน์/ พันธ กิจ ขอบเขต KM เป้ าหมาย (Desired State) ่ ความรู ( าแ รแ บ่งปัน เปลี ้K nw ow de geSh Sh ain rin g) ่ย 6.6.กก าร บ่งปัน แแ ลล กก เปลี ย นน ความรู ( ้K no lele dg ar g) S E I C ่ การสือสาร (Communica tion) าเร รเร ีน (้ e La er an rin nin g) 7.7.กก าร ย ีย น รูรู(้ L g) การเตรียมการ และ ่ ปร ับเปลี ยน พฤติ กรรม (Transition Behaviorand Management) ประเด็น ยุทธศาสตร ์ / กลยุทธ ์/ กระบวนงาน ่ั กิจกรรมที่ 1 ( 1 ชวโมง) 1. ทบทวนยุทธศาสตร ์และกาหนดองค ์ ่ าเป็ นสาหร ับขับเคลือน/ ่ ความรู ้ทีจ สนับสนุ นยุทธศาสตร ์ -อาจใช้แบบทบทวนยุทธศาสตร ์และรายการองค ์ ความรู ้ ่ ่ - ระบุให้ช ัดเจนว่า องค ์ความรู ้ทีระบุ ช่วยขับเคลือน ยุทธศาสตร ์ใด (อย่างน้อย 2 ยุทธศาสตร ์) และตอบ โจทย ์เป้ าประสงค ์และตัวชีว้ ัดใด 2. นาเสนอผลการกาหนดองค ์ความรู ้ และ หาข้อสรุป รายการองค ์ความรู ้ อย่างน้อย 2-3 องค ์ความรู ้ ของ สลน. พร ้อมให้ ่ั กิจกรรมที่ 2 ( 1 ชวโมง) ่ องดาเนิ นการในแต่ 1. ระบุกจ ิ กรรมหลักทีต้ ้ ละขันตอนของกระบวนการจั ดการความรู ้ โดยใช้แบบฟอร ์ม แผนการจัดการความรู ้ ้ ดในแต่ละ 2. กาหนดเป้ าหมาย/ตัวชีวั ่ ่ ยวข้ กิจกรรมหลัก กลุ่มเป้ าหมายทีเกี อง ผู ร้ ับผิดชอบ ระยะเวลาการดาเนิ นการ ้ 3. ระบุวา ่ ในแต่ละขันตอนของกระบวนการ จัดการความรู ้ ต้องดาเนิ นกิจ ่ กรรมการบริหารการเปลียนแปลงใด ควบคู ่ ไปด้วย ปั จจัยแห่งความสาเร็จ • • • • ผู บ ้ ริหาร บรรยากาศและวัฒนธรรมองค ์กร ่ การสือสาร เทคโนโลยีทเข้ ี่ ากับพฤติกรรมและการ ทางาน ่ • การให้ความรู ้เรืองการจั ดการความรู ้และ การใช้เทคโนโลยี • แผนงานช ัดเจน ้ ด • การประเมินผลโดยใช้ต ัวชีวั ่ จริง การจัดการความรู ้ ทีแท้ ผิวเผิน • เขียนแผน ่ องการใช้ • สกัดความรู ้ทีต้ งาน ้ • นาขึนระบบสารสนเทศ • ได้ศูนย ์กลางความรู ้และ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ผ่านการประเมิน ่ น ยังยื • บุคลากรมีทก ั ษะในการ ่ แลกเปลียนแบ่ งปั นความรู ้ฝั ง ่ จากการปฏิบต ลึก (TK) ทีได้ ั ิ • มีวฒ ั นธรรมการแบ่งปั น ความรู ้ • เห็นคุณค่าของการสร ้าง ้ ความรู ้ขึนใช้ เองในกิจการ ของตน บทบาทใหม่ของการบริหาร “ท Human Capital Steward • ผู ด ้ ู แลทุนมนุ ษย ์ Knowledge Facilitator • ผู อ ้ านวยความรู ้ Relationship Builder Rapid Deployment Specialist • ผู ป ้ ระสานสัมพันธ ์ ่ บไว • มืออาชีพทีฉั Q&A การจัดการความรู ้