เทคนิคการสร้ างสุขในการทางาน น.พ.เทอดศักดิ์ เดชคง กลุ่มทีป่ รึกษากรมสุ ขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุ ข "Findings resulting from a 5,200 clinical study group observed over a 30 year span showed that pulmonary function measurement is an indicator of general health and vigor and literally the primary measure of potential life span. National Institute of Aging meeting from Science News, vol.120, 1981 p.74 ส ุขภาพดี ท่องเที่ยวทัว่ โลก เดินเหินออกกาลังได้ ล ูกหลานดีสมใจ มีงานอดิเรกหรือมีรายได้ ทางานได้ ดมี ปี ระสิ ทธิภาพ ค้ นพบความสุ ขในชีวติ /การทางาน ส ุขภาพกายเช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน มีพฤติกรรมเสี่ยงเช่น สูบบ ุหรี่ ไม่ออกกาลังกาย มีปัญหาส ุขภาพจิตเช่น เครียด เบื่อเซ็ง มีปัญหาส ุขภาพที่เกี่ยวข้องทัง้ กายและใจเช่น ไมเกรน โรคกระเพาะอาหาร - สถานะเปลี่ยนต้องปรับตัวปรับใจ - ส ุขภาพเปลี่ยน - สังคมเปลี่ยน - จิตใจและส ุขภาพจิต - มีท้งั ด้ านดี (Eustress) และด้ านร้ าย (Distress) - ส่ วนใหญ่ เกิดจากการแปล - ประเมิน ความหมาย - อาการทางความคิดเช่ น คิดช้ า ตัดสิ นใจผิดพลาด - อาการทางจิตใจเช่ น เบื่อเซ็ง ท้ อแท้ หงุดหงิด - อาการทางร่ างกายเช่ น กล้ ามเนือ้ ตึง ใจสั่ น ความดันโลหิตสู ง ติดเชื้อง่ าย-หายช้ า ีีี่ ทาให้ เกิดโรคเช่ นเครียด ซึมเศร้ า ทาให้ เกิดโรคได้ ง่ายขึน้ เช่ น ไมเกรน ความดันโลหิตสู ง ทาให้ โรคหายเร็ว-ช้ า มาก-น้ อยใด้ เช่ นมะเร็ง เบาหวาน เอดส์ ฯลฯ สุขหรือไม่ ขนึ้ อย่ ูกบั อะไร? Sources of happiness พันธุกรรม Good/bad luck ตำแหน่ง/หน้ำตำในสังคม เรี ยนรู ้สร้ำงควำมสำมำรถ Choice ทำงเลือกต่ำงๆ 30 10 10 25 25 Presented paper ความสุขมาจากไหน? David Lykken U of Minnesota Study ใน twin 4000 ชุด พบว่ำ Happiness 50% มำจำก genetic programming 8% มำจำก รำยได้, ชีวติ คู่, education, ศำสนำ/ควำมเชื่อ 42% Life’s sling and arrows ควำมสำมำรถ/คุณสมบัติที่เรี ยนรู้ได้ ความสุขมาจาก สิ่ งที่เปลีย่ นไม่ ได้ 50% มาจากสิ่ งที่เปลีย่ นได้ 50% เช่ น วิธีคดิ /วิธีมองโลก กิจกรรมในชีวติ ประจาวัน การออกกาลังกาย การกินอาหาร ทาไมต้ องพยายามมีความสุข? มีความสุขทาได้ อย่ างไร? Nuns Study Nuns study แม่ชีที่เขียน personal essays about there lives 60 ปี ต่อมำ ข้อเขียนเหล่ำนี้ถกู วิเครำะห์ score positive emotional content โดยเฉพำะประเด็น Happiness Interest Love Hope แม่ชีที่ “Positive Emotion” อำยุยนื ยำวกว่ำรำว 10 ปี คนไม่สูบบุหรี่ อำยุยนื กว่ำคนสู บบุหรี่ 10 ปี กำรหยุดสู บทำให้อำยุยำวขึ้น ประมำณ 5-8 ปี POSITIVE PSYCHOLOGY The Broaden-and-Build Theory Positive Emotions broaden individual’s mind set Global-Local visual processing tasks Mednick’s Remote associates Test ผูท้ ี่อำรมณ์ดีจะมองภำพกว้ำง เชื่อมโยงข้อมูลต่ำงๆได้ดีกว่ำ ผูท้ ี่อำรมณ์ไม่ดีจะมองเฉพำะส่ วนและด่วนสรุ ป Study ของ U of Michigan พบว่ำกำรฝึ กอำรมณ์บวกจะเพิ่ม broadened thinking และกำรฝึ ก broadened thinking จะเพิ่มอำรมณ์บวก Components of Happiness 1 Pleasure[smiley-face] 2 Engagement[depth of involvement] 3 Meaning Life[strength to Larger end] ความพึงพอใจ การมีส่วนร่ วม Martin Seligman 2002 การพบความหมาย สุ ขภาพกายเช่ น ออกกาลังกาย อาหาร นา้ หนักตัว สุ ขภาพจิตเช่ น การฝึ กคิด มองโลกอย่ างผ่ อนคลาย สั งคมและเพือ่ นฝูง เศรษฐกิจการเงิน อาชีพและงานอดิเรก ที่พงึ่ ทางใจ เมือ่ เช้ าวันคุณตืน่ ขึน้ มาด้ วยความรู้ สึกเช่ น ไร? มำกที่สุด 1 ย้ ายบ้ าน 2 เปลีย่ นเพือ่ น 3 เปลีย่ นภรรยา 4 เปลีย่ นงาน/ลาออก 5 ถูกหวย น้อยที่สุด ข้อตกลงเบื้องต้น • สุ ขภาพเริ่มทีต่ วั เอง • HAPPINESS BEGIN WITH ME หำกคิดจะมีควำมสุ ขต้องเริ่ มต้นที่ตนเอง คาถาที่ 1 วันนีค้ ุณทาอะไรสาเร็จเป็ นชิ้นเป็ นอันไปบ้ างแล้ ว 1)………… 2)………… 3)............... 4)............... 5)............... บทสรุปการศึกษาของ ดร.มาร์ ติน เซลิกแมน พนักงานทีม่ คี วามสุ ข-ประสบความสาเร็จ 1บรรลุคุณค่ าในงาน 2เห็นความงามของคนรอบข้ าง ระดับ 1 ระดับ 2 ระดับ 3 เห็นบวกว่ าเป็ นบวก อากาศดี ก็บอกว่ าอากาศดี นา้ ดื่มสดชื่น ก็บอกว่ านา้ ดื่มสดชื่น เห็นบวกในสิ่ งที่เป็ นลบ ก๋ วยเตีย๋ วไม่ อร่ อย ก็เห็นว่ าอิม่ แดดร้ อน ก็เห็นว่ าดีกว่ าฝนตก/รถติด เห็นความธรรมดา (มีเหตุ/ปัจจัย) ถูกตาหนิ ก็มเี หตุ (ที่ใช้ แก้ ไข/เป็ นประโยชน์ ) ทาแก้ วแตก ก็มเี หตุ เรื่ องน่ำรำคำญ VS เรื่ องน่ำสนุก คำถำมสำคัญมีค่ำดัง่ ทองคำ “ มีดบี ้ างไหม ” คาถาที่ 4 การมองเห็นความดี ท่ ามกลางความเลว การมองเห็นประโยชน์ ท่ ามกลางความไม่ มปี ระโยชน์ การมองเห็นโอกาส ท่ ามกลางอุปสรรค การมองเห็นบทเรียน จากความล้ มเหลว คือ เอาใจเขามาใส่ ใจเรา มิใช่ การยอมตามผู้อนื่ อย่ างเดียว แต่ เป็ นการตัดสิ นใจโดย “คานึง” ถึงปัจจัยความรู้ สึก มีหลำยวิธีกำรเช่น กำรเล่นกีฬำ กำรฟังเพลง/ออกกำลังกำย กำรทำสมำธิ /ชี่กง/ไทเก็ก/โยคะ กำรฝึ กวิปัสสนำ กำรเคลื่อนไหวเป็ นจังหวะเสริ มสร้ำงพลังชีวติ ช่วยกำรทำงำนของระบบย่อยอำหำร และกำรไหลเวียนของเลือด หมอฮัว่ โต๋ ว (AD220-280) กษัตริย์ หวังตี้ รวบรวมตาราแพทย์ “หวังตีเ้ น่ ยจิง” 475-221 BC การฝึ กหายใจ + การออกกาลังกาย เทคนิคของ ถูน่า (หายใจออก - หายใจเข้ า) ต่ าวหยิน (การเคลือ่ นไหว) การวิจัย การบาบัด ความดันโลหิตสู ง ความดันโลหิต ภายในกลุ่มทดลอง ก่อนฝึ ก X SD หลังฝึ กในแต่ ละสัปดาห์ X SD df t p-value สัปดาห์ ที่ 1 Systolic Diastolic 153.21 19.53 97.42 14.29 145.42 93.79 26.63 18.01 18 18 -2.30 -1.55 .034 .138 สัปดาห์ ที่ 2 Systolic Diastolic 153.20 19.01 97.15 13.96 146.65 94.69 20.17 14.76 19 19 -1.69 -1.58 .107 .131 สัปดาห์ ที่ 3 Systolic Diastolic 151.36 17.63 96.10 13.52 142.92 91.34 16.62 11.83 18 18 -2.01 -2.76 .057 .013 สัปดาห์ ที่ 4 Systolic Diastolic 153.00 20.19 97.00 15.06 138.88 91.77 17.13 17.89 16 16 -5.08 -2.64 .000 .018 ปวดศีรษะ (Tension headache) ค่ าเฉลีย่ EMG (Electromyography) ชี่กง ก่อน 12.14 หลัง 3.93 ฝึ กผ่อนคลายกล้ามเนือ้ ก่อน หลัง 12.05 5.40 ควบคุม ก่อน 12.38 หลัง 12.96 Stress และ ระดับ Cortisone การฝึ กชี่กง 4 ท่ า 30 นาที N ก่ อนฝึ ก ug/dl 1 2 3 4 16.1 11.4 7.9 12.0 หลังฝึ ก ug/dl 11.5 5.8 7.0 13.0 1. การฝึ กหายใจ เข้าท้องพอง ออกท้องย ุบ เข้ าปกติ ออกช้ า/ เข้ าเร็ว ออกช้ า/ 2. การเคลือ่ นไหว ช้ าสม่าเสมอ/การยึดเส้ นเอ็น/ การขยับข้ อต่ อ 3. การมีสมาธิ เคลือ่ นไหว/นิ่ง 1. การฝึกหายใจและการฝึกมือร้อน เคลื่อนไหวฝ่ามือเข้าหากัน-ออกจากกันช้าๆพร้อม ทัง้ จดจ่อความรส้ ู ึกบนฝ่ามือ ควรทาวันละ10นาที 2. การเคลือ่ นไหวในท่ายืนเช่น ท่าปรับลมปราณ ควรทาวันละ10-15นาที ผลดีที่ได้รับทั้งกำยและจิตใจภำยใน 1 เดือน 1. ………………………………... 2. ………………………………... 3. ………………………………... มีความเครียดบ้ างเป็ นเรื่องปกติ(และอาจเป็ นเรื่องทีด่ ี) หำกไม่เครี ยดเลยแสดงว่ำโชคดีมำกหรื อไม่รู้วำ่ ตนเครี ยดก็ได้ แต่ที่สำคัญคือ “ทำงออก” รอเวลา แก้ปัญหา ใช้ กาลังใจ สุ ข/ทุกข์ อยู่ทกี่ ารใส่ ใจ/แปลความหมาย สติรู้ ในความสุ ข/ความทุกข์ ความสุ ขทีง่ ่ ายและเกิดในกิจวัตรประจาวัน ความทุกข์ เฉพาะทีเ่ ป็ นประโยชน์ The one you feed One evening an old Cherokee told his grand son about a Battle that goes on inside people. He said, ‘My son the battle is between two wolves inside us all. One is Negativity. It’s anger, sadness, stress, contempt, disgust, fear, embarrassment, guilt, shame and hate. The other is Positivity. It’s joy, gratitude, serenity, interest, hope, pride, amusement, inspiration, awe, and above all, love.’ The grandson thought about it for a minute and then asked his grandfather. ‘Which wolf wins?’ The old Cherokee simply replied ‘The one you feed’ ECPP. 23-26 June 2010 Copenhagen, Denmark drterd@yahoo.com WWW.drterd.com