เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น (EC 210) ภาค 2 ปี การศึกษา 2552 Sec. 8200 อ.ศันสนี ย ์ ลิ้มพงษ์ (อ.ติ๊ก) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ EC210 2/2552 www.ajarntik.com 1 เวลาบรรยาย และเวลา office เวลาเรียน Section 8200 จันทร์ เวลา 13.30-16.30 น. เวลา office วันจันทร์ เวลา 9.00-16.00 น. เข้าพบได้ท่ี ห้อง 665 อาคารวาย (เศรษฐศาสตร์) การติดต่อ email : sansanee@econ.tu.ac.th msn : tik_econ@hotmail.com website : www.ajarntik.com EC210 2/2552 2 ติดต่อผ่านเว็บบอร์ด www.ajarntik.com EC210 2/2552 3 กติกาในการเรียนวิชานี้ เข้าเรียนให้ตรงเวลา กรุณาอย่าออกจากห้องก่อนเวลา ปิ ดเครื่องมือ หรือปิ ดเสียงเครื่องมือสือ ่ สารทุกชนิ ด ขอให้อย่าคุยกันในห้องเรียน อ่านข่าว บทความ ppt และเนื้ อหาก่อน เข้าเรียน EC210 2/2552 4 หนังสืออ่านประกอบ ตาราภาษาไทย วันรักษ์ มิ่งมณี นาคิน เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น สานักพิมพ์ มธ. ตาราภาษาอังกฤษ Mankiw, N Gregory, Principles of Economics, 3rd ed.2004. Lipsey, Richard G., Paul N. Courant, Douglas D. Purvis, and Ragen, Christopher TS, Economics, 13th edition 2007. เอกสารประกอบคาบรรยาย EC210 2/2552 5 เอกสารประกอบการเรียน Powerpoint Presentation กลุม่ อ.ศันสนี ย ์ หนังสืออ่านนอกเวลา (เลือกบทความให้อา่ น) เศรษฐศาสตร์มีคาตอบ โดย นวพร เรืองสกุล (2549) เศรษฐกิจต้องรู ้ โดย ศุภวุฒิ สายเชื้อ (2551) เศรษฐศาสตร์ธุรกิจ โดย นักเศรษฐศาสตร์ชาวญี่ปนุ่ (แปลโดย ไชยยันต์ สาวนะชัย) (2549) เว็บไซด์รวมบทความดีดี www.nidambe11.net/ekonomiz.htm รายงานเศรษฐกิจและการเงิน โดยธนาคารแห่งประเทศไทย แบบฝึ กหัด และข้อสอบเก่าจากเทอมก่อนๆ และอืน่ ๆ EC210 2/2552 6 www.dekisugi.net (นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์์ ) EC210 2/2552 7 กาหนดวันเวลาที่สาคัญ เปิดภาคการศึกษา 29 ตุลาคม 2552 ปิดภาคสองช่วงแรก เพือ่ จัดกีฬามหาวิทยาลัย 22 – 30 มกราคม 2553 ปิดสัปดาห์สอบกลางภาค 17 – 24 ธันวาคม 2552 ช่วง drop w 4 – 11 มกราคม 2553 วันสุดท้ายของภาคการศึกษา 27 กุมภาพันธ์ 2553 วันสอบกลางภาค พฤหัสบดี 17 ธันวาคม 2552 (9.00-11.00 น.) วันสอบไล่ปลายภาค อาทิตย์ 7 มีนาคม 2553 (13.00 -16.00 น.) EC210 2/2552 8 การวัดผล แบ่งออกได้ดงั นี้ - สอบกลางภาคการศึกษา (คะแนน 40% ของคะแนนรวม) เนื้ อหาสอบ บทที่ 1-4 - สอบไล่เมื่อสิ้นภาคการศึกษา (คะแนน 60% ของคะแนนรวม) เนื้ อหาสอบ บทที่ 5-9 EC210 2/2552 9 คาถามสาคัญ เศรษฐศาสตร์ คืออะไร?? เรียนเกี่ยวกับอะไร?? ทาไมเราต้องเข้าใจเศรษฐศาสตร์ ด้วย นักศึกษาคิดว่าทาไมคณะของ นักศึกษาจึงต้องการให้พวกเราเข้าใจวิชานี้ ?? EC210 2/2552 10 ขอบเขตของวิชาเศรษฐศาสตร์ สิง่ ที่ไม่ใช่วชิ าเศรษฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ไม่ใช่วช ิ าว่าด้วยการบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ไม่ใช่วช ิ าเกี่ยวกับการเงินส่วนบุคคล การเล่นหุน้ หรือการลงทุน (โดยตรง) ขอบเขตของวิชาเศรษฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เป็นวิชาที่ว่าด้วย กลไกการทางานของระบบเศรษฐกิจ ทัง้ ใน ระดับ จุลภาค คือระดับย่อย และในระดับมหภาค คือในระดับใหญ่ ทัง้ ระบบ เศรษฐกิจ อันนี้ คือคร่าวๆเลย EC210 2/2552 11 หัวข้อที่จะศึกษา 1. แนวคิดเบื้องต้นของวิชาเศรษฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์จุลภาค 2. อุปสงค์ อุปทาน และการกาหนดราคา 3. ความยืดหยุ่นของอุปสงค์และอุปทาน และการประยุกต์ใช้ 4. การผลิตและต้นทุนการผลิต 5. ตลาดและความล้มเหลวของตลาด EC210 2/2552 12 หัวข้อที่จะศึกษา (ต่อ) เศรษฐศาสตร์มหภาค 6. ความรูเ้ บื้องต้นเศรษฐศาสตร์มหภาค และการกาหนดรายได้ประชาชาติ 7. บทบาทของภาครัฐและนโยบายการคลัง 8. บทบาทของการเงิน และนโยบายการเงิน 9. บทบาทของเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ในระบบเศรษฐกิจ EC210 2/2552 13 หัวข้อและวันบรรยาย (อาจมีการเปลีย่ นแปลง) จ. 2 พ.ย. 2552 เกริ่นนา บทที่ 1: แนวคิดเบือ้ งต้นของวิชาเศรษฐศาสตร์ จ. 9 พ.ย. 2552 บทที่ 1: แนวคิดเบือ้ งต้นของวิชาเศรษฐศาสตร์ จ. 16 พ.ย. 2552 บทที่ 2: อุปสงค์ (Demand) อุปทาน (Supply) และการกาหนดราคา (Price Determination) จ. 23 พ.ย. 2552 บทที่ 3: ความยืดหยุน่ ของอุปสงค์และอุปทาน และการประยุกต์ใช้ความรูเ้ รือ่ งอุปสงค์และอุปทาน จ. 30 พ.ย. 2552 บทที่ 3: ความยืดหยุน่ ของอุปสงค์และอุปทาน และการประยุกต์ใช้ความรูเ้ รือ่ งอุปสงค์และอุปทาน จ. 14 ธ.ค.2552 บทที่ 4: การผลิตและต้นทุนการผลิต พฤ. 17 ธ.ค. 2552 สอบกลางภาค เวลา 9.00 – 11.00 น. วันที่ 5 ธันวาคม เป็ นวันหยุดราชการ EC210 2/2552 14 หัวข้อและวันบรรยาย (อาจมีการเปลี่ยนแปลง) จ. 28 ธ.ค. 2552 บทที่ 5: ตลาดและความล้มเหลวของตลาด จ. 4 ม.ค. 2553 จ. 18 ม.ค. 2553 บทที่ 6: ความรูเ้ บือ้ งต้นทางเศรษฐศาสตร์มหภาคและการกาหนดรายได้ ประชาชาติ บทที่ 6: ความรูเ้ บือ้ งต้นทางเศรษฐศาสตร์มหภาคและการกาหนดรายได้ ประชาชาติ บทที่ 7: บทบาทของภาครัฐบาล และนโยบายการคลัง จ. 1 ก.พ. 2553 บทที่ 8: บทบาทของการเงินและนโยบายการเงิน จ. 8 ก.พ. 2553 บทที่ 9: บทบาทของเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ในระบบเศรษฐกิจ จ. 15 ก.พ. 2553 บทที่ 9: บทบาทของเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ในระบบเศรษฐกิจ จ. 11 ม.ค. 2553 จ. 22 ก.พ. 2553 ทบทวนและอื่นๆ อาทิตย์ 7 มี.ค. 2553 สอบปลายภาค 13.00-16.00น. วันที่ 25 มกราคม เป็ นวันหยุดมหาวิทยาลัย EC210 2/2552 15 EC210 2/2552 16 Outline 1.1 เศรษฐศาสตร์คอื อะไร ขอบเขตและเนื้ อหาของวิชาเศรษฐศาสตร์ 1.2 ความสาคัญของวิชาเศรษฐศาสตร์ และความสัมพันธ์ระหว่างเศรษฐศาสตร์กบั วิชา อืน่ 1.3 แนวความคิดพื้นฐาน (Basic Concept) ทางเศรษฐศาสตร์ - ข้อสมมติท่เี กี่ยวข้อง - ความจากัด (Scarcity) - การเลือก (Choice) - ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) - เส้นความเป็ นไปได้ในการผลิต (Production Possibility Curve) EC210 2/2552 17 Outline 1.4 ความแตกต่างระหว่างเศรษฐศาสตร์จุลภาคและเศรษฐศาสตร์มหภาค 1.5 ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจและการแก้ไขปัญหาในระบบเศรษฐกิจแบบต่างๆ 1.6 วิธีคดิ ของนักเศรษฐศาสตร์ - วิธีการศึกษาแบบ Inductive และ Deductive - Positive และ Normative Economics - บัญญัติ 10 ประการของวิชาเศรษฐศาสตร์ EC210 2/2552 18 เศรษฐศาสตร์คอื อะไร “เศรษฐศาสตร์คือ.... .....วิชาที่ศึกษาเกี่ยวกับการตัดสินใจเลือกใช้ หรือจัดสรร ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจากัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการ สนองความต้องการที่ไม่มีท่สี ้ นิ สุดของมนุ ษย์” EC210 2/2552 19 สิง่ ที่ตอ้ งตีความจากความหมายของเศรษฐศาสตร์ (Discussion) 1. จุดมุ่งหมายของการเลือก หรือการจัดสรร... อะไรคือประโยชน์ สูงสุด 2. ทรัพยากรที่มีจากัด ??? Why?? 3. ทางเลือก (choice) (ในหนังสือ อ.วันรักษ์ จะแบ่งแยกย่อย รายละเอียดมากกว่านี้ ลองไปอ่านดูนะค่ะ) EC210 2/2552 20 ทรัพยากรจากัด (Scarcity) หน่ วยเศรษฐกิจย่อยๆมีทรัพยากรอะไรที่จากัด ผูบ ้ ริโภค ..... มีรายได้เป็นทรัพยากรที่จากัด ผูผ ้ ลิต ....มีเงินทุน หรือ ปัจจัยการผลิตเป็ นทรัพยากรที่จากัด แต่ทกุ คน ..... มีเวลา เป็ นทรัพยากรที่จากัด EC210 2/2552 21 ทรัพยากรจากัด (Scarcity) ในระดับประเทศและสังคม (Nation and Society): ทรัพยากรการผลิต (productive resources): 1. ที่ดิน 2. แรงงาน 3. ทุน 4. ผูป้ ระกอบการ ค่าเช่า, ค่าจ้าง, ดอกเบี้ย, กาไร EC210 2/2552 22 ทุกๆวัน เราต่างเผชิญกับทางเลือกในรูปแบบที่หลากหลาย เลือกในการใช้เวลา เวลาพักผ่อน, เวลาทางาน, เวลาไปเที่ยว, เวลามานัง่ เรียน เลือกในการใช้เงินที่มีอยู่ ิ า, โทรศัพท์มือถือรุน่ ล่าสุด หนังสือเรียน, ดูหนัง, นาฬก รัฐบาลเลือกใช้งบประมาณของประเทศ โรงเรียน, รถไฟฟ้ า, ระบบขนส่งสูภ ่ มู ิภาค ฯลฯ EC210 2/2552 23 การเลือก (Choice) การเลือกตัดสินใจอะไรบ้าง พฤติกรรมของผูบ้ ริโภค ที่เน้นศึกษาเพือ่ เข้าใจว่า ทาไมผูบ้ ริโภคจึงเลือกสินค้าบางอย่าง ในขณะเดียวกันก็ไม่เลือกสินค้าอีกหลายๆ อย่าง พฤติกรรมผูผ ้ ลิต ที่เน้นศึกษาถึงการตัดสินใจว่าจะผลิตอะไร ใช้ปจั จัยอะไร อย่างไร แล้วจะขายใคร ปริมาณเท่าใด ราคาเท่าไหร่ EC210 2/2552 24 ทุกคนจึงเกิดมาเพื่อเลือก....... .......เลือกในสิ่งที่ดีท่สี ุดสาหรับตัวเอง เมื่อเราต้องเลือกบางสิง่ ก็จะมีบางสิง่ ที่เราไม่ได้เลือก เรียกต้นทุนที่เกิดจากทางเลือกที่เราไม่ได้เลือกว่า ต้นทุนค่าเสียโอกาส (opportunity cost) EC210 2/2552 25 ต้นทุนค่าเสียโอกาส (opportunity cost) “คุณค่าหรือมูลค่า (value) ของทางเลือก (choice) ที่ดีท่สี ดุ ใน บรรดาทางเลือกทัง้ หลายทางเลือกที่ตอ้ งสละไป (the best alternative forgone) เมื่อมีการตัดสินใจใช้ทรัพยากร.” คาถาม... .....เราจะประเมินต้นทุนค่าเสียโอกาสของทางเลือกที่เราได้เลือกแล้วได้ อย่างไร EC210 2/2552 26 ตัวอย่างต้นทุนค่าเสียโอกาส ตัวอย่าง 1 นักศึกษาป.โทท่านหนึ่ ง เมื่อเรียนจบมีอาชีพให้เลือก 3 อาชีพ เป็ นอาจารย์ เงินเดือน 12,000 บาท เป็ นพนักงาน เงินเดือน 25,000 บาท เป็ นที่ปรึกษาทางธุรกิจ เงินเดือน 50,000 บาท คาถาม หากเป็ นคุณจะเลือกทางเลือกใด ต้นทุนค่าเสียโอกาสของการเลือกทางเลือกนั้นๆ คือ.... EC210 2/2552 27 ตัวอย่างต้นทุนค่าเสียโอกาส ตัวอย่าง 2 โต๊ะกลุม่ ตัดสินใจที่จะทาของขายเอาเงินมารับน้อง (ด้วยเงินทุน เท่ากัน) ทาสมุด ได้เงิน 19,000 บาท ทา Wristband ได้เงิน 30,000 บาท ทาเสื้อ ได้เงิน 26,000 บาท ตัวอย่าง 3 การเลือกใช้เวลาของพวกคุณในสีป่ ี จากนี้ ไป ตัวอย่าง 4 บริษทั (ระบบเศรษฐกิจ) เลือกที่จะผลิตสินค้าบริการ EC210 2/2552 28 เส้นเป็ นไปได้ในการผลิต (production possibility curve: PPC) คือ เส้นที่แสดงถึงการเลือกในการผลิตสินค้า จานวนต่างๆในระบบเศรษฐกิจ ที่ผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ทรัพยากรที่มีอยู่ ข้อสมมติในการวิเคราะห์ 1. สินค้าที่เลือกผลิตมี 2 ชนิ ดคือ ข้าว กับรถยนต์ 2. ประเทศมีทรัพยากรการผลิตจากัด และทรัพยากรถูกใช้อย่างเต็มที่ 3. ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ดีท่สี ดุ เท่าที่จะเป็ นไปได้ และเทคโนโลยีคงที่ในขณะนั้น 4. ปัจจัยการผลิตที่ใช้ผลิตสินค้าแต่ละชนิ ดทดแทนกันได้ไม่สมบูรณ์ EC210 2/2552 29 ตัวอย่าง การผลิตข้าวและรถยนต์ แผน A B C D E F ข้าว (X) 0 1 2 3 4 5 (ปป.) +1 +1 +1 +1 +1 รถยนต์(Y) 15 14 12 9 5 0 (ปป.) -1 -2 -3 -4 -5 ลอง plot เส้นกราฟแสดงความสัมพันธ้ดังกล้าว EC210 2/2552 30 Production Possibility Curve (PPC) รถยนต์ A 15 Z D 9 E 5 Y F 3 4 EC210 2/2552 5 ข้ าว 31 ประเด็นคาถามเกี่ยวกับเส้น PPC 1. แต่ละจุดบน PPC บอกอะไร ? การใช้ทรัพยากรอย่างเต็มที่ (Full employment) แสดงถึงประสิทธิภาพ (Attainable & Efficiency) 2. การผลิตจะเกิดขึ้นที่อน่ื ได้หรือไม่ ? จุด Y อยู่ใต้เส้น PPC ทรัพยากรบางส่วนไม่ได้ถกู นามาใช้ การผลิตไม่มีประสิทธิภาพ (Attainable but Inefficient) จุด Z อยู่เหนื อเส้น PPC มีทรัพยากรไม่พอที่จะผลิต (Unattainable EC210 2/2552 32 ประเด็นคาถามเกี่ยวกับเส้น PPC 3. PPC สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่าง Scarcity - Choice – Opportunity Cost อย่างไร? 4. ต้นทุนค่าเสียโอกาสของการเลือกทางเลือก F แทนทางเลือก E (ต้นทุนค่าเสีย โอกาสของการผลิตข้าวเพิม่ จาก 4 หน่ วยเป็ น 5 หน่ วย) 5. จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าทรัพยากรในการผลิตเพิม่ ขึ้น เหรอเทคโนโลยีการผลิตดีข้ ึน EC210 2/2552 33 Production Possibility Curve (PPC) รถยนต์ Z Y1 Yo . E Y Xo X1 EC210 2/2552 ข้ าว 34 การขยายตัวของระบบเศรษฐกิจ • เมื่อระบบเศรษฐกิจขยายตัว (จาก เหตุผลต้างๆ เช้น มีป้จจัยการผลิต มากขึ้น / เทคโนโลยีการผลิตดีขึ้น) • จะท้าให้ความเป้นไปได้ในการผลิตเพิ่ม สูงขึ้น 35 of 40 EC210 2/2552 เศรษฐศาสตร์กบั นิ ตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์กบั รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์กบั บริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์กบั วิทยาศาสตร์ ฯลฯ การเรียนรูท้ ่ดี ี คือ การใช้วชิ าความรูแ้ บบบูรณาการ (integration) “The more you learn, the more you earn.” EC210 2/2552 36 เศรษฐศาสตร์มหภาค (Macroeconomics) - ป่ าทัง้ ป่ า การศึกษาเศรษฐกิจของทัง้ ระบบ Example: การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ, เงินเฟ้ อ, รายได้ของรัฐบาล, การ ว่างงานของประเทศ เศรษฐศาสตร์จุลภาค (Microeconomics) - ต้นไม้แต่ละต้น เป็ นการศึกษาเศรษฐกิจของหน่ วยย่อย Example: การตัดสินใจของผูบ ้ ริโภค, การจ้างงานในอุตสาหกรรม รถยนต์, ราคาข้าว, นโยบายราคาของบริษทั EC210 2/2552 37 ขอบเขตของวิชาเศรษฐศาสตร์ Examples of microeconomic and macroeconomic concerns Microeconomics เศรษฐศาสตร้จุลภาค Macroeconomics เศรษฐศาสตร้มหภาค 38 of 33 Production Prices Income Employment Production/Output in Individual Industries and Businesses Price of Individual Goods and Services Distribution of Income and Wealth Wages in the auto industry Minimum wages Executive salaries Poverty Employment by Individual Businesses & Industries Jobs in the steel industry Number of employees in a firm National Income Total wages and salaries Employment and Unemployment in the Economy Total corporate profits Total number of jobs Unemployment rate How much steel How many offices How many cars Price of medical care Price of gasoline Food prices Apartment rents National Production/Output Aggregate Price Level Total Industrial Output Gross Domestic Product Growth of Output Consumer prices Producer Prices Rate of Inflation EC210 2/2552 ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจในการจัดสรรทรัพยากร 1) ผลิตอะไร (What?) 2) ผลิตอย่างไร (How?) 3) ผลิตเพื่อใคร (For Whom?) EC210 2/2552 39 EC210 2/2552 40 ระบบเศรษฐกิจแบบต่างๆ (Types of Economic System) ทุนนิยม แบบผสม (Capitalism or Market Economy) (Mixed Economy) สังคม นิยม (Socialism or Command Economy ) EC210 2/2552 41 เกณฑ์ในการจาแนกชุดของกฎกติกา หรือ ระบบเศรษฐกิจ แบบต่างๆ 1. กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สนิ เป็ นของใคร? 2. การตัดสินใจในปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจเป็ นของใคร? 3. การจัดสรรทรัพยากรและผลผลิตผ่านเครื่องมือใด? EC210 2/2552 42 ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิ ยม (Capitalism) ลักษณะที่สาคัญ: การมีกรรมสิทธิ์ในทรัพยากร (ownership of resources) เสรีภาพในธุรกิจ (freedom of enterprise) ระบบราคา (price system) โดยที่กาไรเป็ นเครื่องจูงใจ (profit motive) EC210 2/2552 43 ระบบทุนนิ ยม กับปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจ 1) ผลิตอะไร (What?) ผลิตสินค้าและบริการที่ผูบ ้ ริโภคต้องการและมีความสามารถในการซื้อ 2) ผลิตอย่างไร (How?) ผลิตสินค้าและบริการโดยพยายามทาให้ตน ้ ทุนในการผลิตตา่ สุด กาไรสูงสุด โดยการเลือกใช้ปจั จัยการผลิตและวิธีการผลิตต่างๆกัน Labor intensive VS Capital intensive 3) ผลิตเพือ่ ใคร (For Whom?) ผูท ้ ่มี ีอานาจในการซื้อ (purchasing power) “มือใครยาว สาวได้สาวเอา” Example (ใกล้เคียง) : U.S.A., Canada, Japan EC210 2/2552 44 ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิ ยม (Socialism or Command Economy) ลักษณะที่สาคัญ กรรมสิทธิ์ในทรัพยากรตกเป็ นของส่วนกลางหรือส่วนรวม การตัดสินใจทางธุรกิจต่างๆ ถูกกาหนดโดยรัฐหรือส่วนกลาง กลไกราคาไม่มีบทบาทในการจัดสรรทรัพยากร โดยแรงจูงใจ คือเพือ่ ส่วนรวม เพือ่ สังคมที่ดี EC210 2/2552 45 ระบบสังคมนิ ยม กับปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจ 1) ผลิตอะไร (What?) โดยทัว่ ไปรัฐบาลหรือส่วนกลางจะเป็นคนตัดสินว่าจะผลิต สินค้าและบริการอะไร 2) ผลิตอย่างไร (How?) ขึ้นอยู่กบ ั รัฐบาลหรือส่วนกลาง 3) ผลิตเพือ่ ใคร (For Whom?) การจัดสรรสินค้าและบริการขึ้นอยู่กบ ั รัฐบาลหรือส่วนกลาง Example (ใกล้เคียง): North Korea, Cuba EC210 2/2552 46 ระบบเศรษฐกิจแบบผสม (Mixed Economy) ระบบเศรษฐกิจส่วนใหญ่ในปัจจุบน ั เป็ นแบบผสม Questions? ทาไมรัฐหรือส่วนกลางถึงเข้า แทรกแซง ทัง้ ๆ ที่ การจัดสรรทรัพยากรอย่างมี ประสิทธิภาพนั้นสามารถทาได้โดยใช้กลไกราคา EC210 2/2552 47 1) ผลิตอะไร (What?) กองกาลังป้ องกันประเทศ เป็ นไปได้ยากที่ตลาดสาหรับสินค้าเหล่านี้ จะเกิดขึ้นโดย ภาคเอกชน 2) ผลิตอย่างไร (How?) การใช้แรงงานเด็ก ปัญหามลภาวะและสิง่ แวดล้อม 3) ผลิตเพือ่ ใคร (For Whom?) คนจนและคนพิการ? EC210 2/2552 48 การวิเคราะห์แบบวิทยาศาสตร์ของนักเศรษฐศาสตร์ สมมติฐาน (Hypothesis) – คาอธิบายปรากฎการณ์ต่างๆ ที่เป็ น เหตุเป็ นผล แต่เป็ นคาอธิบายที่ยงั มิได้มกี ารทดสอบความถูกต้องจน เป็ นที่ยอมรับ ทฤษฎี (Theory) - คาอธิบายปรากฎการณ์ต่างๆ ที่เป็ นเหตุเป็ นผล เป็ นที่ยอมรับโดยทัว่ ไปอย่างเป็ นทางการ สมมติฐาน ทฤษฎี EC210 2/2552 49 Positive VS Normative Economics Positive Economics (เศรษฐศาสตร์วเิ คราะห์) คือ เศรษฐศาสตร์ท่อี ธิบายปรากฎการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นด้วยการศึกษาวิเคราะห์ ตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและรวบรวมได้ ตัวอย่าง จานวนนศ. คณะวารสารศาสตร์ฯ มีมากที่สด ุ ในห้องนี้ ถ้าราคาสินค้าลดลง ปริมาณความต้องการซื้อจะเพิ่มขึ้น ผูบ ้ ริโภค จะได้ผลกระทบจากการขึ้นภาษี EC210 2/2552 50 Positive VS Normative Economics Normative Economics (เศรษฐศาสตร์นโยบาย) คือ เศรษฐศาสตร์ท่ีใช้ ความคิดเห็นส่วนตัว (Value Judgement) ประกอบการอธิบาย ปรากฎการณ์หรือเสนอแนะแนวทางต่างๆ ตัวอย่าง คนไทยควรบริโภคอาหารไทยเป็ นหลัก ภาษี ท่รี ฐั บาลขึ้นนั้นสูงเกินไป รัฐบาลควรปล่อยให้ราคาน้ ามันลอยตัวตามตลาดโลก EC210 2/2552 51 ตัวอย่างข่าว Positive or Normative 1. ประเทศไทยกาลังเผชิญกับปัญหาการชะลอตัวของการส่งออก โดยจะเห็นได้ จากอัตราการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกที่ลดลงถึงร้อยละ 15ในไตรมาสที่ 1 2. เนื่ องจากการส่งออกยังมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวต่อเนื่ องไปอีกเป็ นเวลานาน ประเทศไทยจึงควรแก้ปญั หาโดยพึ่งการบริโภคในประเทศแทนการส่งออกพร้อม กับกีดกันสินค้านาเข้าที่เข้ามาแข่งขันกับสินค้าในประเทศ EC210 2/2552 52 บัญญัตสิ บิ ประการของวิชาเศรษฐศาสตร์ บทบัญญัตท ิ ่ี 1: แต่ละคนเผชิญภาวะ “ได้อย่าง-เสีย อย่าง” (Tradeoffs) เสมอ “ There is no such thing as a free lunch” EC210 2/2552 53 บัญญัติสบิ ประการของวิชาเศรษฐศาสตร์ บทบัญญัตท ิ ่ี 2: ต้นทุนของสิง่ หนึ่ งคือสิง่ ที่คณ ุ ยอมเสีย ไปเพื่อให้ได้ของสิง่ นั้นมา “Opportunity Cost” EC210 2/2552 54 บัญญัตสิ บิ ประการของวิชาเศรษฐศาสตร์ บทบัญญัตท ิ ่ี 3: คนที่มีเหตุมีผลคิดแบบ “เพิ่มทีละ หน่ วย” (Margin) “Marginal Cost & Marginal Benefit” EC210 2/2552 55 บัญญัตสิ บิ ประการของวิชาเศรษฐศาสตร์ บทบัญญัตท ิ ่ี 4: คนตอบสนองต่อสิง่ จูงใจ People make decisions by comparing cost and benefit…. …. When costs or benefits change, decision will change. EC210 2/2552 56 บัญญัตสิ บิ ประการของวิชาเศรษฐศาสตร์ บทบัญญัตท ิ ่ี 5: การค้าทาให้ทกุ ฝ่ ายดีข้ ึน Law of comparative Advantage – เราจะได้ ผลประโยชน์สูงขึ้น ถ้าเราผลิตสินค้าที่เรามีตน้ ทุนตา่ ที่สุดแล้วนาไปแลกเปลี่ยน EC210 2/2552 57 บัญญัตสิ บิ ประการของวิชาเศรษฐศาสตร์ 6: "ตลาด" เป็ นเครื่องมือที่ดีในการ จัดการกิจกรรมทางเศรษฐกิจ “Invisible hand” leads market to “desirable outcomes” บทบัญญัตท ิ ่ี EC210 2/2552 58 บัญญัตสิ บิ ประการของวิชาเศรษฐศาสตร์ บทบัญญัตท ิ ่ี 7: รัฐบาลสามารถปรับปรุงความล้มเหลว ของตลาดได้ Lack of competition Lack of information Externalities Public goods EC210 2/2552 59 บัญญัตสิ บิ ประการของวิชาเศรษฐศาสตร์ 8: มาตรฐานการครองชีพของประเทศ ขึ้นอยู่กบั ความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการ More GDP, More Productivity lead to a better living standard. บทบัญญัตท ิ ่ี EC210 2/2552 60 บัญญัตสิ บิ ประการของวิชาเศรษฐศาสตร์ 9: ราคาสินค้าจะสูงขึ้นเมื่อรัฐบาลพิมพ์ เงินมากเกินไป ราคาสินค้าสูงขึ้น ... ดี ?? ไม่ดี ?? ทาไม ต้องพิมพ์เงิน ??? บทบัญญัตท ิ ่ี EC210 2/2552 61 บัญญัตสิ บิ ประการของวิชาเศรษฐศาสตร์ 10: ในระยะสัน้ สังคมเผชิญภาวะ “ได้ อย่าง-เสียอย่าง” ระหว่างเงินเฟ้ อและอัตราการ ว่างงาน บทบัญญัตท ิ ่ี High Inflation <----> Low Unemployment Low Inflation <----> High Unemployment EC210 2/2552 62 มาทบทวนกันด้วยโจทย์แบบฝึ นฝนดีกว่า ปัญหาการมีอยู่อย่างจากัด (scarcity) สามารถทาให้หมดไปได้ดว้ ยการค้นพบ ทรัพยากรใหม่ๆ... ท่านเห็นด้วยกับคากล่าวนี้ หรือไม่ เพราะเหตุใด? _______________________________________________________ _______________________________________ ต้นทุนค่าเสียโอกาส คือ________________ เกิดขึ้นเมื่อ__________ ข้อเสนอแนะทางเศรษฐศาสตร์ท่อี ธิบายถึงสิง่ ที่เกิดขึ้น กาลังจะเกิดขึ้น หรือเกิดขึ้น แล้ว เรียกว่า_______ส่วนข้อเสนอแนะทางเศรษฐศาสตร์ท่มี ีความคิดเห็นส่วนตัว มาเกี่ยวข้อง เรียกว่า_______ EC210 2/2552 63 หนังสือดี: อัจฉริยะ เรียนสนุ ก EC210 2/2552 64 EC210 2/2552 65 Topics 2.1 อุปสงค์ (Demand) ความหมายของอุปสงค์ ตารางอุปสงค์ เส้นอุปสงค์ กฎของอุปสงค์ ตัวกาหนดอุปสงค์ อุปสงค์สว่ นบุคคลและอุปสงค์ตลาด การเปลี่ยนแปลงปริมาณการเสนอซื้อ (Change in Quantity Demanded) และการเคลื่อนเส้นอุปสงค์ (Shift in Demand Curve) EC210 2/2552 66 2.2 อุปทาน (Supply) ความหมายของอุปทาน ตารางอุปทาน เส้นอุปทาน กฎของอุปทาน ตัวกาหนดอุปทาน อุปทานส่วนบุคคลและอุปทานตลาด การเปลี่ยนแปลงปริมาณการเสนอขาย (Change in Quantity Supplied) และการเคลื่อนเส้นอุปทาน (Shift in Supply Curve) 2.3 การกาหนดราคาและปริมาณดุลยภาพในตลาด ความหมายของดุลยภาพ การเปลี่ยนแปลงดุลยภาพและกรณี ศึกษาจากการเปลี่ยนแปลงดุลยภาพใน รูปแบบต่างๆ EC210 2/2552 67 Introduction ตลาด (Market) ที่ๆ ผูซ ้ ้ ือ(ผูบ้ ริโภค)และผูข้ าย(ผูผ้ ลิต)มาพบกันเพื่อทาการซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ ในทางเศรษฐศาสตร์ตลาดไม่ได้หมายถึงสถานที่เฉพาะเจาะจง ซุปเปอร์มารเก็ต, โรงอาหาร, ตลาดหลักทรัพย์, ตลาดการค้าขาย เงินตราระหว่างประเทศ, e-commerce website EC210 2/2552 68 องค์ประกอบของตลาด ตลาด มีองค์ประกอบคือ 1)ผูซ้ ้ ือ สะท้อนถึง Demand 2)ผูข้ าย สะท้อนถึงSupply ที่มี ความต้องการแลกเปลี่ยนสินค้า EC210 2/2552 69 Input Markets and Output Markets: The Circular Flow 70 of 48 Goods and services flow clockwise. Firms provide goods and services; households supply labor services. • Payments (usually money) flow in the opposite direction (counterclockwise) as the flow of labor services, goods, and services. EC210 2/2552 ตารางจัดติว วิชา EC210 ภาคเรี ยนที่ 2/2552 ครัง้ ที่ วันที่ กลุ่ม เวลา ห้อง 1 อ.17-พ.ย.-52 อ. ศันสนี ย์ 2 อ.1-ธ.ค.-52 อ. ศันสนี ย์ 17.00-19.00 วจ. 206 17.00-19.00 วจ. 206 3 4 5 6 7 17.00-20.00 17.00-20.00 17.00-19.00 17.00-19.00 17.00-20.00 อ.15-ธ.ค.-52 อ.12-ม.ค.-52 อ.2-ก.พ.-52 อ.16-ก.พ.-52 อ.23-ก.พ.-52 อ. ศันสนี ย์ อ. ศันสนี ย์ อ. ศันสนี ย์ อ. ศันสนี ย์ อ. ศันสนี ย์ วจ. 206 วจ. 206 วจ. 206 วจ. 206 วจ. 206 เนื้ อหา บทที่ 1-2 บทที่ 3 บทที่ 4 + ทบทวน บทที่ 5-6 บทที่ 7-8 บทที่ 9 ทบทวน -ห้องติว ความจุ 140 ที่นงั่ (มีนกั ศึกษาลงทะเบียน 240 คน) - ไม่มีการจองที่นงั่ ให้เพื่อน ไปก่อนได้ที่นงั่ ก่อน - หากนักศึกษาคุยกันในห้อง พี่ติวเตอร์มีสิทธิ์ที่จะยุติการติวได้ทนั ที - ชีทใช้ประกอบการติว สามารถซื้อได้ ที่ร้านถ่ายเอกสาร ใต้อาคารเดือนบุนนาค (ตึกที่จดั ติว) EC210 2/2552 71 EC210 2/2552 72 อุปสงค์ (DEMAND) ความหมาย จานวนของสินค้าและบริการที่ผูบ้ ริโภคต้องการซื้อและมีความสามารถในการซื้อ เพือ่ บริโภค (able and willing to consume) ด้วยรายได้ท่ผี ูบ้ ริโภคมีอยู่ ณ ระดับราคาต่างๆ ของสินค้าชนิ ดนั้น ในระยะเวลาที่กาหนด เราพูดถึง ปริมาณเสนอซื้อ ที่ตอ้ งมี - ความเต็มใจที่จะซื้อ (willingness to pay) - ความสามารถในการซื้อ (ability to pay) want VS demand EC210 2/2552 73 ตัวอย่างการสร้างเส้น demand Example: demand ในการชมภาพยนตร์ของนักศึกษา A (มีค่าขนม = 4000/เดือน) ราคาต่อเรื่อง (P) จานวนครัง้ ในการชมต่อเดือน (Q) 200 160 120 80 40 1 2 3 4 5 EC210 2/2552 74 อุปสงค์ในการชมภาพยนตร์ของนักศึกษา A 250 ราคาต่ อเรื่อง (P) 200 150 100 50 0 1 2 3 4 5 จานวนครั้ง (Q) EC210 2/2552 75 Law of demand (กฎของอุปสงค์) Law of demand “ถ้าปัจจัยอืน่ ๆ คงที่ เมื่อราคาสินค้าลดลงปริมาณความต้องการเสนอซื้อ จะเพิม่ ขึ้น” P Q ; P Q ลักษณะความสัมพันธ์แบบนี้ ตรงกับที่นกั ศึกษาคาดคิดไว้กอ่ นรึเปล่า? ทาไมเราถึงสามารถซื้อน้อยลง เมื่อราคาเพิ่มสูงขึ้น? EC210 2/2552 76 Question: ทาไมปริมาณเสนอซื้อถึงแปรผกผันกับราคา? 1. ผลทางรายได้ (Income effect): รายได้ท่แ ี ท้จริงมีอยู่เท่าเดิม แต่ราคาสูงขึ้น 2. ผลทางการทดแทน (Substitution effect): ราคาสินค้าสูงขึ้นในขณะที่ราคาสินค้าชนิ ดอืน ่ อยู่คงที่ ผูซ้ ้ ือจึงรูส้ กึ ว่า สินค้านี้ แพงขึ้นและซื้อสินค้านี้ นอ้ ยลง “Relative Price” ตัวอย่าง... น้ ามันราคาแพงขึ้น เกิดผลต่อรายได้ท่แี ท้จริง และราคาเปรียบเทียบกับ LPG อย่างไร EC210 2/2552 77 อุปสงค์สว่ นบุคคล (Individual demand) และอุปสงค์ตลาด (Market demand) ราคาของ Coke ปริมาณต้องการ ปริมาณต้องการซื้อ (บาท/ กระป้อง) ซื้อของ “นาย ก.” ของ “นางสาว ข.” qนาย ก. qนางสาว ข. 1 2 3 4 5 6 10 9 8 7 6 5 12 10 8 6 4 2 EC210 2/2552 ปริมาณต้องการซื้อของตลาด qนาย ก.+ qนางสาว ข.=Qตลาด 22 19 16 13 10 7 78 From Household Demand to Market Demand Assuming there are only two households in the market, market demand is derived as follows: EC210 2/2552 79 Exercise Market demand เท่ากับ.... ....ผลรวมของ individual demand ในแต่ละระดับราคาสินค้า ค่ าโทร/นาที 5 4 3 2 1 จานวนชั่วโมงการใช้ ใน 1 เดือน Mkt demand ก ข ค 2 2.5 4 6 9 5 6 8 11 16 10 12 15 20 30 EC210 2/2552 80 ปัจจัยกาหนด demand SIMPLE FUNCTION : QDx = f(Px) ... ราคา เป็ นปัจจัยกาหนดปริมาณความต้องการซื้อสินค้า แต่จริงแล้ว ... ยังมีปจั จัยอืน่ ๆที่เป็ นตัวกาหนดอีกมากมาย ได้แก่ รายได้ (Income) : สินค้าปกติ (+) สินค้าด้อย (-) ราคาสินค้าอืน่ ๆ (Py) : สินค้าใช้ประกอบกัน (-) สินค้าใช้ทดแทนกัน (+) รสนิ ยม (Taste) : (+) (-) จานวนประชากร : (+) อืน่ ๆ : (+) (-) EC210 2/2552 81 สิ นค้าทดแทน สิ นค้าใช้ประกอบกัน คืออะไร สินค้าที่ใช้ทดแทนกัน คือ.......... เช่น โทรศัพท์บา้ น กับ โทรศัพท์มอื ถือ / กล้องฟิลม์ กับ กล้องดิจติ อล อาหารอินเตอร์โซน กับ อาหารตลาดนัด สินค้าที่ใช้ประกอบกัน คือ.......... เช่น กล้องฟิลม์ กับ ฟิลม์ ถ่ายรูป / แชมพู กับ ครีมนวดผม / มาม่า กับ พรานทะเลควิก EC210 2/2552 82 ลองวิเคราะห์ ประเด็นต่อไปนี้ เพราะเหตุใด ยอดขาย black berry ถึงพุ่งกระฉูด การจัดกลุ่มคนรักตุก๊ ตาบลายซ์ มีผลต่ออุปสงค์ของตุก๊ ตาหรือไม่ สิงคโปร์จะเปิด คาสิโน มีผลอย่างไรต่ออุปสงค์การท่องเที่ยวใน สิงคโปร์ และในมาเลเซีย กระแสเครื่องสาอางในห้องโต๊ะเครื่องแป้ ง (pantip.com) มีผลกับการ ซื้อสินค้าของสาวๆ อย่างไร ข่าวความไม่ลงรอยของ ไทย เขมร มีผลต่อร้านค้าบริเวณชายแดน ไทยอย่างไร การเปิดเขตการค้าเสรี อาเซียน มีผลต่ออุปสงค์สินค้าส่งออกไทย อย่างไร EC210 2/2552 83 Change in quantity & change in curve - - การเปลี่ยนแปลงปริมาณอุปสงค์ (change in quantity) ---- called “move along” การเปลี่ยนแปลงระดับอุปสงค์ (change in curve) ---- called “shift” EC210 2/2552 84 From C to B is called… From C to A is called… From A to C is called… P C A B D* D Q 0 EC210 2/2552 85 โดยสรุป To summarize: Change in price of a good or service leads to Change in quantity demanded (Movement along the curve). Change in income, preferences, or prices of other goods or services leads to Change in demand (Shift of curve). EC210 2/2552 86 ตัวอย่างการ shift เส้น demand Example: demand ในการชมภาพยนตร์ของนักศึกษา A (มีค่าขนม = 4000/เดือน กับค่าขนม = 8000 /เดือน) ราคาต่อเรื่อง (P) 200 160 120 80 40 จานวนครัง้ ในการชมต่อเดือน (Q) ค่าขนม 4000 บาท 1 2 3 4 5 EC210 2/2552 จานวนครัง้ ในการชมต่อเดือน (Q) ค่าขนม 8000 บาท 2 4 5 8 9 87 ผลต่อเส้นอุปสงค์ เมื่อปัจจัยรายได้เปลี่ยนแปลง • Higher income decreases the demand for an inferior good • Higher income increases the demand for a normal good • Demand Shift ซ้าย • Demand Shift ขวา EC210 2/2552 88 ผลต่อเส้นอุปสงค์ เมื่อปัจจัยราคาสินค้าอืน่ (ที่เกี่ยวข้อง)เปลีย่ นแปลง • Demand for complement good ( เช่น กระดาษห่อ แฮมเบอร์เกอร์) shifts left • Price of hamburger Mac rises • Quantity of hamburger demanded per month falls • Demand for substitute good (เช่ น ไก่ KFC) shifts right EC210 2/2552 89 of 48 ตัวอย่างการอธิบาย ราคาน้ าอัดลม เพิม่ ขึ้น จะส่งผลต่อ demandน้ าผลไม้ อย่างไร? จงวาดรูปประกอบ ตอบ เนื่ องจากน้ าอัดลมและน้ าผลไม้เป็ นสินค้าทดแทนกัน ดังนั้นเมื่อ ราคาน้ าอัดลมเพิม่ ขึ้น จะทาให้ ปริมาณการบริโภคน้ าอัดลมลดลง และ หันไปบริโภคน้ าผลไม้มากขึ้น ( Pนา้ อัดลม Qนา้ อัดลม Qนา้ ผลไม้ ) และการที่ ราคาน้ าอัดลมเพิม่ ขึ้น จะส่งผลทาให้ เส้น demand shift ไปทางขวา ดังรูป จาก D เป็ น D* EC210 2/2552 90 ตัวอย่างการวิเคราะห์ การเปลี่ยนแปลงอุปสงค์ 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. ราคาสุราเพิม่ ขึ้น demand สุรา ? นศ.ได้ค่าขนมเพิม่ ขึ้น demand ดูหนัง? ราคาโค้กลดลง demand เป๊ บซี่? รัฐฯ รณรงค์หา้ มโชว์บหุ รี่ท่รี า้ นค้า demand บุหรี่ ? ราคาเนื้ อหมูเพิม่ ขึ้น demand ไก่? ราคาดินสอลดลง demand ปากกา? ราคาน้ ามันเพิม่ ขึ้น demand รถยนต์? รายได้เพิม่ ขึ้น demand การใช้รถเมล์? EC210 2/2552 91 EC210 2/2552 92 อุปทาน (SUPPLY) ความหมาย จานวนของสินค้าและบริการที่ผูผ ้ ลิตมีความเต็มใจที่จะผลิต และสามารถนาออกขาย ณ. ระดับราคาต่างๆ ภายใน ระยะเวลาที่กาหนด LAW OF SUPPLY “ถ้าปัจจัยอืน่ ๆ คงที่ เมื่อราคาสินค้าเพิม่ ขึ้น .... .... ปริมาณความต้องการขายจะเพิม่ ขึ้น” EC210 2/2552 93 เพราะเหตุใดความสัมพันธ์จงึ เป็ นเช่นนั้น ?... ...เพราะ กาไร () เป็ นตัวชี้นา P Q P Q วาด Supply Curve? Individual & mkt supply curve? EC210 2/2552 94 อุปทานส่วนบุคคล (Individual supply) ราคาของ Coke (บาท/ กระป๋ อง ) ปริมาณต้ องการขาย (Quantity supplied - กระป๋ อง) 1 2 3 4 5 6 0 1 2 3 4 5 EC210 2/2552 95 EC210 2/2552 96 อุปทานส่วนบุคคล (Individual supply) และอุปทานของตลาด (Market supply) ราคาของ Coke (บาท/ กระป๋ อง) ปริมาณต้ องการขาย ของ “บริษัท A” qA 1 2 3 4 5 6 0 1 2 3 4 5 ปริมาณต้ องการขาย ปริมาณเสนอขายของ ของ “บริษัท B” ตลาด qB qA + qB =Qตลาด 2 4 6 8 10 12 EC210 2/2552 2 5 8 11 14 17 97 From Individual Supply to Market Supply 98 of 48 As with market demand, market supply is the horizontal summation of individual firms’ supply curves. EC210 2/2552 ปัจจัยกาหนด supply - ราคาสินค้า (P) และการคาดคะเนราคาในอนาคต ราคาปัจจัยการผลิต (Input Price) ราคาของสินค้าอืน่ ที่ผูผ้ ลิตสามารถผลิตได้ เทคโนโลยีการผลิต (technology) จานวนผูข้ าย สภาพแวดล้อม อืน่ ๆ EC210 2/2552 99 ลองวิเคราะห์ ประเด็นต่อไปนี้ ทาไม เมื่อมีการคาดการณ์ ว่า ราคาทองคาจะขึน้ ทองคาจึงขาดตลาด เกิดอะไรขึน ้ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อจีนตัดสินใจเข้ามาผลิตใน ตลาดโลก ...... EC210 2/2552 100 การเปลี่ยนแปลงเส้น supply - - การเปลี่ยนแปลงปริมาณอุปทาน (change in quantity) ---- called “move along” การเปลี่ยนแปลงระดับอุปทาน (change in curve) ---- called “shift” EC210 2/2552 101 From C to B is called… From C to A is called… From A to C is called… P S* S B A C Q 0 EC210 2/2552 102 โดยสรุป To summarize: Change in price of a good or service leads to Change in quantity supplied (Movement along the curve). Change in costs, input prices, technology, or prices of related goods and services leads to Change in supply (Shift of curve). EC210 2/2552 103 ข้อใดต่อไปนี้ มีผลทาให้อปุ ทานของสินค้าและบริการลดลง ก. ราคาวัตถุดิบสูงขึ้น ข. รายได้ของผูซ้ ้ อื สินค้าลดลง ค. รสนิ ยมของผูบ้ ริโภคเปลี่ยนแปลงไป ง. ค่าแรงงานถูกลง จ. ถูกทุกข้อ ตอบ ก. EC210 2/2552 104 EC210 2/2552 105 ดุลยภาพตลาด (Market Equilibrium) ดุลยภาพตลาด คือจุดที่ปริมาณเสนอซื้อ เท่ากับ ปริมาณเสนอขาย (D=S) ณ ดุลภาพจะเกิด ราคาดุลยภาพ (Equilibrium Price) ปริมาณดุลยภาพ (Equilibrium Quantity) Q:เกิดอะไรขึ้น ถ้า ราคาเปลีย่ นไปจากดุลยภาพ? EC210 2/2552 106 Case I : P > Pe (i.e. P=P1) Supply > Demand “Excess supply” ของล้นตลาด คนขายต้องลดราคา Case II : P < Pe (i.e. P=P2) Demand > Supply “Excess demand” ของขาดตลาด คนแย่งกันซื้อ Q: เป็ นไปได้หรือไม่ท่จี ะเกิด excess supply ทุกๆ ราคา? EC210 2/2552 107 Excess supply Price S Excess supply P1 E PE D QD QE QS EC210 2/2552 Quantity 108 Excess demand Price S E PE P2 Excess demand QS QE D QD EC210 2/2552 Quantity 109 ในภาวะที่ราคาซึ่งขายจริงอยู่ในตลาดอยู่.......ระดับราคาดุลยภาพจะ ทาให้เกิด.........ในตลาด ยังผลให้ราคาสินค้าปรับตัว......และปริมาณ การผลิต......... ก. สูงกว่า, อุปทานส่วนเกิน, เพิม่ ขึ้น และ ลดลง ข. ตา่ กว่า , อุปทานส่วนเกิน, เพิม่ ขึ้น และเพิม่ สูงขึ้น ค. สูงกว่า , อุปทานส่วนเกิน, ลดลง และ ลดตา่ ลง ง. ตา่ กว่า , อุปสงค์สว่ นเกิน, ลดลง และเพิม่ สูงขึ้น ตอบ ค. EC210 2/2552 110 การเปลี่ยนแปลงดุลยภาพ มี 3 ลักษณะ คือ 1. Demand Shift อย่างเดียว 2. Supply Shift อย่างเดียว 3. Shift ทัง้ Demand & Supply โดยการวิเคราะห์จะใช้ วิธี Comparative Statics [เทียบการเปลี่ยนแปลงระหว่าง ดุลยภาพเก่า&ใหม่] “นศ.จะต้องดูดุลภาพเก่า&ใหม่ และผลต่อ P&Q ให้ได้” EC210 2/2552 111 Demand Shift อย่างเดียว P S E2 P2 P1 E1 D* D 0 Q1 Q2 EC210 2/2552 Q 112 Supply Shift อย่างเดียว S* P S P2 E2 P1 E1 D 0 Q2 Q1 EC210 2/2552 Q 113 Shift ทัง้ Demand & Supply (i) P S* S P2 P1 D* D 0 Q1 Q2 EC210 2/2552 Q 114 Shift ทัง้ Demand & Supply (ii) P S* S P2 P1 D* D 0 Q1 EC210 2/2552 Q 115 Shift ทัง้ Demand & Supply (iii) S* P S P2 P1 D* D 0 Q2 Q1 EC210 2/2552 Q 116 Conclusion Demand คงที่ Demand Shift ขวา Demand Shift ซ้าย P เพิม่ ขึ้น Q เพิม่ ขึ้น P ลดลง Q ลดลง Supply Shift ขวา P ลดลง Q เพิม่ ขึ้น P ไม่แน่ นอน Q เพิม่ ขึ้น P ลดลง Q ไม่แน่ นอน Supply Shift ซ้าย P เพิม่ ขึ้น Q ลดลง P เพิม่ ขึ้น Q ไม่แน่ นอน P ไม่แน่ นอน Q ลดลง Supply คงที่ EC210 2/2552 117 ขัน้ ตอนการวิเคราะห์ 1. ดูวา่ เหตุการณ์ท่เี กิดขึ้นกระทบ Demand/Supply 2. ดูทศิ ทางการเกิด Shift เส้น (ซ้าย/ขวา) 3. ใช้ D-S อธิบายผล นักศึกษาจะต้องหัดเขียน เพื่อให้เกิดความชานาญ EC210 2/2552 118 ปี นี้ ผลผลิตใบชาในประเทศลดลง เนื่ องจากสภาพดินฟ้ า อากาศแห้งแล้ง เหตุการณ์น้ ี จะมีผลต่อราคาและปริมาณใบชา ในประเทศอย่างไร ก. ราคาและปริมาณ ลดลง ข. ราคาและปริมาณ เพิม่ ขึ้น ค. ราคาเพิม่ ขึ้น ปริมาณลดลง ง. ราคาเท่าเดิม ปริมาณลดลง ตอบ ค. EC210 2/2552 119 จงพิจารณาข้อความต่อไปนี้ ว่า ถูกหรือผิด พร้อมทัง้ ให้เหตุผลอธิบาย การเพิม่ ราคาของปลาแซลมอน จะทาให้เส้นอุปสงค์ของปลาแซลมอนเคลือ่ นทีล่ ดลง ไปทางซ้าย (shift to the left) การที่เทคโนโลยีในการผลิตคอมพิวเตอร์พฒั นาขึ้น จะทาให้เส้นอุปทานของ คอมพิวเตอร์เคลื่อนที่เพิม่ ขึ้นไปทางขวา (shift to the right) หากราคาอยู่ท่รี ะดับตา่ กว่าราคาดุลยภาพ จะทาให้เกิดอุปทานส่วนเกิน (surplus) ส่งผลให้ราคาต้องปรับตัวลดลง EC210 2/2552 120 โจทย์ “ในภาวะที่ราคาน้ ามันถีบตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่ อง จงวิเคราะห์ผลกระทบดังกล่าว ต่อตลาดพลังงานทดแทน เช่น LPG ขัน้ ตอนการวิเคราะห์ ดูว่าเหตุการณ์ท่เี กิดขึ้นกระทบ Demand/Supply ....ตอบ.... - ดูทศิ ทางการเกิด Shift เส้น (ซ้าย/ขวา) ....ตอบ.... - ใช้ D-S อธิบายผล ... อธิบาย.... สิ่ งที่ต้องระวัง.. เนื่องจากเราวิเคราะห์ สองสิ นค้ า เวลาเขียน อธิบายให้ ชัดเจนด้ วย EC210 2/2552 121 เมือร่ าคาน้ ามันถึบตัวสูงขึ้น จะทาให้ความต้องการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น (เนื่ องจากเป็ นสินค้าที่ ใช้ทดแทนกัน) ดังนั้น เส้น demandในตลาดพลังงานทดแทนจะ shift ไปทางขวา ซึ่งสามารถ วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงได้ดงั รูปต่อไปนี้ P เดิม ดุลยภาพตลาดอยู่ท่ี จุด E1 S E2 (ราคาดุลยภาพ = P1 ปริมาณดุลยภาพ = Q1) P2 P1 E1 D D* Q หลั ง จากที ่ราคาน้ ามันถึบตัวสูงขึ้น เส้น demand 0 Q1 Q2 shift จาก D เป็ น D* ทาให้ ณ ราคา P1 เกิด excess demand (ของขาดตลาด) เป็ นแรงผลักดัน ให้ราคาเพิ่มขึ้น ดุลยภาพใหม่จะอยู่ท่ี จุด E2 (ราคาดุลยภาพ = P2 ปริมาณดุลยภาพ =Q2) ผลของเหตุการณ์ทาให้ตลาดพลังงานทดแทน มีปริมาณดุลยภาพเพิ่มขึ้น Q1Q2 ราคาดุลยภาพเพิ่มขึ้น P1P2 EC210 2/2552 122 จงวิเคราะห์เหตุการณ์ต่อไปนี้ ตลาดมีผขู ้ ายหน้าใหม่เข้ามาเป็ นจานวนมาก สถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจโลกทาให้กาลังซื้อของผูบ้ ริ โภคถดถอย ภาวะโลกร้อน ทาให้ ผลผลิตไม่ได้ตามที่คาดการณ์ไว้ EC210 2/2552 123 ทบทวนการเรียนต่ อ (ประโยคต่ อไปนี้ ถูกหรือผิด) ถ้าราคาตา่ กว่าราคาดุลยภาพ จะเกิดของล้นตลาด จานวนลูกค้า (ผูบ ้ ริโภค)ที่เพิม่ ขึ้น จะส่งผลทาให้ระดับราคา สินค้าในตลาดสูงขึ้น เศรษฐกิจตกตา่ จะทาให้ Demand ของสินค้าอุปโภคบริโภค shift ซ้าย EC210 2/2552 124 Demand Supply ปัจจัยกาหนด (P, I , Py ..) ปัจจัยกาหนด (P, IP ,tech ..) ค่าความยืดหยุ่น ดุลยภาพ กลไกตลาด การตัดสินใจ ของผูข้ าย นโยบาย ของรัฐ ค่าความยืดหยุน่ EC210 2/2552 125 EC210 2/2552 126 Topics 3.1 ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคาและการประยุกต์ใช้ ความหมายของความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา การคานวณความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคาภายในอุปสงค์หนึ่ งเส้น การเปรียบเทียบและลักษณะของเส้นอุปสงค์ท่มี ีค่าความยืดหยุ่นต่างๆ กัน ตัวกาหนดความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคากับการเปลีย่ นแปลงรายรับรวม EC210 2/2552 127 Topics (continued) 3.2 ความยืดหยุ่นชนิ ดอืน่ ๆ และการประยุกต์ใช้ความยืดหยุ่นอุปสงค์ต่อราคา ความยืดหยุ่นอุปสงค์ต่อรายได้ ความยืดหยุ่นอุปสงค์ไขว้ 3.3 ความยืดหยุ่นของอุปทานต่อราคา ความหมายของความยืดหยุ่นของอุปทานต่อราคา การเปรียบเทียบและลักษณะของเส้นอุปทานที่มีค่าความยืดหยุ่นต่าง ๆ กัน ตัวกาหนดความยืดหยุ่นของอุปทานต่อราคา EC210 2/2552 128 Topics (continued) 3.4 การประยุกต์ใช้อปุ สงค์และอุปทานอธิบายในการวิเคราะห์การแทรกแซง ของรัฐบาลในทางเศรษฐกิจบางประการ การกาหนดราคาขัน้ สูง (Maximum Price) การกาหนดราคาขัน้ ตา่ (Minimum Price) การเก็บภาษี Sales Tax กับผูข้ าย EC210 2/2552 129 ค่าความยืดหยุ่น (Elasticity) Question: เราต้องเรียนค่าความยืดหยุ่นทาไม? answer: ช่วยวิเคราะห์เพิม่ เติมในเรื่อง “ขนาด” (Magnitude) การเปลี่ยนแปลง ยืดหยุ่นเป็ น “ค่าที่ใช้วดั ความมากน้อยของการเปลี่ยนแปลงของตัวแปรตาม ต่อการ เปลี่ยนแปลงของตัวแปรต้น” เช่น QDx = f(Px, I, Py, ....) QSx = f(Px, IP... ) EC210 2/2552 130 ยกตัวอย่าง การศึกษา ความยืดหยุน่ ต่อราคาของอุปสงค์ จะบอกให้เรา ทราบว่า “เมือ ่ ราคาเปลีย่ นแปลงไป (เช่น ผูป้ ระกอบการตัดสินใจจะขึน้ ราคาสินค้า 10% จาก นมกล่องละ 10 บาท เป็ น 11 บาท) จะทาให้ ผูซ ้ อ้ื ตัดสินใจ ซือ้ สินค้าลดลง มากน้อยแค่ไหน (เช่น จากเดิม เคยซือ้ สัปดาห์ละ 5 กล่อง จะลดลง เหลือ กีก่ ล่อง หรือ ลดลง กีเ่ ปอร์เซ็นต์) EC210 2/2552 131 หลักการคานวณค่าความยืดหยุ่น ค่าความยืดหยุ่น วัด % ตัวแปรตาม % ตัวแปรต้น %y %x ดังนัน้ ค่า ความยืดหยุ่นจึงไม่มหี น่ วย Ex =-1.5 =3 =0 = ... หมายเหตุ % ตัวแปร เช่น ค่าขนมของนักศึกษาเพิม่ ขึ้น 10% (เพิม่ จาก 3000 เป็ น ?? บาท) GDP มีอตั ราการขยายตัว 4% (เดิม GDP = 4 แสนล้าน GDP ใหม่ =??) EC210 2/2552 132 เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง %Y = Y2 – Y1 Y1 วิธีคดิ ใช้หลักเทียบบรรยัดไตรยางค์ เช่น ค่าขนมของนักศึกษาเพิม่ ขึ้น 10% (เพิม่ จาก 3000 เป็ น ?? บาท) 10% ของ 3000 เท่ากับ 300 ดังนัน้ ค่าขนมจะเพิ่มเป็ น 3300 บาท GDP มีอตั ราการขยายตัว 4% (เดิม GDP = 4 แสนล้าน GDP ใหม่ =??) 4% ของ 400000 ล้าน เท่ากับ 16000 ล้าน ดังนัน้ GDP จะเพิ่มเป็ น 416000 ล้านบาท หรือ 4.16 แสนล้านบาท EC210 2/2552 133 Question: โดยตัวของค่าความยืดหยุ่นบอกอะไร? - - ทิศทางการเปลี่ยนแปลง (direction) .....ดูจากเครื่องหมาย บวก (+) ลบ (-) ขนาดการเปลี่ยนแปลง (magnitude) .....ดูจากค่าตัวเลข (ไม่ดูเครื่องหมาย) “ดูว่าเมือ่ x เปลีย่ นแปลงไป 1% จะทาให้ y เปลีย่ นแปลงไปกี่ %” EC210 2/2552 134 ขนาดการเปลีย่ นแปลง (magnitude) ความยืดหยุ่นมีค่ามากหรือน้ อย 0 1 Elastic 1 Inelastic 1 Unitary Elastic 0 Perfectly Inelastic Perfectly Elastic EC210 2/2552 135 ¤ ประเภท ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ ความยืดหยุ่นต่อราคา (price elasticity) • อิทธิพลการเปลี่ยนแปลงของราคาที่มีผลต่ออุปสงค์ ความยืดหยุ่นต่อรายได้ (income elasticity) • อิทธิพลการเปลี่ยนแปลงของรายได้ท่มี ีผลต่ออุปสงค์ ความยืดหยุ่นไขว้ (cross price elasticity) • อิทธิพลการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าอืน่ ที่มีผลต่ออุปสงค์ EC210 2/2552 136 P A B C Q EC210 2/2552 137 ค่าความยืดหยุ่นต่อราคา (d) ความหมาย และความสาคัญ เป็ นตัวดัชนี ช้ ีวดั ที่แสดงให้เห็นว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้า นั้นๆ จะส่งผลทาให้ปริมาณเสนอซื้อสินค้าเปลี่ยนแปลงไปมากน้อย เพียงใด สูตรการคานวณ d = %Q %P บอกให้ทราบว่า หากราคาเปลี่ยนแปลงไป 1% จะทาให้ปริมาณอุปสงค์เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร EC210 2/2552 138 การวัดความยืดหยุ่น (วิธีการคานวณ) P การวัดความยืดหยุ่นแบบช่วง (arc elasticity) Ed = (Q1-Q2) (P1-P2) = (Q1-Q2) x (P1+P2) (Q1+Q2) (P1+P2) (Q1+Q2) (P1-P2) 2 2 การวัดความยืดหยุ่นแบบจุด (point elasticity) Ed = Q/Q P/P = Q x P = ส่วนกลับ slope x P P Q Q 6 4 D 80 120 Q ลองช่วยคานวณ ค่าความยืดหยุ่นแบบช่วง เล่นๆ ดูสิ EC210 2/2552 139 P เฉลย Ed = 6 4 (Q1-Q2) (P1-P2) (Q1+Q2) (P1+P2) 2 2 80 = (Q1-Q2) x (P1+P2) (Q1+Q2) (P1-P2) = 120-80 x 4+6 = 40 x 10 = -1 120+80 4-6 200 x(-2) D Q 120 ค่ าความยืดหยุ่นทีค่ านวณได้ บอกให้ เราทราบอะไรบ้ าง.... ช่ วยตีความกันหน่ อย EC210 2/2552 140 Exercise:จงคานวณค่าความยืดหยุ่นในช่วง AB และช่วง CD พร้อมตีความค่าที่ได้จากการคานวณ ค่ าความยืดหยุ่นช่ วง AB เท่ ากับ -3 Price A 10 B ค่ าความยืดหยุ่นช่ วง CD เท่ ากับ -0.33 8 C 4 D 2 5 10 20 25 EC210 2/2552 Quantity 141 ข้อสังเกต (กรณี เส้นอุปสงค์เป็ นเส้นตรง) ค่าความยืดหยุ่นอุปสงค์ต่อราคา ภายในเส้นอุปสงค์หนึ่ งเส้นจะมีค่าเปลีย่ นแปลงไปเรื่อยๆ ตามจุด ต่างๆ บนเส้น ยิ่งใกล้จุดที่ปริมาณเท่ากับศูนย์ (Q→0) ค่าความยืดหยุ่นอุปสงค์ต่อ ราคาจะยืดหยุ่นจะมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งใกล้จุดที่ราคาเท่ากับศูนย์ (P→0) ค่าความยืดหยุ่นอุปสงค์ต่อราคา จะยืดหยุ่นน้อยลงเรื่อยๆ WHY !!! EC210 2/2552 142 ** ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคาภายในอุปสงค์หนึ่ งเส้น Price 4 EP = - Elastic Ep = -1 2 Inelastic 4 8 EC210 2/2552 Q Ep = 0 143 การเปรียบเทียบและลักษณะของเส้นอุปสงค์ท่มี ีคา่ ความยืดหยุ่นต่างๆ กัน การวัดความยืดหยุ่นแบบจุด (point elasticity) Ed = Q/Q P/P = Q x P = ส่วนกลับ slope x P P Q Q เส้นอุปสงค์จะมีลกั ษณะแตกต่างกันไปตามชนิ ดสินค้า (หรือระยะเวลา) ถึงแม้ว่าค่าความชัน (slope) กับค่าความยืดหยุ่น (elasticity) จะ ไม่ใช่สง่ิ เดียวกัน แต่ค่าความชันก็ยงั พอจะช่วยสามารถบอกอะไร บางอย่างเกี่ยวกับความยืดหยุ่น “ยิ่งชันมาก elasticity ยิ่งน้อย” ***การบอกค่าความยืดหยุ่นโดยดูจากลักษณะของเส้นอุปสงค์เป็ นแต่การเปรียบเทียบเส้นอุปสงค์ ชนิ ดต่างๆ ในภาพรวมเท่านั้น ไม่ใช่การเปรียบเทียบโดยละเอียด EC210 2/2552 144 |Ed|=0 (perfectly inelastic demand): ถึงแม้ว่าระดับราคาจะเพิม่ สูงขึ้น ปริมาณเสนอซื้อก็ยงั คงที่ Price D ยกตัวอย่าง เช่ น ยา สาหรับผู้ป่วย เช่ น เบาหวาน เอดส์ ยาเสพติด สาหรับคนติดยา ฯลฯ P2 P1 Q1 EC210 2/2552 Quantity 145 |Ed|<1 (inelastic demand): Price P2 P1 D Q2 Q1 EC210 2/2552 Quantity 146 |Ed|=1 (unitary elastic demand): Price P2 P1 D Q2 Q1 Quantity EC210 2/2552 147 |Ed|>1 (elastic demand): Price P2 P1 D Q1 Q2 Quantity EC210 2/2552 148 |Ed|= ∞ (perfectly elastic demand): ถ้าระดับราคาจะเพิม่ สูงขึ้นกว่า (P1) ปริมาณเสนอซื้อก็จะเป็ น 0 ยกตัวอย่าง เช่ น อุปสงค์ ทผี่ ้ ผู ลิตเผชิญ ในตลาดแข่ งขันสมบูรณ์ (บทที่ 5) Price D P1 Quantity EC210 2/2552 149 Comparing Elasticity of Demand Elasticity at point A Price D* จะมีความยืดหยุ่น ตา่ กว่า D P1 P2 A เพราะ ราคาเปลี่ยนเท่ากัน แต่ ปริมาณเปลี่ยนน้ อยกว่า หรือ ความชันมากกว่า ยิดหยุ่นน้ อยกว่า B C D D* Q1 Q2 Q3 EC210 2/2552 Quantity 150 ** ตัวกาหนดความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา 1 ความคงทนถาวรของสินค้า สินค้าคงทนถาวร เป็ นสินค้าที่มีความยืดหยุ่นสูง e.g., รถยนต์, บ้าน vs. กระดาษชาระ ** สินค้าคงทนถาวร คือ สินค้าที่มีอายุการใช้งานยาวนาน ลองนึ กดูสวิ ่า .... หากราคาบ้าน เพิ่มขึ้น 10% demand จะลดลงมากไหม เมื่อเทียบกับ กระดาษชาระ ราคาเพิ่มขึ้น 10% EC210 2/2552 151 ** ตัวกาหนดความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา 2 มีสนิ ค้าทดแทน สินค้าที่มีสนิ ค้าอืน่ ใช้ทดแทนได้งา่ ย เป็ นสินค้าที่มีความยืดหยุ่นสูง (high elasticity) e.g., เนื้ อไก่ vs. ไฟฟ้ า เนื้ อไก่ กับไฟฟ้ า อะไรหาสินค้าทดแทนได้งา่ ยกว่ากัน ทาไม สินค้าที่หาสินค้าอืน่ “ทดแทนได้งา่ ย” จึงอ่อนไหวต่อราคามาก EC210 2/2552 152 ** ตัวกาหนดความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา 3. ขอบเขตของตลาดที่เราวิเคราะห์ ขอบเขตตลาดยิ่งแคบ จะทาให้มีความยืดหยุ่นสูง e.g., กุง้ แช่แข็งพรานทะเล vs. กุง้ แช่แข็ง (ทุกยี่หอ้ ) ถ้าราคากุง้ แช่แข็งพรานทะเล เพิม่ ขึ้น 20% จะเกิดอะไรขึ้นกับ demand ของ กุง้ แช่งแข็งพรานทะเล (ยอดขายพรานทะเลจะลดลงกี่เปอร์เซ็นต์) เทียบกับ ถ้าราคากุง้ แช่แข็งทุกยี่หอ้ เพิม่ ขึ้น 20% จะเกิดอะไรขึ้นกับ demand ของกุง้ แช่งแข็ง (ยอดขายกุง้ แช่แข็งทัง้ หมดจะลดลงกี่เปอร์เซ็นต์) EC210 2/2552 153 ** ตัวกาหนดความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา (ต่อ) 4 ความจาเป็ นสาหรับผูบ้ ริโภค สินค้าจาเป็ น – ความยืดหยุ่นตา่ สินค้าฟุ่ มเฟื อย - ความยืดหยุ่นสูง e.g., สินค้าอุปโภคบริโภค vs. การท่องเที่ยว 5 ราคาของสินค้า สินค้าที่มีสดั ส่วนต่องบประมาณรายจ่ายของผูซ้ ้ ือสูง เป็ นสินค้าที่มีความยืดหยุ่นสูง e.g., เสื้อผ้าแบรนด์ดงั ลดราคา คนรวย vs. คนทัว่ ไป 6 ระยะเวลา อุปสงค์ในระยะยาวจะมีความยืดหยุ่นมากกว่าอุปสงค์ในระยะสัน้ เนื่ องจากว่าผูซ้ ้ อื มีการปรับตัว EC210 2/2552 154 ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ตอ่ ราคากับการเปลี่ยนแปลงรายรับรวม รายรับรวม = ราคา x ปริมาณ Total Revenue = Price x Quantity ? ? Question ผู้ขายควรใช้ กลยุทธ์ ราคาอย่ างไร เพือ่ เป็ นการเพิม่ รายรับ EC210 2/2552 155 Total Revenue หมายเหตุ รายรับรวมของผู้ผลิต ก็คอื รายจ่ ายรวมของผู้บริโภคนั่นเอง Price Total Revenue = P1 x Q1 (พืน้ ที่สี่เหลีย่ มสี เขียวใต้ เส้ นอุปสงค์ ) P1 Demand Q1 Quantity EC210 2/2552 156 การวิเคราะห์ค่าความยืดหยุ่นกับรายรับรวม แบ่งได้เป็ น 2 กรณี A. |d| >1 B. |d| < 1 Question จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเพิ่มราคา หรือลดราคา Question ผูข้ ายควรใช้กลยุทธ์ราคาอย่างไร ในแต่ละกรณี เพือ่ เป็ น การเพิ่มรายรับ EC210 2/2552 157 A. |d| >1 (% ΔQ > % ΔP) P i.e. สินค้าฟุ่ มเฟื อย M 6 N 5 8 16 EC210 2/2552 Q 158 B. |d| < 1 (% ΔQ < % ΔP) P 10 M i.e. สินค้าราคาตา่ N 5 Demand Q 8 9 EC210 2/2552 159 ค่าความยืดหยุ่น ของอุปสงค์ต่อาคา ราคา ราคา ยืดหยุ่นมาก (Elastic) % ΔQ > % ΔP รายรับรวม (Q P ) รายรับรวม (Q P ) ยืดหยุ่นน้อย (Inelastic) % ΔQ < % ΔP รายรับรวม (Q P ) รายรับรวม (Q P ) ยืดหยุ่นคงที่ (Unitary Elastic) % ΔQ = % ΔP รายรับรวม เท่าเดิม รายรับรวม เท่าเดิม EC210 2/2552 160 ทบทวนการเรียนต่ อ (ประโยคต่ อไปนี้ ถูกหรือผิด) ถ้าราคาตา่ กว่าราคาดุลยภาพ จะเกิดของล้นตลาด จานวนลูกค้า (ผูบ้ ริโภค)ที่เพิม่ ขึ้น จะส่งผลทาให้ระดับราคาสินค้าในตลาด สูงขึ้น เศรษฐกิจตกตา่ จะทาให้ Demand ของสินค้าอุปโภคบริโภค shift ซ้าย หากค่าความยืดหยุ่นต่อราคาของสินค้าเท่ากับ -3 หมายความว่า ถ้าผูข้ ายตัดสินใจขึ้นราคาสินค้า 10 บาท จะทาให้ยอดปริมาณความต้องการซื้อลดลง 30 ชิ้น ผูข้ ายรายนี้ ควรตัดสินใจลดราคาสินค้า เพราะจะทาให้รายรับรวมมากขึ้น EC210 2/2552 161 EC210 2/2552 162 ** ความยืดหยุ่นต่อรายได้ (i) ความหมาย: เป็ นตัวดัชนี ช้ ีวดั ผลการเปลี่ยนแปลงในปริมาณเสนอซื้อ ที่เกิด จากการเปลี่ยนแปลงรายได้ของผูบ้ ริโภค สูตร i = %Q %I Q/Q I/I ค่า i บอกว่า.... เครื่องหมายบวก (+) ลบ (-) ค่าตัวเลข ขนาดการเปลี่ยนแปลง EC210 2/2552 163 ประเภทของสินค้า กับค่าความยืดหยุ่นต่อรายได้ Income Elasticity of Demand มีเครื่องหมายทัง้ บวกและลบ สินค้าปกติ (Normal Goods) รายได้เพิ่ม ซื้อสินค้านั้นเพิ่ม สินค้าด้อยคุณภาพ (Inferior Goods) รายได้เพิ่ม ซื้อสินค้านั้นลดลง EC210 2/2552 164 สินค้าฟุ่ มเฟื อยกับสินค้าจาเป็ น กรณี ท่สี นิ ค้าที่มี i > 0 (i เป็ น +) ถ้า i > 1 สินค้าฟุ่ มเฟื อย (Luxurious Goods) ถ้า 0 < i < 1 สินค้าจาเป็ น (Necessary Goods) EC210 2/2552 165 EC210 2/2552 166 ค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์การเดินทางในสถานการณ์และ วัตถุประสงค์ของการเดินทางต่างๆ (ตัวอย่างงานศึกษาค่าความยืดหยุ่น) ค่าความยืดหยุ่น ความยืดหยุ่นต่อ ต่อราคา รายได้ ในชัว่ โมงเร่งด่วน การเดินทางที่จาเป็ น (essential trips) เช่นเดินทางไปเรียน การเดินทางเพิ่มเติม (ไม่จาเป็ น) (optional trips) เช่นเดินทางไปช๊อปปิ้ ง -0.16 0.70 -0.43 1.53 sansanee limpong (ajarntik) ec382, 1/2552 ** ค่าความยืดหยุ่นไขว้ (xy) ความหมาย: เป็ นตัวดัชนี ช้ ีวดั ผลการเปลี่ยนแปลงในปริมาณเสนอซื้อ ที่เกิด จากการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าอืน่ ที่เกี่ยวข้อง สูตร xy = %Qx %Py Qx/Qx Py/Py เครื่องหมาย xy บอกอะไร ? บวก (+) ลบ (-) EC210 2/2552 168 ความสัมพันธ์ของสินค้า กับค่าความยืดหยุ่นไขว้ Cross Elasticity of Demand มี เครื่องหมายทัง้ บวกและลบ กรณี สนิ ค้าทดแทนกัน (เช่น แว่นตา กับ คอนแทกเลนส์) x และ y เป็ นสินค้าทดแทนกัน(Substitute) Py เพิ่ม ซื้อสินค้า x แทน y (QDx เพิ่ม) กรณี สนิ ค้าใช้คู่กนั (เช่น หมึกพิมพ์ กับ กระดาษพิมพ์) x และ y เป็ นสินค้าใช้คู่กนั (Complementary) Py เพิ่ม ซื้อ y และ x ลดลง (QDx ลด) EC210 2/2552 169 คาถาม Cross Elasticity ของ AIS กับ DTAC เป็ นบวกหรือลบ? Cross Elasticity ของ ธุรกิจท่องเที่ยว กับ ธุรกิจของที่ระลึก เป็ น บวกหรือลบ? Exy = 0 แสดงว่า? EC210 2/2552 170 เครื่องหมายและการตีความค่าความยืดหยุ่น ประเภทค่าความยืดหยุ่น ค่าความยืดหยุ่นต่อราคา ค่าความยืดหยุ่นต่อรายได้ ค่าความยืดหยุ่นไขว้ เครื่องหมาย + สินค้าปกติ 0 < สินค้าจาเป็ น < 1 สินค้าฟุ่ มเฟื อย > 1 สินค้าใช้ทดแทนกัน เครื่องหมาย ๏ สินค้าด้อย สินค้าใช้ประกอบกัน ค่าความยืดหยุ่นต่อราคา = -2 หมายความว่า หากราคาสินค้าเพิม่ ขึ้น 1% จะทาให้อปุ สงค์(ความต้องการซื้อ) ลดลง 2% EC210 2/2552 171 EC210 2/2552 172 ค่าความยืดหยุ่นของอุปทานต่อราคา (s) ความหมาย และความสาคัญ เป็ นตัวดัชนี ช้ ีวดั ที่แสดงให้เห็นว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้า นั้นๆ จะส่งผลทาให้ปริมาณเสนอขายสินค้าเปลี่ยนแปลงไปมากน้อย เพียงใด สูตรการคานวณ (เหมือนวิธีการคานวณค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา) s = %Q %P EC210 2/2552 เครื่องหมาย = ? ขนาด = ? 173 Comparing Elasticity of Supply S* Price S B P2 P1 C A Elasticity at point A S* จะมีความยืดหยุ่น ตา่ กว่า S เพราะ ราคาเปลี่ยนเท่ากัน แต่ ปริมาณเปลี่ยนน้ อยกว่า หรือ ความชันมากกว่า ยิดหยุ่นน้ อยกว่า Quantity EC210 2/2552 174 Perfectly Elastic & Perfectly Inelastic Supply Price Price S EP = 0 EP = P* S Quantity EC210 2/2552 Q* Quantity 175 ตัวกาหนดความยืดหยุ่นของอุปทานต่อราคา “ขึ้นกับ ความยากง่าย และรวดเร็วที่ผูข้ ายจะ เปลี่ยนแปลงปริมาณขาย” ความสามารถในการเพิม่ หรือลดกาลังการผลิต ถ้าจานวนการการผลิตสามารถเพิ่มหรือลดได้งา่ ย อุปทานของสินค้านั้นก็จะมีความ ยืดหยุ่นสูง e.g., หนังสือ, CD เพลง vs. บ้านพร้อมที่ดินแถวสีลม ระยะเวลา อุปทานในระยะยาวจะมีความยืดหยุ่นมากกว่าอุปทานในระยะสัน้ เนื่ องจากว่าผูผ้ ลิตมี การปรับตัว EC210 2/2552 176 EC210 2/2552 177 รูปแบบการแทรกแซงของภาครัฐในทางเศรษฐกิจ การกาหนดราคาขัน้ สูง (Maximum Price or Price Ceiling) การกาหนดราคาขัน้ ตา่ (Minimum Price or Price Floor) การเก็บภาษี EC210 2/2552 178 ทาไมต้องมีการควบคุมราคา ? เชื่อว่า..... ราคาดุลยภาพตลาด เป็ นราคาที่ไม่ยุตธิ รรมสาหรับผูซ้ ้ ือ หรือ บางกรณี สาหรับผูข้ าย - ราคาขัน้ สูง ? A legal maximum on the price at which a good can be sold. - ราคาขัน้ ตา่ ? A legal minimum on the price at which a good can be sold. ตัวอย่างการกาหนด และการควบคุมราคาสินค้า - - การควบคุมราคาสินค้าอุปโภค บริโภค(น้ าตาล,ข้าว,เนื้ อหมู...) การรับประกันราคา / การกาหนดค่าจ้างขัน้ ตา่ ... EC210 2/2552 179 การควบคุมราคาขัน้ สูง (Price Ceiling หรือ Maximum Price) EC210 2/2552 180 วัตถุประสงค์: • ราคาดุลยภาพ (ราคาตลาด) สูงเกินไป รัฐบาลจึง เข้าควบคุมไม่ให้ขายในราคาสูงกว่าที่กาหนด • เป็ นมาตรการเพือ่ ช่วยผูซ้ ้ ือ เช่น ในช่วงสินค้าขาด แคลน วิธีการ: • กาหนดราคาขาย (Pc) ให้ตา่ กว่าราคาดุลยภาพ (Pe) • ถ้าขายเกินราคา Pc ถือว่าผิดกฎหมาย EC210 2/2552 181 การควบคุมราคาขัน้ สูง (Ceiling Price) Price S Equilibrium price Pe Pc Price ceiling Excess demand D 0 Q1 Qe Q2 Quantity Quantity EC210 2/2552 supplied demanded Quantity 182 Copyright©2003 Southwestern/Thomson Learning การกาหนดราคาขัน้ สูงจะมีผลหรือมีประสิทธิภาพหรือไม่น้นั ก็ข้ ึนอยู่ กับความสามารถในการควบคุมตรวจสอบของรัฐบาล ้ สูง: ผลกระทบจากการกาหนดราคาขัน อุปสงค์สว่ นเกิน (Excess demand or Shortage) ตลาดมืด (Black market) ต้นทุนในการหาซื้อสินค้า การผลิตสินค้าชนิ ดนั้นๆ อาจจะลดลงในอนาคต เช่น ลอตเตอรี่รฐั บาลราคาหน้าตัวใบละ ๋ 80 บาท ขายจริง ?? EC210 2/2552 183 การควบคุมราคาขัน้ ตา่ (Price Floor หรือ Minimum Price) EC210 2/2552 184 วัตถุประสงค์: • ราคาดุลยภาพ (ราคาตลาด) ตา่ เกินไป รัฐบาลจึงเข้า แทรกแซงให้ราคาขายไม่ตา่ กว่าราคาขัน้ ตา่ ที่กาหนด • เป็ นมาตรการช่วยผูข้ าย เช่น ประกันราคาข้าว, การกาหนดค่าจ้างขัน้ ตา่ วิธีการ: • กาหนด ราคาขายขัน้ ตา่ (Pf) ให้สูงกว่าราคาดุลยภาพ (Pe) • ใช้มาตรการเสริมต่าง ๆ เพื่อรักษาระดับราคาให้อยู่ท่ี Pf EC210 2/2552 185 การควบคุมราคาขัน้ ตา่ (Floor Price) Price Supply Excess supply Pf Price floor Pe Equilibrium price Demand 0 Q1 Q2 Quantity Quantity demanded supplied EC210 2/2552 Quantity 186 Copyright©2003 Southwestern/Thomson Learning ผลกระทบจากการกาหนดราคาขัน้ ตา่ : • ที่ Pf เกิด Excess Supply • ถ้ารัฐบาลไม่มีมาตรการแทรกแซง ราคาจะกลับสูร่ าคาดุลยภาพ มาตรการเสริม: 1) รัฐบาลรับซื้อผลผลิตส่วนเกิน (Excess supply) 2) ให้ผูผ้ ลิตขายให้หมดตามราคาตลาดแล้วมารับเงินอุดหนุ น ชดเชยส่วนต่างของราคาขายขัน้ ตา่ กับราคาดุลยภาพตลาด เช่น การรับประกันลาไยอบแห้ง ปี 2546-7 เกิดอะไรขึ้น ?? EC210 2/2552 187 การเก็บภาษี EC210 2/2552 188 สรรพสามิตเตรียมปรับขึ้นภาษี บหุ รี่เต็มเพดาน กรมสรรพสามิต เตรียมปรับขึ้นอัตราภาษี บหุ รี่ทกุ ชนิ ดทัง้ ไทยและต่างประเทศชน เพดานสูงสุด เพือ่ ช่วยรณรงค์ให้ประชาชนลด ,ละ ,เลิกสูบบุหรี่ ซึ่งส่งผลให้ราคา บุหรี่กรองทิพย์ข้ ึนทันทีอกี ซองละ10บาท โดยปัจจุบนั พระราชบัญญัตยิ าสูบ กาหนดให้กรมสรรพสามิต จัดเก็บภาษี ยาสูบได้ ในอัตราสูงสุดไม่เกินร้อยละ 80 ของราคาหน้าโรงงาน แต่ขณะนี้ จัดเก็บอยู่ในอัตรา ร้อยละ 75 ยังเหลืออีกร้อยละ 5 ก็จะเต็มเพดานตามที่กฏหมายกาหนด กรมคงไม่ขอลดเป้ าการจัดเก็บรายได้ลง แต่จะเพิม่ ประสิทธิภาพในการจัดเก็บมาก ขึ้น เพือ่ ให้สามารถจัดเก็บภาษีได้ตามเป้ า จานวน 3.125 แสนล้านบาท... EC210 2/2552 189 การเก็บภาษี แบ่งเป็ น 2 ประเภทใหญ่ๆ 1.ภาษี ตามสภาพ (ภาษี ต่อหน่ วย) (Specific Tax) …. เก็บเป็ นมูลค่าคงที่ต่อหนึ่งหน่ วยสินค้า 2.ภาษี ตามราคา (Ad Valorem Tax) ….. เก็บเป็ น %ของราคาสินค้า ASSUMPTION ศึกษาเฉพาะ ภาษีต่อหน่ วย ที่เก็บกับผูข้ าย EC210 2/2552 190 ประเด็นการวิเคราะห์ผลของภาษี - ผลของการเก็บภาษี ต่อเส้น supply - การเปลี่ยนแปลงดุลยภาพ (ผลต่อ P&Q) - ภาระภาษี ของผูซ้ ้ ือ / ของผูข้ าย - รายได้ภาษี ของรัฐ EC210 2/2552 191 ภาษีต่อหน่ วย (Specific tax or Unit tax) S2 Price S1 PT Tax Tax P1 Q1 Quantity EC210 2/2552 192 ภาระภาษีของผูซ้ ้ อื / ของผูข้ าย / รายได้ภาครัฐ ภาระภาษี ของผูบ้ ริโภค (ผูซ้ ้ ือ) : ค่าใช้จา่ ยที่มากขึ้นจากการมีภาษี [เทียบ P ที่จา่ ยก่อนมีภาษี VS P ที่จา่ ยหลังมีภาษี ] = (ราคาที่จา่ ยหลังมีภาษี - ราคาที่จา่ ยก่อนมีภาษี )ปริมาณซื้อขาย ภาระภาษี ของผูผ้ ลิต (ผูข้ าย) : รายได้ท่ลี ดลงจากการมีภาษี [เทียบ P ที่ได้กอ่ นมีภาษี VS P ที่ได้หลังมีภาษี ] =(ราคาที่ได้กอ่ นมีภาษี -ราคาที่ได้หลังมีภาษี )ปริมาณซื้อขาย รายได้ภาษี ของรัฐ : ภาษี รวมที่เก็บได้ = ภาระภาษี ผูบ้ ริโภค + ภาระภาษี ผูผ้ ลิต = (ภาษี ต่อหน่ วย)ปริมาณซื้อขาย EC210 2/2552 193 การเก็บภาษี ต่อหน่ วยจากผูข้ าย Price Price buyers pay Price without tax S2 E1 P1 P0 P2 S1 Tax B A A tax on sellers shifts the supply curve upward by the amount of the tax E0 Price sellers receive Demand, D1 0 Q1 Q0 EC210 2/2552 Quantity 194 ประเด็นที่ตอ้ งวิเคราะห์ ภาระภาษี ของผูซ้ ้ ือ (ต่อหน่ วย) = มูลค่า ภาระภาษี ของผูข้ าย (ต่อหน่ วย) = มูลค่า รายได้ของรัฐ (ต่อหน่ วย) = มูลค่า EC210 2/2552 = = = 195 ผลของการเก็บภาษี กบั ค่าความยืดหยุ่น (ดูปจั จัยกาหนดภาระภาษี .....ใครรับภาระมากน้อย) I. พิจารณา d ที่ต่างกัน II. พิจารณา s ที่ต่างกัน “ผูท้ ่มี ีค่าความยืดหยุ่นต่างราคา ยิ่งสูง จะผลักภาระไปให้ฝ่ายตรงข้ามได้มากกว่า” EC210 2/2552 196 Case I Elastic Supply, Inelastic Demand Price S* P1 ภาระภาษี ผูซ้ ้ อื E* S Tax P E P2 Demand 0 Q* Q Quantity ผู้ขาย สามารถผลักภาระไปได้ มากกว่ า ..... เพราะอะไร ?? EC210 2/2552 197 Case II Inelastic Supply, Elastic Demand Price S* Price buyers pay S Price without tax Tax ภาระภาษี ผูข้ าย Demand Price sellers receive Quantity 0 ผู้ซื้อ สามารถผลักภาระไปได้ มากกว่ า ..... เพราะอะไร ?? EC210 2/2552 198 การผลักภาระภาษีของผูซ้ ้ อื / ของผูข้ าย Case I Elastic Supply, Inelastic Demand ผูซ้ ้ ือ รับภาระภาษี มากกว่า สินค้าที่ demand มีค่าความยืดหยุ่นตา่ เช่น สินค้าจาเป็ น ข้อสังเกต เวลาสินค้าเหล่านี้ ถูกเรียกเก็บภาษี ราคาสินค้าจะปรับเปลี่ยนอย่างไร Case II Inelastic Supply, Elastic Demand ผูข้ าย รับภาระภาษีมากกว่า สินค้าที่ demand มีค่าความยืดหยุ่นสูง เช่น สินค้าราคาสูง ข้อสังเกต เวลาสินค้าเหล่านี้ ถูกเรียกเก็บภาษี ราคาสินค้าจะปรับเปลี่ยนไหม EC210 2/2552 199 Question กรณี ใดที่ ผูข้ าย สามารถผลัก ภาระภาษี ให้ ผูซ้ ้ ือ ได้ ทัง้ หมด? Perfectly inelastic demand // Perfectly elastic supply กรณี ใดที่ ผูซ้ ้ ือ สามารถผลักภาษี ให้ ผูข้ าย ได้ทง้ั หมด ? Perfectly elastic demand // Perfectly inelastic supply EC210 2/2552 200 อุปสงค์มีความยืดหยุ่นเท่ากับศูนย์ - ภาระภาษีจะตกอยู่กบั ผูซ้ ้ ือทัง้ หมด D S2 Price S1 P E2 B Tax PS = PE E1 QE1 EC210 2/2552 Perfectly inelastic demand Quantity 201 อุปสงค์มีความยืดหยุ่นเท่ากับ Infinite - ภาระภาษีจะตกอยู่กบั ผูข้ ายทัง้ หมด S2 Price PB = PE S1 E2 E1 Tax D Perfectly elastic demand PS QE2 QE1 EC210 2/2552 Quantity 202 จงพิจารณาข้อความต่อไปนี้ ว่า ถูกหรือผิด พร้อมทัง้ ให้เหตุผลอธิบาย ค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา คือ เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคา หารด้วย เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของปริมาณเสนอซื้อ หากผูข้ ายพบว่า ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคาของสินค้าที่เขาขายมีคา่ เท่ากับ -2, /Ed/ = 2, เขาควรจะขึ้นราคาสินค้า เพราะทาให้รายรับรวม (total revenue) เพิ่มสูงขึ้น ถ้า น.ส.ปลายฝนซื้อบะหมี่สาเร็จรูปเพิ่มขึ้น เมื่อรายได้ลดลง แสดงว่า “บะหมี่ก่งึ สาเร็จรูป เป็ น สินค้าด้อย สาหรับน.ส. ปลายฝน ถ้าค่าความยืดหยุ่นไขว้ของอุปสงค์ (cross-price elasticity of demand) มีคา่ เท่ากับ -2.2 แสดงว่า สินค้าทัง้ สองชนิ ดนั้นเป็ นสินค้าที่ใช้ร่วมกันในการบริโภค (complement good) EC210 2/2552 203 พูดคุยก่อนเรียน ประเด็นคาถามจากกระทู ้ ราคาน้ ามันที่ลดลง VS สภาพเศรษฐกิจ วิเคราะห์ สาเหตุ และผลกระทบ สองทาง ราคาน้ ามันที่ลดลงมีสาเหตุมาจากอะไร ราคาน้ ามันที่ลดลง จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างไรบ้าง บทความใหม่ กรณี ศึกษา “ขายราคาถูกใช่ว่าจะดีเสมอไป” EC210 2/2552 204 EC210 2/2552 205 Topics 4.1 การผลิต ความหมายของการผลิต หน่ วยผลิตและอุตสาหกรรม เป้ าหมายของหน่ วยผลิต ้ กับกฎแห่งการลดน้อยถอยลงของผลได้ (Law of Diminishing การผลิตระยะสัน Returns) การผลิตระยะยาว EC210 2/2552 206 4.2 ต้นทุนการผลิต ความหมายและความแตกต่างระหว่างต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์และต้นทุนทางบัญชี ต้นทุนชัดแจ้ง (Explicit Cost) และต้นทุนแฝง (Implicit Cost) ้ ต้นทุนระยะสัน ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) และต้นทุนแปรผัน (Variable Cost) ต้นทุนรวมเฉลี่ย (Total Average Cost) และต้นทุนส่วนเพิ่ม (Marginal Cost) ต้นทุนระยะยาว การประหยัดจากขนาด (Economies of scale) และการไม่ประหยัดจากขนาด (Diseconomies of scale) 4.3 กาไร: กาไรทางบัญชี และกาไรทางเศรษฐศาสตร์ EC210 2/2552 207 EC210 2/2552 208 หน่ วยผลิต(Firms) :ความหมาย ประเภท Firm (หน่ วยผลิต) ผูท้ ่ที าหน้าที่ในการตัดสินใจนาปัจจัยการผลิต มาผลิตเป็ นสินค้าและบริการ เพื่อขาย คาที่มกั ถูกนามาใช้ Producer (ผูผ ้ ลิต), Seller (ผูข้ าย), Supplier (ผูเ้ สนอขาย) ประเภทของหน่ วยผลิต 1.หน่ วยผลิตส่วนบุคคล 2.ห้างหุน้ ส่วน 3.บริษทั “cover every company from smallest to highest” EC210 2/2552 209 www.dbd.go.th กรมพัฒนาธุ รกิจการค้า กท.พาณิ ชย์ EC210 2/2552 210 หน่ วยผลิต(Firms):จุดมุ่งหมาย เป้ าหมายของหน่ วยผลิต *๏ Profit Maximization กาไร = รายรับรวม – ต้ นทุนรวม Profit = Total revenue – Total costs ๏ Sales Maximization ๏ Staff Maximization ๏ Growth Maximization etc. EC210 2/2552 211 EC210 2/2552 212 แนวคิดของต้นทุน ต้นทุนชัดแจ้ง ( Explicit cost) คือสิ่งที่หน่ วยผลิตจ่ายให้ผูอ้ น่ื เพือ่ เป็ น ค่าตอบแทนแก่ผูเ้ ป็ นเจ้าของปัจจัยการผลิต เช่น ค่าจ้าง ค่าเช่ า ค่าวัตถุดิบ ต้นทุนแอบแฝง (Implicit cost) คือ ค่าเสียโอกาสของการใช้ปจั จัยการผลิต ต่างๆ ที่ไม่ได้มีการจ่ายเป็ นตัวเงิน เช่น ค่าจ้างของเจ้าของกิจการ ค่าที่ดินของ ตนเองที่เอามาตัง้ ร้าน ต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์ คานึ งถึงต้นทุนค่าเสียโอกาส ต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์ = Opportunity cost= ?? EC210 2/2552 213 กาไรและต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์ กาไร = รายรับ-ต้นทุน …กาไรทางบัญชี = รายรับ-ต้นทุนที่เป็ นตัวเงิน(Explicit Cost) …กาไรทางเศรษฐศาสตร์ = รายรับ-ต้นทุนค่าเสียโอกาส = รายรับ-Explicit Cost-Implicit Cost กาไรทางเศรษฐศาสตร์ ควร สู งหรือตา่ กว่ า กาไรทางบัญชี ? EC210 2/2552 214 Economic versus Accountants How an Economist Views a Firm How an Accountant Views a Firm Economic profit Accounting profit Revenue Implicit costs Revenue Total opportunity costs Explicit costs Explicit costs 215 EC210 2/2552 Copyright © 2004 South-Western ตัวอย่าง... เปิ ดร้านอินเตอร์เน็ ตเล็กๆแถวบ้าน (คอมพิวเตอร์ 10 เครื่อง) 500,000 บาท เงินลงทุน (พ่อแม่ออกให้) (ค่าลิขสิทธิ์โปรแกรมต่างๆ ค่าคอมพิวเตอร์ ค่าตกแต่งร้าน) ค่าเช่าร้าน เอาที่ชน้ั ล่างของบ้านปรับเป็นร้าน ค่าแรงงาน อยู่ดูแลร้านเอง ค่าน้ าประปา และไฟฟ้ า 5,000 บาท ค่า Internet (high speed internet) 4,000 บาท ค่าซ่อมบารุง และค่าใช้จา่ ยเบ็ดเตล็ด 2,000 บาท ต้องได้รายได้ต่อเดือนเท่าใด ถึงจะมีกาไร??? EC210 2/2552 216 วิเคราะห์การตัดสินใจโดยใช้แนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ ค่าใช้จา่ ยตัวใดเป็ น implicit cost, explicit cost ถ้าร้านมีรายได้ เท่ากับ 15000 บาทต่อเดือน ร้านนี้ มีกาไรหรือไม่? รายได้ขน้ั ตา่ ที่ควรจะได้จากการเปิ ดร้านควรเป็ นเท่าใด? ถ้าหาก.... ดอกเบี้ย เท่ากับร้อยละ 1 ต่อเดือน หน้าร้านสามารถให้คนอืน่ เช่าได้ในอัตรา 8000 บาทต่อเดือน ตัวเราเองมีตน้ ทุนค่าเสียโอกาสของตัวเอง เท่ากับ 12000 บาท EC210 2/2552 217 ตัวอย่าง... เปิ ดร้านอินเตอร์เน็ ตเล็กๆแถวบ้าน (คอมพิวเตอร์ 10 เครื่อง) ดอกเบี้ยจากเงินลงทุน 5,000 บาท ค่าเช่าร้าน 8,000 บาท ค่าแรงงาน 12,000 บาท ค่าน้ าประปา และไฟฟ้ า 5,000 บาท ค่า Internet (high speed internet) 4,000 บาท ค่าซ่อมบารุง และค่าใช้จา่ ยเบ็ดเตล็ด 2,000 บาท ต้องได้รายได้ต่อเดือน 36,000 บาท (คิดเล่นๆ... มีคอมพิวเตอร์สบิ เครื่อง ต้องได้รายได้ต่อเครื่องต่อวันเท่าใด) EC210 2/2552 218 กาไรและต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์ If economic profits > 0 called “excess profit” If economic profits = 0 called “normal profit” “Normal profit”(กาไรปกติ) … คือ รายได้ตา่ สุดที่จะทาให้ผูผ้ ลิตคุม้ ที่จะดาเนิ นการต่อไป What happen when economic profit < 0 But Accounting profit > 0 ??? EC210 2/2552 219 แนวคิดต้นทุนทางสังคม (Social Cost) ตัวอย่างกรณี โรงงานผลิตสินค้าปล่อยน้ าเสียสูแ่ ม่น้ า ต้นทุนส่วนตัว (Private Cost) ต้นทุนที่หน่ วยผลิตเป็ นผูร้ บั ภาระโดยตรง ได้แก่ ต้นทุนการผลิตต่างๆ (ค่าจ้าง, ค่าวัตถุดิบ) ต้นทุนทางสังคม (Social Cost) = ต้นทุนเอกชน + ต้นทุนจากผลกระทบภายนอก ต้นทุนจากผลกระทบภายนอก ได้แก่ น้ าเสียจากโรงงาน เป็ นต้นทุนที่นก ั เศรษฐศาสตรคานึ งถึง แต่เอกชนไม่นามาคิด EC210 2/2552 220 - การผลิตระยะสัน้ vs การผลิตระยะยาว -Law of Diminishing Returns - Return to scale EC210 2/2552 221 ทฤษฎีการผลิต การผลิต : การนาเอาปัจจัยต่างๆมาแปลงเป็ นสินค้า INPUTS OUTPUT ฟังก์ชน ั การผลิต(Production Function) คือ ความสัมพันธ์ระหว่างผลผลิตที่ได้กบั ปัจจัยการผลิตภายใต้ technology ระดับหนึ่ ง Total Product = f(a1,a2,……) Q =f(labor ,capital ,raw material ,energy…) EC210 2/2552 222 ลักษณะของปัจจัยการผลิต ปัจจัยการผลิตแปรผัน (variable factors): ผูผ ้ ลิตสามารถปรับเปลี่ยนจานวนได้ตลอดเวลา ปัจจัยการผลิตคงที่ (fixed factors) : ปัจจัยที่มีปริมาณคงที่ “ไม่แปรผัน” ตามปริมาณผลผลิต ASSUMPTION ปัจจัยการผลิตมีสองตัว คือ Capital: ปัจจัยทุน (K) Labor: ปัจจัยแรงงาน (L) EC210 2/2552 223 การผลิตในระยะสัน้ และระยะยาว การผลิตในระยะสัน้ Q =f(L,K) ระยะการผลิตที่หน่ วยผลิตมีปจั จัยการผลิตบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ (called “fixed factor”) การผลิตในระยะยาว Q =f(L,K) ระยะการผลิตที่หน่ วยผลิตสามารถเปลี่ยนแปลงปัจจัยการผลิตได้ทกุ ชนิ ด (ทุกชนิ ดเป็ น “variable factor”) EC210 2/2552 224 ทฤษฎีการผลิตในระยะสัน้ พยายามอธิบายความสัมพันธ์ของผลผลิต และปัจจัยการผลิตที่แปรผันโดยปัจจัย การผลิตอืน่ ๆคงที่ ศัพท์ท่คี วรทาความเข้าใจ TOTAL PRODUCT(TP) = Q =f(L,K) ผลผลิตรวม AVERAGE PRODUCT(AP) = TP ผลผลิตเฉลีย่ ต่อหน่ วย L ∆TP MARGINAL PRODUCT(MP) = ผลผลิตส่วนเพิ่ม ∆L ประเด็นสาคัญ เมื่อเราทราบ TP….How to find AP , MP EC210 2/2552 225 เรารู้ เรื่องการผลิตแต่ ละแนวคิดเพือ่ อะไร?? ผลผลิตเฉลี่ย พิจารณา ผลผลิตต่อหนึ่ งหน่ วยปัจจัยการผลิต เพื่อคาดคะเนว่า จะต้องใช้ปจั จัยการผลิต (เช่น แรงงาน) แค่ไหน ในการวางแผนการ ผลิต เช่น เดิมเคยมีการผลิต 2000 ชิ้น ต่อมามี order พิเศษเข้ามา อีก 500 ชิ้น จะ ตัดสินใจจ้างแรงงานอีกกี่คน หรือว่า ทาโอทีดี ผลผลิตส่วนเพิม่ พิจารณาผลผลิตที่หน่ วยปัจจัยการผลิตที่เพิ่มเติมเข้ามาสามารถผลิตได้ เพื่อทราบว่าการจ้างแรงงาน (หรือปัจจัยการผลิต) ที่เข้ามาเพิ่ม จะคุม้ ค่าต่อการจ้าง หรือไม่ เช่น เดิมมีคนงานอยู่แล้ว 10 คน กาลังตัดสินใจว่าจะจ้างคนที่ 11 เพิ่มเข้ามาดีหรือไม่ EC210 2/2552 226 ตัวอย่ าง การผลิตในระยะสั้ น K L TP 5 0 0 5 1 3 5 2 8 5 3 12 5 4 14 5 5 14 5 6 12 AP MP ☺Find AP and MP ? ☺ เขียนกราฟได้ ยงั ไง? EC210 2/2552 227 ฟังก์ชนั การผลิตในระยะสัน้ L K TP AP 0 1 2 3 4 5 6 5 0 3 8 12 14 14 12 3 4 4 3.5 2.8 2 5 5 5 5 5 5 EC210 2/2552 MP 3 5 4 2 0 -2 228 ลักษณะของผลผลิตชนิ ดต่างๆ ผลผลิตรวม (TP) ช่ วงแรกๆของการใช้ ปัจจัยแปรผัน TP จะเพิม่ ขึน้ ในอัตราที่เพิม่ ขึน้ แต่ ต่อมาจะเพิม่ ขึน้ ในอัตราทีล่ ดลง และเมื่อเพิม่ ขึน้ สู งสุ ดแล้ว หากเพิม่ ปัจจัยฯเข้ าไปอีก TP จะลดลง WHY ?? ผลผลิตเฉลีย่ (AP) ช่ วงแรกๆ AP จะเพิม่ ขึน้ แต่ ช่วงหลังๆ AP จะลดลงเรื่อยๆ ผลผลิตส่ วนเพิม่ (MP) ช่ วงแรกๆ MP จะเพิม่ ขึน้ แต่ ช่วงหลังๆ MP จะลดลงเรื่อยๆ EC210 2/2552 229 กฎแห่งการลดน้อยถอยลงของผลได้ (Law of Diminishing Returns) เมื่อเพิม่ ปัจจัยแปรผันชนิดหนึ่ง ขึน้ เรื่ อยๆ โดยที่ปัจจัยชนิดอืน่ ยังคงที่ ผลผลิตที่ได้จากปัจจัยแปร ผันหน่ วยหลังๆ จะค่ อยๆ ลดน้ อยถอยลงตามลาดับ จนกระทัง่ เท่ ากับศูนย์ และ ติดลบในทีส่ ุ ด หรือ กฎแห่ งการลดน้ อยถอยลงของผลผลิตส่ วนเพิม่ (Law of diminishing marginal product) EC210 2/2552 231 ทฤษฎีการผลิตในระยะยาว พยายามอธิบายความสัมพันธ์ของผลผลิต และปัจจัยการผลิตทัง้ หมดที่ เปลี่ยนแปลง ในการผลิตระยะยาว ปัจจัยทุกตัวจะกลายเป็ นปัจจัยแปรผัน (ไม่มีปจั จัยคงที่) สิง่ ที่ควรรู ้ : ความสัมพันธ์ของการเปลี่ยนแปลง “ปัจจัยการผลิต” ต่อ “ผลผลิต” ทฤษฎีสาหรับ คือ “ผลได้ต่อขนาด” (Return To scale) EC210 2/2552 232 ผลได้ต่อขนาด (Return to Scale) 1) ผลได้ต่อขนาดที่เพิม่ ขึ้น (Increasing Return to Scale) เมื่อเพิ่มปัจจัยการผลิต (ทุกตัว) เข้าไป 1 เท่าตัว ผลผลิตจะเพิม ่ ขึ้นมากกว่า 1 เท่าตัว 2) ผลได้ต่อขนาดคงที่ (Constant Return to Scale) เมื่อเพิ่มปัจจัยการผลิต (ทุกตัว) เข้าไป 1 เท่าตัว ผลผลิตจะเพิม ่ ขึ้น 1 เท่าตัว 3) ผลได้ต่อขนาดที่ลดลง (Decreasing Return to Scale) เมื่อเพิ่มปัจจัยการผลิต (ทุกตัว) เข้าไป 1 เท่าตัว ผลผลิตจะเพิม ่ ขึ้นน้อยกว่า 1 เท่าตัว EC210 2/2552 233 ยกตัวอย่าง หากมีปจั จัยการผลิต เพียง 2 ชนิด คือ แรงงาน 10 คน กับ เครื่องจักร 5 เครือ่ ง สามารถผลิตสินค้าได้ 50 ชิน้ ผูผ้ ลิตตัดสินใจขยายการผลิต โดยเพิม่ แรงงานเป็ น 20 คน เครือ่ งจักร เป็ น 10 เครือ่ ง สามารถผลิตสินค้าได้ 120 ชิน้ การผลิตดังกล่าว เป็ นการผลิตระยะสัน้ หรือระยะยาว ?? การขยายการผลิตดังกล่าว ผูผ้ ลิตเผชิญกับผลได้ต่อขนาดรูปแบบใด EC210 2/2552 234 …. ต้นทุนคงที่ และต้นทุนแปรผัน .... ต้นทุนรวมเฉลี่ย และต้นทุนส่วนเพิ่ม EC210 2/2552 235 ต้นทุนการผลิตระยะสัน้ การผลิต มี ปัจจัยคงที่ ปัจจัยแปรผัน ต้นทุน มี ต้นทุนคงที่ ต้นทุนแปรผัน ต้นทุนคงที่ คือ ต้นทุนที่ไม่แปรผันตามปริมาณการผลิต ต้นทุนแปรผัน คือ ต้นทุนที่แปรผันตามปริมาณการผลิต กรณี รา้ นขายข้าวหน้าเป็ ด ต้นทุนแต่ละตัวเป็ นต้นทุนประเภทใด ค่าเช่าร้าน ค่าเป็ ดย่าง ค่าพ่อครัว ค่าแก๊สหุงต้ม ค่าพนักงานเสริฟ etc. EC210 2/2552 236 กรณี ธุรกิจอพาร์ตเม้นต์ (ขนาด 100 ห้อง) ปริมาณการผลิตในที่น้ ี คืออะไร (100 ห้อง / หรือห้องที่มีคนเช่า) ต้นทุนต่อไปนี้ เป็ นต้นทุนลักษณะใด SET UP COST >>> ตีมูลค่าเพือ่ คิดต้นทุนด้วยค่าเสียโอกาสของเงินที่ลงทุน ค่าที่ดิน 200 ตารางวา /ค่าก่อสร้าง 20 ล้านบาท ค่าระบบการจัดการต่างๆ เช่น ระบบคอมพิวเตอร์, ระบบกล้องวงจรปิ ด OPERATING COST ค่าพนักงาน (ยาม, แม่บา้ น, ผูจ้ ด ั การ...) ค่าบริหารจัดการ (ทาบัญชี จัดทารายงานต่างๆ) ค่าน้ าค่าไฟ EC210 2/2552 237 ศัพท์ท่คี วรรู.้ .. Total Average Marginal Total Cost (T C) ต้นทุนรวม ประกอบด้วย Total Variable Cost (TVC) ต้นทุนแปรผันรวม Total Fixed Cost (TFC) ต้นทุนคงที่รวม Average Total Cost (ATC) ต้นทุนรวมเฉลี่ย Average Variable Cost (AVC) ต้นทุนแปรผันเฉลี่ย Average Fixed Cost (AFC) ต้นทุนคงที่เฉลี่ย Marginal Cost (MC) ต้นทุนส่วนเพิม่ EC210 2/2552 238 สูตรการคานวณ TC ATC AFC AVC q TC TFC TVC ATC q q q ΔTC MC Δq EC210 2/2552 239 A Firm’s Short Run Costs EC210 2/2552 240 เรารู้ เรื่องต้ นทุนไปเพือ่ อะไร (รู้ ไว้ ใช่ ว่า) ตัดสินใจเลือกธุรกิจ (ธุรกิจแต่ละอย่างมีโครงสร้าง ต้นทุนแตกต่างกัน) ทราบปริมาณขายเบื้องต้นที่จะต้องขาย (จานวนขาย ขัน้ ตา่ ที่ไม่ทาให้ขาดทุน) เรียกว่า แนวคิดของ Break even point (จุดคุม้ ทุน) กาหนดราคาขายเพื่อทาให้ได้กาไรสูงสุด (พิจารณา จากต้นทุนส่วนเพิ่ม) EC210 2/2552 241 จุดคุ้มทุน: N* เป็ นปริมาณทีจ่ ุดผลิตคุ้มทุนพอดี รายได้ และ ต้ นทุน ต้ นทุนรวม กาไร B (บาท) C จุดคุ้มทุน ขาดทุน ต้ นทุนคงที่ รายได้ N* ปริมาณการผลิต (หน่ วย ) จุดคุ้มทุน (Breakeven Analysis) คือจุดทีร่ ายได้ กบั รายจ่ ายเท่ ากัน นั่นคือ กาไรเป็ นศูนย์ นั่นเอง EC210 2/2552 242 จงพิจารณาข้อความต่อไปนี้ ว่า ถูกหรือผิด พร้อมอธิบาย โดยทัว่ ไป ต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์ จะสูงกว่าต้นทุนทางบัญชี ถูก ผิด ต้นทุนคงที่ (Fixed cost) จะลดลงเมื่อปริมาณผลผลิตเพิ่มมากขึ้น ถูก ผิด ต้นทุนคงที่เฉลี่ย (Average Fixed cost) จะลดลงเมื่อปริมาณ ผลผลิตเพิ่มมากขึ้น ถูก ผิด EC210 2/2552 243 - ปี ที่ผา่ นมาร้านกาแฟตื่น มีผลผลิตกาแฟรวมทั้งร้านเท่ากับ 15 ถุงต่อวัน โดยทางร้านมีเครื่ องจักร 2 เครื่ อง และจ้างแรงงาน 3 คน - ต่อมาหญิงแม้นซึ่งเป็ นผูจ้ ดั การร้านอยากเพิ่มปริ มาณการผลิตจึงจ้าง กุญแจ ซอล มาเป็ นแรงงานเพิม่ อีกคน ทาให้ตอ้ งจ่ายค่าจ้างแรงงานทั้งหมด เท่ากับ 80 บาทต่อวัน และจ่ายค่าเช่าเครื่ องจักรทั้งหมด 20 บาทต่อวันซึ่งทาให้ทาง ร้านมีผลผลิตรวมเท่ากับ 17 ถุงต่อวัน ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง ในปัจจุบนั ก. TP = 17 ถุง, AP = 5 ถุง ข. TC = 60 บาท, MP = 2 ถุง ค. TVC = 100 บาท , MP = 4.25 ถุง ง. AP = 4.25 ถุงต่อวัน, MP = 2 ถุง EC210 2/2552 ง. 244 EC210 2/2552 245 ต้นทุนระยะยาว (Long-Run Cost) ในระยะยาวปัจจัยการผลิตทุกอย่างสามารถปรับเปลี่ยนได้ ปัจจัยการผลิตในระยะยาวจึงมีแค่ “ปัจจัยแปรผัน” ปัจจัยแปรผัน: Capital (K) & Labor (L) EC210 2/2552 246 ดังนั้นต้นทุนการผลิตระยะยาวจึงมีแค่ตน ้ ทุนแปรผัน (Total Variable Cost - TVC) เท่านั้น: TC = TFC + TVC TFC = 0 and TC = TVC TFC AFC= Q TVC AVC= Q AFC = 0 and AVC = ATC EC210 2/2552 247 การตัดสินใจในการผลิตระยะยาวนั้นมีความเสีย ่ งสูง การขยายโรงงาน สภาวะของตลาด ประสิทธิภาพในการผลิต (Economic Efficiency): เลือกใช้กระบวนการผลิตที่สามารถผลิตผลผลิตจานวน ที่ตอ้ งการด้วยต้นทุนที่ตา่ ที่สุด EC210 2/2552 248 Example: เลือกขนาดของโรงงาน ATC1 (Plant size 1) ต้ นทุนรวมเฉลีย่ (บาท) ATC1 (Plant size 2) Q1 Q2 Q3 EC210 2/2552 Q4 ปริมาณผลผลิต 249 ผลได้ต่อขนาด (Return to Scale) กับต้นทุนเฉลี่ย 1) ผลได้ต่อขนาดที่เพิม่ ขึ้น (Increasing Return to Scale) ATC ลดลงเมื่อจานวนของผลผลิตเพิม่ สูงขึ้น ทาให้เกิด การประหยัดต่อขนาด (economies of scale) 2) ผลได้ต่อขนาดคงที่ (Constant Return to Scale) ATC ไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อผลผลิตเพิม่ สูงขึ้น 3) ผลได้ต่อขนาดที่ลดลง (Decreasing Return to Scale) ATC เพิม่ สูงขึ้นเมื่อจานวนของผลผลิตเพิม่ สูงขึ้น ทาให้เกิด การไม่ประหยัดจากขนาด (Diseconomies of scale) EC210 2/2552 250 ต้ นทุน รวมเฉลี่ย (บาท) LRATC Economies of scale Constant return to scale Diseconomies of scale ปริมาณผลผลิต EC210 2/2552 251 Question: Why might bigger be better? Specialization and division of labor แบ่งการผลิตออกเป็ นส่วนต่างๆ และมอบหมายหน้าที่ให้คนงาน แต่ละคนรับผิดชอบงานในส่วนของตน Adopt mass production techniques ใช้ประโยชน์จากเครื่องจักรที่มีกาลังการผลิตสูงได้เต็มที่ Quantity discounts ได้สว่ นลดจากการสังซื ่ ้ อวัตถุดิบในปริมาณมาก EC210 2/2552 252 Question: Why might bigger not be better? Organizational complexity: ขนาดของหน่ วยผลิตใหญ่มากเกินไปทาให้ยากต่อการบริหาร เกิดความสับสนในการสือ่ สารและสังงาน ่ เพิม ่ โอกาสในการอูง้ านและปัดความรับผิดชอบต่อหน้าที่ สูญเสียความรูส้ ก ึ ในการทางานร่วมกัน ต้นทุนในการการควบคุมและตรวจสอบเพิม ่ สูงขึ้น EC210 2/2552 253 DISCUSSION ธุรกิจต่อไปนี้ มีลกั ษณะของการเกิด Economy of Scale หรือไม่ ธุรกิจอพาร์ตเม้นต์ ธุรกิจขนส่งรถบรรทุก ธุรกิจขนส่งทางน้ าระหว่างประเทศ ธุรกิจไฟฟ้ า ธุรกิจเครือข่ายให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ..... EC210 2/2552 254 ทบทวนด้วยโจทย์ อ่านแล้วตอบตัวเองก่อนว่า อยู่เนื้ อหาบทไหน เรื่องอะไร โจทย์ถามเกี่ยวกับอะไร EC210 2/2552 255 การที่รฐั บาลกาหนดราคาสินค้าขัน้ ตา่ จะทาให้เกิดอะไรขึ้น ก. ผูบ้ ริโภคได้ประโยชน์เพราะราคาสินค้าตา่ กว่าราคาดุลยภาพ ข. ราคาดังกล่าว เป็ นราคาดุลยภาพที่อปุ สงค์เท่ากับอุปทาน ค. เกิดตลาดมืดในการขายสินค้าแพงกว่าปกติ ง. หากรัฐบาลไม่ทาอะไรเลย ราคาขัน้ ตา่ จะทาให้เกิดอุปทานส่วนเกิน จ. ผูผ้ ลิตจะขาย และผลิตสินค้าได้มากขึ้นแน่ นอน ตอบ ง EC210 2/2552 256 การควบคุมราคาขัน้ ตา่ (Floor Price) Price Supply Excess supply Pf Price floor Pe Equilibrium price Demand 0 Q1 Q2 Quantity Quantity demanded supplied EC210 2/2552 Quantity 257 Copyright©2003 Southwestern/Thomson Learning กาหนดให้สง่ิ อืน่ ๆคงที่ ข้อใดต่อไปนี้ สง่ ผลให้เส้นเป็ นไปได้ในการ ผลิต (PPC) เคลือ่ นที่เข้าหาจุดกาเนิ ด ก. ประชากรมีจานวนลดลง ข. มีการค้นพบบ่อน้ ามันใหม่ ค. คนหันไปออมมากขึ้น ง. มีการคิดค้นเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ใหม่ข้ ึน จ. อัตราการว่างงานสูงขึ้น ตอบ ก EC210 2/2552 258 ข้ อใดต่ อไปนีม้ สี ่ งผลให้ อุปทานของนา้ มันเปลีย่ นตาแหน่ ง (Shift in Supply) ก. เศรษฐกิจเติบโตทาให้คนมีรายได้สูงขึ้น ข. ราคารถยนต์ลดตา่ ลง ค. โรงกลัน่ น้ ามันใหญ่ๆหลายโรงต้องเสียหายจากพายุท่พี ดั ถล่มอย่างรุนแรง ง. รถยนต์รุ่นใหม่ท่ปี ระหยัดน้ ามันกว่ารุ่นเดิมถูกผลิตออกมาขายในตลาด จ. ราคาน้ ามันเพิม่ สูงขึ้น ตอบ ค EC210 2/2552 259 หนังสื อพิมพ์รายงานว่ า ราคารถใหม่ ลดลง และในขณะเดียวกันปริมาณซื้อ ขายรถใหม่ กม็ ีจานวนลดลงด้ วย การเปลีย่ นแปลงนีน้ ่ าจะเกิดจาก ก. รายได้ของผูซ้ ้ อื มากขึ้น ข. ต้นทุนในการผลิตเพิม่ ขึ้น ค. คนนิ ยมรถเก่ามากขึ้น ง. ภาษีรถยนต์ตา่ ลง จ. เทคโนโลยีการผลิตรถยนต์ดีข้ ึน ตอบ ค EC210 2/2552 260 ถ้ าความยืดหยุ่นของอุปสงค์ ต่อราคาของสิ นค้ าชนิดหนึ่งมีค่าเท่ ากับ -1 แล้ วข้ อใดถูก ก. หากราคาสินค้าเพิม่ ขึ้น 1 บาท ปริมาณความต้องการซื้อจะลดลง 1 บาท ข. หากราคาของสินค้าเพิม่ ขึ้น 100 บาท ปริมาณความต้องการซื้อจะลดลง 1 บาท ค. หากราคาสินค้าเพิม่ ขึ้น 1 % ปริมาณความต้องการซื้อจะลดลง 1% ง. หากราคาสินค้าลดลง5% ปริมาณความต้องการซื้อจะเพิม่ ขึ้น 5% จ. ถูกทัง้ ข้อ ค. และ ง. ตอบ จ EC210 2/2552 261 EC210 2/2552 262 Outline 5.1 ความหมายของตลาด 5.2 โครงสร้างและตัวอย่างของตลาดประเภทต่าง ๆ ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ ตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์ ตลาดผูกขาด ตลาดที่มีผูข้ ายน้อยราย ตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด EC210 2/2552 263 Outline 5.3 ความล้มเหลวของตลาด (Market Failure) ตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์ ผลกระทบภายนอก ผลกระทบภายนอกที่เป็ นบวก ผลกระทบภายนอกที่เป็ นลบ ต้นทุนส่วนตัวและต้นทุนทางสังคม สินค้าและบริการสาธารณะ EC210 2/2552 264 ตลาด (Market) “กิจกรรม” การตกลงซื้อขายสินค้าและบริการรวมทัง้ ปัจจัยการ ผลิต (ไม่ได้จากัดเฉพาะ “สถานที่”) โดยทัว่ ไป เราอาจแบ่งตลาดเป็ นออกเป็ นประเภทต่างๆได้ดว้ ยวิธี แตกต่างกัน เช่น แบ่งตามภูมิศาสตร์: ตลาดท้องถิ่น ตลาดในประเทศ ตลาดโลก แบ่งตามชนิ ดสิง่ ที่ซ้ อื ขาย: ตลาดผลผลิต ตลาดปัจจัยการผลิต แบ่งตามลักษณะการซื้อขาย: ตลาดกลาง ตลาดขายส่ง ตลาดขายปลีก แบบอืน่ ๆ : ตลาดเงิน ตลาดทุน ตลาดเงินตราต่างประเทศ ตลาดซื้อขายล่วงหน้า EC210 2/2552 265 ประเด็นที่เป็ นที่สนใจ ในการวิเคราะห์ตลาด สินค้ามากมายหลายชนิ ดซื้อขายแลกเปลี่ยนผ่านตลาด ทาไมผูข ้ ายบางรายจึงขายสินค้าราคาแพงได้ ทาไมผูข ้ ายบางรายไม่สามารถกาหนดราคาตลาดได้ตามใจต้องการ สินค้าหรือธุรกิจอะไรที่น่าจะมีการโฆษณาทางสือ ่ มากกว่ากัน? ทาไม? ทาไมราคาของน้ าอัดลมที่โรงภาพยนตร์ถงึ แพงกว่าที่โรงอาหาร? ทาไมบางธุรกิจมีกาไรสูงแต่บางธุรกิจมีกาไรตา่ ? EC210 2/2552 266 ตลาดสินค้า เราวิเคราะห์ลกั ษณะโครงสร้างตลาดแต่ละแบบเพือ่ ดู “การตัดสินใจของหน่ วย ผลิต” ว่าจะตัดสินใจผลิตปริมาณเท่าใด และตัง้ ราคาอย่างไร โครงสร้างตลาดแบ่งเป็ น 4 ประเภท ได้แก่ ๏ ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ (Perfect Competition) ๏ ตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด (Monopolistic Competition) ๏ ตลาดผูข้ ายน้อยราย (Oligopoly) ๏ ตลาดผูกขาด (Monopoly) ลักษณะโครงสร้างต่างกันหน่ วยผลิตก็จะมีลกั ษณะการตัดสินใจทีต่ ่างกัน ด้วย…….แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ กาไรสูงสุด EC210 2/2552 267 EC210 2/2552 268 ปัจจัยที่ใช้ในการจาแนกโครงสร้างตลาด (Market Structure) จานวนของผูซ ้ ้ ือและผูข้ ายในตลาด ความยากง่ายหรืออุปสรรคในการเข้าหรือออกตลาด ลักษณะของสินค้าและบริการ: เหมือน vs. แตกต่าง โครงสร้างของตลาด EC210 2/2552 269 Market structure จานวนผูข้ าย Perfect competition จานวนมากราย แต่ละรายเป็ นรายเล็กๆ Monopolistic competition Oligopoly Monopoly จานวนมากราย เงือ่ นไขการ ชนิ ดของสินค้า เข้าออกตลาด Free entry Homogeneous Same but not Easy to entry homogeneous จานวนน้อยราย Have barrier Homogeneous / differentiated (mkt share แต่ละรายสูง) to entry มีเพียงรายเดียว EC210 2/2552 Can not entry differentiated 270 ตัวอย่าง..จงวิเคราะห์โครงสร้างของตลาดเหล่านี้ ตลาดไฟฟ้ า ตลาดผูใ้ ห้บริการโทรศัพท์เคลือ ่ นที่ ตลาดกวดวิชา ตลาดข้าวเปลือก ตลาดน้ าดื่มบรรจุขวด Etc. EC210 2/2552 271 ผลของโครงสร้างตลาดที่แตกต่างกัน โครงสร้างตลาดที่แตกต่างกัน จะส่งผลต่อการกาหนดราคาสินค้าที่ต่างกัน โครงสร้างตลาดที่แตกต่างกัน จะมีพฤติกรรมการแข่งขันที่ต่างกัน โครงสร้างตลาดที่แตกต่างกัน จะส่งผลต่อกาไรของผูผ้ ลิตที่แตกต่างกัน โครงสร้างตลาดที่แตกต่างกัน จะส่งผลต่อสวัสดิการสังคมที่แตกต่างกัน แต่ ผูผ้ ลิตในทุกๆโครงสร้างตลาด ต่างมุ่งหวังที่จะผลิตและตัง้ ราคาเพื่อ กาไรสูงสุด .... แต่จะได้มากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กบั อานาจทางการตลาดที่ มากน้อยไม่เท่ากัน EC210 2/2552 272 โครงสร้ างของตลาด (Market Structure) ตลาดแข่ งขัน สมบูรณ์ (Perfect Competition) ตลาดกึง่ แข่ งขัน กึง่ ผูกขาด (Monopolistic) EC210 2/2552 ตลาดที่มผี ู้ขาย น้ อยราย (Oligopoly) ตลาดผูกขาด (Monopoly) 273 ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ (Perfect Competition) ลักษณะที่สาคัญของตลาดแข่งขันสมบูรณ์: ผูข้ ายและผูซ้ ้ ือมีจานวนมาก สินค้าที่ขายมีลกั ษณะเหมือนกัน (Homogeneous) มีการเข้าออกตลาดเสรี (No barriers to entry or exit) ผูข้ ายและผูซ ้ ้ ือทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับตลาดและตัว สินค้าได้สะดวกเท่าเทียมกัน (Complete and perfect information) EC210 2/2552 274 Example (ใกล้เคียง): ข้าว มันสาปะหลัง เกลือ สินค้าการเกษตร ข้าวถุงในห้าง ??? น้ าตาลในห้าง ??? EC210 2/2552 275 การกาหนดราคาของผูข้ าย: ผูข้ ายสินค้าในตลาดแข่งขันสมบูรณ์ไม่มีอานาจในการกาหนดราคา สินค้าในตลาด (No market power) ผูข้ ายสินค้าในตลาดแข่งขันสมบูรณ์ จึงถูกเรียกว่าเป็ น “ผูย้ อมรับราคา (Price Taker)” ในเมื่อผูข้ ายไม่มอ ี านาจกาหนดราคา และเขาจะมีพฤติกรรมเพือ่ ทาให้ ตนเองบรรลุเป้ าหมาย คือ กาไรสูงสุด ได้อย่างไร (กาไร = รายรับ – รายจ่าย) วิเคราะห์โดย เปรียบเทียบเส้นรายรับ กับเส้นต้นทุน EC210 2/2552 276 เส้นอุปสงค์ท่หี น่ วยผลิตเผชิญ >> ที่มาของเส้นรายรับ หรือ เส้นอุปสงค์ในสายตาของผูผ้ ลิต คือ อุปสงค์ท่ม ี ีต่อสินค้าที่ผลิตโดยหน่ วยผลิตนั้นๆ เป็ นเส้นที่บอกให้ทราบว่า ที่ระดับราคาต่างๆ ผูบ ้ ริโภคจะมีความต้องการ ซื้อสินค้าของหน่ วยผลิตนั้นๆในปริมาณเท่าใด ทาไมเราต้องแยกวิเคราะห์อปุ สงค์ท่หี น่ วยผลิตเผชิญ ? ตอบ เส้นอุปสงค์ท่หี น่ วยผลิตเผชิญจะแสดงถึงรายรับของผูผ้ ลิต EC210 2/2552 277 P = AR =MR EC210 2/2552 278 สมมติว่า ผูข้ ายเผชิญกับราคาตลาดเท่ากับ 3 $ ต่อหน่ วย ราคาต่อหน่ วย (P) 3 3 3 3 3 3 3 ปริมาณขาย (Q) 0 1 2 3 4 … 13 รายรับรวม (TR) 0 3 6 9 12 … 39 EC210 2/2552 รายรับเฉลี่ย (AR) 3 3 3 3 … 3 รายรับส่วนเพิ่ม (MR) 3 3 3 3 … 3 279 เส้ นอุปสงค์ ทผี่ ู้ผลิตเผชิญ สาหรับตลาดแข่ งขันสมบูรณ์ คือเส้ น AR และเป็ นเส้ นเดียวกับ MR ด้ วย เส้ นรายรับรวม จะเป็ นเส้ นตรง ทีล่ ากออกจากจุดกาเนิด ...ยิง่ ขายมาก รายรับยิง่ มาก EC210 2/2552 280 การตัดสินใจเลือกปริมาณการผลิต เพือ่ กาไรสูงสุด STC TR รายรับ,ต้ นทุน(บาท) จุดคุ้มทุน ปริมาณทีท่ าให้ ได้ กาไรสู งสุ ด Q กาไร(บาท) Q1 Q2 Q* EC210 2/2552 Q3 Q 281 ในที่สุด..ผูข้ ายในตลาดแข่งขันสมบูรณ์จะได้กาไรหรือไม่ ในระยะสัน้ ผูข้ ายสามารถได้รบั กาไรเกินปกติ (Positive economic profit) ในระยะยาวผูข้ ายจะได้รบ ั เพียงแค่ กาไรปกติ (Zero economic profit or Normal rate of return) ผูข้ ายที่ผลิตสินค้าโดยมีตน้ ทุนสูงก็จะประสบภาวะขาดทุนและออกจาก ตลาดไป กาไรเกินปกติท่ผ ี ูข้ ายได้รบั จะดึงดูดผูข้ ายรายใหม่ๆ ให้เข้ามาในตลาด EC210 2/2552 282 บทสรุป สาหรับตลาดแข่งขันสมบูรณ์: เส้นอุปสงค์ท่ผี ูผ้ ลิตเผชิญจะเป็นเส้นขนานแกนนอนที่ราคาตลาด ้ เท่านั้น ผูข้ ายสามารถทากาไรเกินปกติ ได้เพียงในระยะสัน ผูซ ้ ้ ือได้ประโยชน์สูงสุด ทรัพยากรที่มีอยู่จากัดถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ EC210 2/2552 283 ตลาดผูกขาด (Monopoly) ลักษณะที่สาคัญของตลาดผูกขาด: มีผูข้ ายเพียงรายเดียว: ผูผ ้ ูกขาด (Monopolist) สินค้ามีลกั ษณะพิเศษไม่สามารถหาสินค้าอืน ่ ที่ใกล้เคียงมาทดแทนได้ มีการกีดกันการเข้าสูต ่ ลาดของผูผ้ ลิตรายอืน่ ๆ (Barriers to entry) EC210 2/2552 284 Example (ใกล้เคียง): ไฟฟ้ า ประปา เพชร DeBeers โทรศัพท์มือถือในยุคแรกๆ ในไทย ร้านขายน้ า และป๊ อปคอร์น หน้าโรงภาพยนตร์ ??? EC210 2/2552 285 ที่มาของอานาจการผูกขาด (Sources of Market Power): 1) การผูกขาดโดยธรรมชาติ (Natural Monopoly) สินค้าและบริการบางชนิ ดมีตน้ ทุนในการเริ่มกิจการที่สูงมากๆ (High start up cost!!!) ไฟฟ้ า, ประปา 2) การได้สทิ ธิในการครอบครองทรัพยากรแต่เพียงผูเ้ ดียว (Exclusive control of a resource) เหมืองเพชร 3) การได้รบั สิทธิทางกฎหมายจากรัฐบาล (Legal Monopoly) การได้รบั สิทธิในการทาการผลิตจากรัฐบาล สิทธิบต ั ร(Patents), สัมปทาน, Copyrights EC210 2/2552 286 การกาหนดราคาของผูข้ าย: ผูข้ ายเพียงรายเดียวผลิตสินค้าในตลาด ดังนั้นผูข้ ายจึงมี อานาจในการควบคุมปริมาณและราคาของสินค้าในตลาด (Market Power) ผูข ้ ายสินค้าในตลาดผูกขาด จึงถูกเรียกว่า “ผูก้ าหนดราคา (Price Maker)” EC210 2/2552 287 Price เนื่องจากมีผู้ขายเพียงรายเดียว ดังนั้น อุปสงค์ ของตลาด = อุปสงค์ ทผี่ ู้ผลิตเผชิญ D Quantity (Q) เส้ นอุปสงค์ ทผี่ ้ ูผลิตเผชิญ ต่ างจากตลาดแข่ งขันสมบูรณ์ อย่ างไร ?? EC210 2/2552 288 เส้นอุปสงค์ตลาด กับความสัมพันธ์ของรายรับแบบต่างๆ ราคาต่อหน่ วย (P) 6 5 4 3 2 1 ปริมาณความ ต้องการ (Q) 0 1 2 3 4 5 รายรับรวม (TR) 0 5 8 9 8 5 EC210 2/2552 รายรับเฉลี่ย (AR) 5 4 3 2 1 รายรับส่วนเพิ่ม (MR) 5 3 1 -1 -3 289 เพิ่มเติม : ผูข้ ายจะตัง้ ราคาเพือ่ ให้ได้กาไรสูงสุดไหน การตัง้ ราคาเพือ่ ให้ได้กาไรสูงสุด (กาไร = รายรับรวม – รายจ่ายรวม) จะตัง้ ราคาตามเส้นอุปสงค์ท่ดี ีท่สี ดุ ... แล้วคือตรงไหนหล่ะ คาตอบ : เลือกขาย ณ ปริมาณที่ทาให้ รายรับส่วนเพิม่ (MR) = ต้นทุนส่วนเพิ่ม (MC) ทาไมจึงเป็นเช่นนั้น ?? (สมมติให้ ต้นทุนส่วนเพิม่ คงที่ เท่ากับ 3 บาทต่อหน่ วย ตลอด) EC210 2/2552 290 การกาหนดราคาขายตามเส้นอุปสงค์ตลาด ที่ทาให้ MC = MR ราคา (P) 6 5 4 3 2 1 (Q) 0 1 2 3 4 5 รายรับรวม รายรับส่วน (TR) เพิ่ม (MR) 0 5 5 8 3 9 1 8 -1 5 -3 ต้นทุนส่วน เพิ่ม (MC) 1 1 1 1 1 EC210 2/2552 ต้นทุนรวม (TC) 1 2 3 4 5 กาไร 4 6 6 4 0 291 บทสรุป สาหรับตลาดผูกขาด: เส้นอุปสงค์ท่ผ ี ูผ้ ลิตเผชิญเป็ นเส้นเดียวกับอุปสงค์ตลาด เนื่ องจากผูผ ้ ลิตรายอืน่ ๆ ไม่สามารถเข้ามาแข่งขันได้ ผูข้ ายสามารถได้รบ ั กาไรเกินปกติ ทัง้ ใน “ระยะสัน้ ” และ “ระยะยาว” ผูซ ้ ้ ือเสียประโยชน์ ทรัพยากรที่มีอยู่จากัดถูกใช้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ EC210 2/2552 292 ข้อเสียของตลาดผูกขาด: 1) จากัดทางเลือกของผูซ้ ้ ือ (และทาให้ผูซ้ ้ ือต้องจ่ายในราคาที่แพง) 2) อาจเกิดความพยายามที่จะให้ได้มาซึ่งอานาจตลาดและการ ผูกขาด (Rent seeking behavior) การจ่ายเงินวิ่งเต้นเพือ่ ให้ผูม้ ีอานาจให้สมั ปทานหรือออกกฎหมายที่มี ประโยชน์แก่ผูข้ าย ข้อดีของตลาดผูกขาด: 1) เพิม่ แรงสนับสนุ นให้เกิดการค้นคว้าและผลิตนวัตกรรมใหม่ๆ 2) การประหยัดจากขนาด (Economies of Scale) ในกรณี ของ การผูกขาดโดยธรรมชาติ (Natural Monopoly) EC210 2/2552 293 ตลาดที่มีผูข้ ายน้อยราย (Oligopoly) ลักษณะที่สาคัญของตลาดที่มีผูข้ ายน้อยราย: มีผูข้ ายเพียงไม่ก่รี าย บางกรณี อาจมีผูข้ ายหลายราย แต่มีผูข้ ายรายใหญ่ท่คี รองตลาดอยู่เพียงไม่ก่รี าย สินค้าที่ขายในตลาด อาจเป็ นได้ทง้ั สินค้าที่มีลกั ษณะเหมือนกัน หรือ สินค้าที่ มีลกั ษณะต่างกัน มีการกีดกันการเข้าสูต่ ลาดของผูผ้ ลิตรายอืน่ ๆ (Barriers to entry) EC210 2/2552 294 Example : สายการบินในประเทศ รถยนต์ น้ ามัน บริการโทรศัพท์มือถือในปัจจุบนั (AIS, DTAC, True, Hutch) Search engine i.e. google , yahoo EC210 2/2552 295 การกาหนดราคาของผูข้ าย: การตัดสินใจกาหนดราคาของผูข้ ายเป็ นการตัดสินใจที่มีความ เกี่ยวเนื่ องกับผูผ้ ลิตรายอืน่ ๆในตลาด เพราะเป็ นการตัดสินใจที่มี ผลกระทบซึ่งกันและกัน ผลลัพท์ท่เี ป็ นไปได้จากการกาหนดราคาของผูข้ าย 1) การร่วมมือกันกาหนดราคาของผูข้ าย Act as a joint monopoly Monopoly Outcome!!! กาไรเกินปกติ 2) ต่างคนต่างแข่งขันกัน Compete by lowering price (Price war) Competitive Outcome!!! กาไรปกติ EC210 2/2552 296 Conclusion: ผูซ้ ้ ือเสียประโยชน์เหมือนตลาดผูกขาดในกรณี ท่ผี ูข้ ายเหล่านี้ สามารถรวมหัวกันตัง้ ราคาแพงๆ ผูซ ้ ้ ืออาจจะเสียประโยชน์นอ้ ยลงในกรณี ท่ผี ูข้ ายเหล่านี้ ไม่ สามารถรวมหัวกันตัง้ ราคาได้สาเร็จและมีการแข่งขันตัดราคา กัน (ถ้าแข่งขันรุนแรงมากๆ เราอาจจะได้ผลลัพท์ท่ี ใกล้เคียงกับตลาดแข่งขันสมบูรณ์) ทรัพยากรที่มีอยู่จากัดถูกใช้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ EC210 2/2552 297 ตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด (Monopolistic Competition) ลักษณะที่สาคัญของตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด: มีผูข้ ายจานวนมาก (Numerous rival firms) สินค้าที่ขายในตลาดมีลกั ษณะต่างกันบ้างแต่กพ ็ อที่จะสามารถ ใช้ทดแทนกันได้ มีการเข้าออกตลาดเสรี (No barriers to entry or exit) EC210 2/2552 298 Example (ใกล้เคียง): ร้านอาหาร เสื้อผ้าแฟชัน ่ น้ าพริกสินค้า otop กระดาษถ่ายเอกสาร ??? น้ าดื่มบรรจุขวด ??? EC210 2/2552 299 การกาหนดราคาของผูข้ าย: ผูข้ ายมีอานาจในการกาหนดราคาอยู่บา้ ง (Firms have some market power) จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กบั ความสามารถในการ ทาให้สนิ ค้าของตนเองแตกต่างจากผูอ้ น่ื การแข่งขันของผูข้ ายจะเป็นไปในหลายรูปแบบนอกเหนื อจากราคา รูปร่างหน้าตาของสินค้า, การให้บริการหลังการขาย, การรับประกัน คุณภาพ, การโฆษณา, ฯลฯ EC210 2/2552 300 บทสรุป ตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด : ในระยะสัน้ ผูข้ ายสามารถได้รบั กาไรเกินปกติ (Positive economic profit) ในระยะยาวผูข้ ายจะได้รบั เพียงแค่ กาไรปกติ (Zero economic profit or Normal rate of return)เนื่ องจากการไม่มีอปุ สรรคกีดกันการเข้าตลาด กาไรเกินปกติจะดึงดูดผูข้ ายรายใหม่ๆ ให้เข้ามาในตลาด ผูซ้ ้ อื ได้ประโยชน์จากความหลากหลายของสินค้าและบริการ (Product variety) อย่างไรก็ตามผูซ้ ้ อื ก็ตอ้ งจ่ายแพงขึ้นเพือ่ ความหลากหลายเหล่านั้น ทรัพยากรที่มีอยู่จากัดถูกใช้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ EC210 2/2552 301 Market Structure แข่ งขันสมบูรณ์ กึง่ แข่ งขันกึง่ ผูกขาด ผู้ขายน้ อยราย ผูกขาด (Perfect Competition) (Monopolistic) (Oligopoly) (Monopoly) จานวนผู้ขาย มากมาย มากมาย น้ อย รายเดียว ลักษณะของสินค้ า เหมือน แตกต่ าง เหมือน หรือ แตกต่ าง - เสรี เสรี กีดกัน กีดกัน มีอานาจเต็มที่ การเข้ าสู่ ตลาด อานาจในการกาหนดราคา (Market Power) ไม่ มอี านาจ มีอานาจเล็กน้ อย ขึน้ อยู่ว่ารวมมือกัน ขึน้ ราคาแพงๆ ได้ สาเร็จหรือไม่ กาไรในระยะสั้น เกินปกติ: + เกินปกติ: + เกินปกติ: + เกินปกติ: + กาไรในระยะยาว ปกติ: 0 ปกติ: 0 เกินปกติ: + เกินปกติ: + EC210 2/2552 302 (Market Failure) EC210 2/2552 303 ความล้มเหลวของตลาด คือ ภาวะที่การทางานของ ตลาดโดยธรรมชาติ ไม่สามารถทาให้เกิดการจัดสรร ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่เป็ นที่ตอ้ งการของ สังคม ตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์ (Imperfect Competition) ผลกระทบภายนอก (Externalities) สินค้าสาธารณะ (Public Goods) ความไม่สมมาตรของสารสนเทศ (ข้อมูล) EC210 2/2552 304 รัฐบาลจึงมีหน้าที่ ที่ตอ้ งมาแก้ไขปัญหาความล้มเหลวของ ตลาด: ออกกฎหมายบังคับแก้ไข ใช้มาตรการภาษี เพือ ่ ลงโทษ (หรือเงินอุดหนุ นเพือ่ สนับสนุ น) เข้ามาผลิตสินค้าชนิ ดนั้นเอง EC210 2/2552 305 ตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์ (Imperfect Competition) ?? เกิดจากการที่ผูข้ ายที่อยู่ในตลาดพยายามที่จะกีดกันการเข้า มาแข่งขันของผูข้ ายรายใหม่ๆ (หรือมีการรวมหัวกันขึ้นราคา แพงๆ) ทาให้ไม่เกิดการแข่งขัน ผลร้าย: สินค้าถูกผลิตออกมาน้อย (Artificial Scarcity) และราคาแพงเกินกว่าที่ควรจะเป็ น ตลาดประเภทใดบ้างที่เข้าข่าย EC210 2/2552 306 บทบาทของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา: ออกกฎหมายและบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้ องกันการ ผูกขาด (Antitrust Policy) Example: Microsoft, IBC+UTV, MAJOR + EGV ควบคุมการกาหนดราคาในกรณี ของ Natural Monopoly Example: ไฟฟ้ า, ประปา EC210 2/2552 307 ผลกระทบภายนอก (Externalities) ผลกระทบภายนอก (Externalities) คือ ผลกระทบที่เกิดจาก กิจกรรมใดๆ อันส่งผลต่อบุคคลอืน่ โดยมิได้มีการจ่ายเงินชดเชย ผลกระทบดังกล่าวซึ่งมีทง้ั ทางบวก และทางลบ ปัญหา: เกิดขึ้นเนื่ องจาก ตลาดคิดแต่เฉพาะต้นทุนที่เสียและ ผลประโยชน์ท่ไี ด้สาหรับผูท้ ่เี กี่ยวข้องกับการซื้อขายหรือการ กระทานั้นๆ โดยตรงเพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้คดิ ถึงบุคคลที่ สามที่ได้รบั ผลกระทบจากการกระทานั้นๆ EC210 2/2552 308 เพราะเหตุใดผูต้ ดั สินใจ จึงไม่คดิ ถึงบุคคลที่สามที่ได้รบั ผลกระทบ ตัวอย่างกรณี โรงงานผลิตสินค้าปล่อยน้ าเสียสูแ่ ม่น้ า ต้นทุนส่วนตัว (Private Cost) ต้นทุนที่หน่ วยผลิตเป็ นผูร้ บั ภาระโดยตรง ได้แก่ ต้นทุนการผลิตต่างๆ (ค่าจ้าง, ค่าวัตถุดิบ) ต้นทุนทางสังคม (Social Cost) = ต้นทุนเอกชน + ต้นทุนจากผลกระทบภายนอก ต้นทุนจากผลกระทบภายนอก ได้แก่ น้ าเสียจากโรงงาน EC210 2/2552 309 ผลกระทบภายนอกที่เป็ นลบ (Negative Externality) บุคคลที่สามเสียประโยชน์หรือได้รบั ความเดือดร้อนจากการกระทานั้นๆ ทัง้ ที่เขาไม่ได้มีสว่ นเกี่ยวข้องอะไรเลยกับการกระทานัน้ ๆ เพื่อนร่วมห้องนอนกรนเสียงดัง การปลูกไม้ยูคาลิปตัส สินค้าและบริการถูกผลิตออกมามากเกินไปในมุมมองของสังคม (Allocative inefficiency - market over allocates) บทบาทของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา:ออกกฎหมายป้ องกันและลงโทษ มาตรฐานการปล่อยควันพิษของโรงงาน, เก็บภาษี บห ุ รี่สูงๆ EC210 2/2552 310 เหตุใดเมื่อเกิด negative externalities จึงทาให้ผลิตมากเกินไป Social cost = private cost + external cost private cost P P2 E2 P1 E1 D 0 Q2 Q Q1 EC210 2/2552 311 ผลกระทบภายนอกที่เป็ นบวก (Positive Externality) บุคคลที่สามได้ประโยชน์จากการกระทานั้นๆ ทัง้ ที่เขาไม่ได้มีสว่ น เกี่ยวข้องอะไรเลยกับการกระทานั้นๆ เพือ ่ นบ้านที่ปลูกต้นไม้สวยงามหน้าบ้าน การทาสวนเลี้ยงผึ้ง สินค้าและบริการถูกผลิตออกมาน้อยเกินไปในมุมมองของสังคม บทบาทของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา: ให้การสนับสนุ นทัง้ ทางด้าน การเงินและการอานวยความสะดวก กองทุนเพือ่ การศึกษา, ลดภาษี EC210 2/2552 312 สินค้าสาธารณะ (Public Good) (Public Good) สินค้าและบริการที่แต่ละหน่ วยสามารถถูกใช้หรือบริโภค ได้สาหรับทุกคน 1) Non-Rivalry (ไม่ปฏิปกั ษ์ในการบริโภค) 2) Non-Excludability (ไม่อาจกีดกันได้) Example: 3-5-7-9-11-itv, กองทัพป้ องกันประเทศ สินค้าสาธารณะ EC210 2/2552 313 สินค้าโดยทัว่ ไป มีลกั ษณะเป็ นสินค้าสาธารณะหรือไม่ ?? สินค้าเอกชน (Private Good) สินค้าและบริการที่แต่ละหน่ วยสามารถถูกใช้หรือบริโภคได้ เพียงบุคคลใดบุคคลหนึ่ ง 1) Rivalry (ปฏิปก ั ษ์ในการบริโภค) 2) Excludability (กีดกันได้) Example: รถยนต์, กระเป๋ า Gucci EC210 2/2552 314 ปัญหาความล้มเหลวของตลาดในกรณี สนิ ค้าสาธารณะ Free Rider Problem!!! ทุกคนอยากใช้สนิ ค้าและบริการแต่ไม่มี ใครยอมจ่ายเงิน ถ้าเอกชนเป็ นผูผ ้ ลิตสินค้า สินค้าและบริการจะถูกผลิตออกมาน้อยเกินไป เก็บเงินไม่ได้ (ไม่มีใครยอมจ่ายเงิน) บทบาทของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา: รัฐบาลเข้ามาเป็ นผูผ ้ ลิตสินค้าชนิ ดนั้นๆ เอง บังคับเก็บเงินทางภาษี EC210 2/2552 315 Asymmetric Information (ความไม่สมมาตรของสารสนเทศ) เป็ นสภาวะทีผ่ ู้เล่น 2 ฝ่ ายในตลาด (ผู้ซื้อ-ผู้ขาย) มีข้อมูลข่ าวสารทีไ่ ม่ เท่ าเทียมกัน จึงก่อให้ เกิดปัญหา 2 ลักษณะ คือ ปัญหา Adverse Selection (เกิดผลเลือกกลุ่มทีเ่ สี่ ยงสู ง) - เป็ นปัญหาที่สารสนเทศไม่ สมมาตร ก่อนการตกลงสั ญญา ปัญหา Moral Hazard (พฤติกรรมชักนาความเสี่ ยง) - เป็ นปัญหาสารสนเทศไม่ สมมาตร หลังจากตกลงสั ญญาแล้ว - - -ผลคือ ตลาดมีแนวโน้ มที่จะไม่ เกิด หากปล่อยตามกลไกตลาด - - EC210 2/2552 316 ตัวอย่าง Adverse Selection ตลาดรถยนต์ มือสอง... ตลาดประกันสุ ขภาพ... ตลาดประกันอุบัติเหตุรถยนต์... ตลาดสิ นเชื่อ... ตลาดแรงงาน... แต่ ละตลาด ใครมีข้อมูลมากกว่ าใคร ผลของตลาด จะทาให้ ผู้ทมี่ ีข้อมูลมากกว่ าได้ เปรียบ และก่อให้ เกิดกลุ่ม เสี่ ยงเข้ าสู่ ตลาด EC210 2/2552 317 ตัวอย่าง Moral Hazard ตลาดประกันภัยทรัพย์ สิน... ตลาดประกันชีวติ ... การบริหารงานบริษัท... การตกลงประนอมหนี้ (ผ่ อนชาระหนี)้ ... การเช่ าบ้ าน (คนเช่ าไม่ ต้องรับผิดชอบทรัพย์ สิน)... แต่ ละตลาด ใครมีข้อมูลมากกว่ าใคร ผลของตลาด จะทาให้ ผู้ทมี่ ีข้อมูลมากกว่ าได้ เปรียบ และก่อให้ เกิดการ ปรับเปลีย่ นพฤติกรรมทีท่ าให้ เสี่ ยงมากขึน้ EC210 2/2552 318 Appendix: How to Read and Understand Graphs A graph is a twodimensional representation of a set of numbers or data. EC210 2/2552 319 Appendix: How to Read and Understand Graphs Total disposable personal income Total Disposable Personal Income in the United States: 1975-2002 (in billions of dollars) 8000 7500 7000 6500 6000 5500 5000 4500 4000 3500 3000 2500 2000 1500 1000 1975 1980 1985 1990 1995 A time series graph shows how a single variable changes over time. 2000 Year EC210 2/2552 320 Appendix: How to Read and Understand Graphs The Cartesian coordinate system is the most common method of showing the relationship between two variables. The horizontal line is the X-axis and the vertical line the Y-axis. The point at which the horizontal and vertical axes intersect is called the origin. EC210 2/2552 321 Appendix: How to Read and Understand Graphs • The point at which the line intersects the Y-axis (point a) is called the Y-intercept. • The Y-intercept, is the value of Y when X = 0. EC210 2/2552 322 Appendix: How to Read and Understand Graphs • The slope of the line indicates whether the relationship between the variables is positive or negative. • The slope of the line is computed as follows: Y Y1 Y0 b= X X1 X 0 EC210 2/2552 323 Appendix: How to Read and Understand Graphs This line slopes upward, indicating that there seems to be a positive relationship between income and spending. Points A and B, above the 45° line, show that consumption can be greater than income. EC210 2/2552 324 Appendix: How to Read and Understand Graphs An upward-sloping line describes a positive relationship between X and Y. A downward-sloping line describes a negative relationship between X and Y. EC210 2/2552 325 Appendix: How to Read and Understand Graphs 7 b 0.7 10 5 b 0.5 10 0 b 0 10 10 b 0 EC210 2/2552 326 Appendix: How to Read and Understand Graphs EC210 2/2552 327 Appendix: How to Read and Understand Graphs Cartesian coordinate system slope graph time series graph negative relationship X-axis origin Y-axis positive relationship Y-intercept EC210 2/2552 328