ระบาดวิทยา กับการสอบสวนโรค สานักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบาดวิทยาคืออะไร? การศึกษา การเกิดโรค ประชากร • การกระจาย การป้องกัน ควบคุมโรค บุคคล เวลา สถานที่ • ปัจจัยทีม ่ ผ ี ลต่อการเกิดโรค ปัจจัยเสี่ยง ปัจจัยป้องกัน 2 ระบาดวิทยากับการสอบสวนโรค ประชากร ประชากรกลุ่มเสี่ยง บุลคล เวลา สถานที่ (Pop. at risk) ผู้ป่วย ปั จจัยเสี่ยง ปั จจัยป้องกัน การควบคุม ป้องกันโรค 3 นิยามการระบาด มีผู ้ป่ วยมากกว่าปกติทค ี่ าดหมายไว ้ Median 5 ปี ย ้อนหลัง ื่ มโยง พบผู ้ป่ วยเป็ น cluster และ มีความเชอ กันทางระบาดวิทยา ั โรคอุบต สงสย ั ใิ หม่ – อุบต ั ซ ิ า้ 4 รูปแบบการระบาด (Outbreak patterns) มีผ้ ูป่วยเพียงรายเดียว Individual case Case series ผู้ป่วยเป็ นกลุ่มก้ อน แหล่ งโรคร่ วม (Common source) แหล่ งโรคแพร่ กระจาย (Propagated source) แหล่ งโรคแบบผสม (Mixed source) 5 Common Source Outbreak Food Common source # case 10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 0 Date of onset 6 Propagated Source Outbreak 30 # cases 25 1 IP 1 IP 20 15 10 5 0 Date of onset 7 ทาไมต้องออกสอบสวนโรค? อธิบายลักษณะของการเกิดโรค เช่น จานวน การกระจาย ค้นหาปัจจัยเสีย ่ งทีส ่ ามารถป้องกันได้ กาหนดมาตรการในการควบคุมป้องกันโรค 8 Steps of an outbreak investigation 1. Prepare for Field Work : Rapid Response Team 2. Confirm outbreak and diagnosis 3. Define case and start case-finding 4. Descriptive data collection and analysis 5. Develop hypothesis 6. Analytical studies to test hypotheses 7. Special studies (e.g. environmental, lab study) 8. Communicate the conclusion and recommend control measures 9. Follow-up the control implementations 9 At outbreak begins ก่ อนออกสอบสวนโรค เตรี ยมทีม ยืนยันการวินิจฉัยโรค ยืนยันการระบาด 10 การเตรียมทีม เตรี ยมทีมและบทบาทหน้ าที่ของสมาชิก ทีมในสนาม (ออกพืน้ ที่) ได้ แก่ หัวหน้ าทีม นักระบาดวิทยา logistics ทีมสัมภาษณ์ เก็บสิ่งส่ งตรวจ ฯลฯ ทีมนอกสนาม (สนับสนุน) ได้ แก่ แพทย์ ที่ปรึกษาทีม ผู้เชี่ยวชาญ ทีมห้ องปฏิบัตกิ าร ธุรการ ฯลฯ กาหนด วัตถุประสงค์ ของการออกสอบสวนโรค เครื่ องมือและความรู้ ท่ จี าเป็ น เช่ น แบบสอบสวนโรค อุปกรณ์ เก็บและนาส่ งสิ่งส่ งตรวจ ยาและเวชภัณฑ์ ต่างๆ การติดต่ อสื่อสาร 11 1 11 ยืนยันการวินิจฉัยโรค การวินิจฉัยแยกโรค (Differential diagnosis) การตรวจสอบการวินิจฉัยโรค การยืนยันการวินิจฉัยโรค (Verify diagnosis) (Confirm diagnosis) เริ่มต้ นจาก Passive cases 12 ยืนยันการระบาด จานวนผู้ป่วยมากกว่ าปกติ ผู้ป่วยแต่ ละรายมีความเชื่อมโยงทางระบาดวิทยา โรคที่ไม่ เคยพบในพืน ้ ที่มาก่ อน (Emerging disease) โรคที่มีความรุ นแรง แพร่ กระจายเร็ ว มีผลกระทบสูง 13 Steps of an outbreak investigation 1. Prepare for Field Work : Rapid Response Team 2. Confirm outbreak and diagnosis 3. Define case and start case-finding 4. Descriptive data collection and analysis 5. Develop hypothesis 6. Analytical studies to test hypotheses 7. Special studies (e.g. environmental, lab study) 8. Communicate the conclusion and recommend control measures 9. Follow-up the control implementations 14 In the field ระบาดวิทยาเชิงพรรณนา นิยามผู้ป่วย (Case definition) การค้ นหาผู้ป่วยเพิ่มเติม (Active case finding) การเก็บข้ อมูล และ Line listing สถิตเิ ชิงพรรณนา (Descriptive analysis) การตัง้ สมมติฐานการระบาด (Generating hypothesis) 15 นิยามผู้ป่วย เกณฑ์ มาตรฐานในการใช้ ตัดสินว่ าใครเป็ นผู้ป่วย ที่เรากาลังค้ นหาและทาการสอบสวน ควรตอบวัตถุประสงค์ ของการสอบสวนโรค เข้ าใจง่ าย, ชัดเจน, วัดได้ ง่าย Clinical criteria, ประกอบกับ time, place, person Sensitivity vs. specificity 16 นิยามผ้ ูป่วย: ตัวอย่ าง ผู้ท่ อี าศัยหรื อเดินทางเข้ าไปใน หมู่บ้าน “x” และ มีอาการถ่ ายเหลวมากกว่ า 3 ครั ง้ ใน 1 วัน หรื อ ถ่ ายเป็ นมูกเลือดอย่ างน้ อย 1 ครั ง้ ระหว่ างวันที่ 1 มิถุนายน ถึง 20 กรกฎาคม 2550 17 นิยามผ้ ูป่วย อาจแบ่ งเป็ นประเภท ผู้ป่วยสงสัย (Suspected) ผู้ป่วยน่ าจะเป็ น (Probable) อาการและอาการแสดงเข้ าได้ ยังไม่ มีผล Lab ยืนยัน อาการเข้ าได้ ผล Lab เบือ้ งต้ นเข้ าได้ มีความเชื่อมโยงทางระบาด วิทยากับผู้ป่วยยืนยัน ผู้ป่วยยืนยัน (Confirmed) Lab ยืนยันเชือ้ ก่ อโรค ผู้ท่ อี าศัยหรื อเดินทางเข้ าใน หมู่บ้าน X Suspected มี diarrhea… Probable Mucous bloody diarrhea WBC, RBC in stool exam Confirmed RSC พบ Shigella sonnei 2 18 18 นิยามศัพท์ Carrier Asymptomatic infection (ผู้ตดิ เชือ้ ไม่ มีอาการ) Vector Vehicle Reservior แหล่ งโรค (Source of infection)??? 17 19 (Passive cases) (Active cases) 20 การค้ นหาผ้ ูป่วยเพิ่มเติม Passive strategies ตรวจสอบข้ อมูลที่มีอยู่แล้ ว OPD, IPD log book in hospitals, Health center Laboratory log book Active strategies ตัง้ จุดคัดกรองโรคในชุมชน Door to door 21 การเก็บข้ อมูลผ้ ูป่วย ข้ อมูลทั่วไป Age, gender, race, occupation ข้ อมูลทางคลีนิก Symptoms, date of onset, lab results, severity of illness ปั จจัยเสี่ยงและปั จจัยป้องกัน ผู้สัมผัส 22 Identifying info. Survey of hepatitis B cases in a male juvenile detention, Saraburi, Thailand, November 1999 Date of interview Interviewer's name Patient number Patient's name-Surname Age (in years) Study field 2. Carpanter 5. Music 1. Machanic 4. Barber Number of domitory (1-5) 3. Electric 6. Agriculture Clinical symptoms (sick inside the juvenile detention, since 1 Jan 99) No Yes Onset of symptoms Jaundice Nausia/Vomiting Fatigue This hepatitis cases is laboratory confirmed Y Demographic info. Possible risk factors Tatooing Y Homosexual Y Injected drug user Y N N N N Risk factors Clinical info. 23 Line Listing: What and Why? เป็ นการจัดระเบียบข้ อมูลผู้ป่วย ทาให้ ข้อมูลดูง่าย ทบทวนความถูกต้ องและแก้ ไขได้ ง่าย ตาราง แถว หมายถึง ผู้ป่วยแต่ ละราย คอลัมน์ หมายถึง ตัวแปรแต่ ละตัวที่สนใจ 24 Line listing of streptococcus meningitis cases after eating raw pork ID Sex Age Onset Alcohol 25/4/07 26/4/07 1 2 M M 50 27/4/07 41 26/4/07 Yes Yes BF Raw Raw LUN Raw Raw DIN - BF LUN Cook Cook - DIN Cook - 3 M 43 27/4/07 Yes Raw Raw - - - - 4 M 62 27/4/07 Yes Raw Raw Cook - - - 5 M 71 26/4/07 No - Raw - - - - 6 M 56 26/4/07 Yes - Raw - - - - 7 M 51 31/4/07 Yes - Raw - - Cook - 8 M 50 26/4/07 Yes Raw Raw - - - - 9 F 49 27/4/07 Yes - Raw - - - - 3 การใช้ ข้อมูลจาก Line Listing หาความถี่ สัดส่ วน ของข้ อมูลทั่วไป ช่ วยในการบ่ งชีป้ ระชากรกลุ่มเสี่ยง หาความถี่ สัดส่ วน ของข้ อมูลปั จจัยเสี่ยง ช่ วยในการบ่ งชีแ้ หล่ งโรค mode of transmission 26 Line listing of streptococcus meningitis cases after eating raw pork ID Sex Age Onset Alcohol 25/4/07 26/4/07 1 2 M M 50 27/4/07 41 26/4/07 Yes Yes BF Raw Raw LUN Raw Raw DIN - BF LUN Cook Cook - DIN Cook - 3 M 43 27/4/07 Yes Raw Raw - - - - 4 M 62 27/4/07 Yes Raw Raw Cook - - - 5 M 71 26/4/07 No - Raw - - - - 6 M 56 26/4/07 Yes - Raw - - - - 7 M 51 31/4/07 Yes - Raw - - Cook - 8 M 50 26/4/07 Yes Raw Raw - - - - 9 F 49 27/4/07 Yes - Raw - - - - 27 3 การวิเคราะห์ ข้อมูลเชิงพรรณนา (Descriptive data analysis) Time: Epidemic curve Place: spot map area map Attack rate by place Person Frequency Specific attack rate 28 Time: Epidemic Curve แผนภูมิ Histogram แกนนอน (แกน X) หมายถึง เวลา อาจเป็ นชั่วโมง วัน สัปดาห์ เดือน ขึน้ กับระยะฟั กตัวของโรค แกนตัง้ (แกน Y) หมายถึง จานวนผู้ป่วย การสร้ าง Epi curve ความกว้ างแต่ ละช่ องของแกนนอน เท่ ากับ 1/3 – 1/8 ของระยะฟั กตัว เฉลี่ยของโรค ควรเว้ นช่ วงเวลาก่ อนผู้ป่วยรายแรกและหลังผู้ป่วยรายสุดท้ าย เล็กน้ อย ไม่ มีช่องว่ างระหว่ างแท่ ง 29 ประโยชน์ ของ Epi curve บอกประเภทของการระบาด 22 30 ประโยชน์ ของ Epi curve บอก time trend Onset ของผู้ป่วยรายแรก Peak ของการระบาด Onset ของผู้ป่วยรายสุดท้ าย บอก outliers ผู้ท่ ไี ม่ ได้ รับเชือ้ ร่ วมกับผู้ป่วยรายอื่นๆ อาจเป็ นสาเหตุของการระบาด / แหล่ งโรคด้ วยตัวเอง อาจเป็ น secondary case 31 Epidemic curve: การหาระยะรั บเชือ้ Exposure period = (Onset of the first case – ระยะฟั กตัวที่สัน้ ที่สุดของโรค) ถึง (Peak of outbreak – ระยะฟั กตัวเฉลี่ยของโรค) 14 Number of cases 12 10 suspect first case 8 active 6 passive 4 2 0 16 21 23 25 28 October Date of onset 32 จานวนผู ป้ ่ วยอหิวาตกโรค หมู้ ป ่ 1่ วยอหิ ตาบลคีรรว ี าษฎร์ อาเภอพบพระ ผลการสอบสวนผู าตกโรคที ่ พ บพระ จังหวัดตาก 1-30 กรกฎาคม 2548 จานวนป่ วย งานศพผู้ป่วยรายแรก 5 ครอบครัวของผู้ป่วยรายแรก 4 3 ผู้ป่วยสงสั ยรายแรก เสี ยชีวติ 2 งานศพที่ บ้ านนาย ช. นาย ช. 1 ผู้ป่วยสงสัยรายแรก ผูป้ ่ วยมา รพ. ผูป้ ่ วยค้นหา 25 กค 48 24 กค 48 23 กค 48 22 กค 48 21 กค 48 20 กค 48 19 กค 48 18 กค 48 17 กค 48 16 กค 48 15 กค 48 14 กค 48 13 กค 48 12 กค 48 11 กค 48 10 กค 48 9 กค 48 8 กค 48 7 กค 48 6 กค 48 5 กค 48 4 กค 48 3 กค 48 2 กค 48 1 กค 48 0 Place: Map, attack rate by place Map บอกการกระจายของผู้ป่วยตามพืน้ ที่ Spot map: จานวนผู้ป่วย Area map: เปรียบเทียบความหนาแน่ น, อัตราป่ วย 34 Measles case distribution by sector, Nupo camp, Tak, Jan – Mar 2007 1 13 10 8 5 Case in week 2 2 6 3 Case in week 6 Case in week 7 4 15 14 12 11 9 Case in week 8 Case in week 9 Case in week 10 7 Case in week 11 Burma Case in week 12 Case in week 13 8 Epidemic curve by week of onset (N = 27) 7 number of cases 6 5 4 3 2 1 0 w k1 w k2 w k3 w k4 w k5 w k6 w k7 w k8 w k9 w k10 w k11 w k12 w k13 w k14 ผูป ้ ่ วยโรคไข้หว ัดใหญ่แยกตามว ันเริม ่ ป่วยและห้องพ ัก ในศูนย์พ ักพิงแห่งหนึง่ , พ.ค. – ก.ย 2549 (จานวนผป.ทงหมด ั้ 38 ราย) โซน5 ห้ องนา้ โซน1 โซน 2 โซน3 10 3/1 2/1 8 6 4 โซน4 2 18 - 24 May 25 - 31 May 1 - 7 Jun 8 - 14 Jun 15 - 21 Jun 22 - 28 Jun 29 Jun - 5 Jul 6 - 12 Jul 13 - 19 Jul 20 - 26 Jul 27 Jul - 2 Aug 3 - 9 Aug 10 - 16 Aug 17 - 23 Aug 24 - 30 Aug 31 Aug - 6 Sep 7 - 13 Sep 14 - 20 Sep 21 - 27 Sep 28 Sep - 4 Oct 5 - 11 Oct 0 ผู้พกั พิง 1 ราย Weekly interval จนท. 1 คน การระบาดชนิดแหล่งโรคแพร่กระจาย (Propagated source outbreak) จนท. พืน้ ที่ท่ ไี ด้ รับผลกระทบ -12 จาก14 อาเภอ (85.7%) Thawangpha NAN - 52 จาก 99 ตาบล (52.5%) และ 262 จาก 885 หมู่บ้าน(29.6%) ถูกน ้าท่วม - อาเภอท่ าวังผาและอาเภอเมืองได้ รับ ผลกระทบจากภาวะนา้ ท่ วมสูงสุด และ พบว่ ามีอุบัตกิ ารเกิดโรคสูงเช่ นกัน ี หาย แสดงผลกระทบความเสย สู ง ปานกลาง น้ อย จานวนผู้ป่วยโรคไข้ หวัดใหญ่ สายพันธุ์ H1N1 2009 ในระบบเฝ้าระวังของสานักระบาดวิทยา 9 ก.ค. 52 16 ก.ค. 52 จานวนผู้ป่วยสะสม (ราย) Person: Distribution, Specific AR Distribution of avian influenza cases, Thailand 2004 Male : Female = 8 : 3 Median age 7 (2 - 58 years old) 8 died (CFR 72.7%) : - Age <15 years CFR 85.7% - Age >15 years CFR 50.0% 39 Clinical manifestations of confirmed AI cases Thailand, Jan – Mar 2004 Fever Cough Sputum Dyspnea Rhinorrhea Diarrhea Vomiting Wbc<5000 Platelet<106 Pleural effus. 0 10 20 30 40 50 60 70 80 90 100 Percent of cases Pediatric (N=7) Adult (N=4) นิยาม Incidence จานวนผู้ป่วยรายใหม่ Morbidity Attack / ประชากรกลุ่มเสี่ยง, ประชากรในพื้นที่ rate: ร้อยละ, ต่อประชากรพันคน, ต่อประชากรแสนคน rate: ร้อยละ (ประชากรกลุ่มเสี่ยง, ประชากรทีไ ่ ด้รบ ั ผลกระทบ) = Risk (อัตราเสี่ยง) Specific attack rate: ร้อยละ ตามกลุ่มประชากรเฉพาะ 41 นิยาม Death rate อัตราตาย จานวนผู้ป่วยตาย / ประชากรกลุ่มเสี่ยง, ประชากรใน พื้นที่ Mortality rate: ร้อยละ, ต่อประชากรพันคน, ต่อ ประชากรแสนคน Specific death rate: ร้อยละ ตามกลุ่มประชากรเฉพาะ Case Fatality rate อัตราป่วยตาย จานวนผู้ป่วยตาย / จานวนผู้ป่วยทั้งหมด (ร้อยละ) 31 42 การสรุ ปข้ อมูลจากระบาดวิทยาเชิงพรรณนา - โรค อะไร ? - ใคร คือ ประชากรกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดโรค? - อะไร คือ พาหะนาโรค และ แหล่ งโรค? - โรค แพร่ กระจายไปอย่ างไร? 43 4 Cases 25 1200 1000 Person 800 Place 20 Time 15 600 400 10 200 5 0 0-4 0 '5-14 '15-44 '45-64 '64+ 1 Age Group 2 3 4 5 6 7 8 9 10 Evaluate information Risk group? Source? Transmission? Set Hypothesis from all information 44 Steps of an outbreak investigation 1. Prepare for Field Work : Rapid Response Team 2. Confirm outbreak and diagnosis 3. Define case and start case-finding 4. Descriptive data collection and analysis 5. Hypothesis generation 6. Analytical studies to test hypotheses 7. Special studies (e.g. environmental study) 8. Communicate the conclusion and recommend control measures 9. Follow-up the control implementations 45 Analytical studies to test hypotheses Develop hypotheses - ใคร คือ ประชากรกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดโรค? - อะไร คือ พาหะนาโรค และ แหล่ งโรค? - โรค แพร่ กระจายไปอย่ างไร? การศึกษาระบาดวิทยาเชิงวิเคราะห์ - study design; case-control, cohort - sampling control (non-cases) - data collecting: เก็บข้ อมูลเฉพาะเจาะจงมากขึน้ 46 What is a Cohort? “Cohort” กลุ่มคนที่มีลักษณะบางประการร่ วมกัน ประชากรในพืน ้ ที่เกิดโรค (source population) Examples of cohorts: คนงานในโรงงานแห่ งหนึ่ง ผู้เข้ าชมเกมฟุตบอลเกมหนึ่ง ผู้ท่ ร ี ่ วมงานเลีย้ งงานเดียวกัน 47 What is a Cohort? การศึกษาเชิงวิเคราะห์ เหมาะสาหรั บ close population ทดสอบความสัมพันธ์ ระหว่ าง ปั จจัยเสี่ยง (Exposure) กับ การเกิดโรค (Outcome) จุดเริ่มต้ นการศึกษา มีปัจจัย ไม่ มีปัจจัย จุดสิน้ สุดการศึกษา ป่ วย ไม่ ป่วย ป่ วย ไม่ ป่วย 48 Cohort study : การวิเคราะห์ ข้อมูล เปรียบเทียบความเสี่ยงในการป่ วยของคนที่มีปัจจัยกับคนที่ไม่ มีปัจจัย มีปัจจัยเสี่ยง ไม่ มปี ั จจัยเสี่ยง รวม ป่ วย a c a+c ไม่ ป่วย รวม b a+b d c+d b + d a+b+c+d ความเสี่ยง (risk / AR) ของการป่ วยในกลุ่มมีปัจจัย = a / ( a + b ) ความเสี่ยง (risk / AR) ของการป่ วยในกลุ่มไม่ มีปัจจัย = c / ( c + d ) Risk Ratio (RR) = a / ( a + b ) c/(c+d) 49 Cohort study shigellosis outbreak: สงสัยว่ าผักดองเป็ น อาหารที่เป็ นสาเหตุของการป่ วย Case Non-case 9 16 Not eat 7 113 RR = 6.2, 95%CI 2.5, 15.1 Ate Total 25 120 มี ปั จจัย Case Non-case ไม่ มี ปั จจัย Case Non-case ผู้ท่ รี ั บประทานผักดองมีความเสี่ยงต่ อการป่ วยเป็ น 6 เท่ าของ ผู้ท่ ไี ม่ รับประทาน 50 Case-Control Study การศึกษาเชิงวิเคราะห์ ท่ ใี ช้ บ่อยที่สุดในการสอบสวนโรค ทาการศึกษาได้ ง่าย รวดเร็ว ประหยัด ใช้ เมื่อประชากรที่จะศึกษามีขนาดใหญ่ เก็บข้ อมูลไม่ ได้ ทุกคน ใช้ เมื่อประชากรที่จะศึกษามีขนาด / ขอบเขตไม่ ชัดเจน มี case เกิดขึน้ แล้ ว ต้ องเลือก control มาเปรี ยบเทียบ 51 Case-Control Study ทดสอบความสัมพันธ์ ระหว่ าง ปั จจัยเสี่ยง (Exposure) กับ การเกิดโรค (Outcome) เปรี ยบเทียบการมีปัจจัยเสี่ยงที่มีในอดีตระหว่ าง Case กับ control จุดสิน้ สุดการศึกษา มีปัจจัย ไม่ มีปัจจัย มีปัจจัย ไม่ มีปัจจัย จุดเริ่มต้ นการศึกษา ป่ วย ไม่ ป่วย 52 Case-control Study เปรียบเทียบการมีปัจจัยในกลุ่มคนป่ วยกับการมีปัจจัยในกลุ่มคนไม่ ป่วย มีปัจจัย ไม่ มีปัจจัย ป่ วย ไม่ ป่วย a c b d อัตราส่ วน (Odds) ของ การมีปัจจัย ต่ อ การไม่ มีปัจจัย ในกลุ่มคนป่ วย = a/c อัตราส่ วน (Odds) ของ การมีปัจจัย ต่ อ การไม่ มีปัจจัย ในกลุ่มคนไม่ ป่วย = b/d b a = / c d Odds Ratio (OR) = ad/bc 53 Case-control study Botulism outbreak สงสัยว่ าหน่ อไม้ ปี๊บเป็ น สาเหตุของการเกิดโรค Case Control 13 4 Not eat 1 62 OR = 201, 95%CI 18, 5410 Ate Total มีปัจจัย ไม่ มีปัจจัย มีปัจจัย ไม่ มีปัจจัย 17 63 Cases Controls กลุ่มคนป่ วยมีอัตราส่ วนของการกินหน่ อไม้ ปี๊บต่ อการไม่ กนิ เป็ น 201 เท่ า เมื่อเทียบกับกลุ่มคนที่ไม่ ป่วย ผู้ท่ รี ั บประทานหน่ อไม้ ปี๊บมีความเสี่ยงต่ อการป่ วยเป็ น 201 เท่ า ของผู้ท่ ไี ม่ รับประทาน 54 Case-Control or Cohort: ทาอะไรดี?? ขึน ้ กับประชากรในพืน้ ที่เกิดการระบาด ประชากรในพืน้ ที่เกิดการระบาดมีขอบเขตชัดเจน สามารถเก็บข้ อมูลได้ ทุกคน หรื อเกือบหมดทุกคน Use a cohort study พืน้ ที่ท่ เี กิดการระบาด / กลุ่มประชากรที่เกิดการระบาด ไม่ มี ขอบเขตชัดเจน พืน้ ที่ใหญ่ / ประชากรมีจานวนมาก เก็บข้ อมูลได้ ไม่ หมด Use a case-control study 55 Steps of an outbreak investigation 1. Prepare for Field Work : Rapid Response Team 2. Confirm outbreak and diagnosis 3. Define case and start case-finding 4. Descriptive data collection and analysis 5. Hypothesis generation 6. Analytical studies to test hypotheses 7. Special studies (e.g. environmental study) 8. Communicate the conclusion and recommend control measures 9. Follow-up the control implementations 56