Outbreak Investigation อุบลร ัตน์ นฤพนธ์จริ กุล น ักวิชาการสาธารณสุข ชานาญการพิเศษ สาน ักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค 30 มิถน ุ ายน 2553 Learning Objectives ิ้ สุดบทเรียน เมือ ่ สน ผู ้เข ้าอบรมสามารถ บอกว ัตถุของการสอบสวนการระบาด อธิบายขนตอนของการสอบสวนทาง ั้ ระบาดวิทยาได้ อธิบายถึงความสาค ัญของการออก สอบสวนการระบาดทีท ่ ันเวลา Detecting an outbreak การตรวจจับการระบาด การค้นพบ (Detection) เป็นการระบาด หรือไม่ ? ระบบเฝ้ าระวังปกติ การรายงาน ผู ้ป่ วย/ lab การตรวจสอบข่าวลือ ประชาชนทัว่ ไป ื่ ต่าง ๆ สอ เหตุการณ์นนเป ั้ ็ นการระบาด จริงหรือไม่ ? รายงานผู ้ป่ วยมากกว่าทีค ่ าดการณ์ไว ้ จากการเฝ้ าระวังทางระบาดวิทยา ทันเวลา และมีการวิเคราะห์ท ี่ กลุม ่ ก ้อนของผู ้ป่ วย ในชว่ งเวลา สถานที่ และบุคคล กลุม ่ เดียวกัน ความตระหนักจากบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ื่ ต่าง ๆ โรงเรียน หรือ สอ ตรวจสอบข่าวลือต่าง ๆ ่ นร่วมในระบบ สนั บสนุนการมีสว การระบาดคืออะไร ? จากนิยาม การระบาดคือ การมีผป ู ้ ่ วยจานวนที่ มากกว่าปกติกว่าทีค ่ าดหมายไว้ ใน สถานที่ และ เวลานน ั้ 5 การมีผป ู ้ ่ วยมากกว่าปกติ เทียบก ับ ่ งเวลาเดียวก ัน 5 ปี ย้อนหล ัง ค่า Median จานวนผูป ้ ่ วย ณ ชว Number of diarrhea case by month, District A 70 60 # cases 50 40 30 20 10 0 Jan Feb Mar Apr 2003 May Jun Jul Aug Sep Oct Median 1998 - 2002 Nov Dec 6 ผู ้ป่ วยโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน อ. อากาศอานวย จ. สกลนคร พ.ศ. 2545 เปรียบเทียบกับค่ามัธยฐาน 5 ปี ย ้อนหลัง จานวน 200 2545 180 161 ม ัธยฐานปี 2539-2544 150 122 100 97 96 78 80 70 66 50 48 61 45 35 23 14 18 กย ตค 18 17 0 มค กพ มีค เมย พค แหล่งข้อมูล : สาน ักระบาดวิทยา มิย กค สค พย ธค เดือ7น การหาค่ามัธยฐาน 5 ปี ย ้อนหลัง ตารางที1 ่ จานวนผู ้ป่ วยโรคปอดอักเสบจาแนกตามรายเดือน จังหวัดแห่งหนึง่ 2550 2549 2548 2547 2546 มกราคม 10933 12202 10941 12306 12993 กุมภาพันธ์ 10430 9610 11221 13823 11946 มีนาคม 10540 11691 10002 13538 12270 8 ื่ มโยงทางระบาดวิทยา การพิจารณาจากความเชอ เห็นเป็น Cluster ื่ มโยงก ัน ไม่เห็นเป็น Cluster แต่จริงๆ แล้วมีความเชอ ื้ ผูป ้ ่ วยยืนย ันโรคติดเชอ Streptococcus suis 1 ราย 9 บางครงการพบผู ั้ ป ้ ่ วยเพียงรายเดียวก็อาจเป็นการระบาด Emerging / Re-emerging diseases 1997: A 3-year old boy, case of Avian Flu (H5N1) in Hong Kong alerted the public health people around the world to start a full scale investigation. 11 บางครัง้ การพบผู ้ป่ วยเพียงรายเดียวก็อาจเป็ นการระบาด โรคทีแ ่ พร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว หรือ มีความรุนแรง หรือ มี ผลกระทบสูง... 12 ั นิยามศพท์ (Terms) Endemic = การเกิดโรคเป็นประจาในท้องถิน ่ Epidemic = Outbreak Outbreak -> เร่งด่วน, รวดเร็ว Epidemic -> ขยายวงกว้าง Cluster ความเป็นกลุม ่ ก้อนของผูป ้ ่ วยตามบุคคล, เวลา, สถานที่ Pandemic การระบาดทีข ่ ยายวงกว้างไปหลายประเทศ, หลาย ภูมภ ิ าคทวโลก ่ั 13 1918 flu pandemic (Spanish flu) 50 – 100 million deaths worldwide in 18 months 14 ทาไมต้องสอบสวนการระบาด? หยุดยงการระบาด ั้ (ผูป ้ ่ วยใหม่) เพิม ่ พูนองค์ความรูข ้ องเรา ป้องก ันการระบาดครงใหม่ ั้ ประเมินระบบเฝ้าระว ัง สร้างระบบเฝ้าระว ัง เรียนรูร้ ะบาดวิทยาภาคสนามจากการ ปฏิบ ัติจริง ว ัตถุประสงค์เฉพาะของการสอบสวน เพือ ่ พิสจ ู น์หา: ื้ ทีท สาเหตุ ต ัวเชอ ่ าให้เกิดโรค วิธก ี ารถ่ายทอดโรค ื้ สาเหตุ แหล่งทีม ่ าของเชอ พาหะทีม ่ ค ี วามเป็นไปได้ ี่ งต่อการเกิดโรค ประชากรทีเ่ สย ี่ งหรือปัจจ ัยป้องก ัน ล ักษณะประชากรทีม ่ ป ี จ ั จ ัยเสย Real time vs. retrospective investigation ึ ษาย ้อนหลัง ธรรมชาติของการสอบสวนโรค-เป็ นการศก แต่การสอบสวนทีเ่ ป็ น real time ก็มโี อกาสเป็ นไปได ้ ื่ สารทีท ่ SARS ด ้วยการสอ ่ ันสมัย ตัวอย่างเชน ั ดาห์ เดือน การระบาดอาจคงอยูห ่ ลายวัน สป ขึน ้ อยูก ่ บ ั ความจาของบุคคล ข ้อมูลถูกรวบรวมไว ้เรียบร ้อยแล ้ว ้ อไม่ เพียงแต่จะนามาใชหรื It is never to late, but it can also be more difficult 18 ขนตอนการสอบสวนการระบาด ั้ (Steps in outbreak investigation) 1. เตรียมการออกภาคสนาม 2. ยืนย ันการวินจ ิ ฉ ัย และยืนย ันการระบาดของโรค 3. กาหนดนิยามและค้นหาผูป ้ ่ วย 4. รวบรวมข้อมูลทางระบาดวิทยาเชงิ พรรณนา 5. ตงสมมุ ั้ ตฐ ิ าน ึ ษาเชงิ วิเคราะห์เพือ 6. การศก ่ พิสจ ู น์สมมุตฐ ิ าน ึ ษาพิเศษอืน 7. การศก ่ ๆ :-สารวจสภาพแวดล้อม Lab 8. สรุปและเสนอมาตรการควบคุมป้องก ันโรค 9. ติดตามผลการดาเนินงานควบคุมโรค 10. เขียนรายงานสอบสวนโรค ตอนที่ 1: เมือ ่ เกิดการระบาด [At outbreak begins] ก่อนออกสอบสวนโรค เตรียมทีม ยืนย ันการวินจ ิ ฉ ัยโรค ยืนย ันการระบาด การเตรียมทีม ิ เตรียมทีมและบทบาทหน้าทีข ่ องสมาชก ้ ที)่ ได้แก่ ห ัวหน้าทีม น ักระบาด ทีมในสนาม (ออกพืน ั ่ ตรวจ ฯลฯ วิทยา logistics ทีมสมภาษณ์ เก็บสงิ่ สง ทีมนอกสนาม (สน ับสนุน) ได้แก่ แพทย์ ทีป ่ รึกษาทีม ี่ วชาญ ทีมห้องปฏิบ ัติการ ฯลฯ ผูเ้ ชย กาหนด ว ัตถุประสงค์ ของการออกสอบสวนโรค ่ แบบสอบสวน เครือ ่ งมือและความรูท ้ จ ี่ าเป็น เชน ่ สงิ่ สง ่ ตรวจ ยาและ โรค อุปกรณ์เก็บและนาสง เวชภ ัณฑ์ตา่ งๆ ่ งทางการติดต่อสอ ื่ สาร ชอ 21 ยืนย ันการวินจ ิ ฉ ัยโรค การวินจ ิ ฉ ัยแยกโรค (Differential diagnosis) การตรวจสอบการวินจ ิ ฉ ัยโรค (Verify diagnosis) การยืนย ันการวินจ ิ ฉ ัยโรค (Confirm diagnosis) เริม ่ ต ้นจาก Index cases 22 Differential diagnosis อาการและอาการแสดงของผูป ้ ่ วยทีม ่ า รพ. ผลการตรวจ ต่าง ๆ ของแพทย์ & ผลทาง ห้องปฏิบ ัติการ ทีโ่ รงพยาบาล Vital sign : T P R CXR Blood : CBC, LFT, Calture Stool exam ่ ตรวจเพือ เก็บสงิ่ สง ่ ยืนย ันการวินจ ิ ฉ ัยเฉพาะ โรค 23 Verify diagnosis ั ระยะฟักต ัวของโรคทีส ่ งสย ั เชน ั ัส ี่ งทีส ่ ประว ัติ การสมผ ปัจจ ัยเสย ่ งสย ั ตา่ ง ๆ อาหารทีส ั สตว์ ่ งสย ้ ทีก ข้อมูลการเกิดโรคในพืน ่ อ ่ นหน้านี้ 24 Confirm diagnosis ผลการตรวจยืนย ันทางห้องปฏิบ ัติการ ั ตรศพ และ การตรวจทาง ผลการชนสู พยาธิวท ิ ยา 25 ยืนย ันการระบาด จานวนผูป ้ ่ วยมากกว่าปกติ ื่ มโยงทาง ผูป ้ ่ วยแต่ละรายมีความเชอ ระบาดวิทยา ้ ทีม โรคทีไ่ ม่เคยพบในพืน ่ าก่อน (Emerging disease) โรคทีม ่ ค ี วามรุนแรง แพร่กระจายเร็ว มี ผลกระทบสูง 26 To Investigate or not to Investigate ั common source outbreak สงสย ื่ มโยงก ันทางระบาดวิทยาของผูป มีความเชอ ้ ่ วย หลายราย เป็นโรคทีม ่ ค ี วามรุนแรงสูง อ ัตราป่วยตายสูง มีโอกาสแพร่กระจายได้งา่ ย เป็นโรคนโยบาย ผูบ ้ ริหารสนใจ ื่ สาธารณชนให้ความสนใจ เป็นข่าว สอ 27 ขนตอนการสอบสวนการระบาด ั้ (Steps in outbreak investigation) 1. เตรียมการออกภาคสนาม : Rapid Response Team 2. ยืนย ันการวินจ ิ ฉ ัย และยืนย ันการระบาดของโรค 3. กาหนดนิยามและค้นหาผูป ้ ่ วย 4. รวบรวมข้อมูลทางระบาดวิทยาเชงิ พรรณนา 5. ตงสมมุ ั้ ตฐ ิ าน ึ ษาเชงิ วิเคราะห์เพือ 6. การศก ่ พิสจ ู น์สมมุตฐ ิ าน ึ ษาพิเศษอืน 7. การศก ่ ๆ :-สารวจสภาพแวดล้อม Lab 8. สรุปและเสนอมาตรการควบคุมป้องก ันโรค 9. ติดตามผลการดาเนินงานควบคุมโรค 10. เขียนรายงานสอบสวนโรค 28 ตอนที่ 2: In the field เก็บข้อมูลภาคสนาม ระบาดวิทยาเชงิ พรรณนา การตงนิ ั้ ยามผูป ้ ่ วย (Case definition) การค้นหาผูป ้ ่ วยเพิม ่ เติม (Active case finding) การเก็บข้อมูล และ Line listing การวิเคราะห์ขอ ้ มูลเชงิ พรรณนา (Descriptive analysis) การตงสมมติ ั้ ฐานการระบาด (Generating hypothesis) 29 30 Which one is longer? Standard measurement 31 นิยามผูป ้ ่ วย ้ ัดสน ิ ว่าใครเป็น เกณฑ์มาตรฐานในการใชต ผูป ้ ่ วย ทีเ่ รากาล ังค้นหาและทาการสอบสวน ั เข้าใจง่าย, ชดเจน, ว ัดได้งา่ ย ระบุ อาการ&อาการแสดง (Clinical criteria), ประกอบก ับ เวลา (time), สถานที่ (place), บุคคล (person) Sensitivity vs. specificity 32 นิยามผูป ้ ่ วย: ต ัวอย่าง ้ ไป และมีอาการ ผูท ้ อ ี่ ายุมากกว่า 5 ปี ขึน ถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครงใน ั้ 1 ว ัน หรือ ถ่ายเป็นมูกเลือดอย่างน้อย 1 ครงั้ ใน หมูบ ่ า้ น “x” ระหว่างว ันที่ 1 มิถน ุ ายน ถึง 20 กรกฎาคม 2550 33 นิยามผูป ้ ่ วย Sensitivity: Most cases detected, but … many false positives many specimens Overloadto test low % tested specimens +ve Specificity: Cases missed, but … few false positives fewer specimens to test Underload high % tested specimens +ve 34 นิยามผูป ้ ่ วย: ต ัวอย่าง ระหว่างวันที่ 11-12 เมษายน 2541 ได ้รับรายงาน ึ่ จาก 2 หมูบ ผู ้ป่ วย ซงึ่ น่าจะเป็ นโรคโบทูลซ ิ ม ่ ้าน ข ้อมูลเบือ ้ งต ้นพบว่าผู ้ป่ วยสว่ นใหญ่รับประทาน หน่อไม ้อัดปี๊ บ นิยามผู ้ป่ วยทีเ่ หมาะสมคือ ผูป ้ ่ วย หมายถึง ประชากรในหมูบ ่ า้ นทงั้ 2 แห่ง ทีม ่ อ ี าการอย่างน้อย 3 ใน 10 อย่างต่อไปนี้ ได้แก่ ั เสย ี งแหบ ปากแห้ง หน ังตาตก กลืนลาบาก พูดไม่ชด เจ็บคอ อุจจาระร่วง อาเจียน และแขนขาอ่อนแรงแบบ สมมาตร ในระหว่างว ันที่ 10-13 เมษายน 2541 35 นิยามผูป ้ ่ วย อาจแบ่งเป็นประเภท ั (Suspected) ผูป ้ ่ วยสงสย อาการและอาการแสดงเข้าได้ อายุมากกว่า 5 ปี ในหมูบ ่ า้ น X มี ย ังไม่มผ ี ล Lab ยืนย ัน ผูป ้ ่ วยน่าจะเป็น (Probable) อาการเข้าได้ ื่ มโยงทางระบาด มีความเชอ วิทยาก ับผูป ้ ่ วยยืนย ัน ื้ ก่อโรค Lab ยืนย ันเชอ diarrhea… Probable Mucous ้ งต้นเข้าได้ ผล Lab เบือ ผูป ้ ่ วยยืนย ัน (Confirmed) Suspected WBC, bloody diarrhea RBC in stool exam Confirmed RSC พบ Shigella sonnei 36 ั นิยามศพท์ Passive case ผูป ้ ่ วยทีม ่ าโรงพยาบาล Active case ผูป ้ ่ วยทีค ่ น ้ หาได้เพิม ่ เติมในชุมชน ผูป ้ ่ วยทีเ่ ราไปพบในชุมชนแล้วแนะนาให้มาโรงพยาบาล ? 37 ั นิยามศพท์ Index case ผูป ้ ่ วยที่ detect ได้เป็นรายแรก / ทาให้ตอ ้ งออก สอบสวนโรค / เป็นแหล่งโรค First case / Primary cases ผูท ้ ป ี่ ่ วยเป็นรายแรก Secondary / กลุม ่ แรก ตามว ันเริม ่ ป่วย case ้ื มาจากผูป / กลุม ่ ผูป ้ ่ วย ทีน ่ า ่ จะร ับเชอ ้ ่ วย กลุม ่ แรก ผูป ้ ่ วย 38 ั นิยามศพท์ จานวนผูป ้ ่ วย 18 16 14 12 10 8 6 4 2 0 การระบาดของโรคไข้หว ัดใหญ่ Index case ผูป ้ ่ วยมา รพ. 2nd 1st case 29 30 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ว ันเริม ่ ป่วย 39 ั นิยามศพท์ Asymptomatic infection ื้ ไม่มอ (ผูต ้ ด ิ เชอ ี าการ) Vector Vehicle Carrier (พาหะ) Reservoir (ร ังโรค) แหล่งโรค (Source)??? 40 (Passive cases) (Active cases) 41 การค้นหาผูป ้ ่ วยเพิม ่ เติม Passive strategies ตรวจสอบข้อมูลทีม ่ อ ี ยูแ ่ ล้ว OPD, IPD log book in hospitals, Health center Laboratory log book Active strategies ตงจุ ั้ ดค ัดกรองโรคในชุมชน Door to door 42 การเก็บข้อมูลผูป ้ ่ วย ข้อมูลทว่ ั ไป Age, gender, race, occupation ข้อมูลทางคลีนก ิ Symptoms, date of onset, lab results, severity of illness ี่ งและปัจจ ัยป้องก ัน ปัจจ ัยเสย ั ัส ผูส ้ มผ 43 Identifying info. Survey of hepatitis B cases in a male juvenile detention, Saraburi, Thailand, November 1999 Date of interview Interviewer's name Patient number Patient's name-Surname Age (in years) Study field 2. Carpanter 5. Music 1. Machanic 4. Barber Number of domitory (1-5) 3. Electric 6. Agriculture Clinical symptoms (sick inside the juvenile detention, since 1 Jan 99) No Yes Onset of symptoms Jaundice Nausia/Vomiting Fatigue This hepatitis cases is laboratory confirmed Y Clinical info. Demographic info. Possible risk factors Tatooing Y Homosexual Y Injected drug user Y N N N N Risk factors 44 Obi card 45 Line Listing: What and Why? เป็นการจ ัดระเบียบข้อมูลผูป ้ ่ วย ทาให้ขอ ้ มูลดูงา่ ย ทบทวนความถูกต้องและ แก้ไขได้งา่ ย ตาราง แถว หมายถึง ผูป ้ ่ วยแต่ละราย คอล ัมน์ หมายถึง ต ัวแปรแต่ละต ัวทีส ่ นใจ 46 Line listing of streptococcus meningitis cases after eating raw pork ID Sex Age Onset Alcohol 25/4/07 26/4/07 1 2 M M 50 27/4/07 41 26/4/07 Yes Yes BF Raw Raw LUN Raw Raw DIN - BF LUN Cook Cook - DIN Cook - 3 M 43 27/4/07 Yes Raw Raw - - - - 4 M 62 27/4/07 Yes Raw Raw Cook - - - 5 M 71 26/4/07 No - Raw - - - - 6 M 56 26/4/07 Yes - Raw - - - - 7 M 51 31/4/07 Yes - Raw - - Cook - 8 M 50 26/4/07 Yes Raw Raw - - - - 9 F 49 27/4/07 Yes - Raw - - - - ้ อ การใชข ้ มูลจาก Line Listing ั ว ่ น หาความถี่ สดส ของข้อมูลทว่ ั ไป ่ ยในการบ่งชป ี้ ระชากรกลุม ี่ ง ชว ่ เสย ั ว ่ น หาความถี่ สดส ี่ ง ของข้อมูลปัจจ ัยเสย ่ ยในการบ่งชแ ี้ หล่งโรค ชว mode of transmission 48 การวิเคราะห์ขอ ้ มูลเชงิ พรรณนา (Descriptive data analysis) Time: Epidemic curve Place: spot map area map Attack rate by place Person Frequency Specific attack rate 49 Time: Epidemic Curve Histogram แกนนอน (แกน X) หมายถึง เวลา อาจเป็นชว่ ั โมง ว ัน ั ้ ก ับระยะฟักต ัวของโรค สปดาห์ เดือน ขึน แกนตงั้ (แกน Y) หมายถึง จานวนผูป ้ ่ วย การสร้าง Epi curve ่ งของแกนนอน เท่าก ับ 1/3 – 1/8 ความกว้างแต่ละชอ ของระยะฟักต ัวทีย ่ าวทีส ่ ด ุ ของโรค ่ งเวลาก่อนผูป ควรเว้นชว ้ ่ วยรายแรกและหล ังผูป ้ ่ วยราย สุดท้ายเล็กน้อย ่ งว่างระหว่างแท่ง ไม่มช ี อ 50 ประโยชน์ของ Epi curve บอก time trend Onset ของผูป ้ ่ วยรายแรก Peak ของการระบาด Onset ของผูป ้ ่ วยรายสุดท้าย บอก outliers ื้ ร่วมก ับผูป ผูท ้ ไี่ ม่ได้ร ับเชอ ้ ่ วยรายอืน ่ ๆ อาจเป็นสาเหตุของการระบาด / แหล่งโรค ด้วยต ัวเอง อาจเป็น secondary case 51 ้ื Epidemic curve: การหาระยะร ับเชอ ั้ ส Exposure period = (Onset of the first case – ระยะฟักต ัวทีส ่ นที ่ ด ุ ของโรค) ถึง (Peak of outbreak – ระยะฟักต ัวเฉลีย ่ ของโรค) จานวนผูป ้ ่ วย ระยะฟักต ัวทีย ่ าวทีส ่ ุด ระยะฟักต ัวเฉลีย ่ 16 14 12 10 ระยะฟักต ัว ั้ ส ทีส ่ นที ่ ด ุ 8 6 4 2 0 18 22 26 30 กันยายน 4 8 12 16 20 24 28 ตุลาคม 1 5 9 ว ัน 13 17 21 25 29 เริม ่ ป่วย พฤศจิกายน จานวนผูป ้ ่ วยโรคต ับอ ักเสบ เอ ในโรงงานแห่งหนึง่ 52 Place: Map, attack rate by place Map บอกการกระจายของผูป ้ ่ วยตาม ้ ที่ พืน Spot map: จานวนผูป ้ ่ วย Area map: เปรียบเทียบความหนาแน่น, อ ัตราป่วย 53 Measles case distribution by sector, Nupo camp, Tak, Jan – Mar 2007 1 Case in week 2 13 10 8 5 2 6 3 Case in week 6 Case in week 7 4 15 14 12 11 9 Case in week 8 Case in week 9 Case in week 10 7 Case in week 11 Burma Case in week 12 Case in week 13 8 Epidemic curve by week of onset (N = 27) 7 number of cases 6 5 4 3 2 1 0 w k1 w k2 w k3 w k4 w k5 w k6 w k7 w k8 w k9 w k10 w k11 w k12 w k13 w k14 ผูป ้ ่ วยโรคคางทูมแยกตามว ันเริม ่ ป่วยและห้องเรียน ในโรงเรียน อนุบาลแห่งหนึง่ , พ.ค. – ก.ย 2542 (จานวนผป.ทงหมด ั้ 38 ราย) NS 1 NS 2 1/1 1/2 3/2 10 3/1 2/1 8 6 4 2/2 2 18 - 24 May 25 - 31 May 1 - 7 Jun 8 - 14 Jun 15 - 21 Jun 22 - 28 Jun 29 Jun - 5 Jul 6 - 12 Jul 13 - 19 Jul 20 - 26 Jul 27 Jul - 2 Aug 3 - 9 Aug 10 - 16 Aug 17 - 23 Aug 24 - 30 Aug 31 Aug - 6 Sep 7 - 13 Sep 14 - 20 Sep 21 - 27 Sep 28 Sep - 4 Oct 5 - 11 Oct 0 น ักเรียน 1 คน Kit. Weekly interval ครู 1 คน การระบาดชนิดแหล่งโรคแพร่กระจาย (Propagated source outbreak) 55 ้ ทีท พืน ่ ไี่ ด้ร ับผลกระทบ - 12 จาก14 อาเภอ (85.7%) Thawangpha - 52 จาก 99 ตาบล (52.5%) และ 262 จาก 885 หมูบ ่ ้าน(29.6%) ถูกน้ าท่วม - อาเภอท่าว ังผาและอาเภอเมืองได้ร ับผล NAN กระทบจากภาวะนา้ ท่วมสูงสุด และพบว่า ี มีอบ ุ ัติการเกิดโรคของเลปโตสไปโรซส ่ ก ัน สูงเชน ี หาย แสดงผลกระทบความเสย สูง ปานกลาง น้อย N ถนนวังหิ น ท่ าเรือราชาเฟอร์ ร่ ี อ่าวไทย บ้ านห้ วยเสียด ม.9 ต.ดอนสัก ชุมชนทองไมล์ ชุมชนเกาะแรต ปากคลองดอนสัก ท่ าเรือซีทรานเฟอร์ ร่ ี ท่ าเทียบเรือเอนกประสงค์ ดอนสักวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ ชุมชนเทศบาล ร.พ.ดอนสัก ชุมชนทางข้ าม ที่ว่าการอาเภอดอนสัก ชุมชนบ้ านคราม ถนนริมทะเล ถนน บางนา้ จืด วัดท้ องอ่ าว ชุมชนโพธิ์ทอง ถนนชลคราม เขาชะโงก ชุมชนปากดอนสัก ชุมชนบางนางบน ถนนประชาอุทิศ คลอง ดอน สัก ถนน ต้ น ท้ อน ถนนบ้ านใน – ดอนสัก - ขนอม ถนนมิตรภาพบ้ าน นาง กา ม.10 ต. ดอน สัก ชุมชนท้ องอ่ าว วัดวิสทุ ธิชลาราม ถนนก้าวเจริ ญ ชุมชนก้ าวเจริญ ถนน บ้ านใน – ดอน สัก ขนอม ถนนวัดวิ ชุมชนบางน ด สุทา้ธิจืชลา ราม ถนนเขานูด สระนา้ ก้ าวเจริญ นอกเขตเทศบาล 57 ้ื H5N1 ั ปีกป่วยตายและตรวจพบเชอ ้ ทีร่ ับแจ้งมีสตว์ พืน พ.ศ. 2550 ั ปีกป่วยตาย ้ ทีร่ ับแจ้งมีสตว์ พืน ื้ H5N1 ้ ทีต พืน ่ รวจพบเชอ พ.ศ. 2551 รายงาน 163 ตาบล - ผลลบ 15 ตาบล - ผลบวก 2 ตาบล ั ว์ www.dld.go.th แหล่งทีม ่ า: ศูนย์ควบคุมโรคไข ้หวัดนก กรมปศุสต Attack Rate โรคคางทูมในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึง่ จ ังหว ัดราชบุร ี จาแนกตามห้องเรียน ห้องเรียน จานวน น ักเรียน จานวนผูป ้ ่ วย Attack Rate ว ันเริม ่ ป่วย รายแรก อ.1/3 อ.1/4 อ.1/5 ป.1/1 ป.1/2 ป.1/3 ป.1/4 ป.1/5 ป.4/2 ป.5/4 ป.5/5 ป.6/1 ป.6/2 ม.1/1 ม.5/1 ครู 38 38 36 39 42 42 42 44 45 53 54 55 53 47 53 158 1 2 1 7 6 7 16 8 2 1 1 2 2 1 1 2 2.63 5.26 2.78 17.95 14.29 16.67 38.10 18.18 4.44 1.89 1.85 3.64 3.77 2.13 1.89 1.27 18 ก.ย.51 13 ก.ย.51 18 ก.ย.51 12 ส.ค.51 14 ส.ค.51 15 ส.ค.51 29 ก.ค.51 13 ส.ค.51 27 ส.ค.51 5 ก.ย.51 25 ส.ค.51 22 ส.ค.51 13 ก.ย.51 25 ส.ค.51 2 ก.ย.51 23 ส.ค.51 59 Person: Distribution, Specific AR Distribution of avian influenza cases, Thailand 2004 Male : Female = 8 : 3 Median age 7 (2 - 58 years old) 8 died (CFR 72.7%) : - Age <15 years CFR 85.7% - Age >15 years CFR 50.0% 60 Clinical manifestations of confirmed AI cases Thailand, Jan – Mar 2004 Fever Cough Sputum Dyspnea Rhinorrhea Diarrhea Vomiting Wbc<5000 Platelet<106 Pleural effus. 0 10 20 30 40 50 60 70 80 90 100 Percent of cases Pediatric (N=7) Adult (N=4) การสรุปข้อมูลจากระบาดวิทยาเชงิ พรรณนา - โรค อะไร ? ี่ งทีจ - ใคร คือ ประชากรกลุม ่ เสย ่ ะเกิดโรค? - อะไร คือ พาหะนาโรค และ แหล่งโรค? - โรค แพร่กระจายไปอย่างไร? 62 Cases 25 1200 1000 Person 800 Place 20 Time 15 600 400 10 200 5 0 0-4 0 '5-14 '15-44 '45-64 '64+ 1 Age Group 2 3 4 5 6 7 8 9 10 Evaluate information Risk group? Source? Transmission? Set Hypothesis from all information 63 ขนตอนการสอบสวนการระบาด ั้ (Steps in outbreak investigation) 1. เตรียมการออกภาคสนาม : Rapid Response Team 2. ยืนย ันการวินจ ิ ฉ ัย และยืนย ันการระบาดของโรค 3. กาหนดนิยามและค้นหาผูป ้ ่ วย 4. รวบรวมข้อมูลทางระบาดวิทยาเชงิ พรรณนา 5. ตงสมมุ ั้ ตฐ ิ าน ึ ษาเชงิ วิเคราะห์เพือ 6. การศก ่ พิสจ ู น์สมมุตฐ ิ าน ึ ษาพิเศษอืน 7. การศก ่ ๆ :-สารวจสภาพแวดล้อม Lab 8. สรุปและเสนอมาตรการควบคุมป้องก ันโรค 9. ติดตามผลการดาเนินงานควบคุมโรค 10. เขียนรายงานสอบสวนโรค 64 ึ ษาเชงิ วิเคราะห์ ตอนที่ 3: การศก [In your brain] Cohort study Case-control study การเลือก study design 65 What is a Cohort? “Cohort” กลุม ่ คนทีม ่ ล ี ักษณะบางประการร่วมก ัน ้ ทีเ่ กิดโรค (source population) ประชากรในพืน Examples of cohorts: คนงานในโรงงานแห่งหนึง่ ผูเ้ ข้าชมเกมฟุตบอลเกมหนึง่ ้ งงานเดียวก ัน ผูท ้ รี่ ว่ มงานเลีย 66 What is a Cohort? ึ ษาเชงิ วิเคราะห์ เหมาะสาหร ับ close population การศก ั ันธ์ระหว่าง ปัจจ ัยเสย ี่ ง (Exposure) ก ับ ทดสอบความสมพ การเกิดโรค (Outcome) ึ ษา จุดเริม ่ ต้นการศก ิ้ สุดการศก ึ ษา จุดสน ป่วย มีปจ ั จ ัย ไม่ป่วย ป่วย ไม่มป ี จ ั จ ัย ไม่ป่วย 67 Cohort study : การวิเคราะห์ขอ ้ มูล ี่ งในการป่วยของคนทีม เปรียบเทียบความเสย ่ ป ี จ ั จ ัยก ับคนทีไ่ ม่มป ี จ ั จ ัย มีปัจจัยเสี่ยง ไม่ มปี ั จจัยเสี่ยง รวม ป่ วย a c a+c ไม่ ป่วย รวม b a+b d c+d b + d a+b+c+d ี่ ง (risk/ AR) ของการป่วยในกลุม ความเสย ่ มีปจ ั จ ัย = a / ( a + b ) ี่ ง (risk/ AR) ของการป่วยในกลุม ความเสย ่ ไม่มป ี จ ั จ ัย = c / ( c + d ) a/(a+b) Risk Ratio (RR) = c/(c+d) 68 Cohort study ั าผ ักดอง shigellosis outbreak: สงสยว่ เป็นอาหารทีเ่ ป็นสาเหตุของการป่วย Case Non-case 9 16 Not eat 7 113 RR = 6.2, 95%CI 2.5, 15.1 Ate Total 25 120 มี ปัจจ ัย Case ไม่ม ี ปัจจ ัย Case Non-case Non-case ี่ งต่อการป่วยเป็น 6 เท่า ผูท ้ รี่ ับประทานผ ักดองมีความเสย ของผูท ้ ไี่ ม่ร ับประทาน 69 Case-Control Study ้ อ ึ ษาเชงิ วิเคราะห์ทใี่ ชบ การศก ่ ยทีส ่ ด ุ ในการ สอบสวนโรค ึ ษาได้งา ทาการศก ่ ย รวดเร็ว ประหย ัด ึ ษามีขนาดใหญ่ เก็บข้อมูล ใชเ้ มือ ่ ประชากรทีจ ่ ะศก ไม่ได้ทก ุ คน ึ ษามีขนาด / ขอบเขต ไม่ ใชเ้ มือ ่ ประชากรทีจ ่ ะศก ั ชดเจน ้ แล้ว มี case เกิดขึน ต้องเลือก control มาเปรียบเทียบ 70 Case-Control Study ั ันธ์ระหว่าง ปัจจ ัยเสย ี่ ง ทดสอบความสมพ (Exposure) ก ับ การเกิดโรค (Outcome) ี่ งทีม เปรียบเทียบการมีปจ ั จ ัยเสย ่ ใี นอดีต ระหว่าง Case ก ับ control ิ้ สุดการศก ึ ษา จุดสน มีปจ ั จ ัย ึ ษา จุดเริม ่ ต้นการศก ป่วย ไม่มป ี จ ั จ ัย มีปจ ั จ ัย ไม่มป ี จ ั จ ัย ไม่ป่วย 71 Case-control Study เปรียบเทียบการมีปจ ั จ ัยในกลุม ่ คนป่วยก ับการมีปจ ั จ ัยในกลุม ่ คนไม่ป่วย มีปจ ั จ ัย ไม่มป ี จ ั จ ัย ป่วย ไม่ป่วย a c b d ่ น (Odd) ของ การมีปจ อ ัตราสว ั จ ัย ต่อ การไม่มป ี จ ั จ ัย ในกลุม ่ คนป่วย = a/c อ ัตราสว่ น (Odd) ของ การมีปจ ั จ ัย ต่อ การไม่มป ี จ ั จ ัย ในกลุม ่ คนไม่ป่วย = b/d Odds Ratio (OR) = a c / b = d ad/bc 72 Case-control study ั าหน่อไม้ปี๊บ Botulism outbreak สงสยว่ เป็นสาเหตุของการเกิดโรค Case Control 13 4 Not eat 1 62 OR = 201, 95%CI 18, 5410 Ate Total 17 63 มีปจ ั จ ัย ไม่มป ี จ ั จ ัย Cases มีปจ ั จ ัย ไม่มป ี จ ั จ ัย Controls ั ว่ นของการกินหน่อไม้ปี๊บเป็น 201 เท่า เมือ กลุม ่ คนป่วยมีสดส ่ เทียบก ับกลุม ่ คนทีไ่ ม่ป่วย ี่ งต่อการป่วยเป็น 201 เท่า ผูท ้ รี่ ับประทานหน่อไม้ป๊ี บมีความเสย ของผูท ้ ไี่ ม่ร ับประทาน 73 Case-Control or Cohort: ทาอะไรดี?? ้ ทีเ่ กิดการระบาด ้ ก ับประชากรในพืน ขึน ั ้ ทีเ่ กิดการระบาดมีขอบเขตชดเจน ประชากรในพืน สามารถเก็บข้อมูลได้ทก ุ คน หรือเกือบหมดทุกคน Use a cohort study ้ ทีท พืน ่ เี่ กิดการระบาด / กลุม ่ ประชากรทีเ่ กิดการ ั ระบาด ไม่มข ี อบเขตชดเจน ้ ทีใ่ หญ่ / ประชากรมีจานวนมาก เก็บข้อมูลได้ พืน ไม่หมด Use a case-control study 74 ขนตอนการสอบสวนการระบาด ั้ (Steps in outbreak investigation) 1. เตรียมการออกภาคสนาม : Rapid Response Team 2. ยืนย ันการวินจ ิ ฉ ัย และยืนย ันการระบาดของโรค 3. กาหนดนิยามและค้นหาผูป ้ ่ วย 4. รวบรวมข้อมูลทางระบาดวิทยาเชงิ พรรณนา 5. ตงสมมุ ั้ ตฐ ิ าน ึ ษาเชงิ วิเคราะห์เพือ 6. การศก ่ พิสจ ู น์สมมุตฐ ิ าน ึ ษาพิเศษอืน 7. การศก ่ ๆ :-สารวจสภาพแวดล้อม Lab 8. สรุปและเสนอมาตรการควบคุมป้องก ันโรค 9. ติดตามผลการดาเนินงานควบคุมโรค 10. เขียนรายงานสอบสวนโรค 75 ึ ษาอืน ้ ที่ ตอนที่ 4: การศก ่ ๆ ในพืน [In the field 2] ผูร้ า้ ยต ัวจริงและว ัตถุพยาน Environmental study and trace back Specimen collection and laboratory testing 76 กระบวนการทา ข ้าวหมูแดง &ไข่ต ้ม ในการระบาดของ Shigellosis ในโรงเรียน A ต้มหมู ~ 1-1.5 ชม. เคีย ่ วก ับ เครือ ่ งปรุ ง TEXT หนหมู ่ ั TEXT แดง ต้มไข่ จุด ี่ ง เสย รวม และ ต ักแจก ่ า้ เย็น แชน ปอก เปลือก TEXT หนไข่ ่ั ดว้ ย ด้ายและมีด 77 ระบบนา้ ในโรงเรียน A สูบนา้ ประปาเก็บไว้ในถ ังพ ักสูง จุด ี่ ง เสย ไหลผ่าน เครือ ่ งกรอง TEXT ต่อท่อ ่ เู ้ ย็น เข้าสูต ้ ม ใชด ื่ 78 ึ ษาทางห้องปฏิบ ัติการ ผลการศก ผลการตรวจ RSC Shigella group D + Salmonella group C Shigella group D Salmonella group B Salmonella group D น ักเรียน (42 คน) 9 (21 %) - - 1 (2 %) แม่คร ัว (9 คน) 1 (11 %) 1 (11 %) 1 (11 %) - ครู (9 คน) - - - - 79 ึ ษาทางห้องปฏิบ ัติการ ผลการศก (ต่อ) อุปกรณ์ เครือ ่ งใช ้ ภาชนะ ้ น, กระทะ swab เขียง 4, จาน, ท ัพพี , ชอ not found organisms เครือ ่ งปรุงรส ี วิ้ ขาว ซอสถว่ ั เหลือง, ซอสมะเขือเทศ, ซอ not found organisms Residual chlorine ในน้ าดืม ่ และน้ าใช ้ <0.2 ppm. 80 การสารวจสภาพแวดล้อม ผูป ้ รุงประกอบอาหาร สวมถุงมือเป็นบางครงั้ ั้ ป.5-ม.3 หากงานยุง ่ แม่คร ัวทีป ่ รุงอาหารชน ั้ ป.1-4 ่ ยแม่คร ัวทีป จะมาชว ่ รุงอาหารชน ในห้องสว้ มของแม่คร ัว ไม่มส ี บู่ มีผา้ เช็ดมือ เพียงผืนเดียว เริม ่ ปรุงอาหารตงแต่ ั้ เวลา 06.00-11.00 น. 81 หน้าทีข ่ องแม่คร ัวแต่ละคน + Shigella gr.D คนที่ 1 + Salmonella เตรียมอาหาร คนที่ 3 ขาย คนที่ 1 คนที่ 2 ป.5-ม.3 ป.1-4 คนที่ 4 หน ่ ั หมู, ผ ัก Etc. คนที่ 5 ขาย , ล้างจาน คนที่ 6 หน ่ ั หมู, ผ ัก, ปอก เปลือกไข่ คนที่ 7 หน ่ ั หมู, ผ ัก Etc. คนที่ 8 ปอกเปลือก ไข่, หน ่ ั ไข่ คนที่ 9 ล้างจาน 82 ประว ัติ (History) ื้ Shigella แม่คร ัวทีต ่ รวจพบเชอ หญิงชาวกระเหรีย ่ ง อายุ 18 ปี เดินทางมาจากจ ังหว ัดตาก เข้าทางานใน รร. แห่งนีไ้ ด้ประมาณ 5 เดือน ไม่เคยเดินทางไปใน พืน ้ ทีใ่ ด รับประทานอาหารกลางวันเหมือนเด็ก นร.ป.1-4 ั ดาห์ทผ 2 สป ี่ า่ นมา มีถา่ ยท ้องตอนกลางคืน (เพือ ่ น ร่วมห ้องบอก) 83 ้ ทางท่อสง ่ นา้ ประปาของหน่วยบ ัญชาการนาวิกโยธิน แผนทีแ ่ สดงเสน ถังพักน้ าสนามกอล์ฟนย. มารีนรีสอร์ท บ ้านพักข ้าราชการ สโมสรเรือใบ กรมสน. พันพยาบาล ื่ สาร พันสอ รร.ทหาร นย. รปภ.นย. โรงปรุง รร.นาวิกโยธิน ่ มท่อว ันที่ 28 มี.ค.51 ซอ ่ มท่อว ันที่ 22 พ.ค.51 ซอ ้ งศฝนย. โรงเลีย ท่อหล ักทีป ่ ร ับปรุงแล้ว บกนย. ่ มท่อว ันที่ 24 มี.ค.51 ซอ ั ประดู่ สโมสรสก พ1ร4 พ1ร3 พ2ร4 พ2ร3 พ1ร2 พ1ร1 พ2ร2 พ2ร1 กรมสน.เพือ ่ พราง ถังพักน้ าอนุสาวรีย ์ นย. ท่อหล ักทีย ่ ังไม่ปร ับปรุง ี รางระบายนา้ เสย แหล่งนา้ ทีต ่ รวจพบ E. Coli (ทีม SRRT 30 พ.ค. 51) แหล่งนา้ ทีต ่ รวจพบ Coliform B., Hepatis A (20 มิ.ย. 51) ้ องหน่วยบ ัญชาการ แผนภาพแสดงการบริหารนา้ ดืม ่ นา้ ใชข บาบ ัดคลอรีน แหล่งนา้ ดิบ คลองไผ่ โรงกรอง 3 อูต ่ ะเภา 0.2-0.5 ppm ถ ังพ ักนา้ ใสโรงกรอง 1 <0.2 ppm ถ ังพ ักของหน่วยงาน ้ ง / โรงเลีย <0.2 ppm ถ ังพ ัก 1 ถ ังพ ัก 2 ถ ังพ ัก อนุสาวรีย ์ สนามกอล์ฟ กร. <0.2 ppm <0.2 ppm โรงกรอง uv วศ.ทร. แหล่งอืน ่ น้าดืม ่ เครือ ่ งกรองแต่ละ หน่วยงาน ผลิตนา้ แข็ ง ไม่กรอง ้ รุงอาหาร นา้ ใชป ้ ว่ ั ไป นา้ ใชท 85 ่ ตรวจทางห้องปฏิบ ัติการ สงิ่ สง Human clinical specimens from cases, contacts Blood Saliva RSC Serum Hair Vomitus Feces others Urine Type of specimen depends on the outbreak Specimens from environments, animals 86 ขนตอนการสอบสวนการระบาด ั้ (Steps in outbreak investigation) 1. เตรียมการออกภาคสนาม : Rapid Response Team 2. ยืนย ันการวินจ ิ ฉ ัย และยืนย ันการระบาดของโรค 3. กาหนดนิยามและค้นหาผูป ้ ่ วย 4. รวบรวมข้อมูลทางระบาดวิทยาเชงิ พรรณนา 5. ตงสมมุ ั้ ตฐ ิ าน ึ ษาเชงิ วิเคราะห์เพือ 6. การศก ่ พิสจ ู น์สมมุตฐ ิ าน ึ ษาพิเศษอืน 7. การศก ่ ๆ :-สารวจสภาพแวดล้อม Lab 8. สรุปและเสนอมาตรการควบคุมป้องก ันโรค 9. ติดตามผลการดาเนินงานควบคุมโรค 10. เขียนรายงานสอบสวนโรค 87 ตอนที่ 5: สรุปผล&เสนอมาตรการควบคุมโรค From start to finish Chain of infection หล ักการควบคุมโรค 88 89 หลักการควบคุมโรค การสอบสวนทางระบาดวิทยา กาหนดมาตรการควบคุมโรค สามารถกระทาได้ตงั้ แต่ เริ่มมีการระบาด กาจัด / ควบคุมแหล่งโรค แหล่งแพร่เชือ ้ ตัดทางแพร่กระจาย (Mode transmission) ปกป้องประชากรกลุม ่ เสีย ่ ง 90 ื้ กาจ ัด / ควบคุมแหล่งโรค แหล่งแพร่เชอ • กาจัดแหล่งแพร่โรค (ต ้นตอทีแ ่ ท ้จริง) • ั ผัสโรค แยกกักผู ้ป่ วย จากัดการเคลือ ่ นย ้ายผู ้สม • อพยพประชากร (Evacuation) 91 คาจาก ัดความ การแยกโรค (Isolation) การแยกและจาก ัดการเคลือ ่ นทีเ่ ดินทางของผูป ้ ่ วย ด้วยโรคติดต่อร้ายแรง ม ักหมายถึงการแยกโรคในโรงพยาบาล เป็นมาตรการสาหร ับระด ับบุคคล การก ักก ันโรค (Quarantine) การแยกและจาก ัดการเคลือ ่ นทีเ่ ดินทางของ ั ัสโรค บุคคลทีส ่ บายดีแต่มป ี ระว ัติการสมผ ม ักหมายถึงการก ักบริเวณให้อยูก ่ ับบ้าน หรือ สถานทีซ ่ งึ่ กาหนดให้ หรือในบริเวณโรงพยาบาล เป็นมาตรการสาหร ับบุคคลหรือสาหร ับชุมชนก็ได้ 92 ต ัดทางแพร่กระจาย ปร ับปรุงสุขาภิบาล นา ้ อาหาร ขยะ สว้ ม ปร ับปรุงสุขอนาม ัย ปร ับปรุงสภาพแวดล้อม Control vector 93 Modify host response Immunization ประชากรทีม ่ ค ี วามไวร ับ ต่อโรค Personal protective Equipment Prophylactic chemotherapy Post exposure prophylaxis 94 การติดตามมาตรการควบคุมโรค การประเมินมาตรการควบคุม ิ ธิผลของมาตรการควบคุม คือ ประสท การเกิดโรคลดลงทุกว ัน หมายเหตุ แปลได้หลายความหมาย - มาตรการควบคุมกาล ังได้ผล ี่ งเป็นโรคหมดแล้ว - ประชากรทีเ่ สย ื้ โรคลดลงเองตามธรรมชาติ - แหล่งเชอ - การรายงานไม่สมา ่ เสมอ!!!! 95 ขนตอนการสอบสวนการระบาด ั้ (Steps in outbreak investigation) 1. เตรียมการออกภาคสนาม : Rapid Response Team 2. ยืนย ันการวินจ ิ ฉ ัย และยืนย ันการระบาดของโรค 3. กาหนดนิยามและค้นหาผูป ้ ่ วย 4. รวบรวมข้อมูลทางระบาดวิทยาเชงิ พรรณนา 5. ตงสมมุ ั้ ตฐ ิ าน ึ ษาเชงิ วิเคราะห์เพือ 6. การศก ่ พิสจ ู น์สมมุตฐ ิ าน ึ ษาพิเศษอืน 7. การศก ่ ๆ :-สารวจสภาพแวดล้อม Lab 8. สรุปและเสนอมาตรการควบคุมป้องก ันโรค 9. ติดตามผลการดาเนินงานควบคุมโรค 10. เขียนรายงานสอบสวนโรค 96 ตอนที่ 6: At work ends เขียนรายงานสอบสวนโรค ้ ระโยชน์ ่ กล ับให้ผเู ้ กีย สง ่ วข้องได้ใชป * กลุม ่ ผูบ ้ ริหารทีม ่ ห ี น้าทีใ่ นการควบคุมโรค * กลุม ่ เจ้าหน้าทีส ่ าธารณสุข ทีม ่ ห ี น้าทีเ่ ฝ้าระว ัง และควบคุมโรคในชุมชน * กลุม ่ ประชาชนและชุมชนทีเ่ กิดโรค หรือ ประชาชนทว่ ั ไป 97 But better information… leads to better results This means having: A good description of Time, Place, Person (TPP) Good data collection and preservation of samples A well coordinated multidisciplinary team Immediate detection Immediate response Reduced morbidity and mortality Outbreak Detection and Response First Case Detection/ Reporting Lab ConfirmationResponse DAY 40 37 34 31 28 25 22 19 16 13 10 7 Opportunity for control 4 1 90 80 70 60 CASES 50 40 30 20 10 0 Outbreak Detection and Response First Detection/ Case Lab Reporting Confirmation Response DAY 40 37 34 28 25 22 19 16 13 10 7 4 1 90 80 70 60 CASES 50 40 30 20 10 0 31 Opportunity for control Thanks for your kind attention Many slides in this presentation are from the World Health Organization, the European Programme for Intervention Epidemiology Training and work of ThaiFETP and SRRT 101