1 การพัฒนาเครือ ่ งมือเชิงคุณ ทีใ่ ช้ในการเก็บขอมู ล /การว ้ ในงานวิจย ั เชิงระบบและเช ดร.กุลทัต หงส์ ชยางกูร คณะพยาบาลศาสตร ์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร ์ hkullata@yahoo.com ความรู/้ การแสวงหาคว วิจยั เชิงปริมาณ 2 การรับรูรู ้ ปดอกไม้ มีกด ี่ อก บานแลวกี ่ อก ้ ด ใบไมกี ้ ใ่ บ ผีเสื้ อกีต ่ วั การรับรูรู ้ ปหญิงสาว มีกด ี่ อก บานแลวกี ่ อก ้ ด ใบไมกี ้ ใ่ บ ผีเสื้ อกีต ่ วั วิจยั เชิงคุณภาพ คุณคิดวาเป็ ่ นรูปอะไร มีอะไรทีท ่ าให้คุณคิดวาเป ่ รูสึ้ กอยางไรกั บภาพทีเ่ ห็ น ่ ความรู/้ การแสวงหาคว 3 DEDUCTION วิจยั เชิงปริมาณ กรอบ Truth เดียว มุ่งทดสอบ parts = whole INDUCTION อมู ลขอมูล ้ ขอมู ขอมู ลข ้ขอมู ล ้ ้ ้ล วิเคราะห์ ผล ขอมู ้ ขลอมู ้ ขลอมู ้ ขลอมู ้ ล มีกรอบ การศึ วิเคราะห์ ทางสถิติ Tool ตามกรอบ กษา ผล ข้อมูล objective การศึ วัดได้ สังเกตได้ Tool วิจยั เชิงคุณภาพ หลาย truths ขึน ้ กับบริบท context มุ่งค้นหา whole ไม่มีกรอบ Tool??? ข้อมูล subjective เก็บขอมู ล งานวิ จ ย ั เชิ ง คุ ณ ภา ้ 4 การวิจยั คุณภาพ = การศึกษาข้อมูล ผ่านประสบการณ์ วิถีการดาเนิน ิ จยั เชิงคุ่อณพฤต การเก็ บข้อมูิ ดลวความเชื ภาพิ กรรม ชีวิต ความค =ของผู การเก็ ใ้ ห้บขข้้ออมูมูลลตามธรรมชาติ ที่เป็ น จริง ในพืน้ ที่ สถานการณ์จริง = เป็ นภาพรวม holistic approach = ไม่เน้ นการค้นหาข้อมูลเชิงทฤษฎี เก็บขอมู ล งานวิ จ ย ั เชิ ง คุ ณ ภา ้ 5 “ดี”คือ อะไร? เชื่อถือได้ ~ Trustworthiness ข้อมูลที่ได้ _ ความ ความจริง ไม่ใช่สิ่งที่ “เรา-ผูว้ ิ จยั ” จริง (truth) รับรู้ว่าเป็ นจริง (Fact) แต่เป็ นความจริง (truth) ที่ “เขา- ผูใ้ ห้ ข้อมู ลเล่า เรื่อง ราว dialogue TRUTH DATA เก็บขอมู ั เชิง ้ ลงานวิจย คุณภาพอยางไรให ่ ้ได“้ ดี” นักวิจยั ฟัง/สังเกต ทาความ เข้าใจ แปลความ นักวิจยั ถ่ายทอดเป็ น TRUTH DATAิ จย ั VS รายงานว 6 ดี = เชื่อถือได้ Trustworth 7 กระบวนการในการได้ข้อ ผลการวิจย ั ต้องดี ดี = เชื่อถือได้ Trustworthin กระบวนการในการได้ข้อมูล ต้องดี -ทาตามความเชื่อ/ปรัชญาพืน ้ ฐานในการ แสวงหาความรู้ -วางแผนเก็บข้อมูลดี ได้ความจริงตรง ตามที่ผใู้ ห้ข้อมูลพูด -มีร่องรอยของการย้อนกลับไปถึงที่ มาได้ 8 ดี = เชื่อถือได้ Trustworthines 9 ผลการวิจย ั ต้องดี -อ่านแล้ว make sense เข้าใจได้ เห็นภาพรวม ของคาถามวิจยั part-whole -quotes เห็นภาพ มีความ วิธีการได้ข้อมูล การสัมภาษณ์ Interviewing การสนทนากลุ่ม FGDs 10 การบันทึกภาคสนาม Field notes การสังเกต Observation การสัมภาษณ์ Interviewing 11 ถาม อะไร มีโครงสร้าง ไมมี ่ โครงสราง ้ ใช้คาถามการวิจย ั เ ยืดหยุน ่ ตองอาศั ย ้ กาหนดคาถามลวงหน า ่ กึง ้ ่ มี โ ครงสร าง ้ ตามคาถามการวิจย ั กาหนดคาถามลวงหน า ่ ้ อยางละเอี ยด ่ ตามคาถามการวิจย ั ไมเสี ่ ยเวลา คาถามกวางๆ เพือ ่ ให้มี ้ งายส าหรับมือใหม่ ่ แนวทาง ไมเป็ ่ นธรรมชาติ ไมเสี ่ ยเวลา เก็บขอมู ั เชิงคุณภาพ ้ ลงานวิจย 12 การตัง้ คาถามการวิจยั เริ่มที่โจทย์ หรือ ชื่อของการ วิจยั 2) แปลงโจทย์ เป็ น วัตถุประสงค์ที่ต้องการศึกษา 1) เก็บขอมู ั เชิงคุณภาพ ้ ลงานวิจย 13 ตย.ชื่อเรื่อง : ประสบการณ์ของเด็ก วัยรุ่นตอนต้นไทยระหว่างการ เปลี่ยนโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา ตอนต้น คาถามิจยั : ประสบการณ์ของเด็ก แนวคาถามแบบไมมี ่ โครงสราง: ้ 14 1) ช่วยเลาให ้ กับตัว ่ ้ฟังหน่อยซิคะ่ วาเกิ ่ ดอะไรขึน ่ นมาเรียนชัน ้ ม.1 ง้ แตเปลี น้องบางตั ่ ย ้ 2) ช่วยเลาให บ ่ ้ฟังหน่อยซิคะ่ วารู ่ สึ้ กอยางไรกั ่ การเปลีย ่ นมาเรียนชัน ้ ม.1 มีอะไรหรือ ้น ใครทีท ่ าให้รูสึ้ กอยางนั ่ แนวคาถามแบบกึง่ มีโครงสราง: ้ 1) เกิดอะไรขึน ้ กับตัวน้องบางตั ง้ แตเปลี ่ นมาเรียน ้ ่ ย ชัน ้ ม.1 ทัง้ ในเรือ ่ ง การคบเพือ ่ น การเรียน การสอนของคุณครู การใช้ ชีวต ิ ประจาวัน และอืน ่ ๆ การสัมภาษณ์ (พูดคุยเจาะลึก 15 บริบทที่ จะทาให้ได้ข้อมูลที่ เป็ นจริง -ขออนุญาต บอก obj. ให้ชด ั -จัดที่ นัง่ พูดคุย ทาให้เกิด“อิสรภาพ” private ระดับเดียวกัน 90๐ สังเกตภาษากาย -สร้างสัมพันธ์ที่ดี คุยเรื่องทัวๆไป ่ ท่าทาง สีหน้ า น้าเสียง จดบันทึกไว้ ของเขา การสัมภาษณ์ (พูดคุยเจาะลึก 16 การพูดคุย -ใช้แนวคาถามที่ วาง ไว้ เจาะลึกไปเรื่อยๆ ทิ้งคาพูดให้เติม ทวนคาตอบ -หลีกเลี่ยง “ทาไม” มีอะไรที่ทาให้คิด/ การพูดคุย –สรุปยา้ สะท้อนสิ่งที่เล่า เป็ นช่วงๆ -อย่าชี้นา อย่า เผลอสอน -อย่าด่วนสรุป การสัมภาษณ์ (พูดคุยเจาะลึก 17 การเตรียมตัวก่อนสัมภาษณ์ -นอนให้พอ เพื่อconsciousness -เขียนบันทึกความเชื่อ ความคิด ค่านิยม ของตัวเองในสิ่งที่เกี่ยวข้อง กับการวิจยั ไว้ก่อน (pre understanding) -มือใหม่ ให้หด ั สัมภาษณ์ก่อน กับcase การสนทนากลุ่ม Focus group discussions: FGDs -เป็ น interview ชนิดหลาย -คนดาเนินการ สนทนา คน ไม่ให้ใคร -ต้องการข้อมูลใน -กลุ่มคน ่ ควบคุ ม กลุ ม ประเด็ น ใดประเด็ น หนึ ่ ง Homogeneous ทุ ก คนได้ --6-12 ไม่จาเป็ น ต้ อ ง คน พูด 18 เทคนิครวม ่ Field note Reflective journal Observation 19 การสังเกต Observation -ใช้มากในงานวิจย ั เชิงชาติ พรรณวรรณา -เอามาร่วมในการตี ความ อธิบายการตีความ -ใช้การถ่ายภาพประกอบ 20 การบันทึกภาคสนาม ขณะสัมภาษณ์ -เผือ ่ อัดเทปไมติ ่ ด -ขออนุ ญาต -จดสั้ นๆ ผูกกับหัว เรือ ่ งทีเ่ ลา่ 21 Fi การบันทึกภาคสนาม 22 หลังสัมภาษณ์ -ทาทันทีหลังสั มภาษณ ์ เวลา สถานที่ -ระบุวน ั ที่ -จดให้ละเอียดทีส ่ ด ุ ตามลาดับกอนหลั ง ่ เป็ นรูปธรรม ไมต งวลกับภาษา ไมใส ่ องกั ้ ่ ่ ความเห็ นความรูสึ้ กส่วนตัว“ขณะพูดเรือ ่ ง เพือ ่ นนิสัยไมดี ่ เด็กมีทาที ่ โกรธ ใช้มือตบ เขา่ น้าเสี ยงดัง รัว เร็วขึน ้ ” ทาทุกครัง้ แม้ F -เป็ นสิ่งที่ ต้องทา Reflective journal -ทาได้ตงั ้ แต่ก่อนสัมภาษณ์ หลัง สัมภาษณ์ และ เมือ่ มีสิ่งต่างๆเข้ามาใน ชีวิตแล้วมีผลต่อการศึกษาของเรา -ทาไป อ่านหนังสือไป คิดเปลี่ยน สะท้อนความคิดตัวเองไว้ -สิ่งที่ สะท้อน: เรื่องราวที่ ฉุกคิด 23 การเตรียมขอมู ่ ว ้ ลเพือ 24 ถอดเทป จาก speech + tempo + field note Theme Quotes ใส่ 1 พอสอบได พอรู ข าวว าสอบได ้ ้ ่ ้ บรรทั เสียงสูงท่าทางดี่ ใจ เราก็ดใี จมาก 2 ด เพราะวาได อยู ยนทีเ่ ราชอบ ่ ้ โรงเรี ่ ท าทาง ่ 3 น้าเสี ยง หมาย เหตุ นักวิจย ั ฟัง-เช็คความถูกต้องของการถอดเ การเตรียมขอมู ่ ว ้ ลเพือ 25 ถอดเทป จาก speech + tempo + field note Theme Quotes ใส่ 1 พอสอบได พอรู ข าวว าสอบได ้ ้ ่ ้ บรรทั เสียงสูงท่าทางดี่ ใจ เราก็ดใี จมาก 2 ด เพราะวาได อยู ยนทีเ่ ราชอบ ่ ้ โรงเรี ่ ท าทาง ่ 3 น้าเสี ยง หมาย เหตุ การวิเคราะหข ้ ์ อ 26 ข เริม ่ ตัcase2 ง้ แตcase4 ้ ลชุดแรก เก็บไป วิเคร ่ อมู case1 case3 วิเคราะห์6( ิ ว เ คราะห์ 4( case4) วิเคราะห์7(1+2+ ิ ว เ คราะห์ 2 (c วิเคราะห์ case3) วิเคราะห์5(1+2 3+4) ase2) 3(1+ วิเคราะห์ 1(case1) +3) การ การอานท าความเขาใจแต ละ case์ เริม ่ ่ ้ วิเคราะห ่ จาก case 1 ขอมู ล ้ 27 1) อานหลายๆครั ง้ ให้เขาใจ case อานเมื อ ่ ่ ้ ่ พรอม อย่าตะลุยอ่าน ้ 2) อานไป บันทึกความคิดไป เป็ น audit trail ่ วิธก ี ารตัดสิ นใจแยกกลุม ่ กาหนดthemes การ 3) อานเรี ยงบรรทัด วิ หาค าตอบตาม เคราะห ่ ์ คาถามการวิจย ั ; ใช้เครือ ่ งหมาย// ข อมู ล ้ แบงกลุ มเรื อ ่ ง เมื อ ่ เปลี ย ่ นเรือ ่ ง; อานหา ่ ่ ่ อ ่ งราว ความเหมือน ความตางของเรื ่ ใกลเคี ่ ้ ยงกันใส่สี เดียวกัน; ตัง้ ชือ (theme) คราวๆ (เปลีย ่ นแปลง ขยับไป ่ มาได)้ ใส่ไวในช ้ ่ องทางซ้าย 4) ส่วนทีเ่ ป็ นบริบท สิ่ งทีท ่ าให้เขาใจ ้ ในสิ่ งทีผ ่ ใ ู หขอมูลคิด ใหสรุปไวใน 28 การวิเคราะหระหว าง ่ ์ 29 1) อาน case ตอไป หาความเหมือน ่ ่ ความตางกั เรือ ่ งราวใหม่ นระหวางcase ่ ่ ไมซ ่ า้ ใส่สี ใหม่ ทาไป 3-4 case ขยับกลุมไปมาได ่ ้ 2) เริม ่ แยกแตละสี ไปใส่ตารางใหม่ ดึงชือ ่ ่ theme ทีใ่ ส่ไวในช ่ ได้ ้ ่ องซ้ายไปเป็ นชือ 1 สี 1 ชือ ่ theme หลวมๆ อาจใช่/ ไมใช ่ ่ กลายเป็ น theme เล็กๆก็ได้ 3) ในแตละสี อานทบทวน กลัน ่ กรอง ่ ่ จัดแบงเป็ นกลุมเล็กๆ ถาเป็ นวิจย ั ที่ ประสบการณ์ของวัยรุ่น ตอนต้น คาถามการวิ ต่อการเปลี่ยนโรงเรี ยน จยั : นรู วัยรุนตอนต ย ่ น ่น ่ ่ช่วงชัอการเปลี ้ สึ้ กอยสูางไรต ่ ที่ 2น้ ที่ 2 โรงเรียนสู่ช้ ่ วงชั 30 Theme 1: Encounter with changes 31 Emotional alteration หงุดหงิ ไม่ดง่ มนใจใน ั ่ าย ตนเอง เหนื่ อยและ เบื่อเรียรูน้สึก เครี่ยยวด โดดเดี ิ ดถึงเพื่อน ท่าคมกลางคน วิธีการเรียน สังคมที่ไม่ค้นุ ช ที่แตกต่าง กรอบด้วย กฎระเบียบ ล้ข้อมมด้ วย ที ่ เ งวด และลึ เน้ นรับกผซึิ ด้งชอบ พฤติกรรม และ ไม่เหมาะ งานยาก และมาก ซับซ้อน Theme1 Sub-theme 1: Emotional alteration perception of one’s own mood and inner feeling changes related to developmental growth during adolescence, as well as surrounding circumstances 1.Easy annoyance perception of one’s own mood that was easy to change when was aroused by surrounding stimulus I’m hot temper…I felt being increased annoyance Having menses, wearing pad & keeping it in secret is difficult to perform myself. It also make me sick, stomach-ache, worrisome, annoy & awkward I’m easily being annoyed. My friends were talkative in class to the extent that it was loud noise. It was very noisy, I felt annoying 32 3. Being tired & bored of study 2. Low self-confidence feeling of less belief in one’s own capability when were in public I lacked for self confidence when doing things…I feel low confidence in myself. I was too fat. I wasn’t beautiful. I was frightened as I stood alone. My friends all were taking a look at me It’s as if I was low self confidence when I walked elsewhere. It’s unlike if I had friends that we could persuade ourselves to, say, let’s sit together. feeling of weary & no energy left for study I have to take extra courses…at home, (I) have to do homework. It’s like ka..a, I felt tired…d Sometimes I feel bored. I wasn’t willing to do any of these works. I was tired and bored to do these works which I was forced to do speak in a drawl (I) feel bored…just concentrating on only study is boring Ummm sometimes I hardly wanted to learn. Sometimes I thought why I had to learn… Theme 2: ปรับเปลี่ยนชีวิต ปรับการ เรีจัยดนการ ชีวดูิ ตแประจ ลตัวาวั เองน ใหม่ สร้างสัมพันธ์ ทาตามกฎ ยอมรับสภาพการ 33 Theme 2 Sub-theme 1: self adjustment 2. Rearranging daily life activities arrange their time for learning, set priority tasks, and rearrange daily activities Arrange their time for learning: I rearrange my time for doing homework and reading books. I go to bed…night now…I need to tutor, read, take an extra course, and self-reviewing Set priority tasks: Once having assignments, I’ll immediately do Rearrange daily activities: I need to get up earlier from 6 to 5 a.m., need to hurry up to go to the school We’ve to hurry to reach the class in time …adjust myself with the school’s style. For example, hurry to the canteen. I’ve to be more enthusiastic (cont) 34 3. Caring one’s own life concerned & made efforts to maintain their health & safety I’ll quickly come out if seniors are smoking…It’s bad for health…We’ll get a cancer Once boys had a terrible quarrel, they traded abuse to each other…I didn’t want to deal with it. It might be accessory to that quarrel. I’m afraid of stranger…I’ve to be careful on stranger here I’ve to relax, leave any stress behind. Thinking positively I felt that it’s too serious, so I learned to play music I read books, it’ll make me more relax I have period...I try to investigate the leaked blood on my clothes at all time It doesn’t look proper if we still run around and make noises like small children…For a teenager, wearing skirts too short is not appropriate Theme 3: เติบโตเป็ นผูใ้ หญ่ เป็ นอิสระ พึ่งพา ตนเอง ผู้เรียนรู้ ด้วตัยตนเอง ดสินใจด้วย ตนเอง ต้องพัฒนา ตัวเอง 35 Expanding breadth of mind โลกทัศน์ กว้างขึน้ เข้าใจความ ต่างของคนอื ความรู้เพ่นิ่ มขึน้ Theme 3 Sub-theme 1: Being Self-independence perception about their increasing ability to make their own decision and responsibility in doing things by themselves 1. Self-directed learner perception about themselves of being responsible, enthusiastic, thinkable, and self-independent to manage their learning process I myself developed…more responsible…I’m more diligent, active to learn We’ve been taught to think, research by ourselves here. We’re adolescent. Be taught like this lead us think, research through self-learning 36 2. Self-determination perception of their owner freedom in making decisions and doing activities A teacher gave us a freedom to choose what we love…without any control I must be in the same room like I was placed under classroom arrest… There are many places to go…walk to change atmosphere… If I didn’t study in computer subject, I won’t know how to use the internet. My dad hasn’t allowed me to use it. Someone thought that I’m sycophant but it’s her thought ใบงาน รู้สึกอย่างไรกับการอบรม เรื่อง “การจัดการงานวิจยั เชิงระบบและ เชิงนโยบายด้ านสาธารณสุ ” า 1) ทาเดี ่ยว 15 นาที : ตอบ 1ขหน้ ไม่ต้องเป็ นประโยค ก็ได้ 2) ทาเดี่ยว 15 นาที : แลกกับเพื่อน ที่ห่างๆ กัน ให้เพื่อนอ่าน แล้ว 37 References 38 กิตติพฒ ั น์ นนทปัทมะดุล. (2546). การวิจย ั เชิงคุณภาพในสวัสดิการสังคม: แนวคิดและวิธวี จิ ยั . กรุงเทพ: โรงพิมพ ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร.์ เบญจา ยอดดาเนิน-แอ็ตติกจ ์ และกาญจนา ตัง้ ชลทิพย.์ (2552). การ วิเคราะห์ขอ้ มูลเชิงคุณภาพ: การจัดการข้อมูล การ หาความหมาย. กรุงเทพ: ชีโนพับลิชชิง่ . ตีความ และการ Hongchayangkool, K. (2008). Lived experience of Thai early adolescents during transition to secondary school. Dissertation of Doctor of Philosophy, Ching Mai University Thailand. Sandelowski, M. (1991). Rigor or rigor mortis: The problem of rigor in qualitative research revisited. Advances in Nursing Science, 16(2), 1-8. Sandelowski, M. (1995). Qualitative analysis: What it is and how to begin. Research in nursing & health, 18, 371-375. Varkevisser, C. M., Pathmanathan, I., & Brownlee, A. (2003). Designing and conducting health systems research projects: Part II: Data analysis and report writing. 39 QUESTIONS? QUESTIONS? QUESTIONS?