แผนบริหารการสอนประจาบทที่ 2 บทที่ 2 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการอ่าน (Basic Knowledge of reading) 12 ชั่วโมง 2.1 โครงสร้างของคา (Word Formation) 2.2 หลักการใช้ตัวอักษรตัวใหญ่ (Capitalization Rules) 2.3 รูปแบบของคาพหูพจน์ (Forming Plurals) 2.4 สานวนและสุภาษิต (Proverbs and Idioms) 2.5 เครื่องหมายวรรคตอน (Punctuations) สรุป คาถามทบทวน เอกสารอ้างอิง วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม เมื่อนักศึกษา ศึกษาบทเรียนนี้จบแล้ว นักศึกษาสามารถ 1.บอกความแตกต่างระหว่าง อุปสรรค (Prefix) ปัจจัย (Suffix) และนาไปใช้ได้อย่างถูกต้อง 2. เขียนตัวอักษรตัวใหญ่ในประโยคได้อย่างถูกต้อง 3. ใช้รูปคารูปพหูพจน์และเครื่องหมายวรรคตอนได้อย่างถูต้อง 4. เขียน อธิบาย ความหมายของสานวน และสุภาษิตได้ถูกต้อง วิธส ี อนและกิจกรรม 1. ทาการทดสอบก่อนเรียน (Pre –Test) 2. ศึกษาเอกสารประกอบการสอน วิชาภาษาอังกฤษสาหรับครู 2 บทที่ 2 3. บรรยายพร้อมยกตัวอย่างประกอบ 21 4. ทากิจกรรมกลุ่ม 5. สรุปบทเรียน 6. ทาการทดสอบหลังเรียน (Post –Test) 7. มอบหมายงาน สือ ่ การเรียนการสอน 1. แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre –Test) และหลังเรียน (Post – Test) 2. โปรแกรมสาเร็จรูป (Power Point) 3. เอกสารประกอบการสอน วิชาภาษาอังกฤษสาหรับครู 2 บทที่2 4. ใบงาน การวัดผลและประเมินผล 1. สังเกตการทากิจกรรมระหว่างเรียน 2. ตรวจแบบฝึกจากใบงาน บทที่ 2 ความรูเ้ บือ ้ งต้นเกีย ่ วกับการอ่าน (Basic Knowledge of Reading) บทนา (Introduction) การอ่านเป็นทักษะหนึ่งในสี่ทักษะของการเรียนภาษา ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ 22 เป็นทักษะที่จาเป็นสาหรับการเรียนในระดับมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะนักศึกษาคณะครุศาสตร์ต้องออกไปประกอบอาชีพครูใ นอนาคต ครูในอนาคตในยุคที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (AEC) ในปี พ.ศ. 2558 นักศึกษาต้องอ่านเป็นและอ่านเก่ง เพื่อเก็บสาระ ความรู้ให้มากและให้เร็ว ที่สาคัญนักศึกษาต้องทันต่อเหตุการณ์ การก้าวข้าสู่ประชาคมอาเซียนของประเทศ การสื่อสารทุกรูปแบบที่เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่ใช้ติดต่อสื่อสารกันทั่วโลก และประเทศในกลุ่มอาเซียนได้มีมติให้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ ใช้สื่อสารติดต่อกันในกลุ่มประเทศสมาชิก ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการอ่านเป็นสิ่งสาคัญในการพัฒนาภูมิปัญ ญาของนักศึกษาให้เป็นผู้รู้ รู้เขา รู้เรา ทันต่อสังคมโลก เตรียมตัวพร้อมที่จะเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าของประเทศ เป็นครูที่ดีและสร้างเยาวชนของชาติให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพแล ะศักยภาพ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศสืบไป ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการอ่าน ความรู้เดิม (Background knowledge) เป็นสิ่งสาคัญในการเชื่อมโยงสิ่งที่มีอยู่เดิมเข้ากับสิ่งใหม่ มีสิ่งที่จาเป็นต้องทราบเป็นหลักเบื้องต้นหลายประการดังนี้ 1. โครงสร้างของคา 2. หลักการใช้ตัวอักษรตัวใหญ่ 3. รูปแบบของคาพหูพจน์ 4. สุภาษิต และสานวน 5. เครื่องหมายวรรคตอน 2.1 โครงสร้างของคา (Word Formation) 23 ปัญหาของการอ่านภาษาอังกฤษสาหรับนักศึกษาไทย คือ การที่ไม่ทราบความหมายของคาศัพท์ เนื่องจากภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาของเรา ดังนั้นการที่รู้คาศัพท์น้อยเป็นเรื่องธรรมดาสาหรับนักศึกษาไทย นักศึกษาจึงต้องหาความรู้เพื่อเพิ่มพูนเกี่ยวกับคาศัพท์ภาษาอังกฤ ษ เพื่อเป็นการช่วยให้นักศึกษาสามารถอ่านภาษาอังกฤษได้เข้าใจ แต่การที่นักศึกษาจะหาความรู้เพื่อเพิ่มพูนคาศัพท์โดยการท่องจา หรือเปิดพจนานุกรม นั้นมิได้เป็นวิธีการที่ถูกต้อง เพราะการที่ทาเช่นนั้นเป็นการรู้ความหมาย เพียงชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้นมิได้เป็นการรู้แบบยั่งยืน การที่จะได้ความรู้แบบยั่งยืนนั้น นักศึกษาต้องศึกษาด้วยความเข้าใจอย่างถ่องแท้และความรู้ที่ได้จ ะเป็นความรู้แบบยั่งยืนและนาไปปฏิบัติได้ ในเรื่องของคาศัพท์ คาศัพท์ที่นักศึกษาได้ความหมายมาจากพจนานุกรมนั้นเป็นความ หมายที่เรียกว่า lexical meaning หรือ เป็นความหมายที่มาจากโครงสร้างของประโยคที่เรียกว่า structure meaning หรือ เป็นความหมายของคาที่มาจากวัฒนธรรมของชาติต่างๆที่เรียกว่า culture meaning แต่การที่จะได้ความรู้แบบยั่งยืนนั้น ควรจะเรียนรู้คาศัพท์ในลักษณะที่มีความเข้าใจในเรื่องของ root, prefix และ suffix เพราะทั้งสามสิ่งนี้เป็นต้นกาเนิดของคาศัพท์ต่างๆของภาษาอังกฤ ษ 2.1.1 Roots เป็นรากศัพท์ หรือเป็นฐานของคาศัพท์ภาษาอังกฤษประมาณ 60% มาจากภาษากรีกหรือภาษาละติน และมีการยืมคามาจากตระกูลภาษาอื่นอีก เช่น Germanic 24 (German, Dutch) และภาษา Scandinavian (ซึ่งมี Denmark, Sweden, Norway และ Iceland) และภาษาโรม้านซ์ ( French, Spanish, Italian, Portuguese และ Rumanian) นอกจากนี้ยังมีภาษาอังกฤษสมัยใหม่ที่ยืมมาจากภาษา Arabic, Persian, Chinese, Japanese และMalaysian Root เป็นส่วนที่ให้ความหมายหลัก เมื่อมี prefix เป็นส่วนที่เติมเข้าหน้าคา หรือ suffix มาเติมเข้าส่วนท้ายของคา เพื่อที่จะให้ได้ความหมายที่สมบูรณ์ในภาษาอังกฤษ ดังนั้นนักศึกษาจึงต้องเรียนรู้สิ่งเหล่านี้เพื่อเป็นแนวทางในการอ่าน ภาษาอังกฤษที่มีประสิทธิภาพ 2.1.2 Prefix หมายถึง “อุปสรรค”เป็นคาที่เติมหน้ารากศัพท์ (root) แล้วเกิดความหมายใหม่ในภาษาอังกฤษที่นิยมกันส่วนใหญ่มี 10 ตัวคือ 1. anti- มีความหมายว่า ต่อต้าน เมื่อเติมหน้าคานามแล้วเกิดความหมายใหม่ที่มีความหมายว่าของ คาว่าต่อต้านรวมอยู่ด้วย เช่น anti + aid = anti aid anti + aircraft = anti aircraft anti +bacteria = antibacterial anti + biotic = antibiotic anti + body = antibody anti + cavity = anti cavity anti + government = anti government 25 anti + personnel = antipersonnel anti + social = antisocial anti +virus = antivirus 2. dis - มีความหมายตรงข้าม เมื่อเติมหน้าคากริยา หรือคาคุณศัพท์ เช่น dis + agree = disagree dis + appear = disappear dis +appoint = disappoint dis + approve = disapprove dis + arrange = disarrange dis + continue = discontinue dis + credit = discredit dis + favor = disfavored dis + like = dislike dis + similar = dissimilar 3. en - เป็นอุปสรรคที่ไม่มีคาแปลที่แน่นอน เมื่อวางไว้หน้าคานาม เช่น en + able = enable en + camp = encamp en + courage = encourage en + danger = endanger en + sure = ensure 4. im - เป็นอุปสรรคที่เติมหน้าคาคุณศัพท์ หรือคากริยาวิเศษณ์ มี 26 ความหมายตรงข้ามกับ เช่น im + polite = impolite im + possible = impossible im + pure = impure im + prudent = imprudent im + mature = immature 5. in - เป็นอุปสรรคที่เติมหน้าคาคุณศัพท์ มีความหมายตรงข้ามกับ เช่น in + ability = inability in + attention = inattention in + auspicious = inauspicious in + complete = incomplete in + correct = incorrect in + direct = indirect 6. mis - เป็นอุปสรรคที่วางไว้หน้าคานาม มีความหมายว่า ผิด เช่น mis + fortune = misfortune mis + hear =mishear mis + spell = misspell mis + write = miswrite 7. poly- เป็นอุปสรรคที่วางไว้หน้าคานาม มีความหมายว่า หลายหลาย เช่น poly + clinic = polyclinic poly + gamy = polygamy 27 poly + technical = polytechnics poly + phony = polyphony 8. pre - เป็นอุปสรรคที่วางไว้หน้าคานามหรือคากริยา มีความหมายว่า ก่อน เช่น pre + college = pre college pre + entrance = pre entrance pre + final = pre final pre + history = prehistory pre + test = pretest pre + university = pre university 9. re - เป็นอุปสรรคที่วางไว้หน้าคานาม หรือคากริยา มีความหมายว่า ทาอีก ทาซ้า เช่น re + call = recall re + cycle = recycle re+ marry = remarry re + play = replay re + read =reread re+ write = rewrite 10. un -เป็นอุปสรรคที่วางไว้หน้าคุณศัพท์ หรือคากริยาวิเศษณ์ มีความหมายว่า ไม่เช่น un + certain = uncertain un +clear = unclear un +countable = uncountable un +happy = unhappy 28 un + satisfied = unsatisfied un + suitable = unsuitable un + used = unused un + usual = unusual นอกจากอุปสรรคที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีอุปสรรคที่เกี่ยวกับการนับ หรือตัวเลขที่ควรทราบได้แก่ คาว่า mono ที่มีความหมายว่า หนึ่ง ได้แก่คาว่า monochrome สีเดียว monocle แว่นตาข้างเดียว monogamy การมีคู่สมรสคนเดียว monologue การพูดคนเดียว monomania การครุ่นคิดถึงสิ่งเดียว monopoly เอกสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว monorail รถไฟรางเดียว monosyllable คาพยางค์เดียว monotone เสียงระดับเดียว คาว่า uni ที่มีความหมายว่า หนึ่ง ได้แก่คาว่า uniform (เครื่องแบบที่เหมือนกัน) แบบเดียว unit หน่วย unity หน่วยเดียว หนึ่งเดียว 29 universe จักรวาล มีหนึ่งเดียว university มหาวิทยาลัย คาว่า bi ที่มีความหมายว่า สองได้แก่คาว่า bicameral ระบบรัฐสภาที่มีสองสภา bicentenary วันครบรอบ สองร้อยปี bigamy การจดทะเบียนซ้อน bikini ชุดว่ายน้า สองชิ้น bilateral ทวิภาคี bimonthly เดือนละ สองครั้ง binoculars กล้องสองตา bivalve สัตว์จาพวกหอยกาบคู่ คาว่า tri ที่มีความหมายว่า สาม ได้แก่คาว่า trilogies สามภาษา triangle สามเหลี่ยม tricycle สามล้อ triple สามเท่า คาว่า poly ที่มีความหมายว่า หลากหลาย ได้แก่คาว่า polyclinic คลินิกที่รักษาหลายๆโรค โพลีคลินิก polytechnic เทคนิคที่มีหลายสาขาวิชา โพลีเทคนิค คาว่า mega ที่มีความหมายว่า ใหญ่ มากได้แก่คาว่า mega project โครงการใหญ่ๆ 30 mega store คาว่า ได้แก่คาว่า ร้านใหญ่ๆ demi, hemi, semi มีความหมายว่า ครึ่ง demi-god ครึ่งคน ครึ่งเทวดา hemisphere ครึ่งซีกโลก semicircle ครึ่งวงกลม 2.1.3 Suffix หมายถึง “ปัจจัย”เป็นคาที่เติมหลังรากศัพท์ (root) แล้วทาให้เกิดความหมายที่ชัดเจนขึ้น คาที่เติม ปัจจัย (suffix) แล้ว หน้าที่ของคา (part of speech) ของคานั้นเปลี่ยนด้วย เช่น play มีความหมายว่า เล่น มีหน้าที่ของคา (part of speech) เป็นคากริยา (verb) หมายถึง เล่น เมื่อเติม suffix –er ที่ท้ายคา = player หมายถึง ผู้เล่น มีหน้าที่ของคา (part of speech) เป็นคานาม (noun) หรือ กริยา play + ful = playful มีความหมายว่า ชอบเล่น ขี้เล่น และมีหน้าที่ของคา (part of speech) เป็น คาคุณศัพท์ (adjective) Suffix เป็นการสร้างคาใหม่โดยการเติมปัจจัยเข้าไปที่ท้ายคาโดยที่มีการ สร้างดังนี้ 31 2.1.3.1 การสร้างคานามโดยการเติม ปัจจัย -ar, –er, -or, - ist, -ment, -ation หรือ –tion ที่ท้ายคากริยา beg + ar = beggar buy + er = buyer dance + er = dancer drive + er = driver farm + er = farmer lecture + er = lecturer manage +er = manager open +er = opener play + er = player sell + er = seller speak + er = speaker teach + er = teacher wait + er = waiter type + ist = typist act + or = actor sail + or = sailor agree + ment = agreement amaze + ment = amazement develop + ment = development move + ment = movement 32 pay + ment = payment retire + ment = retirement state + ment = statement admire + ation = admiration associate + ation = association correct + tion = correction dictate + tion = dictation decide + tion = decision elect + tion = election examine + ation = examination organize + ation = organization permit + tion = permission protect + tion = protection suppress + ion = suppression 2.1.3.2 การสร้างคานามโดยการเติม ปัจจัย –ity, -ty, -ness ที่ท้ายคาคุณศัพท์ cruel + ty = cruelty familiar + ity = familiarity generous + ly = generously honest + ty = honesty odd + ity = oddity pure + ity = purity regular + ity = regularity 33 scarce + ity = scarcity stable + ity = stability stupid + ity =stupidity aimless + ness = aimlessness bold + ness = boldness dark + ness = darkness deaf + ness = deafness great + ness = greatness happy + ness = happiness kind + ness = kindness mad + ness = madness minded + ness = mindedness rich + ness = richness sad + ness = sadness 2.1.3.3 การสร้างคากริยาที่มาจากคานามโดยการเติมปัจจัย -ize, ify American + ize = Americanize legal + ize = legalize modern + ize = modernize popular + ize = popularize beauty + ify = beautify liquid + ify = liquefy 34 pure + ify = purify simple + ify = simplify 2.1.3.4 การสร้างคากริยาวิเศษณ์ (Adverb) ที่มาจากคาคุณศัพท์ (adjective) โดยการเติมปัจจัย –ly, ward, -wise easy + ly = easily heavy + ly = heavily main + ly = mainly quick + ly = quickly slow + ly = slowly stupid + ly = stupidly home + ward = homeward back + ward = backward up + ward = upward length + wise = lengthwise 2.1.3.5 การสร้างคาคุณศัพท์ ที่มาจาก คานาม คากริยา โดยการเติมปัจจัย –able, -ful, – ic, -ical, -less - able ให้ความหมาย หมายถึง สามารถ brake + able สามารถแตกหักได้ debate + able สามารถโต้แย้งได้ (โต้วาที) love+ able สามารถรักได้ = breakable = debatable = loveable 35 wash + able = washable สามารถซัก ทาความสะอาดได้ - ful ให้ความหมาย หมายถึง เต็มไปด้วย beauty + ful เต็มไปด้วยความสวย = beautiful care + ful = careful ระมัดระวัง สวยงาม child + ful = childful สภาวะหญิงที่มีลูกมาก hope + ful = hopeful เต็มไปด้วยความหวัง pain + ful = painful เต็มไปด้วยความเจ็บปวด play + ful =playful seed + ful เมล็ดมาก เล่นมาก ขี้เล่น = seedful เต็มไปด้วยเมล็ด - less ให้ความหมาย หมายถึง เล็กน้อย care + less ไม่ระมัดระวัง = careless child + less = childless สภาวะหญิงที่ไม่มีลูก hope + less หมดหวัง สิ้นหวัง = hopeless pain + less เจ็บปวดเล็กน้อย = painless seed + less แทบจะไม่มีเมล็ด = seedless 36 สะเพร่า -ic, cal, ical, al ให้ความหมาย หมายถึง เกี่ยวกับสิ่งที่กล่าวถึง atom + ic = atomic แห่งอนุภาคเล็กๆ ตามหลักของอนุภาคเล็กๆ biology + cal = biological แห่งชีววิทยา ตามหลักชีววิทยา grammar + tical = grammatical แห่งหลักไวยากรณ์ ตามหลักไวยากรณ์ music + al = musical แห่งดนตรี ตามหลักการดนตรี 2.2 หลักการใช้ตว ั อักษรตัวใหญ่ (Capitalization Rules) ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่มีระเบียบแบบแผนมาตั้งแต่โบราณ กาล ตั้งแต่การออกเสียง การสร้างคา การยืมคามาจากภาษาอื่น รวมถึงการเขียนด้วย การเขียนที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ ที่มีระเบียบแบบแผน พบในกลุ่มผู้ที่มีการศึกษา เนื่องจากภาษาเขียนเป็นภาษาที่นากฎ ระเบียบว่าด้วยเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องมารวมกันเป็นการเขียน การใช้อักษรตัวใหญ่ได้ให้ความหมายในประโยคว่าด้วยการสื่อข องคานั้นที่เขียนด้วยตัวอักษรตัวใหญ่ ซึ่งในปัจจุบันนี้มีการใช้ตัวอักษรที่ไม่ค่อยถูกต้องและชัดเจน อันเป็นผลเนื่องมาจากสื่อต่างๆ ภาษาที่ใช้ในการโฆษณา จากสื่อต่างๆ เช่น หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ สื่อออนไลน์ อินเทอร์เน็ต เฟสบุ๊ค การใช้ตัวอักษรตัวใหญ่เป็นการใช้ไม่เสถียร (inconsistency) อยากจะเขียนด้วยตัวอักษรตัวใหญ่ก็เขียน อยากจะเขียนด้วยตัวอักษรตัวเล็กก็เขียน เขียนด้วยตัวอักษรตัวใหญ่ผสมตัวอักษรตัวเล็กยังมีให้เห็นอยู่เสมอ เมื่อถูกถามว่าใช้ตัวอักษรตัวใหญ่เมื่อใด 37 ผู้ตอบมักตอบว่าใช้ตามๆกันมาโดยไม่ทราบว่าการใช้ตัวอักษรตัวใ หญ่มีระเบียบแบบแผน มีหลักการใช้ ซึ่งหลักการใช้มีหลักดังต่อไปนี้ 1. ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่กับการขึ้นต้นประโยค (Capitalize the beginning of a sentence.)ไม่ว่าประโยคนั้นจะเป็นประโยคประเภทใดก็ตาม Contrary to popular belief, working with patients with mental problem is not as stressful as it is made out to be. To see them make progress and eventually get back into society is highly rewarding for me. Accept the good as well as the bad, ignore the ugly. No, they are not new students. This weekend many bring romantic partner closer. Don’t labor under false assumptions or give deceptive impression. You can’t fool me! That was a jealous! Don’t stir up resentment or jealousy. 38 Don’t ignore Myanmar politics, Suu Kyi tells EU. Were you snoozing at my desk while I was gone? How do you wrap yourselves around your prey? How social status affects your health Shake gently before Balance modern elegance with meaningful experiences at Phachara Suites 2. ใช้ตัวอักษร “I” เป็นคาสรรพนาม ในทุกตาแหน่งที่อยู่ในประโยค I understand it is a very rare case for the International Monetary Fund (IMF) to suggest Thailand drop its multi – billion baht. However, I would like to say that sometimes their commentary has been extremely which has been making superhuman efforts to get to all those in need and it is unhelpful to criticize these efforts I don’t know I can take another winter up here, I’m not built for this type of gloom… I need to go south. 39 I felt great, however, I was asymptomatic, and the cancer was growing so fast inside me that was just a matter of time. 3. ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่กับวิสามานยนาม (Proper Nouns) โดยเฉพาะชื่อคน สถานที่ และชื่อองค์กรต่างๆ ในทุกตาแหน่งของประโยค เป็นข้อสังเกตอย่างหนึ่งว่าถ้าเป็นวิสามานยนาม หรือชื่อเฉพาะ ต้องเขียนด้วยตัวอักษรตัวใหญ่เสมอ Taylor Swft’s fans have done it again. Ms. Yingluck urged the public not to support unlawful protests and to cooperate with the authorities. - They alleged the Yingluck government had become unlawful since it had refused to accept the ruling the Constitution Court in nullifying the charter amendment draft last Wednesday. They claimed their occupation of these state offices was prevented officials from working for such as an illegal government. Manchester United used to be master of scoring late goals but manager David Moyes is worried that late lapses are costing his side precious Premier League points. 40 Patum Rice Mill and Granary Plc, a leading rice export and distributor of Maboonkrong packed rice, is branching out launch two Japanese restaurant brands next year. The World Bank is cutting its forecast for Thailand’s GDP this year on a sluggish third quarter and weak exports, says Krida Bhaoppiychtr, bank’s senior economist for Thailand. Yum! Brand Inc said on Wednesday that it would combine the US and international divisions of KFC, Pizza Hut and Taco Bell and keep its China and India units separate as part of a reorganization. 4. ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่กับ ชื่อศาสนา ชื่อคัมภีร์ ชื่อพระเจ้า The Bible has many stories of the Virgin Mary and Jesus. Aphroddite, the goodness of love and Beauty, was the daughter of Zeus and Dione. 5. ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่กับ วันทั้ง 7 และเดือนทั้ง 12 ส่วนฤดูกาลไม่ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่ เว้นแต่คานั้นเป็นชื่อหนังสือ ชื่อเรื่อง 41 We love the autumn because of Halloween and Thanks giving. Sunday and Monday are my weekend. My favorite day is Friday because it means happiness and my favorite month is January. ชื่อหนังสือ ชื่อเรื่อง ที่เป็นชื่อฤดูกาลใช้ตัวอักษรตัวใหญ่ The catalog for Spring 2014 will be out in February. The Spring is my favorite book. Love in Rainy Season 6. ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่กับชื่อประเทศ ชื่อเมือง ภาษา และสัญชาติ We went to Japan to study Japanese language. The Chinese speak Mandarin in Beijing China. Today, students study modern languages such as English, Chinese, Japanese and French. There are ten countries for ASEAN; Brunei, Cambodia, Indonesia, Laos, Singapore, Thailand, Malaysia, Philippines, Myanmar and Vietnam. Here are counties and capitals of ASEAN. ตารางที่ 2.2.1 ประเทศและเมืองหลวงของประเทศในกลุ่มอาเซียน 42 Countries Capitals Brunei Bandar Seri Darussalam Begawan Cambodia Phnom Penh Indonesia Jakarta Laos Vientiane Singapore Singapore City Thailand Bangkok Malaysia Kuala Lumper Philippines Manila Myanmar Naypyidaw Vietnam Ho chi min 7. ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่กับความสัมพันธ์เมื่อต้องการใช้แทนวิสามานย นาม (Proper Nouns) โดยเฉพาะชื่อคน She went on a trip with Father. (คาว่า Fatherใช้แทนชื่อของพ่อ) 43 When we go to the movie with my brothers, my Brother Suwit always has to be remained to be quiet. (คาว่า Brother ใช้แทนชื่อของ Suwit) 8. ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่ซึ่งบอกความหมาย ตาแหน่ง อยู่หน้าชื่อ Senator Dianne Feinstein was the first elected in 1992. Diane Feinstein was the first woman mayor of San Francisco. 9. ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่กับชื่อภูมิภาคซึ่งเป็นส่วนต่างๆของประเทศ We live in the South of Thailand for 35 years. Her hometown is in the North of Thailand. 10. ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่กับคาขึ้นต้นและลงท้ายของจดหมาย My dear Miss Samonpanut, With Love Yours Sincerely Dear Madam; Dear Sir; 44 11. ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่กับคาแรกของข้อความที่ยกมาในเครื่องหมาย อัญประกาศ (Quotation mark) My uncle used to say “The last time I said no was when they ask me if I had enough”. 12. ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่กับชื่อของบทประพันธ์ เช่น ชื่อหนังสือ ชื่อเพลง Bridge to Terabithia The African Queen Tonight on the Titanic Too Old To Rock And Roll Twister and Other terrible Storms Love among the Haystacks 13. ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่ในการเขียนบทประพันธ์ ใช้เขียนขึ้นต้นด้วยตัวอักษรตัวใหญ่ของแต่ละบรรทัด Daffodils" (1804) I WANDER'D lonely as a cloud That floats on high o'er vales and hills, When all at once I saw a crowd, A host, of golden daffodils; Beside the lake, beneath the trees, Fluttering and dancing in the breeze. Continuous as the stars that shine 45 And twinkle on the Milky Way, They stretch'd in never-ending line Along the margin of a bay: Ten thousand saw I at a glance, Tossing their heads in sprightly dance. The waves beside them danced; but they Out-did the sparkling waves in glee: A poet could not but be gay, In such a jocund company: I gazed -- and gazed -- but little thought What wealth the show to me had brought: For oft, when on my couch I lie In vacant or in pensive mood, They flash upon that inward eye Which is the bliss of solitude; And then my heart with pleasure fills, And dances with the daffodils. By William Wordsworth (1770-1850). (www. blupete.com/ literature / poetry / WordsworthDaffodils.htm) 46 2.3 รูปแบบพหูพจน์ (Forming Plural) รูปพหูพจน์ เป็นสัญลักษณ์ที่ให้ความหมายของคานามที่มีจานวนมากกว่า หนึ่ง เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่มีการบอกพจน์ (จานวน) มีเอกพจน์และพหูพจน์ โดยทั่วไปทาได้โดยการเติม –s ที่ท้ายคานามเอกพจน์ ต่อมาได้มีปัญหาเกิดขึ้นกับคานามที่มีการเติม – sที่ท้ายคานามที่มีลักษณะของคาลงท้ายที่ต่างกัน หลักการเปลี่ยนคานามจากเอกพจน์เป็นพหูพจน์มีดังนี้ 1. โดยทั่วไปเติม –s ที่ท้ายคานามเอกพจน์ Singular Plural 47 an applicant applicants a booksellers booksellers a carpenter carpenters a dentist dentists an eggplant eggplants a flag flags a girlfriend girlfriends a hawker hawkers an island islands a jackfruit jackfruits a kestrel kestrels a lancet lancets a mangos teen mangos a niggard teens an otter niggards a pyramid otters pyramids 2. คานามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย “e” เติม “s” Singular Plural a bone bones a game games a plate plates 48 a slice slices a size sizes 3.คานามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย “ch, s, sh, ss, and x” เติม “es” Singular Plural an arch arches a bench benches a branch branches a church churches a ditch ditches a lunch lunches a match matches a peach peaches a sandwich sandwiches a torch torches a watch watches a witch witches an atlas atlases a bus buses a circus circuses a brush brushes 49 a bush bushes a dish dishes a flash flashes an address addresses a class classes a cross crosses a dress dresses a glass glasses a box boxes a fax faxes a fox foxes 4. คานามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย “o” หน้า “o” เป็นพยัญชนะเติม “es” ถ้าหน้า “o” เป็นสระให้เติม “s” Singular Plural a dingo dingoes a flamingo flamingoes a hero heroes 50 a potato potatoes a tomato tomatoes a volcano volcanoes คานามต่อไปนี้เป็นคาที่ยกเว้นการเติม “es”หลัง o Singular Plural an avocado avocados a cello cellos a cuckoo cuckoos a hippo hippos a kangaroo kangaroos a kilo kilos a kimono kimonos a rhino rhinos a video videos a zoo zoos คานามต่อไปนี้สามารถเติมได้ทั้ง “s” หรือ “es” Singular Plural Plural a buffalo buffalos buffaloes a halo halos haloes a mango mangos mangoes 51 a mosquitos mosquitoes mosquito mementos mementoes a torpedos torpedoes memento a torpedo 5. คานามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย “y” หน้า “y” เป็นพยัญชนะเติม ให้เปลี่ยน “y” เป็น”I” ก่อนเติม “es” ถ้าหน้า “y” เป็นสระให้เติม “s” Singular Plural a baby babies a cherry cherries a diary diaries a family families a factory factories a jelly jellies a lady ladies a library libraries a lily lilies a spy spies a story stories a strawberry strawberries a trophy trophies 52 คานามต่อไปนี้หน้า “y” เป็นสระเติม “s” Singular Plural a bay bays a buoy buoys a chimney chimneys a donkey donkeys a jersey jerseys a key keys a monkey monkeys a runway runways a storey storeys a toy toys a trolley trolleys a tray trays a turkey turkeys a valley valleys 6. คานามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย “f” ให้เปลี่ยน “f” เป็น “v” ก่อนเติม “es” หรือ“f” เป็น “ve” ก่อนเติม “s” Singular Plural 53 a bookshelf bookshelves a calf calves a half halves a leaf leaves a sheaf sheaves a thief thieves a wolf wolves คานามต่อไปนี้ลงท้ายด้วย “fe” เปลี่ยน “f” เป็น “v” และเติม “es” Singular Plural a knife knives a life lives a wife wives คานามต่อไปนี้ลงท้ายด้วย “f” หรือ “fe ”ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตามกฎที่กล่าวมา เพียงเติม“s” เมื่อเป็นพหูพจน์ Singular Plural a chief chiefs a cliff cliffs a giraffe giraffes a roof roofs 54 คานามต่อไปนี้สามารถเปลี่ยน “f” เป็น “ve” และเติม “s” หรือสามารถเติม “s”หลัง “f” ได้ Singular Plural Plural a dwarf dwarves dwarfs a hoof hooves hoofs a scarf scarves scarfs 7. คานามต่อไปนี้มีรูปเอกพจน์และพหูพจน์เหมือนกัน Singular Plural an aircraft aircraft a bison bison a carp carp a deer deer a fish fish a goldfish goldfish a reindeer reindeer a salmon salmon a sheep sheep 55 8. คานามต่อไปนี้มีรูปพหูพจน์ที่มีหลักการต่างจากหลักข้างต้น ที่กล่าวมา Singular Plural a child children a foot feet a goose geese a louse lice a mouse mice an ox oxen a tooth teeth a woman women 9.คานามต่อไปนี้มีแต่รูปพหูพจน์ เท่านั้น เนื่องจากธรรมชาติของคานามเป็นคู่จึงมีแต่รูปพหูพจน์ 56 Bermudas binoculars boots braces chopsticks briefs gloves goggles jeans pants pincers pajamas sandals scissors shears shoes shorts slippers sneakers spectacles socks stocking trousers tights tongs sunglasses 2.4 สุภาษิตและสานวน (Proverbs and Idioms) สานวนเป็นลักษณะทางภาษาอย่างหนึ่งซึ่งเจ้าของภาษามีคว ามรู้ ความเข้าใจในภาษามิได้หมายถึงการแปลความหมายตามตัวอักษ ร โดยทั่วไปแล้วสานวนถูกนามาใช้ในการอ่านและการเขียน ในการอ่านสานวนจะแฝงด้วยอรรถรส ส่วนในเรื่องของการเขียนเป็นการเพิ่มสีสัน ความสละสลวยของภาษา หรือเป็นกลวิธีที่ผู้เขียนแฝงไว้ซึ่งภูมิปัญญาในศาสตร์นั้นๆ An Idiom is a natural manner of speaking to a native speaker of a language. People frequency use idioms because they make speech and writing more colorful and interesting. Here are commonly used idioms and their meaning. สานวนมีลักษณะเป็นกลุ่มคา (Phrase) หรือ (Two word verbs) 57 2.4.1 สานวนมีลักษณะเป็นกลุ่มคา (phrase) A bird in the hand is worth two in the bush: Having something that is certain is much better than taking a risk for more, because chances are you might lose everything. A blessing in disguise: Something good is that isn’t recognized A chip on your shoulder: Being upset for something that happened in the past A dime a dozen: Anything that is common and easy to get. A doubting Thomas: A skeptic who needs physical or personal evidence in order to believe something. A drop in the bucket: A very small part of something big or whole A fool and his money are easily parted: It’s easy for a foolish person to lose his /her money. A house divided against itself cannot stand: Everyone involved must unify and function together or it will not work out. A leopard can’t change his spots: You cannot change who you are. 58 A penny Saved is a penny earned: By not spending money, you are saving money (little by little). A Picture paints a thousand words: A visual presentation is far more descriptive than words. A piece of cake: A task that can be accomplished very easily. A slap on the wrist: A very mild punishment. A taste of your own medicine: When you are treated the same way you mistreat others. A toss –up: A result that is still unclear and can go either way. Actions speak louder than words: It’s better to actually do something than just talk about it. Add fuel to the fire: Whenever something is done to make a bad situation even worse that it is. Against the clock: Rushed and short on time All bark and no bite: 59 When someone is threatening and / or aggressive but not willing to engage in a fight All Greek to me: Meaningless and incomprehensible like someone who cannot read, speak, or understand any of the Greek language would be. All in the same boat: When everyone is facing the same challenges An arm and a leg: Very expensive, A large amount of money. An axe to grind: To have a dispute with someone. Apple of my eye: Someone who is cherished above all others. As high as a kite: Anything that is high up in the sky. At the drop of a hat: Willing to do something immediately Back seat driver: People who criticize from the sidelines, much like someone giving unwanted advice from the back seat of a vehicle to the driver. Back to square one: Having to start all over again. Back to the drawing board: 60 When an attempt fails and it’s time to start all over. Baker’s dozen: Thirteen Barking up the wrong tree: A mistake made in something you are trying to achieve. Beat a dead horse: To force an issue that has already ended. Beating around the bush: Avoiding the main topic. Not speaking directly about the issue. Bend over backwards: Do whatever it takes to help. Willing to do anything. Between a rock and a hard place: Stuck between two very bad options. Bite off more than you can chew: To take on a task that is way to big. Bite your tongue: To avoid talking Blood is thicker than water: The family bond is closer than anything else. Blue moon: A rare event or occurrences. Break a leg: A superstitious way to say ‘good luck’ without saying ‘good luck’, but rather the opposite. 61 Buy a lemon: To purchase a vehicle that constantly gives problems or stops running after you drive it away. Can’t cut the mustard: Someone who isn’t adequate enough to compete or participate. Cast iron stomach: Someone who has no problems, complications or ill effects with eating anything or drinking anything Charley horses: Stiffness in the leg / A leg cramp. Chew someone out: Verbally scold someone. Chip on his shoulder: Angry today about something that occurred in the past. Chow down: To eat Close but no cigar: To be very near and almost accomplish a goal, but fall short. Cock and bull story: An unbelievable tale. 62 Come hell or high water: Any difficult situation or obstacle. Crack someone up: To make someone laugh. Cross your fingers: To hope that something happens the way you want it to. Cry over split milk: When you complain about a loss from the past. Cry wolf: Intentionally raise a false alarm. Cup of Joe: A cup of coffee. Curiosity killed the cat: being inquisitive can lead you into a dangerous situation. Cut to the chase: Leave out all the unnecessary details and just get to the point. Dark horse: One who was previously unknown and is now prominent. Dead ringer: 100% identical. A duplicate Devil’s Advocate: 63 Someone who takes a position for the sake of argument without believing in that particular side of the argument. It can also mean one who presents a counter argument for a position they do believe in, to another debater. Dog Days of summer: The hottest days of the summer season. Don’t count your chicken before they hatch: Don’t rely on it until your sure of it. Don’t look a gift horse in the mouth: When someone gives you a gift, don’t be ungrateful. Don’t put all your eggs in one basket: Do not put all your resources in one possibility. Doozy: Something outstanding. Down to the wire: Something that ends at the last minute or last few seconds. Drastic times call for drastic measures: When you are extremely desperate you need to take extremely desperate actions. Drink like a fish: To drink very heavily. Drive someone up the wall: To irritate and / or annoy very much. 64 Dropping like flies: A large number of people either falling ill or dying. Dry run: Rehearsal Eighty six: A certain items is no longer available. Or this idiom can also mean, to throw away. Elvis has left the building: The show has come to an end. It’s all over. Ethnic Cleansing: Killing of a certain ethnic or religious group on a massive scale. Every cloud has a silver lining: Be optimistic, even difficult times will lead to better days. Everything but the kitchen sink: Almost everything and anything has been included. Excuse my French: Please forgive me for cussing. Feeding frenzy: An aggressive attack on someone by a group. Field Day: An enjoyable day or circumstance. Finding your Feet: 65 To become more comfortable in whatever you are doing. Finger lickin’ good: A very tasty food or meal. Fixed in your Ways: Not willing or wanting to change from your normal way of doing something. Flash in the Pan: Something that shows potential or looks promising in the beginning but fails to deliver anything in the end. Flea Market: A swap meet. A place where people gather to buy and sell inexpensive goods. Flesh and Blood: This idiom can mean living material of which people are made of, or it can refer to someone’s family. Flip the Bird: To raise your middle finger at someone. Foam at the mouth: To be enraged and show it. Fools’ Gold: Iron pyrites, a worthless rock that resembles real gold. 66 French Kiss: An open mouth kiss where tongues touch. From Rags to Richet: to go from being very poor to being very wealthy. Fuddy - dudduy: An old – fashion and foolish type of person. Full Monty: This idiom can mean either, “the whole thing” or “completely nude”. Funny Farm: a mental institution facility. Get down to Brass Tacks: To become serious about something. Get over it: To move beyond something that is bothering you. Get up on the wrong side of the bed: Someone who is having a horrible day. Get your Walking Papers: Get fired from job. Give him the slip: To get away from. To escape. Go down like a lead balloon: To be received badly by an audience. 67 Go for Broke: To gamble everything you have. Go out on a Limb: Put yourself in a tough position in order to support someone / something. Go the Extra Mile: Going above and beyond whatever is required for the task at hand. Good Samaritan: Someone who helps others when they are in need, with no discussion for compensation, and no thought of a reward. Graveyard Shift: Working hours from about 12.00 a.m. to 8.00a.m. The time of the day when most other people are sleeping. Great Minds Think Alike: Intelligent people think like each other. Green Room: The waiting room, especially for those who are about to go on a TV or radio show. Gut Feeling: 68 A personal intuition you get, especially when feel something may not be right. Haste makes Waste: Quickly doing things results in a poor ending. Hat Trick: When one player scores three goals in the same hockey game. This idiom can also mean three scores in any other sport, such as 3 homeruns, 3 touchdowns, 3 soccer goals, etc. Have an Axe to Grind: To have a dispute with someone. He Lost His Head: Angry and overcome by emotions. Head Over Heels: Very excited and/ or joyful, especially when in love. Hell in a Hand basket: Deteriorating and headed for complete disaster. High Five: Slapping palms above each others heads as celebration gesture. High on the Hog: Living in Luxury. 69 Hit the Books: To study, especially for a test or exam. Hit the hay: Go to bed or go to sleep. Hit the Nail on the Head: Do something exactly right or say something exactly right. Hit the Sack: Go to bed or go to sleep. Hold your Horses: Be patient. Icing on the Cake: When you already have it good and get something on top of what you already have. Idle hands are the Devil’s Tools: You are more likely to get in trouble if you have nothing to do. In like Flynn: To be easily successful, especially when sexual or romantic. In the Bag: To have something secured. 70 In the Buff: Nude In the Heat of the Moment: Overwhelmed by what is happening in the moment. In your face: An aggressive and bold confrontation. It takes two to tango: A two person conflict where both people are at fault. It’s a small World: You frequently see the same people in different places. Its anyone’s Call: A competition where the outcome is difficult to judge or predict. Ivy League: Since 1954 the Ivy League has been the following universities: Columbia, Brown, Cornel, Dartmouth, Yale, Pennsylvania, Princeton, and Harvard. Jaywalk: Crossing the street (from the middle) without using the crosswalk. Joshing me: tricking me. Keep an eye on him: You should carefully watch him. Keep body and soul together: 71 To earn a sufficient amount of money in order to keep yourself alive. Keep your chin up: To remain joyful in a tough situation. Kick the Bucket: Die. Kitty – corner: Diagonally across. Sometimes called Catty – Corner as well. Knee Jerk Reaction: A quick and automatic response. Knock on Wood: Knuckle tapping on wood in order to avoid some bad luck. Know the Ropes: To understand the details. Last but not least: An introduction phrase to let the audience know that the last person mentioned is no less important than those introduced before him / her. Lend me your ear: To politely ask for someone’s full attention. Let Bygones be Bygones: To forget about disagreement or argument. 72 Let Sleeping Dogs Lie: To avoid restarting a conflict. Let the Cat out of the Bag: To share a secret that wasn’t suppose to be shared. Level playing field: A fair competition where no side has an advantage. Like a chicken with its head cut off: To act in a frenzied manner. Liquor someone up: To get someone drunk. Long in the Tooth: Old people (or horses). Loose Cannon: Someone who is unpredictable and can cause damage if not kept in check. Make No Bone about: To state a fact there are no doubt or objections. Method to my Madness: Strange or crazy actions that appear meaningless but in the end are done for a good reason. Mumbo Jumbo: Nonsense or meaningless speech. Mum’s the word: 73 To keep quiet. To say nothing. Nest Egg: Saving set aside for future use. Never Bite the Hand that Feeds you: Don’t hurt anyone that helps you. New kid on the block: Someone new to the group or area. New York Minute: A minute that seems to go by quickly, especially in a fast paced environment. No. Dice: To not agree. To not accept a proposition. No Room to Swing a Cat: An unusually small or confined space. Not Playing with a full Deck: Someone who lacks intelligence. Off on the Wrong Foot: Getting a bad start on a relationship or task. Off the Hook: No longer have to deal with a tough situation. Off the Record: Something said in confidence that one speaking doesn’t want attributed to him / her. 74 On Pins and Needles: Anxious or nervous, especially in anticipation of something. On The Fence: Undecided. On The Same Page: When multiple people all agree on the same thing. Out of the Blue: Something that Suddenly and unexpectedly occurs. Out on a Limb: When someone puts themselves in a risky situation. Out On The Town: To enjoy yourself by going out. Over My Dead Body: When you absolutely will not allow something to happen. Over The Top: Very excessive. Pass The Buck: Avoid responsibility by giving it to someone else. Pedal to the metal: To go full speed, especially while driving a vehicle. Peeping Tom: 75 Someone who observes people in the nude or sexually active people, mainly for his own gratification. Pick up your ears: To listen very carefully. Pig in A Poke: A deal that is made without first examining it. Pig Out: To eat a lot and eat it quickly. Pipe Down: To shut – up or be quiet. Practice makes perfect: By constantly practicing, you will become better. Pull the plug: To stop something. To bring something to an end. Pulling your Leg: Tricking someone as a joke. Put a sock in it: To tell noisy person or a group to be quite. Queer the Pitch: Destroy or ruin a plan. Rain check: An offer or seal that is declined right now but willing to accept later. Raining Cats and Dogs: A very loud and noisy rain storm. Ring Fencing: 76 Separated usual judgment to guarantee protection, especially project funds. Rise and Shine: Time to get out to bed and get ready for work / school Rome was not built in one day: If you want something to be complete properly, then its take time. Rule of Thumb: A rough estimate. Run out of Steam: To be completely out of energy Saved by the Bell: Saved at the last possible moment Scapegoat: Someone else who takes the blame Scot – Free: To escape and not have to pay Sick as a Dog: To be very sick (with the flu or a cold) Sitting Shotgun: Riding in the front passenger seat of a car Sixth Sense: A paranormal sense that allows you to communicate with the dead. 77 Row: The rundown area of a city where the homeless and drug users live Smell a Rat: To detect someone in the group is betraying the others. Smell Something Fishy: Detecting that something isn’t right and there might be a reason for it. Son of a Gun: A scamp. Southpaw: Someone who is left – handed. Spitting Image: The exact likeness or kind. Start from Scratch: To do it all over again from the beginning. The Ball is in your Court: It is your decision this time. The Best of both Worlds: There are two choices and you have them both. The Bigger They are The Harder They Fall: While the bigger and stronger opponent might be a lot more difficult to beat, when you do they suffer a much bigger loss. 78 The Last Straw: When one small burden after another creates an unbearable situation, the last straw is the last small burden that one can take. Third times a charm: After no success the first two times, the third try is a lucky one. Tie the Knot: To get married. Till the cows home: A long time. To make a Long Story Short: Something someone would say during a long and boring story in order to keep his/ her audience from losing attention. Usually the story isn’t shortened. To Steal Someone’s Thunder: To take the credit for something someone else did. Tongue –In Cheek: Humor, not to be taken serious Turn A Blind Eye: Refuse to acknowledge something you know is real or legit. Twenty three Skidoo: To be turned away. Under the weather: Feeling ill or sick. Up a Blind Alley: 79 Going down a course of action that leads to a bad outcome Use your Loaf: Use your head. Think smart. Van Gogh’s ear for music: Tone deaf. Variety is the Spice of Life: The more expensive you try the more exciting life can be. Wag the Dog: A diversion away from something of greater importance Water under the Bridge: Anything from the past that isn’t significant or important anymore. Wear your heart on your Sleeve: To openly and freely express your emotions When it Rains, It Pours: Since it rarely rains, when it does it will be a huge storm. When Pigs Fly: Something that will never ever happen Wild and Woolly: Uncultured and without laws. 80 Wine and Dine: When somebody is treated to an expensive meal. Without a Doubt: For certain. X marks the Spot: A phrase that is said when someone finds something he /she been looking for. You are what you eat: In order to stay healthy you must eat healthy foods. You can’t Judge a Book by Its Cover: Decision shouldn’t be made primarily on appearance. You can’t take it with you: Enjoy what you have and not what you don’t have, since when you die you cannot take things (such as money) with you. Your Guess is as Good as Mine: I have no idea. Zero Tolerance: No crime or law breaking big or small will be overlooked. 2.4.2 สานวนที่มีลักษณะเป็น คากริยา + คาบุพบท (two words verb) blow away: carry away into the distance blow down: blow to the ground 81 blow out: extinguish blow up : 1. explode 2. lose one’s temper break away: leave, free oneself from break down: fail to function or operate break in : 1. Being to use 2. Interrupt break into; burglarize, enter by force break out: happen suddenly, begin break up: 1. break into small piece 2. terminate: come to an end bring up: to rear, educate and train children build up: increase, strengthen call at: pay a short visit, usually on business call away: summon from call down: reprimand, scold call for: go to pick someone or something call off: cancel call on: call out: visit: pay him a short formal visit speak loudly, shout call up: telephone something come about: happen 82 came across: meet or find unexpectedly come along: accompany: come with somebody come around: visit, come to, come round come back: return come on: Hurry, come to, come round come to: 1. equal 2. appear suddenly get at: reach get along: 1. make progress 2. agree, be friendly, by in harmony get away: escape get back: 1. return; reach home again 2. receive get in: enter get into: arrive at the station get lost: lose his direction get off: leave or depart from a vehicle get one: board or enter a vehicle get on with: make progress; be successful get out (of): leave, depart from a vehicle get over: recover from illness, distress, mental or physical weakness 83 get rid of: become free of, escape from get through: 1. finish 2. pass a course or examination successfully get together: unite, meet as a group get up: arise from a bed, chair, etc give away: 1. give something away = give it to someone, not expecting anything in return 2. give someone = betray him give back: give in : return surrender give out: 1. hand out, distribute 2. make known give up: 1. abandon; cease trying to do something 2. surrender go ahead: continue; lead the way go down: 1. become lower 2. sink go on: 1. continue any action 2. continue a journey 84 3. approach go out: 1. leave the house 2. extinguish go over: 1. review, restudy 2. check over, examine go up: rise go through: 1. match 2. court, go out in the company of Hand in: deliver something due, submit hand over: surrender hang about / around: grasp, take a firm hold upon hang up: end a telephone call keep on: continue keep off: stay away from, do not step on keep out: maintain, support look after: take care of look at: to direct the eyes toward, watch look down upon: despise, scorn, consider inferior look for: search for, try to find look forward to: anticipate with pleasure look into: investigate 85 look like: resemble look on: watch without participating; be a spectator only, not a participator look out: be careful look out for: be on the alert for look over: examine; check quickly look up to: respect, admire look through: revise a lesson, study, examine make up: 1. constitute, from 2. invent, compose 3. put cosmetics 4. end it make out: write out, computer or fill in pick out: choose, select pick up: 1. lift or raise a person or thing from the ground 2. offer o give a ride to someone, fetch 3. find, locate, secure put aside: 1. Place at one side 2. save put away: put something in its proper place, save 86 put back: return; replace something where it belongs put down: cease to hold, lay aside, place in position put off: postpone put on: 1. place upon oneself; dress oneself in 2. switch or turn on put out: extinguish, cause to stop burning put together: assemble put up: build, erect put up with: endure without protest, bear patiently run about: run here and there run across: meet of find by chance run after: try to catch run away: leave run down: slow down, stop run into: meet unexpectedly run out: terminate, become exhausted run over: knock down and pass over with an automobile vehicle 87 or other moving send for: dismiss send for: ask or order somebody to come set off: set out: begin a trip or journey display, exhibit set up: 1. display, start 2. put together take after: resemble in features or character take apart: disassemble take away: remove take off: 1. remove – said particularly of clothes 2. depart – said particularly take out: 1. accompany, escort 2. remove, extract from a pocket take over: assume in charge of turn against: develop an aversion to change from a friendly turn away: reject, refuse to admit, dismiss turn back: return turn down: reject turn in: give back turn off: open, begin 88 turn over: turn so that the upper and lower position of an object are reversed; change the position by rolling turn round: take a new direction 2.5 เครือ ่ งหมายวรรคตอน (Punctuations) เนื่องจากาษาอังกฤษเป็นภาษาที่มีระเบียบแบบแผน เครื่องหมายวรรคตอน(Punctuation) เป็นส่วนประกอบในการอ่านและการเขียนเพื่อสื่อความหมายอีกป ระเภทหนึ่ง เครื่องหมายวรรคตอนเป็นเครื่องหมายชี้บอกว่าประโยคนั้นเป็นปร ะโยคประเภทใด ประโยคจบอยู่ตรงไหน ส่วนต่อไปนี้เป็นส่วนขยายของประโยคที่กล่าวมาข้างหน้าและอื่นๆ อีก ซึ่งจะกล่าวต่อไป 89 เครื่องหมายวรรคตอนที่นิยมใช้และพบในการอ่านและการเขียนมี ดังนี้ 1. Apostrophe (’) 2. Colon (:_) 3. Comma (,) 4. Dash (-) 5. Exclamation Mark (!) 6. Full stop (.) 7. Hyphen ( - ) 8. Question Mark (?) 9. Quotation Mark (“…..”) 10. Semi Colon (;) 2.5.1 Apostrophe ( ’) Apostrophe ( ’) เป็นเครื่องหมายวรรคตอนที่มีวิธีการใช้และใช้สื่อความหมา ยดังนี้ 1. ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ ทั้งคานามนับได้อกพจน์ และคานามนับได้พหูพจน์ เช่น The Dean’s car The President’s office The English Teachers’ Club Somchai’s I-phone 90 2. ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ ของคานามพหูพจน์ที่เติม -s หรือชื่อเฉพาะที่มี s The students’ phonetics books are sold at the faculty. The lecturers’ Handbooks are published for a week. 3. ใช้เป็นรูปย่อ ที่นิยมใช้ มี ’d, ’s, ’t,และ ’ve I’d rather (I would rather) It’d (It had) been built since 2000. It’s (it is) a special holiday. (23rd May 2014) She’s (She has) been a lecturer for 35 years. You can’t (cannot) go to school on 23rd May 2014 because of The command of National Peace and Order Maintaining Council. (คาสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ) I’ve (I have) been in Bangkok since 1987. 2.5.2. Colon (:) Colon (:) เป็นเครื่องหมายวรรคตอนที่มีวิธีการใช้และใช้สื่อความหมา ยในการอธิบายเพิ่มเติมดังนี้ 1. ใช้ Colon (:) ก่อนการอธิบายประโยค 91 She decided to buy a car: she had to travel to the remote area. 2. ใช้ Colon (:) แจ้งรายการ ซึ่งนิยมใช้หลังคาที่มีความหมาย the following หรือ follows เป็นต้น as I want the following for our English Edutainment: cloth – bag, painted brush, and color, We require as follows: tents, sleeping – bags, and boots for our camping. 2.5.3 Comma ( , ) ( , ) เป็นเครื่องหมายวรรคตอนที่มีวิธีการใช้ดังนี้ 1. ใช้คั่นเพื่อแยกคานามซ้อน Thailand, a country in Asia, is a famous for its beautiful temples. Nokia, which is based in Finland. 2. ใช้แยกระหว่างคาที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน I want a car, a motorcycle, and a bicycle. 3. ใช้แยกคาคุณศัพท์บอกสี a pink, blue bicycle 4. ใช้ยกคาคุณศัพท์ที่ตามหลังคานาม The Model is slim, tall and beautiful. In group, discuss the questions. 92 5. ใช้คั่นข้างหน้าหรือข้างหลังชื่อ เช่น Smith, where have you been? What would you like to eat, Nina? 6. คั่นประโยคที่ตามหลัง Yes, No, และ Well ที่ขึ้นต้นประโยค Are you Chinese? No, I am not. Can she speak Thai? Yes, she can. Well, I’m not sure if I can do it. 7. ใช้เพื่อแยกข้อความในประโยคคาพูด เช่น He said, “They are happy.” 8. คั่นระหว่างปี ที่ตามหลังเดือน ถนนกับเมือง เมืองกับประเทศ Today is June 9th, 2014. Yesterday was July 14th, 2013. My address is at 123 Boromrajchonnani Road, Bangkok. 2.5.4 Dash (-) Dash (-) เป็นเครื่องหมายวรรคตอน ใช้เพื่อเน้นข้อความที่แทรกเข้ามาเพื่ออธิบายหรือใช้คั่นคาล ะไว้ในฐานที่เข้าใจหรือเปลี่ยนใหม่ เช่น I got lost, forgot my bag, and missed my plane—it was a terrible trip. 93 If I had a lot of money, I would –Oh, what am I thinking? I will never be rich. 2.5.5 Exclamation Mark (!) Exclamation Mark (!) เป็นเครื่องหมายวรรคตอนที่ใช้แสดงอารมณ์ที่เกิดขึ้นอย่างก ระทันหัน ในภาษาไทยเยรีกว่า เครื่องหมายตกใจ เนื่องจากมีวิธีการใช้ ใช้หลังคาอุทาน หรือประโยคอุทาน เช่น Go away! Hello! How are you? Oh! You are so beautiful Watch Out! Wow! 2.5.6 Full Stop (.) Full Stop (.) มีอีกชื่อหนึ่งว่า Period เป็นเครื่องหมายวรรคตอนที่สาคัญในภาษาอังกฤษเนื่องจากเป็นเค รื่องหมายที่ชี้ให้เห็นว่าประโยคนั้นมีการสิ้นสุดตรงไหนในกรณีที่ป ระโยคมีข้อความยาวๆ ในการอ่านก็จะบอกว่าข้อความ หรือประโยคสิ้นสุดตรงไหน มีวิธีการใช้ดังนี้ 1. ใช้เมื่อจบประโยค ในประโยคบอกเล่า ปฏิเสธ คาสั่ง หรือขอร้อง เช่น At first she had terrible problems following the camp staff. Listen to these sentences. 94 They have even made a phone with gold and diamonds. The picture has been sold for 50,000 ฿. I don’t go to this camp. He doesn’t feel depressed anymore. 2. ใช้หลังอักษรย่อ หรือคาย่อ Asst. Prof = Assistant Professor Dr. = Doctor Adj. = Adjective 2.5.7 Hyphen ( - ) Hyphen ( - ) เป็นเครื่องหมายวรรคตอนที่ใช้ เพื่อเชื่อมคาสองคาให้เป็นคาเดียวกันหรือใช้ในการสร้างคาประส ม เช่น anti - government ex – prime minister pre – test sky – train 2.5.8 Question Mark ( ? ) Question Mark ( ? ) เป็นเครื่องหมายวรรคตอนใช้เมื่อจบประโยคคาถาม เช่น What kind of the story is it? Who is a scientist? Where do the lecturers do? How do you go to work? 95 What do the words in bold refer to? 2.5.9 Quotation Marks (“………” ) Quotation Marks (“………”)เป็นเครื่องหมายวรรคตอนที่ใช้เขียนคร่อมข้อความที่)เ ป็นประโยคคาพูด เช่น Ned, 16 said, “I lie, steal, and cheat. I’ve been in trouble with the police,” he says. “I hate everything”. Jamie,17 said, “I fight a lot,” he says. “I’m going to end up in prison or seriously hurt if I don’t go to this camp. I hope it helps.” Emily, 15 said, “I hated camp, but I’ve learned that everything I affects other people. I’m sorry I was so horrible to my mom. I hope I can go back to school. I want to be a nurse.” 2.5.10 Semi – Colon ( ; ) Semi – Colon ( ; ) เป็นเครื่องหมายวรรคตอน ที่ใช้คั่นประโยคที่มีเครื่องหมายComma (,) คั่นอยู่แล้ว และใช้เชื่อมประโยคสองประโยคที่มีเนื้อหาเกี่ยวเนื่องกันวาง ไว้หน้า กริยาวิเศษณ์ (Adverb) ต่อไปนี้ therefore (ดังนั้น) beside (นอกจากนี้) 96 Canada is very cold; therefore people must wear heavy coats in winter. สรุป 97 คาถามทบทวน 1. Word Formation 1.1 จงอธิบายความหมายของ อุปสรรค (Prefix) และปัจจัย (Suffix) และมีวิธีการใช้อย่างไร 1.2. Choose the correct prefix to form the following words. 1. A gang of criminals sell drug. They are……………………………….. a. illegible b. illegal c. illiterate d. irregular 2. It is………………….for Jack to be late for class. a. undo b. unknown unfair 3. The name on the parcel was………………………..for us. 98 c. unused d. a. unpack b. untie c. unwrap d. unclear 4. It is………………….to wait until the last minute to do our paper. a. unfamiliar b. uncertain c. unable d. unfair 5. It is………………….; the car hit the yacht. a. import b. important c. impossible d. impolite 6. …………………………. has many field of mechanics. a. Polyclinics b. Polyester c. Polytechnics d. Polyschool 7. Today, dictation is very difficult because of …………………………. a. miss you b. miss read c. miss spelling d. misstrain 8. Mr. Suthep Thaugsuban is a leader who is an…………………………. a. anti – accident b. anti – government c. anti –aid d. anti – social 9. You must not be………………………….to your President. a. anti –polite b. inpolite 99 c. unpolite d. impolite 10. The CEO has been responsible for many…………………………. a. ilpopular b. impopular c. unpopular d. inpopular 11. He smokes and drinks a lot, so his behavior is…………………………. a. inacceptable b. unacceptable c. imacceptable d. ilacceptable 12. Miss Lotus is inattentive, impatient and…………………………. a. inpredictable b. impredictable c. unpredictable d. misspredictable 13. What is the opposite form of common, fair, and social able ? a. im - b. in - c. il - 14. Her remark about his family was impolite and …………………………. a. misrespectful c. unrespectful b. irrespectful d. disrespectful 100 d. un – 15. I am very sorry. I probably………………………….your “Phonetics Book”, and now I can’t find it. a. displaced b. misplaced c. unplaced d. inplaced 16. The start button is active and ………………………….by pushing this level up and down. a. unactivated b. inactivated c. imactivated d. disactivated 17. What is the opposite form of convenient, famous and sufficient? a. im - b. in - c. il - d. un – 18. What is the punishment if you …………………..th rules? a. disagree b. disobey c. discover dislike 19. Instead of studying, the…………………………..student cheated by copying the Test answer from another student. 101 d. a. disobey b. discover c. dislike d. dishonest 20. My parents sometimes…………………………..with me about Korean CDs to buy Because they ………………………….. of the content. a. disagree / disapprove b. disagree / c. dislike / discover d. dislike / dislike disobey 1.3 Choose the correct suffix to form the following words. 1. The person who lectures at university is a …………………………… 102 a. lecturer b. lecturing c. lectures d. lecturable 2. Ms. Anna doesn’t have a child. In other words, she is………………………….. a. child able b. childless c. childful d. childish 3. If a notebook file can be saved, it is ………………………….. a. saveful b. saveless c. save able d. savement 4. Miss Rose is in a state of being happy. Her…………………..is because she is in love. a. happily b. happier c. happiable d. happiness 5. Her paper was done in poor way; it was………………………….. a. pooer b. poorful c. pooest d. poorly 6. My credit card should be paid by July 17th, but it is ………………anytime before that. a. payer b. payable payful 103 c. payment d. 7. A person who tastes food is called………………………….. a. tasty b. tasteful c. tastes d. taster 8. Miss Patchaya is filled with hope that she will succeed. She is …………………… a. hopeful b. hopeless c. hoper d. hopeable 9. Her broken left arm cause her a lot of pain. It was ………………………….. a. painful b. painless c. painable d. hopper 10. “The English for Teachers” contains exercise on grammar. It contains…………………………..exercise. a. grammartic b. grammarticial c. grammatical d. grammartically 11. A person who works on farm; he is a ………………………….. a. farmer b. a farmor c. farerist d. farmeric 12. In winter, European countries have a lot of snow. It is………………………….. 104 a. snowed b. snower c. snowy d. snowiest 13. Nong Jing often makes mistakes because he isn’t careful. He is often………………………….. a. careable b. careless c. carement d. don’t care 14. Miss Nipa received a letter asking her to pay her parking ticket, but she had already sent her …………………………..to the traffic office. a. payer b. payment c. payable d. payee 15. Who said “you have a small cavity in this back molar.”? a. pharmacist b. editor c. dentist d. artist 16. Who said “face the camera and smile.”? a. astronomer b. photographer c. editor d. waiter 17. Who said “The fine for the overdue books is one hundred baht.”? 105 a. librarian b. President c. bookseller d. bookstore 18. Who said “This incredible engine will revolutionize transportation.”? a. astronomer b. inventor c. superintendent d. editor 19. Who said “It took three years to prepare this book for publication.”? a. astronomer b. photographer c. editor d. waiter 20. Who said “These watches were imported from Germany.”? a. waiter b. shopkeeper c. inventor merchant 2. Capitalization Rules Direction: Rewrite the article use capital letter correctly. (10 points) Passage1: two south american cities are world leaders in transportation. in the 1970s, curitaba was one of brazil’s fastest growing 106 d. cities, with serious pollution problems. the local government started several programs to reduce people’s need for cars world – famous innovations included new extra – large buses, special new roads for buses only, and a road system that keep highways out of the city center. this plan has been very successful. curitiba’s population has grown by more than one hundred percent since 1974, but traffic has decreased by thirty percent. curitiba has reduced air pollution and provided cleaner neighborhoods for its citizens. ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… 107 ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………… 108 Passage 2: the world’s most livable city what make a city the most livable in the world? according to an organization called the economic intelligence unit (eiu) in london , england, there are 12 factors, including climate, culture and entertainment, transportation, housing, jobs, and safety. every year the eiu surveys 130 cities around the world to figure out which city is the most livable. recently, the eiu ranked melbourne, australia, as the best city in the world to call home, Melbourne is a very sophisticated city, with lots of art galleries, trendy shops, and a wide variety of restaurants. people in melbourne enjoy mild weather – not too hot and not to cold. melbourne offers many 109 opportunities to watch sporting events, as well as cultural events such as plays, concerts, and festivals. Residents of Melbourne can enjoy living in a safe and clean city. No wonder this city ranks number one in the world. ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… 110 ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………………………………… ………………………………………....................................... 111 ............................................................................................. ............................................................................................. ............................................................................................. ............................................................................................. ............................................................................................. ............................................................................................. ............................................................................................. ............................................................................................. .......................................... 3. Forming Plural Direction: Put the right plural form in appropriate blank. 1. There are seven…………………………………………(day) in week and there are fifty - two ……………………………(week) in a year. 2. On my trip, I prepare two………………………(jean), three……………………(short), 112 five ……………………(T- shirt), and three……………………(dress). 3. Two ……………………(kilo) is pretty small for a new born baby. 4. I bought lovely ten……………………(handkerchief) from China. 5. Thai Super Model’s tall at least five………………(foot)and 15 ……………………(centimeter). 6. Mr. Anant loves collecting ……………………(watch). 7. There are fifty –two……………………(state) in The United States of America. 8. In Thailand, there are seventy – seven ……………………(province) and there are three ……………………(season). 9. There are six……………………(continent)and five…………………… (ocean) in the world. 10. Miss Pukino is a millionaire, so has a lot of ……………………(vehicle). 11. My family has thirteen……………………(niece)and twelve……………………(nephew). 12. My son likes collecting……………………(goldfish). 113 13. Old MacDonald has twelve……………………(sheep), ten……………………(deer), seven……………………(reindeer)and a dozen of ……………………(cow). 14. Our office faculty has two……………………(fax machine), three……………………(guillotine), six…………………(hole puncher) seven……..……………(calculator),eight………………(cale ndar) and twelve……………………(computer). 15. In language laboratory, there are two……………………(data projector), two………………… (inactive white board), three……………………(flipchart) and four………………………………….. (overhead projector). 4. Proverbs and idioms 4.1 Direction: Describe these proverbs in Thai. 1. A bird in the hand is worth two in the bush 2. A leopard can’t change his spots. 3. Blood is thicker than water. 4. Still water runs deep. 5. Time and tide wait for no man. 6. Wear your heart on your Sleeve: 114 4.2 Choose the correct answer. 1. Mr. Narong set out for Singapore. He ………………………………….. (start his journey to ward / arrived in Singapore). 2. Master JIngjo tried on a few shoes and finally picked out brown one. Tried on means…………………………………………………….(choo se before buying / put on to see weather it looked well.) 3. If the election day is called off, it is…………………………………………………… (crowed / cancelled) 4. Nisa blew………………………….(away / out) the candle before she went to bed. 5. I waited until 5.p.m., but they didn’t show up. They did not……………………… (appear / showed something to the public) 6. He gives up smoking. He……………………………………… (stop smoking, giving someone a cigarette). 7. Miss Vinee was late this morning because her car…………………………………… 115 (broke down / broke away). 8. The prisoners got rid of the jail. They …………………………………………the jail. (escaped from / left from) 9. Miss Nartnaree resembles her mother she…………………………………………………. (take after / take out). 10. Don’t forget to put your I – phone …………………………………………(away / down) before going to bed. 5. Punctuation 5.1 Rewrite this e mail put . , ’ or ? where necessary. Hi Laura I m back from Egypt It was an amazing trip First we landed in Cairo The next day we went to the Egyptian Museum and we saw the King Tutankhamun treasures They were incredible Then we visited the pyramids and the Sphinx We were tired but the day wasn t over! After that we flew to Luxor The next morning we went to the temple of Karnak 116 Then we took a boat across the river We visited the Valley of Kings The tomb of King Tutankhamun is there. It wasn t very interesting though All of the treasures are in the museum in Cairo! It was also very hot in the desert and it was crowed with tourists Next we returned to Cairo The fourth day we went to the Khan El Khalili market and bought a lot of souvenirs It was hot and crowded too but finally we relaxed We went out on a sailboat It s very quiet out on the Nile It was a great trip! BTW do you like the photo I took them with my new digital camera I hope you go to Egypt someday See you soon James 117 5.2 Rewrite this e mail put . , ’ ! ? where necessary. Hi I m Linda your new pen pal I m from Riode Janeio Brazil I live near the beach and I love to swim My only problem is the weather I don t like hot weather Do you like hot weather Is it hot where you live Let me tell you about myself I love sports especially water sports How about you Do you like sport My other interests are movies and music I have a karaoke machine Do you like to sing I love hip hop Do you know Jay – Z He s my favorite singer What kind of music do you like What are your interest Well that s all for now Can’t wait to hear from you 118 เอกสารอ้างอิง 119