บทที่ 2 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการอ่าน

advertisement
แผนบริหารการสอนประจาบทที่ 2
บทที่ 2
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการอ่าน (Basic
Knowledge of reading)
12 ชั่วโมง
2.1 โครงสร้างของคา (Word Formation)
2.2 หลักการใช้ตัวอักษรตัวใหญ่ (Capitalization Rules)
2.3 รูปแบบของคาพหูพจน์ (Forming Plurals)
2.4 สานวนและสุภาษิต (Proverbs and Idioms)
2.5 เครื่องหมายวรรคตอน (Punctuations)
สรุป
คาถามทบทวน
เอกสารอ้างอิง
วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม
เมื่อนักศึกษา ศึกษาบทเรียนนี้จบแล้ว นักศึกษาสามารถ
1.บอกความแตกต่างระหว่าง อุปสรรค (Prefix) ปัจจัย
(Suffix) และนาไปใช้ได้อย่างถูกต้อง
2. เขียนตัวอักษรตัวใหญ่ในประโยคได้อย่างถูกต้อง
3.
ใช้รูปคารูปพหูพจน์และเครื่องหมายวรรคตอนได้อย่างถูต้อง
4. เขียน อธิบาย ความหมายของสานวน
และสุภาษิตได้ถูกต้อง
วิธส
ี อนและกิจกรรม
1. ทาการทดสอบก่อนเรียน (Pre –Test)
2. ศึกษาเอกสารประกอบการสอน
วิชาภาษาอังกฤษสาหรับครู 2 บทที่ 2
3. บรรยายพร้อมยกตัวอย่างประกอบ
21
4. ทากิจกรรมกลุ่ม
5. สรุปบทเรียน
6. ทาการทดสอบหลังเรียน (Post –Test)
7. มอบหมายงาน
สือ
่ การเรียนการสอน
1. แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre –Test) และหลังเรียน (Post
– Test)
2. โปรแกรมสาเร็จรูป (Power Point)
3. เอกสารประกอบการสอน วิชาภาษาอังกฤษสาหรับครู 2
บทที่2
4. ใบงาน
การวัดผลและประเมินผล
1. สังเกตการทากิจกรรมระหว่างเรียน
2. ตรวจแบบฝึกจากใบงาน
บทที่ 2
ความรูเ้ บือ
้ งต้นเกีย
่ วกับการอ่าน
(Basic Knowledge of Reading)
บทนา (Introduction)
การอ่านเป็นทักษะหนึ่งในสี่ทักษะของการเรียนภาษา
ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ
22
เป็นทักษะที่จาเป็นสาหรับการเรียนในระดับมหาวิทยาลัย
โดยเฉพาะนักศึกษาคณะครุศาสตร์ต้องออกไปประกอบอาชีพครูใ
นอนาคต
ครูในอนาคตในยุคที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
(AEC) ในปี พ.ศ. 2558 นักศึกษาต้องอ่านเป็นและอ่านเก่ง
เพื่อเก็บสาระ ความรู้ให้มากและให้เร็ว
ที่สาคัญนักศึกษาต้องทันต่อเหตุการณ์
การก้าวข้าสู่ประชาคมอาเซียนของประเทศ
การสื่อสารทุกรูปแบบที่เป็นภาษาอังกฤษ
ซึ่งภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่ใช้ติดต่อสื่อสารกันทั่วโลก
และประเทศในกลุ่มอาเซียนได้มีมติให้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่
ใช้สื่อสารติดต่อกันในกลุ่มประเทศสมาชิก
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการอ่านเป็นสิ่งสาคัญในการพัฒนาภูมิปัญ
ญาของนักศึกษาให้เป็นผู้รู้ รู้เขา รู้เรา
ทันต่อสังคมโลก
เตรียมตัวพร้อมที่จะเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าของประเทศ
เป็นครูที่ดีและสร้างเยาวชนของชาติให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพแล
ะศักยภาพ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศสืบไป
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการอ่าน ความรู้เดิม (Background
knowledge)
เป็นสิ่งสาคัญในการเชื่อมโยงสิ่งที่มีอยู่เดิมเข้ากับสิ่งใหม่
มีสิ่งที่จาเป็นต้องทราบเป็นหลักเบื้องต้นหลายประการดังนี้
1. โครงสร้างของคา
2. หลักการใช้ตัวอักษรตัวใหญ่
3. รูปแบบของคาพหูพจน์
4. สุภาษิต และสานวน
5. เครื่องหมายวรรคตอน
2.1 โครงสร้างของคา (Word Formation)
23
ปัญหาของการอ่านภาษาอังกฤษสาหรับนักศึกษาไทย คือ
การที่ไม่ทราบความหมายของคาศัพท์
เนื่องจากภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาของเรา
ดังนั้นการที่รู้คาศัพท์น้อยเป็นเรื่องธรรมดาสาหรับนักศึกษาไทย
นักศึกษาจึงต้องหาความรู้เพื่อเพิ่มพูนเกี่ยวกับคาศัพท์ภาษาอังกฤ
ษ เพื่อเป็นการช่วยให้นักศึกษาสามารถอ่านภาษาอังกฤษได้เข้าใจ
แต่การที่นักศึกษาจะหาความรู้เพื่อเพิ่มพูนคาศัพท์โดยการท่องจา
หรือเปิดพจนานุกรม นั้นมิได้เป็นวิธีการที่ถูกต้อง
เพราะการที่ทาเช่นนั้นเป็นการรู้ความหมาย
เพียงชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้นมิได้เป็นการรู้แบบยั่งยืน
การที่จะได้ความรู้แบบยั่งยืนนั้น
นักศึกษาต้องศึกษาด้วยความเข้าใจอย่างถ่องแท้และความรู้ที่ได้จ
ะเป็นความรู้แบบยั่งยืนและนาไปปฏิบัติได้ ในเรื่องของคาศัพท์
คาศัพท์ที่นักศึกษาได้ความหมายมาจากพจนานุกรมนั้นเป็นความ
หมายที่เรียกว่า lexical meaning หรือ
เป็นความหมายที่มาจากโครงสร้างของประโยคที่เรียกว่า structure meaning หรือ
เป็นความหมายของคาที่มาจากวัฒนธรรมของชาติต่างๆที่เรียกว่า
culture meaning แต่การที่จะได้ความรู้แบบยั่งยืนนั้น
ควรจะเรียนรู้คาศัพท์ในลักษณะที่มีความเข้าใจในเรื่องของ root,
prefix และ suffix
เพราะทั้งสามสิ่งนี้เป็นต้นกาเนิดของคาศัพท์ต่างๆของภาษาอังกฤ
ษ
2.1.1 Roots เป็นรากศัพท์
หรือเป็นฐานของคาศัพท์ภาษาอังกฤษประมาณ 60%
มาจากภาษากรีกหรือภาษาละติน
และมีการยืมคามาจากตระกูลภาษาอื่นอีก เช่น Germanic
24
(German, Dutch) และภาษา Scandinavian (ซึ่งมี Denmark,
Sweden, Norway และ Iceland) และภาษาโรม้านซ์ ( French,
Spanish, Italian, Portuguese และ Rumanian)
นอกจากนี้ยังมีภาษาอังกฤษสมัยใหม่ที่ยืมมาจากภาษา Arabic,
Persian, Chinese, Japanese และMalaysian Root
เป็นส่วนที่ให้ความหมายหลัก เมื่อมี prefix
เป็นส่วนที่เติมเข้าหน้าคา หรือ suffix มาเติมเข้าส่วนท้ายของคา
เพื่อที่จะให้ได้ความหมายที่สมบูรณ์ในภาษาอังกฤษ
ดังนั้นนักศึกษาจึงต้องเรียนรู้สิ่งเหล่านี้เพื่อเป็นแนวทางในการอ่าน
ภาษาอังกฤษที่มีประสิทธิภาพ
2.1.2 Prefix หมายถึง “อุปสรรค”เป็นคาที่เติมหน้ารากศัพท์
(root)
แล้วเกิดความหมายใหม่ในภาษาอังกฤษที่นิยมกันส่วนใหญ่มี 10
ตัวคือ
1. anti- มีความหมายว่า ต่อต้าน
เมื่อเติมหน้าคานามแล้วเกิดความหมายใหม่ที่มีความหมายว่าของ
คาว่าต่อต้านรวมอยู่ด้วย เช่น
anti + aid
= anti aid
anti + aircraft
= anti aircraft
anti +bacteria
= antibacterial
anti + biotic
= antibiotic
anti + body
= antibody
anti + cavity
= anti cavity
anti + government = anti government
25
anti + personnel
= antipersonnel
anti + social
= antisocial
anti +virus
= antivirus
2. dis - มีความหมายตรงข้าม เมื่อเติมหน้าคากริยา
หรือคาคุณศัพท์ เช่น
dis + agree
= disagree
dis + appear
= disappear
dis +appoint
= disappoint
dis + approve
= disapprove
dis + arrange
= disarrange
dis + continue
= discontinue
dis + credit
= discredit
dis + favor
= disfavored
dis + like
= dislike
dis + similar
= dissimilar
3. en - เป็นอุปสรรคที่ไม่มีคาแปลที่แน่นอน
เมื่อวางไว้หน้าคานาม เช่น
en + able
= enable
en + camp
= encamp
en + courage
= encourage
en + danger
= endanger
en + sure
= ensure
4. im - เป็นอุปสรรคที่เติมหน้าคาคุณศัพท์
หรือคากริยาวิเศษณ์ มี
26
ความหมายตรงข้ามกับ เช่น
im + polite
= impolite
im + possible
= impossible
im + pure
= impure
im + prudent
= imprudent
im + mature
= immature
5. in - เป็นอุปสรรคที่เติมหน้าคาคุณศัพท์
มีความหมายตรงข้ามกับ เช่น
in + ability
= inability
in + attention
= inattention
in + auspicious
= inauspicious
in + complete
= incomplete
in + correct
= incorrect
in + direct
= indirect
6. mis - เป็นอุปสรรคที่วางไว้หน้าคานาม
มีความหมายว่า ผิด เช่น
mis + fortune
= misfortune
mis + hear
=mishear
mis + spell
= misspell
mis + write
= miswrite
7. poly- เป็นอุปสรรคที่วางไว้หน้าคานาม
มีความหมายว่า หลายหลาย เช่น
poly + clinic
= polyclinic
poly + gamy
= polygamy
27
poly + technical
= polytechnics
poly + phony
= polyphony
8. pre - เป็นอุปสรรคที่วางไว้หน้าคานามหรือคากริยา
มีความหมายว่า ก่อน เช่น
pre + college
= pre college
pre + entrance
= pre entrance
pre + final
= pre final
pre + history
= prehistory
pre + test
= pretest
pre + university
= pre university
9. re - เป็นอุปสรรคที่วางไว้หน้าคานาม หรือคากริยา
มีความหมายว่า ทาอีก ทาซ้า เช่น
re + call
= recall
re + cycle
= recycle
re+ marry
= remarry
re + play
= replay
re + read
=reread
re+ write
= rewrite
10. un -เป็นอุปสรรคที่วางไว้หน้าคุณศัพท์
หรือคากริยาวิเศษณ์ มีความหมายว่า ไม่เช่น
un + certain
= uncertain
un +clear
= unclear
un +countable
= uncountable
un +happy
= unhappy
28
un + satisfied
= unsatisfied
un + suitable
= unsuitable
un + used
= unused
un + usual
= unusual
นอกจากอุปสรรคที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว
ยังมีอุปสรรคที่เกี่ยวกับการนับ หรือตัวเลขที่ควรทราบได้แก่
คาว่า mono ที่มีความหมายว่า หนึ่ง ได้แก่คาว่า
monochrome
สีเดียว
monocle
แว่นตาข้างเดียว
monogamy
การมีคู่สมรสคนเดียว
monologue
การพูดคนเดียว
monomania
การครุ่นคิดถึงสิ่งเดียว
monopoly
เอกสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว
monorail
รถไฟรางเดียว
monosyllable
คาพยางค์เดียว
monotone
เสียงระดับเดียว
คาว่า uni ที่มีความหมายว่า หนึ่ง ได้แก่คาว่า
uniform
(เครื่องแบบที่เหมือนกัน)
แบบเดียว
unit
หน่วย
unity
หน่วยเดียว หนึ่งเดียว
29
universe
จักรวาล มีหนึ่งเดียว
university
มหาวิทยาลัย
คาว่า bi ที่มีความหมายว่า สองได้แก่คาว่า
bicameral
ระบบรัฐสภาที่มีสองสภา
bicentenary
วันครบรอบ สองร้อยปี
bigamy
การจดทะเบียนซ้อน
bikini
ชุดว่ายน้า สองชิ้น
bilateral
ทวิภาคี
bimonthly
เดือนละ สองครั้ง
binoculars
กล้องสองตา
bivalve
สัตว์จาพวกหอยกาบคู่
คาว่า tri ที่มีความหมายว่า สาม ได้แก่คาว่า
trilogies
สามภาษา
triangle
สามเหลี่ยม
tricycle
สามล้อ
triple
สามเท่า
คาว่า poly ที่มีความหมายว่า หลากหลาย ได้แก่คาว่า
polyclinic
คลินิกที่รักษาหลายๆโรค
โพลีคลินิก
polytechnic
เทคนิคที่มีหลายสาขาวิชา
โพลีเทคนิค
คาว่า mega ที่มีความหมายว่า ใหญ่ มากได้แก่คาว่า
mega project
โครงการใหญ่ๆ
30
mega store
คาว่า
ได้แก่คาว่า
ร้านใหญ่ๆ
demi, hemi, semi มีความหมายว่า ครึ่ง
demi-god
ครึ่งคน ครึ่งเทวดา
hemisphere
ครึ่งซีกโลก
semicircle
ครึ่งวงกลม
2.1.3 Suffix หมายถึง “ปัจจัย”เป็นคาที่เติมหลังรากศัพท์
(root) แล้วทาให้เกิดความหมายที่ชัดเจนขึ้น คาที่เติม ปัจจัย
(suffix) แล้ว หน้าที่ของคา (part of speech)
ของคานั้นเปลี่ยนด้วย เช่น
play มีความหมายว่า เล่น มีหน้าที่ของคา (part of speech)
เป็นคากริยา (verb) หมายถึง เล่น เมื่อเติม suffix –er ที่ท้ายคา =
player หมายถึง ผู้เล่น มีหน้าที่ของคา (part of speech)
เป็นคานาม (noun) หรือ กริยา play + ful = playful
มีความหมายว่า ชอบเล่น ขี้เล่น และมีหน้าที่ของคา (part of
speech) เป็น คาคุณศัพท์ (adjective)
Suffix
เป็นการสร้างคาใหม่โดยการเติมปัจจัยเข้าไปที่ท้ายคาโดยที่มีการ
สร้างดังนี้
31
2.1.3.1 การสร้างคานามโดยการเติม ปัจจัย -ar, –er,
-or, - ist, -ment, -ation หรือ –tion ที่ท้ายคากริยา
beg + ar
= beggar
buy + er
= buyer
dance + er
= dancer
drive + er
= driver
farm + er
= farmer
lecture + er
= lecturer
manage +er
= manager
open +er
= opener
play + er
= player
sell + er
= seller
speak + er
= speaker
teach + er
= teacher
wait + er
= waiter
type + ist
= typist
act + or
= actor
sail + or
= sailor
agree + ment
= agreement
amaze + ment
= amazement
develop + ment
= development
move + ment
= movement
32
pay + ment
= payment
retire + ment
= retirement
state + ment
= statement
admire + ation
= admiration
associate + ation
= association
correct + tion
= correction
dictate + tion
= dictation
decide + tion
= decision
elect + tion
= election
examine + ation
= examination
organize + ation
= organization
permit + tion
= permission
protect + tion
= protection
suppress + ion
= suppression
2.1.3.2 การสร้างคานามโดยการเติม ปัจจัย –ity, -ty,
-ness ที่ท้ายคาคุณศัพท์
cruel + ty
= cruelty
familiar + ity
= familiarity
generous + ly
= generously
honest + ty
= honesty
odd + ity
= oddity
pure + ity
= purity
regular + ity
= regularity
33
scarce + ity
= scarcity
stable + ity
= stability
stupid + ity
=stupidity
aimless + ness
= aimlessness
bold + ness
= boldness
dark + ness
= darkness
deaf + ness
= deafness
great + ness
= greatness
happy + ness
= happiness
kind + ness
= kindness
mad + ness
= madness
minded + ness
= mindedness
rich + ness
= richness
sad + ness
= sadness
2.1.3.3
การสร้างคากริยาที่มาจากคานามโดยการเติมปัจจัย -ize, ify
American + ize
= Americanize
legal + ize
= legalize
modern + ize
= modernize
popular + ize
= popularize
beauty + ify
= beautify
liquid + ify
= liquefy
34
pure + ify
= purify
simple + ify
= simplify
2.1.3.4 การสร้างคากริยาวิเศษณ์ (Adverb)
ที่มาจากคาคุณศัพท์ (adjective) โดยการเติมปัจจัย –ly, ward, -wise
easy + ly
= easily
heavy + ly
= heavily
main + ly
= mainly
quick + ly
= quickly
slow + ly
= slowly
stupid + ly
= stupidly
home + ward
= homeward
back + ward
= backward
up + ward
= upward
length + wise
= lengthwise
2.1.3.5 การสร้างคาคุณศัพท์ ที่มาจาก คานาม
คากริยา โดยการเติมปัจจัย –able, -ful, – ic, -ical, -less
- able ให้ความหมาย หมายถึง สามารถ
brake + able
สามารถแตกหักได้
debate + able
สามารถโต้แย้งได้ (โต้วาที)
love+ able
สามารถรักได้
= breakable
= debatable
= loveable
35
wash + able
= washable
สามารถซัก ทาความสะอาดได้
- ful ให้ความหมาย หมายถึง เต็มไปด้วย
beauty + ful
เต็มไปด้วยความสวย
= beautiful
care + ful
= careful ระมัดระวัง
สวยงาม
child + ful
= childful
สภาวะหญิงที่มีลูกมาก
hope + ful
= hopeful
เต็มไปด้วยความหวัง
pain + ful
= painful
เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
play + ful
=playful
seed + ful
เมล็ดมาก
เล่นมาก ขี้เล่น
= seedful เต็มไปด้วยเมล็ด
- less ให้ความหมาย หมายถึง เล็กน้อย
care + less
ไม่ระมัดระวัง
= careless
child + less
= childless
สภาวะหญิงที่ไม่มีลูก
hope + less
หมดหวัง สิ้นหวัง
= hopeless
pain + less
เจ็บปวดเล็กน้อย
= painless
seed + less
แทบจะไม่มีเมล็ด
= seedless
36
สะเพร่า
-ic, cal, ical, al ให้ความหมาย หมายถึง
เกี่ยวกับสิ่งที่กล่าวถึง
atom + ic
= atomic
แห่งอนุภาคเล็กๆ ตามหลักของอนุภาคเล็กๆ
biology + cal
= biological
แห่งชีววิทยา ตามหลักชีววิทยา
grammar + tical
= grammatical
แห่งหลักไวยากรณ์ ตามหลักไวยากรณ์
music + al
= musical
แห่งดนตรี ตามหลักการดนตรี
2.2 หลักการใช้ตว
ั อักษรตัวใหญ่ (Capitalization Rules)
ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่มีระเบียบแบบแผนมาตั้งแต่โบราณ
กาล ตั้งแต่การออกเสียง
การสร้างคา
การยืมคามาจากภาษาอื่น รวมถึงการเขียนด้วย
การเขียนที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ ที่มีระเบียบแบบแผน
พบในกลุ่มผู้ที่มีการศึกษา เนื่องจากภาษาเขียนเป็นภาษาที่นากฎ
ระเบียบว่าด้วยเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องมารวมกันเป็นการเขียน
การใช้อักษรตัวใหญ่ได้ให้ความหมายในประโยคว่าด้วยการสื่อข
องคานั้นที่เขียนด้วยตัวอักษรตัวใหญ่
ซึ่งในปัจจุบันนี้มีการใช้ตัวอักษรที่ไม่ค่อยถูกต้องและชัดเจน
อันเป็นผลเนื่องมาจากสื่อต่างๆ ภาษาที่ใช้ในการโฆษณา
จากสื่อต่างๆ เช่น หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ สื่อออนไลน์ อินเทอร์เน็ต
เฟสบุ๊ค การใช้ตัวอักษรตัวใหญ่เป็นการใช้ไม่เสถียร
(inconsistency) อยากจะเขียนด้วยตัวอักษรตัวใหญ่ก็เขียน
อยากจะเขียนด้วยตัวอักษรตัวเล็กก็เขียน
เขียนด้วยตัวอักษรตัวใหญ่ผสมตัวอักษรตัวเล็กยังมีให้เห็นอยู่เสมอ
เมื่อถูกถามว่าใช้ตัวอักษรตัวใหญ่เมื่อใด
37
ผู้ตอบมักตอบว่าใช้ตามๆกันมาโดยไม่ทราบว่าการใช้ตัวอักษรตัวใ
หญ่มีระเบียบแบบแผน
มีหลักการใช้
ซึ่งหลักการใช้มีหลักดังต่อไปนี้
1. ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่กับการขึ้นต้นประโยค (Capitalize
the beginning of a
sentence.)ไม่ว่าประโยคนั้นจะเป็นประโยคประเภทใดก็ตาม
Contrary to popular belief, working with patients
with mental problem is not as stressful as it is made out to
be.
To see them make progress and eventually get
back into society is highly rewarding for me.
Accept the good as well as the bad, ignore the
ugly.
No, they are not new students.
This weekend many bring romantic partner
closer.
Don’t labor under false assumptions or give
deceptive impression.
You can’t fool me! That was a jealous!
Don’t stir up resentment or jealousy.
38
Don’t ignore Myanmar politics, Suu Kyi tells EU.
Were you snoozing at my desk while I was gone?
How do you wrap yourselves around your prey?
How social status affects your health
Shake gently before
Balance modern elegance with meaningful
experiences at Phachara Suites
2. ใช้ตัวอักษร “I” เป็นคาสรรพนาม
ในทุกตาแหน่งที่อยู่ในประโยค
I understand it is a very rare case for the
International Monetary Fund (IMF) to suggest
Thailand drop its multi – billion baht.
However, I would like to say that sometimes
their commentary has been extremely which has
been making superhuman efforts to get to all those in
need and it is unhelpful to criticize these efforts
I don’t know I can take another winter up here,
I’m not built for this type of gloom… I need to go
south.
39
I felt great, however, I was asymptomatic, and
the cancer was growing so fast inside me that was just a
matter of time.
3. ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่กับวิสามานยนาม (Proper Nouns)
โดยเฉพาะชื่อคน สถานที่ และชื่อองค์กรต่างๆ
ในทุกตาแหน่งของประโยค
เป็นข้อสังเกตอย่างหนึ่งว่าถ้าเป็นวิสามานยนาม หรือชื่อเฉพาะ
ต้องเขียนด้วยตัวอักษรตัวใหญ่เสมอ
Taylor Swft’s fans have done it again.
Ms. Yingluck urged the public not to support
unlawful protests and to cooperate with the authorities.
- They alleged the Yingluck government had
become unlawful since it had refused to accept the ruling
the Constitution Court in nullifying the charter amendment
draft last Wednesday. They claimed their occupation of
these state offices was prevented officials from working for
such as an illegal government.
Manchester United used to be master of scoring
late goals but manager David Moyes is worried that late
lapses are costing his side precious Premier League
points.
40
Patum Rice Mill and Granary Plc, a leading rice
export and distributor of Maboonkrong packed rice, is
branching out launch two Japanese restaurant brands
next year.
The World Bank is cutting its forecast for
Thailand’s GDP this year on a sluggish third quarter and
weak exports, says Krida Bhaoppiychtr, bank’s senior
economist for Thailand.
Yum! Brand Inc said on Wednesday that it
would combine the US and international divisions of KFC,
Pizza Hut and Taco Bell and keep its China and India
units separate as part of a reorganization.
4. ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่กับ ชื่อศาสนา ชื่อคัมภีร์ ชื่อพระเจ้า
The Bible has many stories of the Virgin Mary
and Jesus.
Aphroddite, the goodness of love and Beauty,
was the daughter of Zeus and Dione.
5. ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่กับ วันทั้ง 7 และเดือนทั้ง 12
ส่วนฤดูกาลไม่ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่ เว้นแต่คานั้นเป็นชื่อหนังสือ
ชื่อเรื่อง
41
We love the autumn because of Halloween and
Thanks giving.
Sunday and Monday are my weekend.
My favorite day is Friday because it means
happiness and my favorite month is January.
ชื่อหนังสือ ชื่อเรื่อง
ที่เป็นชื่อฤดูกาลใช้ตัวอักษรตัวใหญ่
The catalog for Spring 2014 will be out in
February.
The Spring is my favorite book.
Love in Rainy Season
6. ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่กับชื่อประเทศ ชื่อเมือง ภาษา
และสัญชาติ
We went to Japan to study Japanese language.
The Chinese speak Mandarin in Beijing China.
Today, students study modern languages such
as English, Chinese, Japanese and French.
There are ten countries for ASEAN; Brunei,
Cambodia, Indonesia, Laos, Singapore, Thailand,
Malaysia, Philippines, Myanmar and Vietnam.
Here are counties and capitals of ASEAN.
ตารางที่ 2.2.1
ประเทศและเมืองหลวงของประเทศในกลุ่มอาเซียน
42
Countries
Capitals
Brunei
Bandar Seri
Darussalam
Begawan
Cambodia
Phnom Penh
Indonesia
Jakarta
Laos
Vientiane
Singapore
Singapore City
Thailand
Bangkok
Malaysia
Kuala Lumper
Philippines
Manila
Myanmar
Naypyidaw
Vietnam
Ho chi min
7.
ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่กับความสัมพันธ์เมื่อต้องการใช้แทนวิสามานย
นาม (Proper Nouns) โดยเฉพาะชื่อคน
She went on a trip with Father. (คาว่า
Fatherใช้แทนชื่อของพ่อ)
43
When we go to the movie with my brothers, my
Brother Suwit always has to be remained to be quiet.
(คาว่า Brother ใช้แทนชื่อของ Suwit)
8. ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่ซึ่งบอกความหมาย ตาแหน่ง
อยู่หน้าชื่อ
Senator Dianne Feinstein was the first elected
in 1992.
Diane Feinstein was the first woman mayor of
San Francisco.
9.
ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่กับชื่อภูมิภาคซึ่งเป็นส่วนต่างๆของประเทศ
We live in the South of Thailand for 35 years.
Her hometown is in the North of Thailand.
10.
ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่กับคาขึ้นต้นและลงท้ายของจดหมาย
My dear Miss Samonpanut,
With Love
Yours Sincerely
Dear Madam;
Dear Sir;
44
11.
ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่กับคาแรกของข้อความที่ยกมาในเครื่องหมาย
อัญประกาศ (Quotation mark)
My uncle used to say “The last time I said no
was when they ask me if I had enough”.
12. ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่กับชื่อของบทประพันธ์ เช่น
ชื่อหนังสือ ชื่อเพลง
Bridge to Terabithia
The African Queen
Tonight on the Titanic
Too Old To Rock And Roll
Twister and Other terrible Storms
Love among the Haystacks
13. ใช้ตัวอักษรตัวใหญ่ในการเขียนบทประพันธ์
ใช้เขียนขึ้นต้นด้วยตัวอักษรตัวใหญ่ของแต่ละบรรทัด
Daffodils" (1804)
I WANDER'D lonely as a cloud
That floats on high o'er vales and hills,
When all at once I saw a crowd,
A host, of golden daffodils;
Beside the lake, beneath the trees,
Fluttering and dancing in the breeze.
Continuous as the stars that shine
45
And twinkle on the Milky Way,
They stretch'd in never-ending line
Along the margin of a bay:
Ten thousand saw I at a glance,
Tossing their heads in sprightly dance.
The waves beside them danced; but they
Out-did the sparkling waves in glee:
A poet could not but be gay,
In such a jocund company:
I gazed -- and gazed -- but little thought
What wealth the show to me had brought:
For oft, when on my couch I lie
In vacant or in pensive mood,
They flash upon that inward eye
Which is the bliss of solitude;
And then my heart with pleasure fills,
And dances with the daffodils.
By William Wordsworth (1770-1850).
(www. blupete.com/ literature / poetry /
WordsworthDaffodils.htm)
46
2.3 รูปแบบพหูพจน์ (Forming Plural)
รูปพหูพจน์
เป็นสัญลักษณ์ที่ให้ความหมายของคานามที่มีจานวนมากกว่า
หนึ่ง เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่มีการบอกพจน์ (จานวน)
มีเอกพจน์และพหูพจน์ โดยทั่วไปทาได้โดยการเติม –s
ที่ท้ายคานามเอกพจน์
ต่อมาได้มีปัญหาเกิดขึ้นกับคานามที่มีการเติม –
sที่ท้ายคานามที่มีลักษณะของคาลงท้ายที่ต่างกัน
หลักการเปลี่ยนคานามจากเอกพจน์เป็นพหูพจน์มีดังนี้
1. โดยทั่วไปเติม –s ที่ท้ายคานามเอกพจน์
Singular
Plural
47
an applicant
applicants
a booksellers
booksellers
a carpenter
carpenters
a dentist
dentists
an eggplant
eggplants
a flag
flags
a girlfriend
girlfriends
a hawker
hawkers
an island
islands
a jackfruit
jackfruits
a kestrel
kestrels
a lancet
lancets
a mangos teen
mangos
a niggard
teens
an otter
niggards
a pyramid
otters
pyramids
2. คานามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย “e” เติม “s”
Singular
Plural
a bone
bones
a game
games
a plate
plates
48
a slice
slices
a size
sizes
3.คานามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย “ch, s, sh, ss, and x”
เติม “es”
Singular
Plural
an arch
arches
a bench
benches
a branch
branches
a church
churches
a ditch
ditches
a lunch
lunches
a match
matches
a peach
peaches
a sandwich
sandwiches
a torch
torches
a watch
watches
a witch
witches
an atlas
atlases
a bus
buses
a circus
circuses
a brush
brushes
49
a bush
bushes
a dish
dishes
a flash
flashes
an address
addresses
a class
classes
a cross
crosses
a dress
dresses
a glass
glasses
a box
boxes
a fax
faxes
a fox
foxes
4. คานามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย “o” หน้า “o”
เป็นพยัญชนะเติม “es”
ถ้าหน้า “o”
เป็นสระให้เติม “s”
Singular
Plural
a dingo
dingoes
a flamingo
flamingoes
a hero
heroes
50
a potato
potatoes
a tomato
tomatoes
a volcano
volcanoes
คานามต่อไปนี้เป็นคาที่ยกเว้นการเติม “es”หลัง o
Singular
Plural
an avocado
avocados
a cello
cellos
a cuckoo
cuckoos
a hippo
hippos
a kangaroo
kangaroos
a kilo
kilos
a kimono
kimonos
a rhino
rhinos
a video
videos
a zoo
zoos
คานามต่อไปนี้สามารถเติมได้ทั้ง “s” หรือ “es”
Singular
Plural
Plural
a buffalo
buffalos
buffaloes
a halo
halos
haloes
a mango
mangos
mangoes
51
a
mosquitos mosquitoes
mosquito
mementos mementoes
a
torpedos
torpedoes
memento
a torpedo
5. คานามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย “y” หน้า “y”
เป็นพยัญชนะเติม ให้เปลี่ยน “y” เป็น”I” ก่อนเติม “es”
ถ้าหน้า “y” เป็นสระให้เติม “s”
Singular
Plural
a baby
babies
a cherry
cherries
a diary
diaries
a family
families
a factory
factories
a jelly
jellies
a lady
ladies
a library
libraries
a lily
lilies
a spy
spies
a story
stories
a strawberry
strawberries
a trophy
trophies
52
คานามต่อไปนี้หน้า “y” เป็นสระเติม “s”
Singular
Plural
a bay
bays
a buoy
buoys
a chimney
chimneys
a donkey
donkeys
a jersey
jerseys
a key
keys
a monkey
monkeys
a runway
runways
a storey
storeys
a toy
toys
a trolley
trolleys
a tray
trays
a turkey
turkeys
a valley
valleys
6. คานามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย “f” ให้เปลี่ยน “f” เป็น
“v” ก่อนเติม “es” หรือ“f” เป็น “ve” ก่อนเติม “s”
Singular
Plural
53
a bookshelf
bookshelves
a calf
calves
a half
halves
a leaf
leaves
a sheaf
sheaves
a thief
thieves
a wolf
wolves
คานามต่อไปนี้ลงท้ายด้วย “fe” เปลี่ยน “f” เป็น “v” และเติม
“es”
Singular
Plural
a knife
knives
a life
lives
a wife
wives
คานามต่อไปนี้ลงท้ายด้วย “f” หรือ
“fe ”ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตามกฎที่กล่าวมา เพียงเติม“s”
เมื่อเป็นพหูพจน์
Singular
Plural
a chief
chiefs
a cliff
cliffs
a giraffe
giraffes
a roof
roofs
54
คานามต่อไปนี้สามารถเปลี่ยน “f” เป็น “ve” และเติม “s”
หรือสามารถเติม “s”หลัง “f” ได้
Singular
Plural
Plural
a dwarf
dwarves dwarfs
a hoof
hooves
hoofs
a scarf
scarves
scarfs
7. คานามต่อไปนี้มีรูปเอกพจน์และพหูพจน์เหมือนกัน
Singular
Plural
an aircraft
aircraft
a bison
bison
a carp
carp
a deer
deer
a fish
fish
a goldfish
goldfish
a reindeer
reindeer
a salmon
salmon
a sheep
sheep
55
8.
คานามต่อไปนี้มีรูปพหูพจน์ที่มีหลักการต่างจากหลักข้างต้น
ที่กล่าวมา
Singular
Plural
a child
children
a foot
feet
a goose
geese
a louse
lice
a mouse
mice
an ox
oxen
a tooth
teeth
a woman
women
9.คานามต่อไปนี้มีแต่รูปพหูพจน์ เท่านั้น
เนื่องจากธรรมชาติของคานามเป็นคู่จึงมีแต่รูปพหูพจน์
56
Bermudas binoculars boots
braces
chopsticks
briefs
gloves
goggles
jeans
pants
pincers
pajamas
sandals
scissors
shears
shoes
shorts
slippers
sneakers spectacles socks
stocking
trousers
tights
tongs
sunglasses
2.4 สุภาษิตและสานวน (Proverbs and Idioms)
สานวนเป็นลักษณะทางภาษาอย่างหนึ่งซึ่งเจ้าของภาษามีคว
ามรู้
ความเข้าใจในภาษามิได้หมายถึงการแปลความหมายตามตัวอักษ
ร โดยทั่วไปแล้วสานวนถูกนามาใช้ในการอ่านและการเขียน
ในการอ่านสานวนจะแฝงด้วยอรรถรส
ส่วนในเรื่องของการเขียนเป็นการเพิ่มสีสัน
ความสละสลวยของภาษา
หรือเป็นกลวิธีที่ผู้เขียนแฝงไว้ซึ่งภูมิปัญญาในศาสตร์นั้นๆ
An Idiom is a natural manner of speaking to a native
speaker of a language. People frequency use idioms
because they make speech and writing more colorful and
interesting.
Here are commonly used idioms and their meaning.
สานวนมีลักษณะเป็นกลุ่มคา (Phrase) หรือ (Two word
verbs)
57
2.4.1 สานวนมีลักษณะเป็นกลุ่มคา (phrase)
A bird in the hand is worth two in the bush:
Having something that is certain is much better than
taking a risk for more, because chances are you might
lose everything.
A blessing in disguise:
Something good is that isn’t recognized
A chip on your shoulder:
Being upset for something that happened in the past
A dime a dozen:
Anything that is common and easy to get.
A doubting Thomas:
A skeptic who needs physical or personal evidence
in order to believe something.
A drop in the bucket:
A very small part of something big or whole
A fool and his money are easily parted:
It’s easy for a foolish person to lose his /her money.
A house divided against itself cannot stand:
Everyone involved must unify and function together
or it will not work out.
A leopard can’t change his spots:
You cannot change who you are.
58
A penny Saved is a penny earned:
By not spending money, you are saving money (little
by little).
A Picture paints a thousand words:
A visual presentation is far more descriptive than
words.
A piece of cake:
A task that can be accomplished very easily.
A slap on the wrist:
A very mild punishment.
A taste of your own medicine:
When you are treated the same way you mistreat
others.
A toss –up: A result that is still unclear and can go
either way.
Actions speak louder than words:
It’s better to actually do something than just talk
about it.
Add fuel to the fire:
Whenever something is done to make a bad situation
even worse that it is.
Against the clock: Rushed and short on time
All bark and no bite:
59
When someone is threatening and / or aggressive
but not willing to engage in a fight
All Greek to me:
Meaningless and incomprehensible like someone
who cannot read, speak, or understand any of the Greek
language would be.
All in the same boat: When everyone is facing the
same challenges
An arm and a leg: Very expensive, A large amount
of money.
An axe to grind:
To have a dispute with someone.
Apple of my eye:
Someone who is cherished
above all others.
As high as a kite:
Anything that is high up in the sky.
At the drop of a hat:
Willing to do something immediately
Back seat driver:
People who criticize from the sidelines, much like
someone giving unwanted advice from the back seat of a
vehicle to the driver.
Back to square one: Having to start all over again.
Back to the drawing board:
60
When an attempt fails and it’s time to start all over.
Baker’s dozen:
Thirteen
Barking up the wrong tree:
A mistake made in something you are trying to
achieve.
Beat a dead horse:
To force an issue that has already ended.
Beating around the bush:
Avoiding the main topic. Not speaking directly about
the issue.
Bend over backwards:
Do whatever it takes to help. Willing to do anything.
Between a rock and a hard place:
Stuck between two very bad options.
Bite off more than you can chew:
To take on a task that is way to big.
Bite your tongue: To avoid talking
Blood is thicker than water: The family bond is closer
than anything else.
Blue moon:
A rare event or occurrences.
Break a leg:
A superstitious way to say ‘good luck’ without saying
‘good luck’, but rather the opposite.
61
Buy a lemon:
To purchase a vehicle that constantly gives problems
or stops running after you drive it away.
Can’t cut the mustard:
Someone who isn’t adequate enough to compete or
participate.
Cast iron stomach:
Someone who has no problems, complications or ill
effects with eating anything or drinking anything
Charley horses:
Stiffness in the leg / A leg cramp.
Chew someone out:
Verbally scold someone.
Chip on his shoulder:
Angry today about something that occurred in the
past.
Chow down:
To eat
Close but no cigar:
To be very near and almost accomplish a goal, but
fall short.
Cock and bull story: An unbelievable tale.
62
Come hell or high water:
Any difficult situation or obstacle.
Crack someone up:
To make someone laugh.
Cross your fingers:
To hope that something happens the way you want it
to.
Cry over split milk:
When you complain about a loss from the past.
Cry wolf: Intentionally raise a false alarm.
Cup of Joe:
A cup of coffee.
Curiosity killed the cat:
being inquisitive can lead you into a dangerous
situation.
Cut to the chase:
Leave out all the unnecessary details and just get to
the point.
Dark horse:
One who was previously unknown and is now
prominent.
Dead ringer:
100% identical. A duplicate
Devil’s Advocate:
63
Someone who takes a position for the sake of
argument without believing in that particular side of the
argument. It can also mean one who presents a counter
argument for a position they do believe in, to another
debater.
Dog Days of summer:
The hottest days of the
summer season.
Don’t count your chicken before they hatch:
Don’t rely on it until your sure of it.
Don’t look a gift horse in the mouth:
When someone gives you a gift, don’t be ungrateful.
Don’t put all your eggs in one basket:
Do not put all your resources in one possibility.
Doozy: Something outstanding.
Down to the wire:
Something that ends at the last minute or last few
seconds.
Drastic times call for drastic measures:
When you are extremely desperate you need to take
extremely desperate actions.
Drink like a fish: To drink very heavily.
Drive someone up the wall:
To irritate and / or annoy very much.
64
Dropping like flies:
A large number of people either falling ill or dying.
Dry run: Rehearsal
Eighty six:
A certain items is no longer available. Or this idiom
can also mean, to throw away.
Elvis has left the building:
The show has come to an end. It’s all over.
Ethnic Cleansing:
Killing of a certain ethnic or religious group on a
massive scale.
Every cloud has a silver lining:
Be optimistic, even difficult times will lead to better
days.
Everything but the kitchen sink:
Almost everything and anything has been included.
Excuse my French: Please forgive me for cussing.
Feeding frenzy:
An aggressive attack on someone by a group.
Field Day: An enjoyable day or circumstance.
Finding your Feet:
65
To become more comfortable in whatever you are
doing.
Finger lickin’ good:
A very tasty food or meal.
Fixed in your Ways:
Not willing or wanting to change from your normal
way of doing something.
Flash in the Pan:
Something that shows potential or looks promising in
the beginning but fails to deliver anything in the end.
Flea Market:
A swap meet. A place where people gather to buy
and sell inexpensive goods.
Flesh and Blood:
This idiom can mean living material of which people
are made of, or it can refer to someone’s family.
Flip the Bird:
To raise your middle finger at someone.
Foam at the mouth:
To be enraged and show it.
Fools’ Gold:
Iron pyrites, a worthless rock that resembles real
gold.
66
French Kiss:
An open mouth kiss where tongues touch.
From Rags to Richet:
to go from being very poor to being very wealthy.
Fuddy - dudduy:
An old – fashion and foolish type of person.
Full Monty:
This idiom can mean either, “the whole thing” or
“completely nude”.
Funny Farm:
a mental institution facility.
Get down to Brass Tacks:
To become serious about something.
Get over it: To move beyond something that is
bothering you.
Get up on the wrong side of the bed:
Someone who is having a horrible day.
Get your Walking Papers:
Get fired from job.
Give him the slip:
To get away from. To escape.
Go down like a lead balloon:
To be received badly by an audience.
67
Go for Broke:
To gamble everything you have.
Go out on a Limb:
Put yourself in a tough position in order to support
someone / something.
Go the Extra Mile:
Going above and beyond whatever is required for
the task at hand.
Good Samaritan:
Someone who helps others when they are in need,
with no discussion for compensation, and no thought of a
reward.
Graveyard Shift:
Working hours from about 12.00 a.m. to 8.00a.m.
The time of the day when most other people are
sleeping.
Great Minds Think Alike:
Intelligent people think like each other.
Green Room:
The waiting room, especially for those who are about
to go on a TV or radio show.
Gut Feeling:
68
A personal intuition you get, especially when feel
something may not be right.
Haste makes Waste:
Quickly doing things results in a poor ending.
Hat Trick:
When one player scores three goals in the same
hockey game.
This idiom can also mean three scores in any other
sport, such as 3 homeruns, 3 touchdowns, 3 soccer goals,
etc.
Have an Axe to Grind:
To have a dispute with someone.
He Lost His Head:
Angry and overcome by emotions.
Head Over Heels:
Very excited and/ or joyful, especially when in love.
Hell in a Hand basket:
Deteriorating and headed for complete disaster.
High Five:
Slapping palms above each others heads as
celebration gesture.
High on the Hog:
Living in Luxury.
69
Hit the Books:
To study, especially for a test or exam.
Hit the hay:
Go to bed or go to sleep.
Hit the Nail on the Head:
Do something exactly right or say something exactly
right.
Hit the Sack:
Go to bed or go to sleep.
Hold your Horses:
Be patient.
Icing on the Cake:
When you already have it good and get something on
top of what you already have.
Idle hands are the Devil’s Tools:
You are more likely to get in trouble if you have
nothing to do.
In like Flynn:
To be easily successful, especially when sexual or
romantic.
In the Bag:
To have something secured.
70
In the Buff: Nude
In the Heat of the Moment:
Overwhelmed by what is happening in the moment.
In your face:
An aggressive and bold confrontation.
It takes two to tango:
A two person conflict where both people are at fault.
It’s a small World: You frequently see the same
people in different places.
Its anyone’s Call:
A competition where the outcome is difficult to judge
or predict.
Ivy League:
Since 1954 the Ivy League has been the following
universities: Columbia, Brown, Cornel, Dartmouth, Yale,
Pennsylvania, Princeton, and Harvard.
Jaywalk:
Crossing the street (from the middle) without using
the crosswalk.
Joshing me: tricking me.
Keep an eye on him:
You should carefully watch him.
Keep body and soul together:
71
To earn a sufficient amount of money in order to
keep yourself alive.
Keep your chin up:
To remain joyful in a tough situation.
Kick the Bucket: Die.
Kitty – corner:
Diagonally across. Sometimes called Catty – Corner
as well.
Knee Jerk Reaction:
A quick and automatic response.
Knock on Wood:
Knuckle tapping on wood in order to avoid some bad
luck.
Know the Ropes:
To understand the details.
Last but not least:
An introduction phrase to let the audience know that
the last person mentioned is no less important than those
introduced before him / her.
Lend me your ear:
To politely ask for someone’s full attention.
Let Bygones be Bygones:
To forget about disagreement or argument.
72
Let Sleeping Dogs Lie:
To avoid restarting a conflict.
Let the Cat out of the Bag:
To share a secret that wasn’t suppose to be shared.
Level playing field:
A fair competition where no side has an advantage.
Like a chicken with its head cut off:
To act in a frenzied manner.
Liquor someone up:
To get someone drunk.
Long in the Tooth:
Old people (or horses).
Loose Cannon:
Someone who is unpredictable and can cause
damage if not kept in check.
Make No Bone about:
To state a fact there are no doubt or objections.
Method to my Madness:
Strange or crazy actions that appear meaningless but
in the end are done for a good reason.
Mumbo Jumbo:
Nonsense or meaningless speech.
Mum’s the word:
73
To keep quiet. To say nothing.
Nest Egg:
Saving set aside for future use.
Never Bite the Hand that Feeds you:
Don’t hurt anyone that helps you.
New kid on the block:
Someone new to the group or area.
New York Minute:
A minute that seems to go by quickly, especially in a
fast paced environment.
No. Dice:
To not agree. To not accept a proposition.
No Room to Swing a Cat:
An unusually small or confined space.
Not Playing with a full Deck:
Someone who lacks intelligence.
Off on the Wrong Foot:
Getting a bad start on a relationship or task.
Off the Hook:
No longer have to deal with a tough situation.
Off the Record:
Something said in confidence that one speaking
doesn’t want attributed to him / her.
74
On Pins and Needles:
Anxious or nervous, especially in anticipation of
something.
On The Fence: Undecided.
On The Same Page:
When multiple people all agree on the same thing.
Out of the Blue:
Something that Suddenly and unexpectedly occurs.
Out on a Limb:
When someone puts themselves in a risky situation.
Out On The Town:
To enjoy yourself by going out.
Over My Dead Body:
When you absolutely will not allow something to
happen.
Over The Top: Very excessive.
Pass The Buck:
Avoid responsibility by giving it to someone else.
Pedal to the metal:
To go full speed, especially while driving a vehicle.
Peeping Tom:
75
Someone who observes people in the nude or
sexually active people, mainly for his own gratification.
Pick up your ears:
To listen very carefully.
Pig in A Poke:
A deal that is made without first examining it.
Pig Out:
To eat a lot and eat it quickly.
Pipe Down: To shut – up or be quiet.
Practice makes perfect:
By constantly practicing, you will become better.
Pull the plug: To stop something. To bring
something to an end.
Pulling your Leg: Tricking someone as a joke.
Put a sock in it: To tell noisy person or a group to be
quite.
Queer the Pitch: Destroy or ruin a plan.
Rain check:
An offer or seal that is declined right now but willing
to accept later.
Raining Cats and Dogs:
A very loud and noisy rain storm.
Ring Fencing:
76
Separated usual judgment to guarantee protection,
especially project funds.
Rise and Shine:
Time to get out to bed and get ready for work / school
Rome was not built in one day:
If you want something to be complete properly, then
its take time.
Rule of Thumb: A rough estimate.
Run out of Steam:
To be completely out of energy
Saved by the Bell:
Saved at the last possible moment
Scapegoat:
Someone else who takes the blame
Scot – Free:
To escape and not have to pay
Sick as a Dog:
To be very sick (with the flu or a cold)
Sitting Shotgun:
Riding in the front passenger seat of a car
Sixth Sense:
A paranormal sense that allows you to communicate
with the dead.
77
Row:
The rundown area of a city where the homeless and
drug users live
Smell a Rat:
To detect someone in the group is betraying the
others.
Smell Something Fishy:
Detecting that something isn’t right and there might
be a reason for it.
Son of a Gun: A scamp.
Southpaw: Someone who is left – handed.
Spitting Image: The exact likeness or kind.
Start from Scratch: To do it all over again from the
beginning.
The Ball is in your Court: It is your decision this time.
The Best of both Worlds:
There are two choices and you have them both.
The Bigger They are The Harder They Fall:
While the bigger and stronger opponent might be a
lot more difficult to beat, when you do they suffer a much
bigger loss.
78
The Last Straw:
When one small burden after another creates an
unbearable situation, the last straw is the last small burden
that one can take.
Third times a charm:
After no success the first two times, the third try is a
lucky one.
Tie the Knot: To get married.
Till the cows home: A long time.
To make a Long Story Short:
Something someone would say during a long and
boring story in order to keep his/ her audience from losing
attention. Usually the story isn’t shortened.
To Steal Someone’s Thunder:
To take the credit for something someone else did.
Tongue –In Cheek:
Humor, not to be taken serious
Turn A Blind Eye:
Refuse to acknowledge something you know is real
or legit.
Twenty three Skidoo: To be turned away.
Under the weather: Feeling ill or sick.
Up a Blind Alley:
79
Going down a course of action that leads to a bad
outcome
Use your Loaf: Use your head. Think smart.
Van Gogh’s ear for music: Tone deaf.
Variety is the Spice of Life:
The more expensive you try the more exciting life can
be.
Wag the Dog:
A diversion away from something of greater
importance
Water under the Bridge:
Anything from the past that isn’t significant or
important anymore.
Wear your heart on your Sleeve:
To openly and freely express your emotions
When it Rains, It Pours:
Since it rarely rains, when it does it will be a huge
storm.
When Pigs Fly: Something that will never ever
happen
Wild and Woolly: Uncultured and without laws.
80
Wine and Dine: When somebody is treated to an
expensive meal.
Without a Doubt: For certain.
X marks the Spot:
A phrase that is said when someone finds something
he /she been looking for.
You are what you eat:
In order to stay healthy you must eat healthy foods.
You can’t Judge a Book by Its Cover:
Decision shouldn’t be made primarily on appearance.
You can’t take it with you:
Enjoy what you have and not what you don’t have,
since when you die you cannot take things (such as
money) with you.
Your Guess is as Good as Mine: I have no idea.
Zero Tolerance:
No crime or law breaking big or small will be
overlooked.
2.4.2 สานวนที่มีลักษณะเป็น คากริยา + คาบุพบท (two
words verb)
blow away:
carry away into the distance
blow down:
blow to the ground
81
blow out: extinguish
blow up : 1. explode
2. lose one’s temper
break away:
leave, free oneself from
break down:
fail to function or operate
break in : 1. Being to use
2. Interrupt
break into;
burglarize, enter by force
break out: happen suddenly, begin
break up: 1. break into small piece
2. terminate: come to an end
bring up: to rear, educate and train children
build up: increase, strengthen
call at:
pay a short visit, usually on
business
call away: summon from
call down: reprimand, scold
call for:
go to pick someone or something
call off:
cancel
call on:
call out:
visit: pay him a short formal visit
speak loudly, shout
call up:
telephone something
come about:
happen
82
came across: meet or find unexpectedly
come along:
accompany: come with
somebody
come around: visit, come to, come round
come back:
return
come on: Hurry, come to, come round
come to: 1. equal
2. appear suddenly
get at:
reach
get along: 1. make progress
2. agree, be friendly, by in harmony
get away: escape
get back: 1. return; reach home again
2. receive
get in:
enter
get into: arrive at the station
get lost:
lose his direction
get off:
leave or depart from a vehicle
get one: board or enter a vehicle
get on with:
make progress; be successful
get out (of):
leave, depart from a vehicle
get over: recover from illness, distress, mental
or physical weakness
83
get rid of: become free of, escape from
get through:
1. finish
2. pass a course or examination
successfully
get together:
unite, meet as a group
get up:
arise from a bed, chair, etc
give away:
1. give something away = give it
to someone,
not expecting anything in return
2. give someone = betray him
give back:
give in :
return
surrender
give out: 1. hand out, distribute
2. make known
give up:
1. abandon; cease trying to do
something
2. surrender
go ahead: continue; lead the way
go down: 1. become lower
2. sink
go on:
1. continue any action
2. continue a journey
84
3. approach
go out:
1. leave the house
2. extinguish
go over: 1. review, restudy
2. check over, examine
go up:
rise
go through:
1. match
2. court, go out in the company of
Hand in: deliver something due, submit
hand over:
surrender
hang about / around:
grasp, take a firm hold
upon
hang up: end a telephone call
keep on: continue
keep off: stay away from, do not step on
keep out: maintain, support
look after: take care of
look at:
to direct the eyes toward, watch
look down upon:
despise, scorn, consider
inferior
look for: search for, try to find
look forward to:
anticipate with pleasure
look into: investigate
85
look like: resemble
look on:
watch without participating;
be a spectator only, not a participator
look out: be careful
look out for:
be on the alert for
look over: examine; check quickly
look up to:
respect, admire
look through: revise a lesson, study, examine
make up: 1. constitute, from
2. invent, compose
3. put cosmetics
4. end it
make out: write out, computer or fill in
pick out: choose, select
pick up:
1. lift or raise a person or thing from
the ground
2. offer o give a ride to someone,
fetch
3. find, locate, secure
put aside: 1. Place at one side
2. save
put away: put something in its proper place,
save
86
put back: return; replace something where it
belongs
put down: cease to hold, lay aside, place in
position
put off:
postpone
put on:
1. place upon oneself; dress
oneself in
2. switch or turn on
put out:
extinguish, cause to stop burning
put together:
assemble
put up:
build, erect
put up with:
endure without protest, bear
patiently
run about:
run here and there
run across:
meet of find by chance
run after: try to catch
run away: leave
run down: slow down, stop
run into: meet unexpectedly
run out:
terminate, become exhausted
run over: knock down and pass over with an
automobile
vehicle
87
or other moving
send for: dismiss
send for: ask or order somebody to come
set off:
set out:
begin a trip or journey
display, exhibit
set up:
1. display, start
2. put together
take after: resemble in features or character
take apart:
disassemble
take away:
remove
take off: 1. remove – said particularly of
clothes
2. depart – said particularly
take out: 1. accompany, escort
2. remove, extract from a pocket
take over: assume in charge of
turn against:
develop an aversion to change
from a friendly
turn away:
reject, refuse to admit, dismiss
turn back: return
turn down:
reject
turn in:
give back
turn off:
open, begin
88
turn over: turn so that the upper and lower
position of an object are reversed;
change the position by rolling
turn round:
take a new direction
2.5 เครือ
่ งหมายวรรคตอน (Punctuations)
เนื่องจากาษาอังกฤษเป็นภาษาที่มีระเบียบแบบแผน
เครื่องหมายวรรคตอน(Punctuation)
เป็นส่วนประกอบในการอ่านและการเขียนเพื่อสื่อความหมายอีกป
ระเภทหนึ่ง
เครื่องหมายวรรคตอนเป็นเครื่องหมายชี้บอกว่าประโยคนั้นเป็นปร
ะโยคประเภทใด ประโยคจบอยู่ตรงไหน
ส่วนต่อไปนี้เป็นส่วนขยายของประโยคที่กล่าวมาข้างหน้าและอื่นๆ
อีก ซึ่งจะกล่าวต่อไป
89
เครื่องหมายวรรคตอนที่นิยมใช้และพบในการอ่านและการเขียนมี
ดังนี้
1. Apostrophe (’)
2. Colon (:_)
3. Comma (,)
4. Dash (-)
5. Exclamation Mark (!)
6. Full stop (.)
7. Hyphen ( - )
8. Question Mark (?)
9. Quotation Mark (“…..”)
10. Semi Colon (;)
2.5.1 Apostrophe ( ’)
Apostrophe ( ’)
เป็นเครื่องหมายวรรคตอนที่มีวิธีการใช้และใช้สื่อความหมา
ยดังนี้
1. ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ ทั้งคานามนับได้อกพจน์
และคานามนับได้พหูพจน์ เช่น
The Dean’s car
The President’s office
The English Teachers’ Club
Somchai’s I-phone
90
2. ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ
ของคานามพหูพจน์ที่เติม -s หรือชื่อเฉพาะที่มี s
The students’ phonetics books are sold at
the faculty.
The lecturers’ Handbooks are published for
a week.
3. ใช้เป็นรูปย่อ ที่นิยมใช้ มี ’d, ’s, ’t,และ ’ve
I’d rather (I would rather)
It’d (It had) been built since 2000.
It’s (it is) a special holiday. (23rd May 2014)
She’s (She has) been a lecturer for 35
years.
You can’t (cannot) go to school on 23rd
May 2014 because of The command of National Peace
and Order Maintaining Council.
(คาสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ)
I’ve (I have) been in Bangkok since 1987.
2.5.2. Colon (:)
Colon (:)
เป็นเครื่องหมายวรรคตอนที่มีวิธีการใช้และใช้สื่อความหมา
ยในการอธิบายเพิ่มเติมดังนี้
1. ใช้ Colon (:) ก่อนการอธิบายประโยค
91
She decided to buy a car: she had to
travel to the remote area.
2. ใช้ Colon (:) แจ้งรายการ
ซึ่งนิยมใช้หลังคาที่มีความหมาย the following หรือ
follows เป็นต้น
as
I want the following for our English
Edutainment: cloth – bag, painted brush, and color,
We require as follows: tents, sleeping –
bags, and boots for our camping.
2.5.3 Comma ( , )
( , ) เป็นเครื่องหมายวรรคตอนที่มีวิธีการใช้ดังนี้
1. ใช้คั่นเพื่อแยกคานามซ้อน
Thailand, a country in Asia, is a famous for
its beautiful temples.
Nokia, which is based in Finland.
2. ใช้แยกระหว่างคาที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน
I want a car, a motorcycle, and a bicycle.
3. ใช้แยกคาคุณศัพท์บอกสี
a pink, blue bicycle
4. ใช้ยกคาคุณศัพท์ที่ตามหลังคานาม
The Model is slim, tall and beautiful.
In group, discuss the questions.
92
5. ใช้คั่นข้างหน้าหรือข้างหลังชื่อ เช่น
Smith, where have you been?
What would you like to eat, Nina?
6. คั่นประโยคที่ตามหลัง Yes, No, และ Well
ที่ขึ้นต้นประโยค
Are you Chinese?
No, I am not.
Can she speak Thai?
Yes, she
can.
Well, I’m not sure if I can do it.
7. ใช้เพื่อแยกข้อความในประโยคคาพูด เช่น
He said, “They are happy.”
8. คั่นระหว่างปี ที่ตามหลังเดือน ถนนกับเมือง
เมืองกับประเทศ
Today is June 9th, 2014.
Yesterday was July 14th, 2013.
My address is at 123 Boromrajchonnani
Road, Bangkok.
2.5.4 Dash (-)
Dash (-) เป็นเครื่องหมายวรรคตอน
ใช้เพื่อเน้นข้อความที่แทรกเข้ามาเพื่ออธิบายหรือใช้คั่นคาล
ะไว้ในฐานที่เข้าใจหรือเปลี่ยนใหม่ เช่น
I got lost, forgot my bag, and missed my
plane—it was a terrible trip.
93
If I had a lot of money, I would –Oh, what
am I thinking?
I will never be rich.
2.5.5 Exclamation Mark (!)
Exclamation Mark (!)
เป็นเครื่องหมายวรรคตอนที่ใช้แสดงอารมณ์ที่เกิดขึ้นอย่างก
ระทันหัน ในภาษาไทยเยรีกว่า เครื่องหมายตกใจ
เนื่องจากมีวิธีการใช้ ใช้หลังคาอุทาน หรือประโยคอุทาน
เช่น
Go away!
Hello! How are you?
Oh! You are so beautiful
Watch Out!
Wow!
2.5.6 Full Stop (.)
Full Stop (.) มีอีกชื่อหนึ่งว่า Period
เป็นเครื่องหมายวรรคตอนที่สาคัญในภาษาอังกฤษเนื่องจากเป็นเค
รื่องหมายที่ชี้ให้เห็นว่าประโยคนั้นมีการสิ้นสุดตรงไหนในกรณีที่ป
ระโยคมีข้อความยาวๆ ในการอ่านก็จะบอกว่าข้อความ
หรือประโยคสิ้นสุดตรงไหน มีวิธีการใช้ดังนี้
1. ใช้เมื่อจบประโยค ในประโยคบอกเล่า ปฏิเสธ
คาสั่ง หรือขอร้อง เช่น
At first she had terrible problems following
the camp staff.
Listen to these sentences.
94
They have even made a phone with gold
and diamonds.
The picture has been sold for 50,000 ฿.
I don’t go to this camp.
He doesn’t feel depressed anymore.
2. ใช้หลังอักษรย่อ หรือคาย่อ
Asst. Prof = Assistant Professor
Dr.
= Doctor
Adj.
= Adjective
2.5.7 Hyphen ( - )
Hyphen ( - ) เป็นเครื่องหมายวรรคตอนที่ใช้
เพื่อเชื่อมคาสองคาให้เป็นคาเดียวกันหรือใช้ในการสร้างคาประส
ม เช่น
anti - government
ex – prime minister
pre – test
sky – train
2.5.8 Question Mark ( ? )
Question Mark ( ? )
เป็นเครื่องหมายวรรคตอนใช้เมื่อจบประโยคคาถาม เช่น
What kind of the story is it?
Who is a scientist?
Where do the lecturers do?
How do you go to work?
95
What do the words in bold refer to?
2.5.9 Quotation Marks (“………” )
Quotation Marks
(“………”)เป็นเครื่องหมายวรรคตอนที่ใช้เขียนคร่อมข้อความที่)เ
ป็นประโยคคาพูด เช่น
Ned, 16 said, “I lie, steal, and cheat. I’ve
been in trouble with the police,” he says. “I hate
everything”.
Jamie,17 said, “I fight a lot,” he says. “I’m
going to end up in prison or seriously hurt if I don’t go to
this camp. I hope it helps.”
Emily, 15 said, “I hated camp, but I’ve
learned that everything I affects other people. I’m sorry I
was so horrible to my mom. I hope I can go back to
school. I want to be a nurse.”
2.5.10 Semi – Colon ( ; )
Semi – Colon ( ; ) เป็นเครื่องหมายวรรคตอน
ที่ใช้คั่นประโยคที่มีเครื่องหมายComma (,) คั่นอยู่แล้ว
และใช้เชื่อมประโยคสองประโยคที่มีเนื้อหาเกี่ยวเนื่องกันวาง
ไว้หน้า
กริยาวิเศษณ์ (Adverb) ต่อไปนี้
therefore (ดังนั้น) beside (นอกจากนี้)
96
Canada is very cold; therefore people must
wear heavy coats in winter.
สรุป
97
คาถามทบทวน
1. Word Formation
1.1 จงอธิบายความหมายของ อุปสรรค (Prefix) และปัจจัย
(Suffix) และมีวิธีการใช้อย่างไร
1.2. Choose the correct prefix to form the following words.
1. A gang of criminals sell drug. They
are………………………………..
a. illegible
b. illegal c. illiterate
d.
irregular
2. It is………………….for Jack to be late for class.
a. undo
b. unknown
unfair
3. The name on the parcel
was………………………..for us.
98
c. unused d.
a. unpack
b. untie
c. unwrap d. unclear
4. It is………………….to wait until the last minute to
do our paper.
a. unfamiliar
b. uncertain
c. unable d.
unfair
5. It is………………….; the car hit the yacht.
a. import
b. important
c. impossible d.
impolite
6. …………………………. has many field of
mechanics.
a. Polyclinics
b. Polyester
c. Polytechnics
d. Polyschool
7. Today, dictation is very difficult because of
………………………….
a. miss you
b. miss read
c. miss spelling
d. misstrain
8. Mr. Suthep Thaugsuban is a leader who is
an………………………….
a. anti – accident
b. anti – government
c. anti –aid
d. anti – social
9. You must not be………………………….to your
President.
a. anti –polite
b. inpolite
99
c. unpolite
d. impolite
10. The CEO has been responsible for
many………………………….
a. ilpopular
b. impopular
c. unpopular
d. inpopular
11. He smokes and drinks a lot, so his behavior
is………………………….
a. inacceptable
b. unacceptable
c. imacceptable
d. ilacceptable
12. Miss Lotus is inattentive, impatient
and………………………….
a. inpredictable
b. impredictable
c. unpredictable
d. misspredictable
13. What is the opposite form of common, fair, and
social able ?
a. im -
b. in -
c. il -
14. Her remark about his family was impolite
and ………………………….
a. misrespectful
c. unrespectful
b. irrespectful
d. disrespectful
100
d. un –
15. I am very sorry. I
probably………………………….your “Phonetics Book”,
and
now I can’t find it.
a. displaced
b. misplaced
c. unplaced
d. inplaced
16. The start button is active
and ………………………….by pushing this level up
and down.
a. unactivated
b. inactivated
c. imactivated
d. disactivated
17. What is the opposite form of convenient, famous
and sufficient?
a. im -
b. in -
c. il -
d. un –
18. What is the punishment if you …………………..th
rules?
a. disagree
b. disobey
c. discover
dislike
19. Instead of studying,
the…………………………..student cheated by
copying the
Test answer from another student.
101
d.
a. disobey
b. discover
c. dislike d.
dishonest
20. My parents
sometimes…………………………..with me about
Korean CDs to buy
Because they ………………………….. of the
content.
a. disagree / disapprove
b. disagree /
c. dislike / discover
d. dislike /
dislike
disobey
1.3 Choose the correct suffix to form the following words.
1. The person who lectures at university is
a ……………………………
102
a. lecturer b. lecturing
c. lectures
d.
lecturable
2. Ms. Anna doesn’t have a child. In other words,
she is…………………………..
a. child able
b. childless
c. childful
d.
childish
3. If a notebook file can be saved, it
is …………………………..
a. saveful b. saveless
c. save able
d.
savement
4. Miss Rose is in a state of being happy.
Her…………………..is because she is
in love.
a. happily b. happier c. happiable
d.
happiness
5. Her paper was done in poor way; it
was…………………………..
a. pooer b. poorful c. pooest
d. poorly
6. My credit card should be paid by July 17th, but it
is ………………anytime
before that.
a. payer b. payable
payful
103
c. payment
d.
7. A person who tastes food is
called…………………………..
a. tasty
b. tasteful c. tastes
d.
taster
8. Miss Patchaya is filled with hope that she will
succeed. She is ……………………
a. hopeful b. hopeless
c. hoper
d.
hopeable
9. Her broken left arm cause her a lot of pain. It
was …………………………..
a. painful b. painless
c. painable
d.
hopper
10. “The English for Teachers” contains exercise on
grammar.
It contains…………………………..exercise.
a. grammartic
b. grammarticial
c. grammatical
d. grammartically
11. A person who works on farm; he is
a …………………………..
a. farmer b. a farmor
c. farerist
d.
farmeric
12. In winter, European countries have a lot of snow.
It is…………………………..
104
a. snowed
b. snower c. snowy
d.
snowiest
13. Nong Jing often makes mistakes because he isn’t
careful.
He is often…………………………..
a. careable
b. careless
c. carement
d. don’t care
14. Miss Nipa received a letter asking her to pay her
parking ticket, but
she had already sent
her …………………………..to the traffic office.
a. payer b. payment
c. payable
d.
payee
15. Who said “you have a small cavity in this back
molar.”?
a. pharmacist b. editor c. dentist
d. artist
16. Who said “face the camera and smile.”?
a. astronomer b. photographer
c. editor d.
waiter
17. Who said “The fine for the overdue books is one
hundred baht.”?
105
a. librarian
b. President
c. bookseller
d. bookstore
18. Who said “This incredible engine will
revolutionize transportation.”?
a. astronomer b. inventor
c. superintendent
d. editor
19. Who said “It took three years to prepare this book
for publication.”?
a. astronomer b. photographer
c. editor d.
waiter
20. Who said “These watches were imported from
Germany.”?
a. waiter b. shopkeeper
c. inventor
merchant
2. Capitalization Rules
Direction: Rewrite the article use capital letter correctly.
(10 points)
Passage1:
two south american cities are world
leaders in transportation. in the 1970s,
curitaba was one of brazil’s fastest growing
106
d.
cities, with serious pollution problems. the
local government started several programs to
reduce people’s need for cars world – famous
innovations included new extra – large buses,
special new roads for buses only, and a road
system that keep highways out of the city
center. this plan has been very successful.
curitiba’s population has grown by more than
one hundred percent since 1974, but traffic
has decreased by thirty percent. curitiba has
reduced air pollution and provided cleaner
neighborhoods for its citizens.
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
107
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………
108
Passage 2:
the world’s most livable city
what make a city the most livable in the
world? according to an organization called the
economic intelligence unit (eiu) in london ,
england, there are 12 factors, including
climate, culture and entertainment,
transportation, housing, jobs, and safety.
every year the eiu surveys 130 cities around
the world to figure out which city is the most
livable.
recently, the eiu ranked melbourne,
australia, as the best city in the world to call
home, Melbourne is a very sophisticated city,
with lots of art galleries, trendy shops, and a
wide variety of restaurants. people in
melbourne enjoy mild weather – not too hot
and not to cold. melbourne offers many
109
opportunities to watch sporting events, as well
as cultural events such as plays, concerts, and
festivals. Residents of Melbourne can enjoy
living in a safe and clean city. No wonder this
city ranks number one in the world.
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
110
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
…………………………………………………………………
……………………………………….......................................
111
.............................................................................................
.............................................................................................
.............................................................................................
.............................................................................................
.............................................................................................
.............................................................................................
.............................................................................................
.............................................................................................
..........................................
3. Forming Plural
Direction: Put the right plural form in appropriate blank.
1. There are
seven…………………………………………(day) in week
and there are
fifty - two ……………………………(week) in a year.
2. On my trip, I prepare two………………………(jean),
three……………………(short),
112
five ……………………(T- shirt), and
three……………………(dress).
3. Two ……………………(kilo) is pretty small for a new
born baby.
4. I bought lovely ten……………………(handkerchief) from
China.
5. Thai Super Model’s tall at least
five………………(foot)and
15 ……………………(centimeter).
6. Mr. Anant loves collecting ……………………(watch).
7. There are fifty –two……………………(state) in The
United States of America.
8. In Thailand, there are seventy –
seven ……………………(province) and there are three
……………………(season).
9. There are six……………………(continent)and
five…………………… (ocean) in the world.
10. Miss Pukino is a millionaire, so has a lot
of ……………………(vehicle).
11. My family has thirteen……………………(niece)and
twelve……………………(nephew).
12. My son likes collecting……………………(goldfish).
113
13. Old MacDonald has twelve……………………(sheep),
ten……………………(deer),
seven……………………(reindeer)and a dozen
of ……………………(cow).
14. Our office faculty has two……………………(fax
machine), three……………………(guillotine),
six…………………(hole puncher)
seven……..……………(calculator),eight………………(cale
ndar)
and twelve……………………(computer).
15. In language laboratory, there are
two……………………(data projector), two…………………
(inactive white board), three……………………(flipchart)
and four…………………………………..
(overhead projector).
4. Proverbs and idioms
4.1 Direction: Describe these proverbs in Thai.
1. A bird in the hand is worth two in the bush
2. A leopard can’t change his spots.
3. Blood is thicker than water.
4. Still water runs deep.
5. Time and tide wait for no man.
6. Wear your heart on your Sleeve:
114
4.2 Choose the correct answer.
1. Mr. Narong set out for Singapore.
He …………………………………..
(start his journey to ward / arrived in Singapore).
2. Master JIngjo tried on a few shoes and finally
picked out brown one.
Tried on
means…………………………………………………….(choo
se before buying /
put on to see weather it looked well.)
3. If the election day is called off, it
is……………………………………………………
(crowed / cancelled)
4. Nisa blew………………………….(away / out) the
candle before she went to bed.
5. I waited until 5.p.m., but they didn’t show up. They
did not………………………
(appear / showed something to the public)
6. He gives up smoking.
He………………………………………
(stop smoking, giving someone a cigarette).
7. Miss Vinee was late this morning because her
car……………………………………
115
(broke down / broke away).
8. The prisoners got rid of the jail.
They …………………………………………the jail.
(escaped from / left from)
9. Miss Nartnaree resembles her mother
she………………………………………………….
(take after / take out).
10. Don’t forget to put your I –
phone …………………………………………(away / down)
before going to bed.
5. Punctuation
5.1 Rewrite this e mail put . , ’ or ? where necessary.
Hi Laura
I m back from Egypt It was an amazing trip
First we landed in Cairo The next day we
went to the Egyptian Museum and we saw the
King Tutankhamun treasures They were
incredible Then we visited the pyramids and
the Sphinx We were tired but the day wasn t
over! After that we flew to Luxor The next
morning we went to the temple of Karnak
116
Then we took a boat across the river We
visited the Valley of Kings The tomb of King
Tutankhamun is there. It wasn t very
interesting though All of the treasures are in
the museum in Cairo! It was also very hot in
the desert and it was crowed with tourists
Next we returned to Cairo The fourth day we
went to the Khan El Khalili market and bought
a lot of souvenirs It was hot and crowded too
but finally we relaxed We went out on a
sailboat It s very quiet out on the Nile It was a
great trip! BTW do you like the photo I took
them with my new digital camera I hope you
go to Egypt someday
See you soon
James
117
5.2 Rewrite this e mail put . , ’ ! ? where necessary.
Hi I m Linda your new pen pal I m from
Riode Janeio Brazil I live near the beach and I
love to swim My only problem is the weather I
don t like hot weather Do you like hot weather
Is it hot where you live
Let me tell you about myself I love sports
especially water sports How about you Do
you like sport My other interests are movies
and music I have a karaoke machine Do you
like to sing I love hip hop Do you know Jay –
Z He s my favorite singer What kind of music
do you like What are your interest
Well that s all for now Can’t wait to hear
from you
118
เอกสารอ้างอิง
119
Download