การสอน

advertisement
0
เทคนิคการสอน
โดย รศ. ดร. ทิศนา แขมมณี
1
ทฤษฎีการเรียนรู้ / การสอน
(THEORY)
 ข้ อความรู้ ที่พรรณนา/ อธิบาย/ ทานาย ปรากฏการณ์ ต่างๆ ทางการเรี ยนรู้ /
การสอนที่ได้ รับการพิสูจน์ ทดสอบ และการยอมรับว่ าเชื่อถือได้
 ทฤษฎีการเรียนรู้ / การสอน มักประกอบด้ วยหลักการย่ อยๆ หลายหลักการ
 ทฤษฎีการเรียนรู้ บางทฤษฎีเสนอทฤษฎีการสอนควบคู่ไปด้ วย
 ทฤษฎีการสอนส่ วนใหญ่ แปลงมาจากทฤษฎีการเรียนรู้ เพือ่ นาไปใช้ เป็ น
หลักในการจัดการเรียนการสอน
2
ตัวอย่ าง ทฤษฎีการเรียนรู้ / การสอน









พฤติกรรมนิยม (Behaviorism)
พุทธินิยม (Cognitivism)
มนุษย์ นิยม (Humanism)
กระบวนการทางสมองในการประมวลข้ อมูล (Information Processing Theory)
พหุปัญญา (Theory of Multiple Intelligences)
การสร้ างความรู้ (Constructivism)
การสร้ างสรรค์ ชิ้นงาน (Constructivism)
การเรียนรู้แบบร่ วมมือ (Cooperative Learning)
การทางานของสมอง (Brain Theories)
ฯลฯ
3
หลักการเรียนรู้ – การสอน
(PRINCIPLE)
 ข้ อความรู้ ย่อยๆ ทีพ
่ รรณนา/ อธิบาย/ ทานาย ปรากฏการณ์ ต่างๆ
ทางการเรียนรู้ / การสอน ทีไ่ ด้ รับการพิสูจน์ ทดสอบ และการยอมรับ
ว่ าเชื่อถือได้
 หลักการหรือ ข้ อความรู้ ย่อยๆ หลายประการ อาจนาไปสู่ การสร้ าง
ทฤษฎีได้
 หลักการย่ อยๆ อาจนิรนัยมาจากทฤษฎีได้
4
ตัวอย่ างหลักการเรียนรู้ – การสอน
หลักการเรียนรู้ -การสอน
- จากง่ ายไปยาก
- จากรู ปธรรมไปนามธรรม
- จากประสบการณ์ ตรง
- โดยการฝึ กปฏิบัติ
- โดยให้ เชื่อมโยงกับชีวติ จริง
- โดยให้ เชื่อมโยงกับประสบการณ์ เดิม
- โดยให้ สอดคล้ องกับความสนใจ และ
ความต้ องการของผู้เรียน
- โดยเป็ นแบบอย่ าง
- แบบเน้ นตัวผู้เรียน
- แบบเน้ นความรู้ ความสามารถ
- แบบเน้ นประสบการณ์
- แบบเน้ นปัญหา
- แบบเน้ นทักษะกระบวนการ
- แบบเน้ นการเรียนรู้ ผ่านสื่ อ เทคโนโลยี
ฯลฯ
5
วิธีสอน
(METHOD)

วิธีการต่ างๆ ทีน่ ามาใช้ ในการสอน เพือ่ ช่ วยให้ ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ วิธีแต่ ละวิธีมี
วัตถุประสงค์ และลักษณะเด่ นเป็ นเอกลักษณ์ แตกต่ างกัน

ลักษณะเด่ นของแต่ ละวิธี ก็คอื ลักษณะเฉพาะที่ขาดไม่ ได้ ของวิธีน้ัน หากขาดไป
ก็จะทาให้ ไม่ ใช่ วธิ ีน้ันอีกต่ อไป เช่ น ลักษณะเฉพาะของวิธีสอนแบบสาธิตก็คอื การ
แสดง/การทาให้ ดู หากไม่ มีการทาให้ ดู ก็จะไม่ ใช่ วธิ ีสอนแบบสาธิต

วิธีแต่ ละวิธี มีวตั ถุประสงค์ เฉพาะ คือ เป็ นวิธีทจี่ ะช่ วยให้ เกิดผลเฉพาะบางประการ
จากการใช้ วธิ ีน้ัน เช่ น วัตถุประสงค์ ของวิธีสอนแบบสาธิต ก็คอื การช่ วยให้ เห็นการ
ปฏิบัติจริง ทาให้ เห็นภาพ ทาให้ เกิดความเข้ าใจ และจาเรื่องทีเ่ ห็นจากการสาธิตได้ ดี

การเลือกใช้ วธิ ีสอน จึงต้ องพิจารณาว่ า วิธีน้ันมีวตั ถุประสงค์ คือจะช่ วยให้ เกิดผล
อะไร สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ในการสอนบทเรียนทีต่ ้ องการหรือไม่
6
วิธีสอนแบบต่ างๆ













บรรยาย (Lecture)
สาธิต (Demonstration)
ทัศนศึกษา (Field trip)
อภิปรายกลุ่มย่ อย (Small Group Discussion)
ละคร (Dramatization)
บทบาทสมมติ (Role Playing)
กรณีตัวอย่ าง (Case)
เกม (Game)
สถานการณ์ จาลอง (Simulation)
นิรนัย (Deduction)
อุปนัย (Induction)
ศูนย์ การเรียน (Learning Center)
บทเรียนแบบโปรแกรม (Programmed Instruction)
ฯลฯ
7
วิธีสอนและวัตถุประสงค์
ช่วยให้ผเู ้ รี ยน
ฝึ กกำรเอำชนะ จำนวนมำกเรี ยนรู ้
อุปสรรคอย่ำง เนื้อหำสำระจำนวน
เห็นกำร
สนุกสนำน และ มำกพร้อมกันใน
ปฏิบตั ิจริ ง
เวลำจำกัด
ท้ำทำย
ประจักษ์ชดั
ด้วยตำ
เห็นผลของกำร
คิด กำรกระทำ
ประจักษ์ชดั
เรี ยนรู ้ควำมเป็ นจริ งของ
สถำนกำรณ์ที่มีควำม
ซับซ้อน
เรี ยนรู้กำรเอำใจ
เขำมำใส่ ใจเรำ ช่วยให้เข้ำใจ
ควำมรู้สึกและพฤติกรรม
ของตนและของผูอ้ ื่น
เกม
สถานการณ์
ช่วยให้เรื่ องรำว/
สำระมีชีวติ เห็น
ประจักษ์ชดั ด้วยตำ
ฝึ กฝนกำรเผชิญและ
แก้ปัญหำ ฝึ กกำรวิเครำะห์
และเรี ยนรู้ควำมคิด
และมุมมอง เรี ยนรู ้เนื้อหำ
ของผูอ้ ื่น
สำระต่ำงๆ
ด้วยตนเอง โดยกำร
ผลัดเปลี่ยนกัน
เข้ำศึกษำค้นคว้ำตำม
ศูนย์กำรเรี ยนต่ำงๆ
จาลอง
วิธีสอน
อภิปราย
กลุ่มย่อย
ผูเ้ รี ยนรำยบุคคล
เรี ยนรู ้ตำม
ควำมสำมำรถ โดย
อำศัยสื่ อบทเรี ยนที่
ได้รับกำรออกแบบให้
ผูเ้ รี ยนสำมำรถเรี ยนรู ้
และตรวจสอบผลกำร
เรี ยนรู ้ดว้ ยตนเอง
เรี ยนรู ้จำกกำรมี
ส่ วนร่ วมอย่ำงทัว่ ถึง
แลกเปลี่ยนควำมรู ้
และประสบกำรณ์
เรี ยนรู ้หลักกำรและ
นำหลักกำรไปใช้
เรี ยนรู ้จำกตัวอย่ำง
เหตุกำรณ์ยอ่ ยๆ และจับ
หลักกำรของตัวอย่ำง
เหล่ำนั้น
เรี ยนรู ้จำก
ประสบกำรณ์ตรง
จำกสภำพจริ ง
8
รู ปแบบการสอน/รู ปแบบการเรียนการสอน
รูปแบบการสอน/รูปแบบการเรียนการสอน (Teaching/Instructional Model) คือ
แบบแผนการดาเนินการสอนที่ได้ รับการจัดเป็ นระบบ อย่ างสั มพันธ์ สอดคล้องกับทฤษฎี/
หลักการเรียนรู้หรือการสอนทีร่ ูปแบบนั้นยึดถือ และได้ รับการพิสูจน์ ทดสอบ ว่ ามี
ประสิ ทธิภาพ สามารถช่ วยให้ ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามจุดมุ่งหมายเฉพาะของรูปแบบนั้น
แบบแผนการดาเนินการสอนดังกล่าว ประกอบด้ วย ทฤษฎี/หลักการทีร่ ูปแบบนั้น
ยึดถือ และกระบวนการสอนทีม่ ีลกั ษณะเฉพาะ อันจะนาผู้เรียนไปสู่ จุดมุ่งหมายเฉพาะที่
รูปแบบนั้นกาหนด ซึ่งผู้สอนสามารถนาไปใช้ เป็ นแบบแผนหรือแบบอย่ างในการจัดและ
ดาเนินการสอนอืน่ ๆ ทีม่ ีจุดมุ่งหมายเฉพาะเช่ นเดียวกันได้
การนารูปแบบการเรียนการสอนไปใช้ คือการนากระบวนการหรือขั้นตอนที่
รูปแบบฯ กาหนด ไปจัดเป็ นกิจกรรมการเรียนรู้ในเรื่องทีส่ อน เสริมด้ วยวิธีสอน และ
เทคนิคการสอนต่ างๆ ทีจ่ ะช่ วยให้ กระบวนการเรียนรู้มีความสมบูรณ์ และเกิด
ประสิ ทธิภาพสู งสุ ด
9
รู ปแบบการสอนต่ างๆ
รู ปแบบทีเ่ น้ นด้ านพุทธพิสัย
• Concept Attainment Model
• Gagne’ Model
• Memory Model
รู ปแบบทีเ่ น้ นด้ านจิตพิสัย
• Krathwohl’s Model
• Jurisprudentail Model
• Role Playing Model
รูปแบบทีเ่ น้ นทักษะกระบวนการ
•
•
•
•
Group Investigation Model
Inductive Teaching Model
Creative Thinking Model
Torrance’s Future Problem-Solving Model
รู ปแบบทีเ่ น้ นด้ านทักษะพิสัย
• Sympson’s Model
• Harrow’s Model
• Dave’s Model
รูปแบบทีเ่ น้ นบูรณาการ
•
•
•
•
Direct Instruction Model
Storyline Model
4 MAT Model
Cooperative Learning Model
10
เทคนิคการสอน
 กลวิธีต่างๆ ที่ใช้ เสริมขั้นตอนการสอน วิธีสอน หรือ การดาเนินการใดๆ
เพือ่ ช่ วยให้ การสอนมีคุณภาพ และประสิ ทธิภาพมากขึน้
 ตัวอย่ าง เช่ น ในการบรรยาย ผู้สอนอาจใช้ เทคนิค การยกตัวอย่ าง การ
ใช้ คาถาม การใช้ สื่อประกอบ เพือ่ ช่ วยให้ การบรรยายมีคุณภาพ และ
ประสิ ทธิภาพมากขึน้
11
เทคนิคการสอนต่ างๆ

การใช้ ผงั กราฟฟิ ค (Graphic Organizer)

การใช้ คาถาม (Questioning)

การจัดกลุ่ม (Grouping)

การสร้ างแรงจูงใจ (Motivation)
ฯลฯ
12
ภาษาไทย : การเขียนเรียงความ
ทฤษฎี / หลัก / แนวคิด
การเรียนรู้แบบนิรนัย
แนว / ยุทธศาสตร์ การสอน
ให้ หลักการเขียนเรียงความแก่ผู้เรียน แล้วให้
ฝึ กเขียนให้ ได้ ตามหลัก
กระบวนการเรียนการสอน
ขั้นตอนการเรียนการสอน
1. นาเข้ าสู่ บทเรียน
2. ครูให้ หลักการเขียนเรียงความทีด่ แี ก่ผู้เรียน
3. ผู้เรียนเลือกหัวข้ อการเขียน
4. ผู้เรียนฝึ กเขียนตามหลัก
5. ครูให้ ข้อติชม และให้ ข้อเสนอแนะ
6. ผู้เรียนปรับปรุงงานการเขียนตาม ข้ อเสนอแนะ
13
ภาษาไทย : การเขียนเรียงความ
ทฤษฎี / หลัก / แนวคิด
การเรียนรู้แบบนิรนัย
แนว / ยุทธศาสตร์ การสอน
ให้ หลักการเขียนเรียงความแก่ผู้เรียน แล้วให้
ฝึ กเขียนให้ ได้ ตามหลัก
กระบวนการเรียนการสอน
ขั้นตอนการเรียนการสอน
1. นาเข้ าสู่ บทเรียน
2. ครูให้ หลักการเขียนเรียงความทีด่ แี ก่ผู้เรียน
3. ผู้เรียนเลือกหัวข้ อการเขียน
4. ผู้เรียนฝึ กเขียนตามหลัก
5. ครูให้ ข้อติชม และให้ ข้อเสนอแนะ
6. ผู้เรียนปรับปรุงงานการเขียนตาม ข้ อเสนอแนะ
วิธีสอน
(โดยใช้ การบรรยาย)
วิธีสอน (โดยการฝึ กปฏิบัต)ิ
เทคนิคการสอน
(ให้ ข้อติชมแบบแซนด์ วิช)
ทฤษฎี / หลัก / แนวคิด
การเรียนรู้แบบอุปนัย
แนว / ยุทธศาสตร์ การสอน
ให้ ตัวอย่ างเรียงความทีด่ ี และไม่ ดีแก่ผ้เู รียน ให้
ผู้เรียนวิเคราะห์ และสรุปเป็ นหลักการเขียน
เรียงความ และฝึ กปฏิบัติการเขียน โดยใช้ หลักนั้น
กระบวนการเรียนการสอน
ขั้นตอนการเรียนการสอน
1. นาเข้ าสู่ บทเรียน
2. ครู ให้ ตวั อย่ างเรียงความแก่ ผ้ เู รียนทั้งที่ดี และไม่ ดี
3. ให้ ผ้ เู รียนแบ่ งกลุ่ม ช่ วยกันวิเคราะห์ ว่า เรียงความที่ตน
ได้ รับมีจุดดี จุดด้ อย อย่ างไร
4. ผู้เรียนนาเสนอผลการวิเคราะห์ และสรุ ปหลักการเขียน
ร่ วมกัน
5. ผู้เรียนเลือกเรื่องที่จะเขียน และฝึ กเขียน ให้ ได้ตาม
หลักการที่สรุ ป
6. ครู ตรวจผลงาน ให้ ข้อติชม และข้ อเสนอแนะ
7. ผู้เรียนปรับปรุ งงานการเขียนตาม ข้ อเสนอแนะ
14
ทฤษฎี / หลัก / แนวคิด
การเรียนรู้แบบอุปนัย
แนว / ยุทธศาสตร์ การสอน
ให้ ตัวอย่ างเรียงความทีด่ ี และไม่ ดีแก่ผ้เู รียน ให้
ผู้เรียนวิเคราะห์ และสรุปเป็ นหลักการเขียน
เรียงความ และฝึ กปฏิบัติการเขียน โดยใช้ หลักนั้น
กระบวนการเรียนการสอน
ขั้นตอนการเรียนการสอน
วิธีสอน
(อภิปรายกลุ่มย่ อย)
เทคนิค
(ให้ ทารูบริคส์
ประเมินผลงานการเขียน)
1. นาเข้ าสู่ บทเรียน
2. ครู ให้ ตวั อย่ างเรียงความแก่ ผ้ เู รียนทั้งที่ดี และไม่ ดี
3. ให้ ผ้ เู รียนแบ่ งกลุ่ม ช่ วยกันวิเคราะห์ ว่า เรียงความที่ตน
ได้ รับมีจุดดี จุดด้ อย อย่ างไร
4. ผู้เรียนนาเสนอผลการวิเคราะห์ และสรุ ปหลักการเขียน
ร่ วมกัน
5. ผู้เรียนเลือกเรื่องที่จะเขียน และฝึ กเขียน ให้ ได้ตาม
หลักการที่สรุ ป
6. ครู ตรวจผลงาน ให้ ข้อติชม และข้ อเสนอแนะ
7. ผู้เรียนปรับปรุ งงานการเขียนตาม ข้ อเสนอแนะ
15
16
ทฤษฎี / หลัก / แนวคิด
การเรียนรู้แบบสร้ างสรรค์ คิดออกนอกกรอบ เพือ่ ไม่ ให้
ความคิดถูกจากัดอยู่ในกรอบเดิม
แนว / ยุทธศาสตร์ การสอน
ใช้ รูปแบบการสอน SYNNECTICS ซึ่งเป็ นรูปแบบ
การสอนเขียนอย่ างสร้ างสรรค์ ที่ใช้ เทคนิคให้ ผู้เรียน
คิดออกจากกรอบเดิมๆ
กระบวนการเรียนการสอน
ขั้นตอนการเรียนการสอน
1.การให้ ผู้เรียนทางานเขียนตามปกติ
2.การสร้ างอุปมาแบบตรง (Direct analogy)
3.การสร้ างอุปมาบุคคล (Personal analogy)
4.การสร้ างอุปมาคาคู่ขัดแย้ ง (Compressed conflict)
5.การอธิบายความหมายของคาคู่ขดั แย้ ง
6.การนาความคิดมาสร้ างสรรค์งาน
รูปแบบการเรียนการสอน
(Synnectics Model)
17
เทคนิคการสอนต่ างๆ

การใช้ ผงั กราฟฟิ ค (Graphic Organizer)

การใช้ คาถาม (Questioning)

การจัดกลุ่ม (Grouping)

การสร้ างแรงจูงใจ (Motivation)
ฯลฯ
18
CO-OP LEARNING TECHNIQUES



THINK-PAIR-SHARE : คิด-จับคู่ –แลกเปลีย่ น
FORMULATE-SHARE-LISTEN-CREATE:
คิดหำคำตอบเป็ นรำยบุคคล
เล่ำให้เพื่อนฟัง
เพื่อนรับฟัง
อภิปรำยหำคำตอบร่ วมกัน
SAY AND SWITCH
คนที่1 แสดงควำมคิดเห็น
คนที่2 รับฟัง แล้วตอบสนองต่อควำมคิดเห็นของ คนที่1 ต่อไปจึงแสดงควำม
คิดเห็นของตน
คนที่1 รับฟัง แล้วตอบสนองต่อควำมคิดเห็นของ คนที่2 ต่อไปจึงแสดงควำม
คิดเห็นของตน
19
CO-OP LEARNING TECHNIQUES

ROUND TABLE
(ต่ อ)
คนที่1 เริ่ มเขียนให้ขอ้ มูล หรื อแสดงควำมคิดเห็นในกระดำษ แล้วส่ งให้ คนที่2
ด้ำนซ้ำยมือ
คนที่2 เขียนต่อจำกคนที่ 1 ใช้ปำกกำสี อื่น แล้วส่ งต่อไปเรื่ อยๆ จนครบทุกคน

ROUND ROBIN
เหมือนกับ ROUND TABLE แต่ ใช้ การพูดแทนการเขียน
คนที่ 1 นำเสนอข้อมูล/ ควำมคิดเห็น ด้วยวำจำ แก่ คนที่ 2 ซึ่งอยูถ่ ดั ไป
คนที่ 2 แสดงควำมเห็น/ ให้ขอ้ มูล ต่อจำกคนที่ 1 แต่คนที่ 3 ซึ่งอยูถ่ ดั ไป ทำต่อกัน
ไปเรื่ อยๆ จนครบทุกคน หรื อ เมื่อเห็นว่ำ ได้ขอ้ มูลเพียงพอ
20
CO-OP LEARNING TECHNIQUES


(ต่ อ)
CORNERS
- ครู กำหนดประเด็นอภิปรำยที่แตกต่ำงกันในหัวข้อเรื่ องเดียวกัน ติดไว้ที่มุมต่ำงๆ
ควำมเหมำะสม โดยอำจมีคำถำมเสริ มเพื่อช่วยให้ผเู ้ รี ยนคิดค้นได้รวดเร็ วยิง่ ขึ้น
- ผูเ้ รี ยนเลือกเข้ำมุมอภิปรำยที่ตนสนใจ
- ผูเ้ รี ยนจับคู่อภิปรำย และร่ วมกันตอบคำถำมเสริ ม ซึ่งครู จดั ไว้ให้ตำมมุม
- ครู สุ่มสมำชิกจำกมุมต่ำงๆ มำรำยงำนผล
GRAFFITI
- แบ่งกลุ่มย่อย
- สมำชิกกลุ่มย่อยได้รับกระดำษ และปำกกำเมจิก
- ครู ให้คำถำมที่แตกต่ำงกันแต่ละกลุ่ม
- สมำชิกกลุ่มย่อยช่วยกันเขียนคำตอบ แล้วส่ งกระดำษคำตอบให้กลุ่มอื่นทำต่อ
เวียนไปจนครบทุกกลุ่ม
21
CO-OP LEARNING TECHNIQUES

JIGSAW

FISH BOWL
- COOPERATIVE GROUP (HOME GROUP)
แจกงำนและสื่ ออุปกรณ์
- EXPERT GROUP
ศึกษำ
- COOPERATIVE GROUP (HOME GROUP)
สอนและตรวจสอบ
(ต่ อ)
- จัดกลุ่มให้นงั่ เป็ นวงกลม 2 วงซ้อน จำนวนสมำชิกเท่ำกัน
- ให้คนวงนอกจับคู่สงั เกตคนวงใน
- ให้วงในอภิปรำยแสดงควำมคิดเห็น คนวงนอก สังเกตและบันทึก ควำมคิดเห็นและ
พฤติกรรมของคู่ที่ตนสังเกต
- เมื่อวงในอภิปรำยเสร็ จ ให้เปลี่ยนที่ให้คนวงนอกเข้ำมำนัง่ แทน
- คนวงนอกที่เข้ำมำเป็ นคนวงใน ให้ขอ้ สังเกตและแสดงควำมคิดเห็นต่อกำรอภิปรำย
ของคนที่ตนสังเกต
- ต่อไป กลุ่มวงในอภิปรำย โดยกลุ่มวงนอกสังเกต
- เมื่อกลุ่มวงในอภิปรำยเสร็ จ กลุ่มวงนอกรำยงำนผลกำรสังเกต และแสดงควำมคิดเห็น
22
เทคนิคการจัดกลุ่มอภิปราย













แบบสั มมนา (seminar)
แบบซิมโปเซียม (symposium)
แบบปฏิบัติ (workshop)
แบบนอมินัล (nominal group)
แบบปุจฉา-วิสัชนา (questioning-answering)
แบบเป็ นคณะ (panel)
แบบกันเอง (informal) แบบจับเข่ าคุยกัน (knee group)
แบบโต๊ ะกลม (round table)
แบบระดมสมอง (brainstorming)
แบบซินดิเคท (syndicate)
แบบฟิ ลลิป 66 หรือ กลุ่มหึ่ง (Phillip 66 or Buzz group)
แบบเวียนรอบวง (circular response)
แบบกลุ่มซ้ อน/ ปลาทองในอ่ างแก้ ว (fishbowl)
ฯลฯ
23
เทคนิคการรวบรวมข้ อมูล

เทคนิค CARD SORTING
– ให้ ข้อมูล
– แจก CARD ให้ แต่ ละคนเขียนว่ า เห็นด้ วย ไม่ เห็นด้ วยกับข้ อมูลเพราะอะไร
– รวบรวม CARD
– อ่าน CARD
– จัดกลุ่ม CARD ที่มีความเห็นคล้ายกันไว้ ด้วยกัน แล้วประมวลเหตุผล
24
เทคนิคการรวบรวมข้ อมูล
(ต่ อ)

เทคนิค POST BOX
– ตั้งกล่องเรียงไว้ ตามจานวนคาถาม
– ให้ คาถาม แจกกระดาษจานวนแผ่ นเท่ าจานวนคาถาม
– แต่ ละคนเขียนตอบคาถามในกระดาษ 1 แผ่ น ต่ อคาถาม
– นากระดาษคาตอบไปใส่ กล่องประจาคาถามนั้น
– มอบกล่องคาถาม-คาตอบ ให้ ผู้เรียนแต่ ละกลุ่มไปช่ วยกันพิจารณาแล้ว
สรุปคาตอบ
เทคนิคสั ญญาณเงียบ
(THE QUIET SIGNAL)

Hands up! (stop talking, stop doing)

Look

Listen

Signal others
ฯลฯ
25
ผังกราฟิ ก
(GRAPHIC ORGANIZER)
 ผังกราฟิ ก เป็ นแผนผังที่ใช้ เส้ น เครื่องหมาย สั ญญาลักษณ์ รู ปทรงเรขาคณิต
ภาพ สี ตัวเลข อักษร คา ข้ อความ แสดงความเชื่อมโยงของสาระ/ความคิด
ต่ างๆ ที่ต้องการสื่ อ
 ผังกราฟิ ก เป็ นเครื่องมือทางการคิด ช่ วยทาให้ ความคิดที่เป็ นนามธรรมอยู่ใน
สมอง สามารถแสดงออกมาให้ เห็นเป็ นรู ปธรรม และเกิดความชัดเจนขึน้
 ผังกราฟิ ก เป็ นเครื่องมือที่ช่วยประมวลและจัดข้ อมูล/ความคิดให้ เป็ นระบบ
ระเบียบ สามารถอธิบายให้ ผู้อนื่ เข้ าใจได้ ง่าย
26
27
ผังกราฟิ กแบบต่ างๆ









ผังความคิด (mind map)
ผังมโนทัศน์ (concept map)
ผังแมงมุม (spider map)
ผังก้างปลา (fishbone map)
ผังลาดับขั้นตอน (sequential map)
ผังวัฏจักร (circle/ cyclical map)
ผังวงกลมซ้ อน หรือ เว็นน์ ไดอะแกรม(Venn diagram)
ผังวีไดอะแกรม (Vee diagram)
ผังพล็อตไดอะแกรม (Plot diagram)
ฯลฯ
ผังความคิด
(MIND MAP)
ผังแสดงความสั มพันธ์ ของสาระหรือความคิดต่ างๆ ให้ เห็นเป็ นโครงสร้ างในภาพรวม
โดยใช้ เส้ น ลูกศร เครื่องหมาย สั ญลักษณ์ รู ปทรงเรขาคณิต ภาพ สี คา ข้ อความ แสดงความหมาย
และความเชื่อมโยงของความคิด/ สาระนั้นๆ
ตัวอย่ างผังความคิด
28
29
ผังมโนทัศน์
(CONCEPT MAP)
ผังแสดงความสั มพันธ์ ระหว่ างมโนทัศน์ หรือความคิดรวบยอดใหญ่ และมโนทัศน์ ย่อยๆ
อย่างเป็ นลาดับขั้น โดยใช้ เส้ นเชื่อมโยง
ตัวอย่ างมโนทัศน์
สั ตว์
(animal)
สั ตว์เลือ้ ยคลาน
(reptile)
สุ นัข
สั ตว์ เลีย้ งลูกด้ วยนม
(mammal)
แมลง
(insect)
(dog)
หมี
(bear)
ปลาวาฬ
หมีดา
หมีโพลา
หมึกริชลี่
(bear)
(polar bear)
แผนภาพผังมโนทัศน์ เรื่องสั ตว์
(whale)
(grizzly bear)
30
ผังแมงมุม
(SPIDER MAP)
ผังแสดงมโนทัศน์ ซึ่งมีลกั ษณะคล้ ายใยแมงมุม
ตัวอย่ างผังแมงมุม
ความยาว
ปริมาตร
การชั่ง
การวัด
เงิน
ทิศ แผนผัง
และเวลา
การตวง
รู ป รู ปทรง
พืน้ ที่
แผนภาพผังแมงมุมเรื่องการวัด
31
ผังก้างปลา
(FISHBONE MAP)
ผังแสดงปัญหา และสาเหตุทที่ าให้ เกิดปัญหา ทั้งสาเหตุหลักและสาเหตุย่อย มีลกั ษณะ
คล้ายหัวปลาและก้างปลา
ตัวอย่ างผังก้ างปลา
พ่อ-แม่
ยากจน
ระเบียบของโรงเรียน
ตามใจลูก
สอนลูกไม่ ได้
ระเบียบมากเกินไป
หยุมหยิม
ระเบียบล้าสมัย
ไม่ มเี วลาดูแล
ถูกเพือ่ นยุ
ตามเพือ่ น
นักเรียน
อยู่กบั คนอืน่
ไม่ ลงโทษจริงๆ
ตักเตือนไม่ สมา่ เสมอ
ธรรมชาติของเด็กย่ างเข้ าวัยรุ่น
บางคนเข้ มงวดบางคนละเลย
ไม่ เข้ มงวด
มีความสุ ขทีท่ าผิด
ครู
แผนภาพผังก้ างปลาหาสาเหตุของการประพฤติผดิ ระเบียบวินัยของนักเรียน
นักเรียนประพฤติผิด
ระเบียบวินัย
32
ผังวัฏจักร
(CIRCLE/ CYCLICAL MAP)
ผังแสดงลาดับขั้นตอนที่ต่อเนื่องกันเป็ นวงจร ไม่ มที สี่ ิ้นสุ ด
ตัวอย่ างผังวัฏจักร
ประสบการณ์
รู ปธรรม
ความคิด/หลักการที่จะนาไป
ทดสอบ/ ใช้ ในสถานการณ์ ใหม่
การสั งเกต การสะท้ อน
การคิดการสื บสอบ
การสร้ างแนวคิด มโนทัศน์
หรือหลักการ
แผนภาพผังวัฏจักรการเรียนรู้แบบเน้ นประสบการณ์ (Experiential Learning Cycle) ของจอห์ นสั นและจอห์ นสั น และปรับโดย แอเร็นด์ (Arends, 1989:56)
33
ผังวงกลมซ้ อน
(VENN DIAGRAM)
ผังวงกลม 2 วงหรือมากกว่ าทีม่ สี ่ วนหนึ่งซ้ อนทับกันอยู่ ทาให้ เห็นส่ วนทีเ่ ป็ นความ
เหมือน และความแตกต่ างกัน
ตัวอย่ างผังวงกลมซ้ อน
ด้ านความรู้
(Cognitive)
ด้ านเจตคติ
(Affective)
ด้ านทักษะ
(Psychomotor)
แผนภาพผังแสดงความสั มพันธ์ ของวัตถุประสงค์ 3 ด้ าน ของแบรี่และคิง (Barry & King, 1992: 15)
34
ผังวีไดอะแกรม
(VEE DIAGRAM)
ผังรู ปตัว V แสดงความสั มพันธ์ ระหว่ างทฤษฎีกบั วิธีการ ในการศึกษาความรู้ ทางวิทยาศาสตร์
ตัวอย่ างผังวีเว็นน์ ไดอะแกรม
ความคิด
วิธีการที่ทาให้ ได้ มาซึ่งความรู้
(Conceptual)
ทฤษฎี:
(Theory)
(Methodological)
คาถามสาคัญ
(Focus Questions)
ข้ อความรู้ที่ได้ :
(Knowledge Claims)
หลักการ
การแปลงข้ อมูลหรือการจัดกระทาข้ อมูล
มโนทัศน์
การบันทึกข้ อมูล
(Principle)
(Transformation)
(Concepts)
(Records)
เหตุการณ์ และ/หรือวัตถุ
(Events/ Objects)
แผนภาพโครงสร้ างของแผนผังรู ปตัววี ของโกวิน (Novok and Gowin, 1984: 3)
ผังพล็อตไดอะแกรม
(PLOT DIAGRAM)
ผังแสดงการดาเนินเรื่อง จากการเริ่มต้ น ไปสู่ จุดยอด (CLIMAX) ของเรื่อง และ
คลีค่ ลายไปสู่ บทสรุ ปของเรื่อง เป็ นผังทีช่ ่ วยในการอ่ าน
ตัวอย่ างผังพล็อตไดอะแกรม
จุดยอด
บทนา
บทสรุป
แผนภาพผังพล็อตไดอะแกรม (Plot Diagram)
35
36
เทคนิคการนาเสนอข้ อมูล
 การนาเสนอข้ อมูลในรู ปตาราง
 การนาเสนอข้ อมูลในรู ปแผนภูมิภาพ
 การนาเสนอข้ อมูลในรู ปแผนภูมิวงกลม
 การนาเสนอข้ อมูลในรู ปแผนภูมิแท่ ง
 การนาเสนอข้ อมูลในรู ปกราฟเส้ น
เทคนิคหมวกคิด 6 ใบ
(SIX THINKING HATS)
เทคนิคในการช่ วยให้ บุคคลคิดอย่ างรอบคอบ ในหลายๆ ด้ าน
หมวกขาว แทนข้ อเท็จจริง ข้ อมูล ที่เป็ นที่จริงและเป็ นที่ยอมรับ
หมวกแดง แทนอารมณ์ ความรู้สึกต่ างๆ เช่ น ชอบ-ไม่ ชอบ พอใจ-ไม่ พอใจ สงสั ย กลัว
หมวกดา
แทนความคิดทางลบ จุดด้ วย จุดบกพร่ อง ข้ อผิดพลาด ผลเสี ย
หมวกเหลือง แทนสิ่ งดี สิ่ งถูกต้ อง สิ่ งที่เป็ นประโยชน์ มีคุณค่ า สร้ างสรรค์
หมวกเขียว แทนความคิดใหม่ ๆ ที่อาจสร้ างความเจริญ ความก้ าวหน้ าและการเปลีย่ นแปลง
ไปในทางที่ดขี นึ้ ความคิดที่มีความเป็ นไปได้ และเป็ นประโยชน์
หมวกนา้ เงิน แทนการดูแลควบคุมการทางานร่ วมกัน
37
38
เทคนิคการคิดไตร่ ตรอง
 Self Questioning ถามตนเอง
 Self Talk พูดกับตนเอง
 Learning Log
– บันทึกการเรียนรู้
– บันทึกส่ วนตัว
– บันทึกสาระเฉพาะ
– บันทึกแลกเปลีย่ นข้ อมูล
– บันทึกบันทึกสองทาง
39
เทคนิคการคิดสร้ างสรรค์
 การมองต่ างมุม ต่ างมิติ (มองภำพแนวนอน-แนวตั้ง)
 การมองมุมตรงกันข้ าม (คิดจำก มี-ไม่มี ซ้ำย-ขวำ ดำ-ขำว)
 คิดเชื่อมโยงกับสิ่ งทีไ่ ม่ คุ้นเคย (หมอนหนุน-หมอนใส่ ของ)
 การคิดหาทางลัด (สู่ เป้ ำหมำย)
 การขยายขอบเขตความเป็ นไปได้ (น.ส.พ.ใช้ประดิษฐ์อะไรได้)
 การทาของเก่ าให้ เป็ นของใหม่ (ใช้ checklist ของ Osborn: ดัดแปลง เปลี่ยน
เพิม่ /ขยำย ลด/หด ทดแทน จัดใหม่ สลับ ผสม)
 การมองมุมกลับ (ร้ำนอำหำรไม่มีเมนู/ ให้อำหำรฟรี / ไม่มีอำหำรขำย)
40
เทคนิคการคิดสร้ างสรรค์
 การสร้ างภาพ/ จินตนาการ ที่ไม่ เคยคิด/ทา
 จากัดเวลาคิด
 ให้ คดิ เร็วๆ
 เทคนิค Gordon
– การเปรียบเทียบสิ่ งหนึ่งกับอีกสิ่ งหนึ่ง (direct analogy)
– การเปรียบเทียบตนเองกับสิ่ งอืน
่ (personal analogy)
– การหาคาคู่ขัดแย้ ง (compressed conflict)
– การจับคู่ตรงกันข้ าม เพือ่ หักมุม (ข่ าวดี-ข่ าวร้ าย)
(ต่ อ)
เทคนิคการสั งเกต
SCUMPS
Size
สั งเกตขนาด
Color
สั งเกตสี
Use
สั งเกตการใช้ ประโยชน์
Materials สั งเกตวัสดุ
Parts
สั งเกตส่ วนประกอบ
Shape
สั งเกตรู ปร่ างสั ณฐาน
41
เทคนิคการสั งเกต
BLACK BOX

เอาของใส่ กล่ องดา มองไม่ เห็นสิ่ งของทีอ่ ยู่ข้างใน

ให้ ยกกล่ อง แล้ วทายว่ ามีอะไรในกล่ อง
42
43
เทคนิคการใช้ คาถามกระตุ้นการคิด
44
Taxonomic Thinking: Bloom’s Taxonomy
Bloom's Original Taxonomy
(1956)
Anderson' Revised Taxonomy
(1999)
Knowledge
Remembering
Comprehension
Understanding
Application
Applying
Analysis
Analyzing
Synthesis
Evaluation
Evaluation
Creating
45
The Revised Bloom’s Taxonomy
Remembering
Recognize, list, describe, identify, retrieve, name ...
Can the student RECALL information?
Understanding
Interpret, exemplify, summarise, infer, paraphrase …
Can the student EXPLAIN ideas or concepts?
Applying
Implement, carry out, use …
Can the student USE the new knowledge in another familiar situation?
Analyzing
Compare, attribute, organize, deconstruct …
Can the student DIFFERENTIATE between constituent parts?
Evaluation
Check, critique, judge, hypothesise…
Can the student JUSTIFY a decision or course of action?
Creating
Design, construct, plan, produce…
Can the student GENERATE new products, ideas or ways of viewing things?
46
Taxonomic Thinking: Revised Bloom’s Taxonomy
Description
Remembering (Recall)
Understanding (Explanation)
Applying (Use)
Analyzing (Differentiate)
Evaluation (Justification)
Creating (Generate)
 Recognize
 Describe
 Retrieve
 List
 Identify
 Name
 Interpret
 Summarise
 Paraphrase
 Exemplify
 Deduce
 Conceptualise
 Implement
 Use
 Trial
 Carry out
 Employ
 Experiment
 Compare
 Attribute
 Deconstruct
 Infer
 Organize
 Dissect
 Check
 Judge
 Assess
 Critique
 Hypothesise
 Review
 Design
 Plan
 Invent
 Construct
 Produce
 Initiate
47
Socratic Questioning
Type of Questioning
Generic Example
Support questioning
Can you give us more information to support your
idea or proposal?
Source questioning
Could there be other more appropriate and useful
sources of information?
Conflict questioning
How might people who do not support your idea or
proposal influence the outcome?
Consequence questioning
What might be the consequences of your idea or
proposal now and in the future?
48
Directed thinking
Why YES?

Why NO?

Why WAIT?
?
What are the good points of an idea,
regardless of how you might feel
about it?
What are the negative aspects of the
idea, regardless of how you may feel
about it?
What other alternatives and
possibilities are there to be
discovered?
What ELSE?
What other information might be
needed before we judge an idea?
Way to GO!
How might you chosen idea or course
of action?
49
Posing Questions at Different Levels of Sophistication
(From Melvin Freestone)
Level of Sophistication
Illustrative examples – Posing Questions
Focus on factual material
Engaging in explicit tasks, making observations from direct
experience, and trying things out.
Where did you get that from? Why do you like….? What is happening to …? What
will our design look like? What should we do …? How can we put it together?
What do we need to do…?
Focus on making simple connections
Discovering links, ‘arguing; about simple ideas, devising whys to
fine out more, carrying out orderly investigations, recording data,
and discovering ways to use ideas and information.
What is involved here? What can we do to investigate this…? How many different
things are affected by…? What steps do we need to take? Which of these
effects…? Why is … important? Can we explain how and why…? What does…
think about…?
Focus on searching for explanations
Considering future implications, showing concern about
consequences, gathering information systematically, planning
investigations, and using different thinking ‘tools’ appropriately.
What is needed here and why? How are we going to do this…? Which way is best to
investigate…? What are the critical elements in this situation…? Can we come up
with a ‘theory’ to explain…? Who has a stake or interest in…? Is it logical? What
is the most appropriate plan of attack? What kind of research skills will we need to
use or develop here?
Focus on searching for different combinations
Balancing options and possibilities, defining choices and particular
courses of action, showing concern for the quality of information,
seeking to control variable, identifying assumptions and exploring
how particular disciplines and real-life contexts inform thinking.
Are the questions sufficiently targeted for focused investigation…? What is the
primary question here and how does it relate to other questions that could be
asked? What is the order of priority here? Can we predict likely consequences
from the information we have? What implications does that have…? Which of the
possible actions is most desirable? What’s the best way to ‘brainstorm’ the
questions we could ask…?
Focus on exploring interrelationships
Examining assumptions, dealing with complex problems and
challenges, understanding and using ideas and strategies derived
from ‘disciplines’ of knowledge and experience, making balanced
judgements, and designing multi-faceted investigations.
Which question(s) is likely to generate a comprehensive investigation? What
processes will we use to generate questions? What factors and angles do our
questions need to encompass? In what ways can the questions we raised be
investigated…? What criteria shall we use to determine what is relevant and what
is irrelevant? What is the variety of interpretations of these questions…? Dose
everyone see it the same way…?
50
Scaffolding learning
(From Melina Freestone)
Strategic Direction
What is it like? FROM
How is it like it is? CONNECTION
Generative Question
IN WHAT WAYS CAN OUR COMMUNITY BE IMPROVED?
Examining PARTS




Envisaging WHOLES
 What’s needed to improve or develop community relations?
 What priorities and future directions are being considered?
 How could things be done differently to the benefit of all?
Investigating COMPLEXITIES




Extracting SIMPLICITIES
 In what ways might the community be improved?
 Who will benefit?
Are there any vested interests and how do they operate?
Who has the power and how do they use it?
What are the views of different stakeholders?
How has the community operated in the part?
How does the power and people dynamics operate?
How do the decision-making processes and structures work?
In what ways can and do people participate in activities?
Is action needed to deal with issues that are blocking progress?
51
Empathically Intelligent Thinking
(From Roselyn Arnold, Melvin Freestone)
Aspects Of Empathically Intelligent
Thinking
Generative Questions
A cognitively focused
In what ways could the proposed housing development affect the
ecosystem in these wetlands?
A feeling focused
How might the feelings of families and children be affected by the loss of
bird life from the wetland areas?
An emotion focused
In what ways are different interest groups and stakeholders using the
emotions among the local community to advance their arguments?
An empathy focused
How could we sympathise with and support the concerns of individuals
and groups within the local community?
An ethically focused
How should the main players for and against the proposal exercise their
right to prote3st and influence the outcome?
52
Different Types of Thinking Through The Six Thinking Hats
(From Edward De Bono, Melvin Freestone)
Description
Focus
White hat FACTS
Virgin white, pure facts,
figures and information
Red hat EMOTIONS
Black hat JUDGEMENT
Yellow hat OPTIMISM
Green hat CREATIVITY
Blue hat REFLECTIVE
Features




Seeing red, emotions and

feelings, hunches and

intuitions


Devil’s advocate, negative

judgement, why it will not

work


Sunshine, brightness and

optimism, positive,

constructive


Fertile, cre3ative, plants

springing from seeds,

movement and provocation 

Cool and controlled,

orchestration, thinking about 
thinking


Distinguishing parts
Focusing questions
Proving facts
Establishing authenticity
Exploring feelings
Contemplating emotions
Being personal
Escaping logic
Examining fit
Pursuing errors
Investigating limitations
Identifying faults
Seeing value
Considering benefits
Generating proposals
Seeking opportunities
Exploring alternatives
Challenging ideas
Moving forward
Postponing judgement
Defining problems
Monitoring processes
Sequencing actions
Summarising situations
Overview
Fact quest
Emotions quest
Judegement quest
Optimism quest
Creativity quest
Reflection quest
53
The SCAMPER for Solving Problems
(From Edward De Bono’s CoRT Skills)
Strategy
Description
Some Indicative Questions
S Substitute
Substitute something different into the
system
Could you replace something with
something else?
C Combine
Bring together and blend different
components or aspects
Could you combine things in different
ways?
A Adapt
Adjust to another set of conditions or a
different purpose
Could you alter something to better
meet your purposes?
M Modify
Change, magnify, reduce to enhance
attributes
Could you transform something to
improve it?
P Put to use
Use for different purpose or in a different
context
Could you put it to another use or use it
in a different way?
E Eliminate
Remove particular components and aspects
Could you take something out to make
it work better?
R Reverse
Change the order, sequence, layout or
scheme
Could you change the order of things or
chain of events?
54
CAMPER Asking Critical Questions
(From Michael Pohl)
Strategy
Some Indicative Questions
C
Consequences
Consistency
 What are the consequences of believing this?
 How consistent is the information?
A
Assumptions
Accuracy
 What assumptions have been made here?
 How accurate is the date/information?
Meaning
M Main Points
 What is the meaning of this?
 What is the main point here?
P
Prejudice
Point of view
 What prejudices are being shown here?
 What other points of view could be expressed?
E
Evidence
Examples
 What evidence is given to support the claims?
 What examples are given to back up claims?
R
Relevance
Reliability
 How relevant are the claims?
 How reliable is the source, writer, information?
55
Tactics of Undertaking Tasks and Actions
(From Melvin Freestone)
Understand emotions
Emotions are involved in all our
thinking and often determine
how we act.





How are emotions involved here?
What’s dominating the atmosphere?
To what extent are your emotions involved?
Are there any games being played?
How can the emotions be managed?
Try it out
Trail and error enables you to
translate ideas into actions.
Backtrack to go forward
When you know what you want
sometimes you have to
backtrack to work out how to
get there.











What’s the idea you want to trial?
Is it best-modelled in theory or in practice?
What needs to be tested?
How well does it work?
What refinements can you make?
Does it work better now?
Where’s your ‘big idea’?
Can you fill in the gaps between your ‘big idea’ and where you are now?
Can you identify stages for realising your ‘big idea’?
Are there any uncertainties in this plan?
Are the risks worth taking?
Get organised
Good organisation aids
efficiency and prevents
confusion.





What could be grouped and what need to be kept separate?
Are there alternative groupings available to you?
Can you organise this systematically?
Is anything causing difficulties?
How can you provide and ongoing system for managing it?
Have clear purposes
Purpose gives direction to
projects and activities.




What need to be done?
How can this be translated into action statements?
Can an order of importance be established for the action statements?
Are the purposes sufficiently different from each other?
Find new combinations
Combining two or more ideas
often creates new things.





What can you combine?
What is the likely result of this combination?
How does what happens differ from what is expected?
How useful is it?
Could you combine the ideas in other ways?
56
Tactics for Devising Alternatives and Innovations
(From Melvin Freestone)
Explore other views
No two people view a situation the same  What views do other people hold?
way.
 How are they different from your own?
 Why do they view the situation differently?
 What values and ideas are affecting their viewpoints?
 Is there any common ground?
Generate ‘crazy’ ideas
Bringing in completely unconnected
material is often the springboard to
innovation.




What would be an outrageous suggestion here?
What is triggered by this input?
Can you look at this idea from other angles?
How can the ‘crazy’ idea help you in the situation you are facing?
Challenge ideas
Ideas need to be challenged to see how
well they will work..





Can you find ways to challenge these ideas?
Will modifying them improve them?
Must it be done this way?
Are there better alternatives?
Do they meet expectations?
Avoid blind alleys
People are seldom wrong on purpose but  What’s making you feel uneasy?
sometimes find themselves up a blind
 Have false generalizations been made?
alley.
 Are the facts wrong, mistaken or misinterpreted?
 Are fixed ideas causing a blind spot?
 What’s misleading you?
Search for alternatives
There are many ways to accomplish
something.





Are there other options worth pursuing?
Where might they lead?
Could it be done in a completely different way?
Which options are likely to be useful or effective?
Have you ‘left any stone unturned’?
Do it better
Ideas and actions can always be refined
and improved.





What can you target for improvement?
What variables are involved?
How can you determine their effects?
What are the possibilities for improvement?
How can this be achieved?
57
Tactics for Seeking Opportunities and Possibilities
(From Melvin Freestone)
Bridge the gap
The best way to bridge the gap maybe
to create stepping-stone.





What ideas and actions have potential?
How can they be developed to bridge the gap?
Do they allow you to move on?
Are there other ways for getting there?
Which stepping-stone are you going to use?
Identify opportunities
Most of situations have opportunities
for people to engage in enterprising
activities.





What are the opportunities here?
Where might they lead to?
Which is the best opportunity?
How can you make the most of these opportunities?
What ‘good’ can be achieved from doing this?
Brainstorm for inspiration
Sometimes instant inspiration is needed
to make the most of a situation or to
remove blockages.
Consider all angles
Examining things from every angle
helps you find workable ideas.











What is the challenge?
What ideas come into your mind immediately?
Can you think up a range of options for exploration?
Which ones deal with the challenge?
Which ones are worth pursuing?
Which ones could be used to produce solutions?
What is positive here?
What is negative here?
What else have possibilities?
Can you translate the possibilities into workable ideas?
Have all the implications been explored?
Find unlimited possibilities
You often need to suspend judgement
in order to generate new ideas.





What judgement need to be suspended?
What new ideas could be used here?
Which ones are worth trying out?
Which of these possibilities is likely to work well?
Can you decide which one you will use?
Guess the solution
If ideas and information are incomplete
sometimes you have to guess.





Can you guess what you can do or what will happen?
Does it work?
Is there anything else you can do?
Do you need to make a better guess?
Do you need to start somewhere else?
58
Tactics for Addressing Difficulties and Conflicts
(From Melvin Freestone)
Make it work
You can adjust things to make
them work..
Unearth the blockage
Some things stop people from
thinking clearly and deflect their
thoughts in unproductive ways.
Get it right
You need to know when
something is right and then leave
it alone.
Determine its worth
It is useful to pinpoint the worth
of an idea or action.
Assess contradictions
Contradictions in ideas and
actions often reveal areas for
modification, improvement and
re-development.
Resolve conflicts
Sometimes people have
conflicting ideas about how to do
things or negative feelings about
their role.



















How well are you ideas and actions working?
What needs to be improved?
How could you achieve this?
Is the result satisfactory?
Is a completely different approach needed?
Can you detect any blockages?
What are they?
Are any stereotypes, clichés, prejudices or ‘official’ opinions getting in the way?
What needs to be done to eliminate the blockage?
What benefits are likely to accrue?
How well is it working?
Does it need more work?
What do others think?
Is there value in future improvements?
Should you leave it alone?
What are the ideas or actions intended to do?
How well do they meet specified requirements?
What is their appeal?
Are they efficient, effective and reliable?











What things don’t seem to be right?
Do they have and opposite effect to what is intended?
How significant is this effect?
Can it be removed or transformed?
What are the possibilities for changing it?
Are there any conflicts?
What are they about?
What are the ideas, issues and emotions involved?
Who are the key players?
How can you encourage collaboration and negotiation?
What’s needed to create a ‘win-win’ outcome?
59
ข้ อพึงระวังในการถาม










มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการถาม
รู้ Direction/ Strategy ในการนาผู้เรียนไปสู่ เป้าหมาย
ข้ อคาถามไม่ กว้ างเกินไป
ให้ เวลาในการคิดตอบคาถาม
ไม่ ถามเอง ตอบเอง
ฟังคาตอบตรวจสอบความเข้ าใจ ไม่ ด่วนตัดสิ นคาตอบ
ปรับคาถามให้ เหมาะสมกับระดับของผู้เรียน
เปิ ดโอกาสให้ ผู้เรียนถาม
สั งเกตผู้เรียนทั้งด้ านวาจา พฤติกรรม และสี หน้ าท่ าทาง
ให้ เกียรติผู้เรียน ไม่ แสดงกิริยาวาจาดูถูกดูหมิน่ ผู้เรียน
Download