Knowledge Management ( KM ) ศาสตราจารย์ นายแพทย์ วุฒชิ ัย ธนาพงศธร Objective 1. Basic concept of KM 2. Workshop (share & learn) • KM cafe’ KM ? VS MK ? การจัดการความรู้ การจัดการองค์ ความรู้ การจัดการความร้ ู และ องค์ กรแห่ งการเรียนรู้ การจัดการความรู้ Knowledge management vs การจัดการความไม่ รู้ Knowless management จัดการความรู้ แล้ ว เราจะได้ อะไร ????? Question เราเสี ยเวลา/เสี ยทรัพยากร ในการจัดการความรู้ เพือ่ อะไร ? เราต้ องการอะไร? จากการจัดการความร้ ู ถ้ าท่ านต้ องการจัดการความรู้ What ? Why ? How to do KM ? คำถำมสร้ำงบรรยำกำศ เมื่อได้ ยนิ คาว่ า การจัดการความรู้ ท่ านคิดถึงอะไร ?????????????? มำตรฐำนกำรศึกษำของชำติ 3 มำตรฐำน 1. มำตรฐำนด้ำนคนไทยที่พึงประสงค์ เก่ ง + ดี + มีความสุ ข 2. มำตรฐำนด้ำนกำรจัดกำรศึกษำ 3. มำตรฐำนด้ำนกำรสร้ำงและพัฒนำสังคม แห่งกำรเรี ยนรู ้/ สังคมฐำนควำมรู ้ ตัวบ่ งชี้ที่ 2.6 ระบบและกลไกการจัดการเรียนการสอน 1. มีระบบและกลไกการประกันคุณภาพการจัดการเรียนการสอนที่เน้ น ผู้เรียนเป็ นสาคัญทุกหลักสู ตร 2. ทุกรายวิชาของทุกหลักสู ตร มีรายละเอียดของรายวิชาและของ ประสบการณ์ ภาคสนาม (ถ้ ามี) ก่ อนการเปิ ดสอนในแต่ ละภาค การศึกษา ตามที่กาหนดในกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับ อุดมศึกษา แห่ งชาติ 3. ทุกหลักสู ตรมีรายวิชาที่ส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง และ การให้ ผู้เรียนได้ เรียนรู้ จากการปฏิบัตทิ ้งั ในและนอกห้ องเรียนหรือ จากการทาวิจัย ตัวบ่ งชี้ที่ 2.6 ระบบและกลไกการจัดการเรียนการสอน (ต่ อ) 4. มีการให้ ผ้ มู ปี ระสบการณ์ ทางวิชาการหรือในวิชาชีพจากหน่ วยงานหรือชุมชน ภายนอกเข้ ามามีส่วนร่ วมในกระบวนการเรียนการสอนทุกหลักสู ตร 5. มีการจัดการเรียนรู้ทพี่ ฒ ั นาจากการวิจัย หรือจากกระบวนการ จัดการความรู้ เพือ่ พัฒนาการเรียนการสอน 6. มีการประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนทีม่ ีต่อคุณภาพการจัดการเรียนการสอนและ สิ่ งสนับสนุนการเรียนรู้ ทุกรายวิชา ทุกภาคการศึกษา โดยผลการประเมินความพึง พอใจ แต่ ละรายวิชาต้ องไม่ ต่ากว่ า 3.51 จากคะแนนเต็ม 5 มีการพัฒนาหรือปรับปรุ งการจัดการเรียนการสอน กลยุทธ์ การสอน หรือการ ประเมินผลการเรียนรู้ ทุกรายวิชา ตามผลการประเมินรายวิชา 7. ตัวบ่ งชี้ที่ 4.2 ระบบและกลไกจัดการความรู้ จากงานวิจัยหรืองานสร้ างสรรค์ 1. 2. 3. 4. 5. 6. มีระบบและกลไกสนับสนุนการเผยแพร่ ผลงานวิจัยหรืองานสร้ างสรรค์ ในการประชุ ม วิชาการหรือการตีพมิ พ์ในวารสารระดับชาติหรือนานาชาติ และมีการเผยแพร่ ผลงานวิจัยหรืองานสร้ างสรรค์ ในการประชุ มวิชาการหรือการตีพมิ พ์ ในวารสาร ระดับชาติหรือนานาชาติ มีระบบและกลไกการรวบรวม คัดสรร วิเคราะห์ และสั งเคราะห์ ความรู้ จากงานวิจัย หรืองานสร้ างสรรค์ เพือ่ ให้ เป็ นองค์ ความรู้ ที่คนทัว่ ไปเข้ าใจได้ และดาเนินการตาม ระบบทีก่ าหนด มีการประชาสั มพันธ์ และเผยแพร่ องค์ ความรู้ จากงานวิจัยหรืองานสร้ างสรรค์ ทไี่ ด้ จาก ข้ อ 2 สู่ สาธารณชนและผู้เกีย่ วข้ อง มีการนาผลงานงานวิจัยหรืองานสร้ างสรรค์ ไปใช้ ให้ เกิดประโยชน์ และมีการรับรอง การใช้ ประโยชน์ จริงจากหน่ วยงานภายนอกหรือชุ มชน มีระบบและกลไกเพือ่ ช่ วยในการคุ้มครองสิ ทธิ์ของงานวิจัยหรืองานสร้ างสรรค์ ที่ นาไปใช้ ประโยชน์ และดาเนินการตามระบบทีก่ าหนด มีระบบและกลไกส่ งเสริมการจดสิ ทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร และมีการยืน่ จดสิ ทธิบัตร และอนุสิทธิบัตร (เฉพาะกลุ่ม ค1 และ ง) ตัวบ่ งชี้ที่ 5.2 กระบวนการบริการวิชาการให้ เกิดประโยชน์ ต่อสั งคม 1. 2. 3. 4. 5. มีการสารวจความต้ องการของชุมชน หรือภาครัฐ หรือภาคเอกชน หรือ หน่ วยงานวิชาชีพ เพือ่ ประกอบการกาหนดทิศทางและการจัดทาแผนการ บริการทางวิชาการตามจุดเน้ นของสถาบัน มีความร่ วมมือด้ านบริการทางวิชาการเพือ่ การเรียนรู้และเสริมสร้ างความ เข้ มแข็งของชุมชน หรือภาคเอกชน หรือภาครัฐ หรือหน่ วยงานวิชาชีพ มีการประเมินประโยชน์ หรือผลกระทบของการให้ บริการทางวิชาการต่ อ สั งคม มีการนาผลการประเมินในข้ อ 3 ไปพัฒนาระบบและกลไก หรือกิจกรรมการ ให้ บริการทางวิชาการ มีการพัฒนาความรู้ที่ได้ จากการให้ บริการทางวิชาการและถ่ ายทอดความรู้สู่ บุคลากรภายในสถาบันและเผยแพร่ สู่ สาธารณชน ตัวบ่ งชี้ที่ 7.1 ภาวะผู้นาของสภาสถาบันและผู้บริหารทุกระดับของสถาบัน 1. สภาสถาบันปฏิบัตหิ น้ าที่ตามที่กฎหมายกาหนดครบถ้ วนและมีการ ประเมินตนเองตามหลักเกณฑ์ ที่กาหนดล่ วงหน้ า 2. ผู้บริหารมีวสิ ั ยทัศน์ กาหนดทิศทางการดาเนินงาน และสามารถ ถ่ ายทอดไปยังบุคลากรทุกระดับ มีความสามารถในการวางแผนกล ยุทธ์ มีการนาข้ อมูลสารสนเทศเป็ นฐานในการปฏิบัตงิ านและพัฒนา สถาบัน 3. ผู้บริหารมีการกากับ ติดตามและประเมินผลการดาเนินงานตามที่ มอบหมาย รวมทั้งสามารถสื่ อสารแผนและผลการดาเนินงานของ สถาบันไปยังบุคลากรในสถาบัน ตัวบ่ งชี้ที่ 7.1 ภาวะผู้นาของสภาสถาบันและผู้บริหารทุกระดับของสถาบัน (ต่ อ) 4. 5. 6. 7. ผู้บริหารสนับสนุนให้ บุคลากรในสถาบันมีส่วนร่ วมในการบริหารจัดการ ให้ อานาจในการตัดสิ นใจแก่ บุคลากรตามความเหมาะสม ผู้บริหารถ่ ายทอดความรู้ และส่ งเสริมพัฒนาผู้ร่วมงาน เพือ่ ให้สามารถทางาน บรรลุวตั ถุประสงค์ ของสถาบันเต็มตามศักยภาพ ผู้บริหารบริหารงานด้ วยหลักธรรมาภิบาล โดยคานึงถึงประโยชน์ ของ สถาบันและผู้มีส่วนได้ ส่วนเสี ย สภาสถาบันประเมินผลการบริหารงานของสถาบันและผู้บริหารนาผลการ ประเมินไปปรับปรุงการบริหารงานอย่ างเป็ นรู ปธรรม ตัวบ่ งชี้ที่ 7.2 การพัฒนาสถาบันสู่ สถาบันเรียนรู้ 1. มีการกาหนดประเด็นความรู้ และเป้ าหมายของการจัดการความรู้ ทสี่ อดคล้องกับแผน กลยุทธ์ ของสถาบัน อย่ างน้ อยครอบคลุมพันธกิจด้ านการผลิตบัณฑิตและ ด้ านการวิจัย 2. 3. 4. 5. กาหนดบุคลากรกลุ่มเป้ าหมายทีจ่ ะพัฒนาความรู้และทักษะด้ านการผลิตบัณฑิตและด้ านการวิจัย อย่ างชัดเจนตามประเด็นความรู้ทกี่ าหนดในข้ อ 1 มีการแบ่ งปันและแลกเปลีย่ นเรียนรู้ จากความรู้ ทักษะของผู้มปี ระสบการณ์ ตรง (Tacit Knowledge) เพือ่ ค้ นหาแนวปฏิบัติที่ดตี ามประเด็นความรู้ ที่กาหนดในข้ อ 1 และเผยแพร่ ไปสู่ บุคลากรกลุ่มเป้ าหมายที่กาหนด มีการรวบรวมความรู้ ตามประเด็นความรู้ ที่กาหนดในข้ อ 1 ทั้งที่มอี ยู่ในตัวบุคคลและแหล่ ง เรียนรู้ อนื่ ๆ ที่เป็ นแนวปฏิบัติที่ดมี าพัฒนาและจัดเก็บอย่ างเป็ นระบบโดยเผยแพร่ ออกมาเป็ น ลายลักษณ์ อกั ษร (Explicit Knowledge) มีการนาความรู้ ที่ได้ จากการจัดการความรู้ ในปี การศึกษาปัจจุบันหรือปี การศึกษาที่ผ่านมา ที่ เป็ นลายลักษณ์ อกั ษร (Explicit Knowledge) และจากความรู้ ทักษะของผู้มปี ระสบการณ์ ตรง (Tacit Knowledge) ที่เป็ นแนวปฏิบัติที่ดมี าปรับใช้ ในการปฏิบัติงานจริง ตัวบ่ งชี้ที่ 9.1 ระบบและกลไกการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน 1. มีระบบและกลไกการประกันคุณภาพการศึกษาภายในทีเ่ หมาะสม และ สอดคล้องกับ พันธกิจและพัฒนาการของสถาบัน ตั้งแต่ ระดับภาควิชา หรือ หน่ วยงานเทียบเท่ า และดาเนินการตามระบบทีก่ าหนด 2. มีการกาหนดนโยบายและให้ ความสาคัญเรื่องการประกันคุณภาพการศึกษา ภายใน โดยคณะกรรมการระดับนโยบายและผู้บริหารสู งสุ ดของสถาบัน 3. มีการกาหนดตัวบ่ งชี้เพิม่ เติมตามอัตลักษณ์ ของสถาบัน 4. มีการดาเนินงานด้ านการประกันคุณภาพการศึกษาภายในทีค่ รบถ้ วน ประกอบด้ วย1) การควบคุม ติดตามการดาเนินงาน และประเมินคุณภาพ 2) การจัดทารายงานประจาปี ทีเ่ ป็ นรายงานประเมินคุณภาพเสนอต่ อสภา สถาบันและสานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ตามกาหนดเวลา โดย เป็ นรายงานทีม่ ีข้อมูลครบถ้ วนตามทีส่ านักงานคณะกรรมการการ อุดมศึกษากาหนดใน CHE QA Online และ 3) การนาผลการประเมิน คุณภาพไปทาแผนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถาบัน ตัวบ่ งชี้ที่ 9.1 ระบบและกลไกการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน (ต่ อ) 5. 6. 7. มีการนาผลการประกันคุณภาพการศึกษาภายในมาปรับปรุงการทางาน และ ส่ งผลให้ มกี ารพัฒนาผลการดาเนินงานตามตัวบ่ งชี้ของแผนกลยุทธ์ ทุกตัวบ่ งชี้ มีระบบสารสนเทศทีใ่ ห้ ข้อมูลสนับสนุนการประกันคุณภาพการศึกษาภายในครบทั้ง 9 องค์ ประกอบคุณภาพ มีส่วนร่ วมของผู้มสี ่ วนได้ ส่วนเสี ยในการประกันคุณภาพการศึกษา โดยเฉพาะนักศึกษา ผู้ใช้ บัณฑิต และผู้ใช้ บริการตามพันธกิจของสถาบัน 8. มีเครือข่ ายการแลกเปลีย่ นเรียนรู้ ด้านการประกันคุณภาพการศึกษา ระหว่ างสถาบันและมีกจิ กรรมร่ วมกัน 9. มีแนวปฏิบัตทิ ดี่ หี รืองานวิจัยด้ านการประกันคุณภาพการศึกษาทีห่ น่ วยงานพัฒนาขึน้ และเผยแพร่ ให้ หน่ วยงานอืน่ สามารถนาไปใช้ ประโยชน์ โครงร่ างองค์ กร 2 1 การวางแผน เชิงกลยุทธ์ 5 การม่ งเน้ นที่ ทรัพยากรบุคคล 7 การนาองค์ กร 3 การมุ่งเน้ น ผู้รับบริการ 6 การจัดการ กระบวนการ 4. การวัด การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้ ผลลัพธ์ ของ การดาเนิน ทาไมต้ องจัดการความรู้ 1. Convert intellectual capital to 1. Provide an IT-enabled information base to enable citizens and customers to access structural capital. 2. Focus strategic thinking on information and services they need 2. Establish a network of knowledgeable capitalizing on knowledge vs. government employees who can add focusing on the budget. value to citizens or customers requests. 1.Share best-known practices across the enterprise. 2. Learn from failed efforts. 3. Provide platform for knowledge re-use & 1. People are our primary asset & are innovation crucial to maintaining organizational 4. Establish benchmark for Structural Capital E-government expertise. Productivity internal & external 2. Capture and leverage what people performance – individuals know - know-how &know what “Best” Practices/ Enable Human Capital 3. Promote career growth. Create & Use and teams. Increase Processes 5. Acclimate new employees to “the way we Attract & Retain Share 1. Increase the transfer of individual do things around here”. Why is KM knowledge to the organization. 1. Provide the right Important to Leadership and 2. Foster across organizational Foster Provide information in a context Social Capital Your boundaries, time& space Decision Making that aids decision- making Organization? 3. Ling people who have the requisite 2. Integrate new Encourage Increase tacit and explicit knowledge with knowledge into decision & Use those who need it to do their jobs. processes by sharing and Foster Customer Create Learning collaborating with players Foster 1. Facilitate and accelerate learningSatisfaction and stakeholders in create opportunities for individuals and Collaboration decision processes. Competitive Advantage/ groups to put new knowledge to use. Innovation 1. Focus on 3. Use information and 2. Leverage organizational knowledge-bring Market Differentiation knowledge of knowledge to align the right information to the right people in customer needs to organizational actions Increase collaboration an understandable context that addresses 1. To achieve knowledge superiority 1. Provide an infrastructure drive the with missions and visions. opportunities-enrich the new challenges. over adversaries or competitors. for electronic and social organizations efforts. 3. Value individual learning by exchange of tacit and 2. As a business proposition, product networking to develop new rewarding it and leveraging it to the explicit knowledge between 2. Improve customer or service. products or services. enterprise level. people. outcomes and 2. Foster and provide access 3.Change the value proposition from delivering goods and services to experiences with to rich pools of ideas so delivering knowledge and expertise services rendered. others can capitalize on about those goods and services. them. 4. Focuses collective organizational 1. Reduce costs risks, learning curves & Start-up time 2. Contribute to bottom line/mission goals. intellect on customer needs. 5. To meet business/ mission goals. แรงจูงใจ ในการจัดการความรู้ 1. พัฒนางาน 2. พัฒนาคน 3. พัฒนาองค์ กร Quality of output/outcome Quality culture Learning organization แรงจูงใจ คือ พลังสาคัญที่สุด ในการดาเนินการ KM สั งคมแห่ งการรับร้ ู – บริโภคความร้ ู สั งคมแห่ งการเรียนรู้ – สร้ างความรู้ ต่ อยอดความรู้ ใช้ ความรู้ ร่ วมกันเรียนรู้ Learning vs Training บันได 5 ขัน้ ของระบบการเรียนรู้ 5 4 รู้แจ้ง ปัญญาญาณ เรียนรู้ เลียนแบบ พัฒนาต่อยอด 3 เลียนรู้ รับมา ทาเลียนแบบ 2 รับรู้ แต่อาจไม่ได้นาไปใช้ 1 ไม่รู้ ไม่รู้ ไม่ชี้ vs. ไม่รู้ แล้วชี้ ฟังบรรยายอย่ างเดียว ไม่ มีประสิ ทธิภาพเพียงพอ ทีจ่ ะเพิม่ ศักยภาพในการเรียนรู้ KM การจัดการความร้ ู คือ ............... การจัดการความร้ ู คือ…? The process through which organizations generate value from their intellectual and Knownledge-based assets KM Research Center การจัดการความร้ ู คือ…? A systematic process of connecting people to people and people to the knownledge and information they need to effectively act and create new knownledge American Productivity and Quality Center กรอบความคิด KM ของ Bonnie Rubenstaein-Montano 1. การค้ นหาว่ าองค์ กรมีความรู้ อะไรบ้ าง ชนิด/รู ปแบบใด อยู่ทใี่ ครและความรู้ ทจี่ าเป็ น ต่ อองค์ กรมีอะไรบ้ าง (Knowledge identification) 2. การสร้ างและแสวงหาความรู้ (Knowledge Creation and Acquisition) 3. การจัดการความรู้ ให้ เป็ นระบบ (Knowledge Organization) 4. การประมวลและกลัน่ กรองความรู้ (Knowledge Codification and Refinement) 5. การเข้ าถึงความรู้ (Knowledge Access) 6. การแลกเปลีย่ น และแบ่ งปันความรู้ (Knowledge Sharing) 7. การเรียนรู้ (Learning) การจัดการความร้ ู • การจัดการองค์ ความร้ ู • การจัดการคนทีม่ ีองค์ ความร้ ู • การจัดการกระบวนการเรี ยนร้ ู • การจัดการวงจรชีวติ ของความร้ ู • การจัดการตนเอง Hardware and Software KM • สร้ างองค์ ความรู้ ใหม่ • สร้ างวิธีการเรียนรู้ ใหม่ • สร้ างคนทีม่ คี วามรู้ ใหม่ • สร้ างตนเองให้ มีแรงบันดาลใจ ในการเรียนรู้ แนวคิด “การจัดการ” ความรู้ Create/Leverage Access/Validate สร้ างความรู้ ยกระดับ เข้ าถึง ตีความ ความรู้เด่ นชัด ความรู้ซ่อนเร้ น รวบรวม/จัดเก็บ Explicit Tacit store Knowledge เรียนรู้ ยกระดับ เน้น 2 T Tool & Technology นาไปปรับใช้ apply/utilize Knowledge มีใจ/แบ่ งปัน Care & Share เน้น 2 P People & Process เรียนรู้ร่วมกัน Capture& Learn Explicit K Tacit K KM ส่ วนใหญ่ ไป“ผิดทาง” อย่ าลืมว่ า ต้ อง “สมดุล” ให้ ความสาคัญกับ “2T” Tool & Technology ให้ ความสาคัญกับ“2P” People & Processes KM KM วิธีคดิ ทั่วไป • คิดจากเหตุไปหาผล • เริ่มจาก “ทุกข์ ” (ปัญหา) • ฐานความคิดแบบเส้ นตรง ระนาบเดียว • ความคิดนาความคิด- ปัญญา ไตร่ ตรอง (intellectual exercise) • คิดจากผลไปหาเหตุ • เริ่มจาก “สุ ข” (ความสาเร็จ) • ฐานความคิดที่ไม่ เป็ นเส้ นตรง / ซับซ้ อน / หลายมิติ • ปฏิบัตนิ าความคิด-ปัญญาปฏิบัติ • เน้ นปัญญาปัจเจก • เน้ นปัญญารวมหมู่ (practical-wisdom exercise) KM วิธีคดิ ทั่วไป • มีสมมติฐานว่ าผู้ปฏิบัติ ไม่ มีความรู้ • เรียนรู้ โดยเน้ นการรับถ่ ายทอด • มุ่งบรรลุ ผลเลิศ ในขั้นตอนเดียว KM • มีสมมติฐานว่ามีความรู้อยู่ในการ ปฏิบัติ/ผู้ปฏิบัติ • เรียนรู้ โดยเน้ นการปฏิบัติ • มุ่งบรรลุ ผลเลิศ ทีละน้ อย • เน้ นเป้าหมายปลายทาง (destination) • เน้ นเป้าหมายรายทาง (journey) • เน้ นผลลัพธ์ • เน้ นทั้งผลลัพธ์ และกระบวนการ KM วิธีคดิ ทั่วไป • มุ่งรับถ่ ายทอด /เรียนรู้ ความรู้ ในกระดาษ • มุ่งคิดริเริ่มเอง • มุ่งเด่ นเดีย่ ว ยอมรับเฉพาะ เด่น 5 ดาว • เน้ นขับเคลือ่ นด้ วยแรงกดดัน • หวง/ปกปิ ด ความรู้ KM • มุ่งรับถ่ ายทอด/เรียนรู้ ความรู้ ในคน • มุ่งเรี ยนลัดจากผู้มีผลเลิศ • มุ่งเด่ นกล่ มุ ยอมรับ เด่ นหลายระดับ 2-5 ดาว • เน้ นขับเคลือ่ นด้ วยความชื่นชม • ให้ /แบ่ งปัน/แลกเปลีย่ น ความรู้ Share + Learn give + take ไม่รู้วำ่ ตัวเองมี + ในสิ่ งที่ตวั เองไม่มี Storytelling - dialogue ให้ผมู ้ ีควำมรู ้จำกกำรปฏิบตั ิ (คุณกิจ) ปลดปล่อย tacit knowledge ที่ซ่อนอยูอ่ อกมำจำก “การปฏิบัติจริง/ประสบการณ์ ” เขียนเรื่องเล่ าทีเ่ ป็ นประสบการณ์ จริงของท่ าน เทคนิคหรือวิธีการทางาน ให้ งานประสบความสาเร็จ ครึ่ งหน้ำ A4 – 10 นำที การสั มมนา KM ก่ อนสั มมนา ท่ านงงกับ KM หลังสั มมนา ท่ านจะงงกับ KM มากขึน้ ก่อนสั มมนา ระหว่ างสั มมนา หลังสั มมนา อนาคต(คาดหวังว่ า) ท่ านจะรับรู้ ท่ านจะเลียนรู้ ท่ านจะเรียนรู้ ท่ านจะเรียนรู้ วิธีการเรียนรู้ Model “ปลาทู” Knowledge Sharing ส่ วนกลางลาตัว ส่ วนที่เป็ น “หัวใจ” “คุณอานวย” ให้ ความสาคัญกับการแลกเปลีย่ นเรียนรู้ Knowledge Facilitator ช่ วยเหลือ เกือ้ กูลซึ่งกันและกัน (Share & Learn) “คุณเอือ้ ” KV Chief Knowledge Officer : CKO Knowledge Vision ส่ วนหัว ส่ วนตา มองว่ ากาลังจะไปทางไหน ต้ องตอบได้ ว่า “ทา KM ไปเพือ่ อะไร” KS KA Knowledge Assets ส่ วนหาง สร้ างคลังความรู้ เชื่อมโยงเครือข่าย ประยุกต์ ใช้ ICT “สะบัดหาง” สร้ างพลังจาก CoPs “คุณกิจ” Knowledge Practitioner การจัดการความรู้ ไม่ มเี ป้ าหมายในตัวเอง แต่ เป็ นเครื่องมือ ทีใ่ ช้ ในการบรรลุเป้ าหมาย เป้าหมาย-หัวปลา KM ไม่ ใช่ องค์ ความรู้ KM เป็ นเครื่องมือในการพัฒนา (tool) วิธีการจัดการความรู้ Share+Learn Access • • • • Documents Storytelling Yellow pages Knowledge bases (WWW) • Dialogue • AI • • • • • • • • • • Cross-Functional team Innovation & Quality circle team Community of practice – CoP Mentoring system Job rotation Secondment Knowledge forum Weblog AAR KM cafe’ wisdom Knowledge Knowledge Management ( KM ) Information Information Management ( IM ) Data Data Management ( DM ) ??? Knowledge = Research ??? KM & Research methodology ? KM ไม่ ใช่ เครื่องมือทีจ่ ัดการกับตัวความรู้ โดยตรง แต่ เป็ นวิธีการทีท่ าให้ เกิดการแลกเปลีย่ นความรู้ ระหว่ างมนุษย์ O’ Dell (1998) K = ( IK + EK ) KS KS Knowledge = ( Human + IMS ) IK = Implicit Knowledge EK = Explicit Knowledge Knowledge = องค์ควำมรู้ Human = คน IMS = ระบบกำรจัดกำร/รวบรวม/จัดเก็บควำมรู ้/คลังควำมรู้ KS = กระบวนกำรแลกเปลี่ยนเรี ยนรู้ ( AABC-1996 ) การจัดการความรู้ คือ ............... เครื่ องมือหรื อวิธีการเพิ่มมูลค่ าหรื อคุณค่ าขององค์ กร/ กลุ่มบุคคล หรื อเครื อข่ ายขององค์ กร/กลุ่มบุคคล การจัดการความรู้ ไม่ ได้ มีความหมายเพียงแค่ การนา “ความรู้ ” มา “จัดการ” การจัดการความร้ ู คือ…? กำรจัดกำรองค์ควำมรู ้ กำรจัดกำรกระบวนกำรชีวิตขององค์ควำมรู ้ กำรจัดกำรควำมสัมพันธ์ของทีมงำน .................................. การจัดการความร ้ ู การจัดการความรส้ ู ึก การจัดการความรส้ ู ึกตัว การจัดการความรู้ • มีความหมายรวมถึง การรวบรวม การจัดระบบ การจัดเก็บ และการเข้ าถึงข้ อมูลเพื่อสร้ างเป็ นความรู้ • เกี่ยวข้ องกับการแบ่ งปั นความรู้ (knowledge sharing) • ต้ องการผู้ทรงความรู้ความสามารถในการตีความและ ประยุกต์ ใช้ ความรู้ • เป็ นการเพิ่มประสิทธิผลขององค์ การ การจัดการความรู้ – ต้ องทาครบ 3 องค์ ประกอบ • ความรู้ฝังลึกในคน • ความรู้แฝงในองค์ กร/เครือข่ าย • ความรู้เปิ ดเผยทั่วไป-หนังสือ/ตารา/วารสาร โดยจะต้ องมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนากิจกรรมหลัก ( core activities) ขององค์ กร กลุ่มบุคคลหรือเครือข่ าย การจัดการความรู้ ประกอบด้ วยกระบวนการ • การขุดค้ นและรวบรวมข้ อมูล เน้ นความรู้ ท่ จี าเป็ นสาหรั บใช้ ประโยชน์ ทัง้ จากภายใน และภายนอกองค์ กร นามาตรวจสอบความเชื่อถือและเหมาะสมกับบริบทขององค์ กร ถ้ าไม่ เหมาะสมก็ปรับปรุ ง • การจัดหมวดหมู่ความรู้ ให้ เหมาะสมต่ อการใช้ งาน • การจัดเก็บ ความรู้ เพื่อให้ ค้นหาได้ ง่าย • การสื่อสารเพื่อถ่ ายทอดความรู้ • การจัดกิจกรรมและกระบวนการเพื่อให้ เกิดการเปลี่ยนแปลงความรู้ • การวิเคราะห์ สังเคราะห์ เพื่อยกระดับความรู้ • การสร้ างความรู้ใหม่ • การประยุกต์ ใช้ ความรู้ • การเรียนรู้จากการใช้ ความรู้ การจัดการความรู้ มีความหมาย....... • กว้ างกว่ าการจัดการสารสนเทศ • กว้ างกว่ าการจัดการข้ อมูล • กว้ างกว่ าการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร # การจัดการความรู้มีอยู่แล้ วตามธรรมชาติในทุกคน ทุกองค์ กร ทุก เครือข่ าย และทุกสังคม แต่ เป็ นการจัดการความรู้ท่ ที าโดยไม่ มีระบบ แบบแผนและขาดพลัง # การจัดการความรู้คือ เครื่องมือพัฒนาผลงานของบุคคล องค์ กร เครือข่ าย และพัฒนาสังคมในยุคสังคม–เศรษฐกิจบนฐานความรู้ ตกลง KM คืออะไร? ่ บบนี้ ทีแ ่ น่ๆ... ต้องไม่ใชแ ... จะใช้ KM ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง ต้องเห็นความแตกต่างระหว่าง “ความรู้ 2 ประเภท” • วิชำกำร หลักวิชำ • ทฤษฎี (Theory) ปริ ยตั ิ • มำจำกกำรสังเครำะห์ วิจยั ใช้สมอง (Intellectual) • เป็ นกฎเกณฑ์ วิธีกำร ขั้นตอนที่ผำ่ นกำรพิสูจน์ • ภูมิปัญญำ เคล็ดวิชำ • ปฏิบตั ิ (Practice) ประสบกำรณ์ • มำจำกวิจำรณญำณ ใช้ปฏิภำณ (Intelligent) • เป็ นเทคนิคเฉพำะตัว เป็ นลูกเล่นของแต่ละคน Explicit K. Tacit K. สรุป การจ ัดการความรู ้ คือ... • เครือ ่ งมือ ผ่อนแรงในการเรียนรู ้และพัฒนางาน • เครือ ่ งมือ สร ้างพลังทวีคณ ู (Synergy) จากการ รวมหมูพ ่ ลังทีแ ่ ตกต่าง หลากหลาย ั พันธ์ทด • เครือ ่ งมือ สร ้างความสม ี่ ใี นกลุม ่ ผู ้ปฏิบัตัตงั าน ้ • เครือ ่ งมือ ใชความรู ้ของทัง้ ในและนอกหน่วยงาน ั ยภาพของคน & ทีมออกมาใช ้ • เครือ ่ งมือ ดึงศก ่ ารสร ้างนวัตกรรม • เครือ ่ งมือ ทีน ่ าไปฏิสูก ดร.ประพนธ์ ผาสุขยืด Learning Organization 1. 2. 3. 4. 5. Share vision Team Learning Personal Mastery Mental Model Systems Thinking ตันไดสามขัน ้ ่ ารเปฏิ็น LO สูก (องค์กรแห่งการเรียนรู ้) ั ทัศน์” สร ้าง “วัสย Purpose, Direction, Shared Vision, Leadership สร ้าง “ปฏิั จจัย” Process, Infrastructure, Management สร ้าง “ใจ” Passion, People ดร.ประพนธ์ ผาสุขยืด การวางแผนยุทธศาสตร์ ในการจัดการความรู้ Goal for KM SWOT analysis Select Strategy & KPI Action plan with PI PDCA with CQI MAKE Award 8 items Questionnaires Most Admired Knowledge Enterprises Teleos-UK (1998) The Winners of the 2013 Global MAKE study, conducted by Teleos in association with The KNOW Network, are (in alphabetical order): • Accenture (Ireland) • Amazon.com (USA) • Apple (USA) • ConocoPhillips (USA) • Deloitte (Global) • EY (Global) • Fluor (USA) • Google (USA) • IBM (USA) • Infosys Limited (India) • McKinsey & Co. (Global) • Microsoft (USA) • POSCO (S. Korea) • PwC (Global) • Samsung Group (S. Korea) • Schlumberger (France/the Netherlands/USA) • Tata Group (India) • Toyota (Japan) • Vale S.A. (Brazil) • Wipro Limited (India) KM cafe Objective 4 คนต่อโต๊ะ + พูดคุย 3 รอบ คนละ 3 นำที ฟังด้ วยใจ Deep listening Inspiration พดู จากใจ expiration KM cafe เทคนิคหรือวิธีการทางาน ให้ งานประสบความสาเร็จ After Action Review ทตทวนเปฏิ้ าหมายของ workshop ครัง้ นี้ เป้าหมายของท่าน ? (เป้าหมายของผูจ ้ ัดการประชุม ?) 1. ท่านคัดว่าท่านตรรลุในเรือ ่ งใดต ้าง + เหตุผลทีท ่ า ให ้ตรรลุ ? 2. ท่านคัดว่ามีเรือ ่ งใดทีไ่ ม่ตรรลุ ? เพราะเหตุใด ? 3. หากท่านไปฏิจัดกระตวนการแลกเปฏิลีย ่ นเรียนรู ้เอง ท่านคัดว่าจะปฏิรัตขัน ้ ตอนใดต ้าง ?