คำย่อ-คำแปลในการให้ยาตามแผนการรักษาของแพทย์ (ที่ใช้บ่อย)

advertisement
Medication Administration
Benjawan Nunthachai
คำย่ อ-คำแปลในกำรให้ ยำตำมแผนกำรรักษำของแพทย์
(ที่ใช้ บ่อย)
a.c.
b.i.d.
C
Cap
D
b.i.n.
ante cibum
bis in die
cum
Capsula
dies
bis in noc tus
before meals (ก่ อนอำหำร)
twice a day (วันละสองครัง้ )
with (พร้ อมกับ)
capsule (แคปซูล)
day (วัน)
twice a night (คืนละสองครัง้ )
คำย่ อ-คำแปลในกำรให้ ยำตำมแผนกำรรักษำของแพทย์
(ที่ใช้ บ่อย)
h.s. hora somni
bedtime เมื่อเวลำเข้ ำนอน
o.d. once daily
วันละครัง้
p.c.
post cibum
after meals หลังอำหำร
p.o. per os
by mouth กินทำงปำก
pil
pilula
pillยำเม็ด
p.r.n. pro re nata
as needed หรือ when
necessary for (ใช้ เมื่อมีกรณีจำเป็ น/เมื่อต้ องกำร)
คำย่ อ-คำแปลในกำรให้ ยำตำมแผนกำรรักษำของแพทย์
(ที่ใช้ บ่อย)
q.i.d. quater in die four times a day วันละสี่ครัง้
s.l. sub lingual under the tongue ใต้ ลิน้
t.i.d. ter in die three times a day วันละสำมครัง้
Tsp teaspoon
ช้ อนชำ
Tbsp tablespoon ช้ อนโต๊ ะ
Tab tabella
tablet ยำเม็ด
คำย่ อ-คำแปลในกำรให้ ยำตำมแผนกำรรักษำของแแพทย์
(ที่ใช้ บ่อย)
 I.M. into the muscle
ฉีดเข้ ำกล้ ำม
 I.V. into the vein
ฉีดเข้ ำหลอดเลือดดำ
 Mg. milligram
มิลลิกรั ม
 Ml.
milliliter
มิลลิลิตร (ซีซี.)
 O.D. oculo dextro
right eye ตำขวำ
 O.S. oculo sinistro left eye ตำซ้ ำย
 O.U. oculo utro
in each eye ตำแต่ ละข้ ำง
Rights of Medication Administration
1. Right patient
• Check the name on the order and the
patient.
• Use 2 identifiers.
• Ask patient to identify himself/herself.
• When available, use technology (for
example, bar-code system).
Rights of Medication Administration
2. Right medication
• Check the medication label.
• Check the order.
3. Right dose
• Check the order.
• Confirm appropriateness of the dose using a
current drug reference.
• If necessary, calculate the dose and have
another nurse calculate the dose as well.
ยาก่ อนอาหาร
• ยาที่รับประทานก่อนอาหารอย่างน้ อยครึ่งถึงหนึ่งชัว่ โมงเพื่อให้ ยาถูกดูด
ซึมเข้ าสูก่ ระแสโลหิตได้ ดี หากรับประทานพร้ อมหรื อหลังอาหารทันทีจะ
ทาให้ การดูดซึมของยาลดลงมาก
• หากลืมรับประทานก่อนอาหารให้ รับประทาน
หลังอาหารอย่างน้ อย 2 ชัว่ โมง
• สาหรับยาที่ออกฤทธิ์ไปเพิ่มการเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหารและ
ลาไส้ ซึง่ ใช้ รักษาอาการคลื่นไส้
อาเจียน ให้ รับประทานก่อนอาหารเพื่อที่จะได้ ออกฤทธิ์ลดอาการ
คลื่นไส้ อาเจียน เมื่อรับประทานอาหารลงไปได้ ทนั
ยาหลังอาหาร
• โดยทัว่ ไปหมายความว่าหลังอาหารอย่างน้ อย 15 นาที ยาที่ให้
รับประทานหลังอาหารนี ้ ส่วนมากเป็ น
ยาทัว่ ๆ ไป ซึง่ ไม่รบกวนต่อการดูดซึมของยาและอาจเพิ่มการดูดซึม
ของยาบางชนิดได้ หรื อเป็ นยาที่ถึงแม้ จะถูกดูดซึมได้ ดีในขณะ
ท้ องว่าแต่มีฤทธิ์ระคายเคืองกระเพาะอาหารมาก
ยาหลังอาหารทันที/ยาก่ อนนอน
• ยาที่มีฤทธิ์เป็ นกรดทาให้ เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุกระเพาะอาหาร
มัก
ทาให้ คลื่นไส้ อาเจียนเมื่อรับประทานขณะท้ องว่าง หากรับประทาน
ติดต่อกันเป็ นเวลานานอาจทาให้ เป็ นผลหรื อจนถึงขันเป็
้ นแผล
ทะลุได้ ดังนันจึ
้ งต้ องมีอาหารหรื อน ้าช่วยทาให้ เจือจาง ยาดังกล่าวได้ แก่
ยาแก้ ปวดข้ อต่าง ๆ ยาแอสไพริน และยาสเตียรอยด์ เป็ นต้
• รับประทำนก่ อนนอน หมายความว่าให้ รับประทานก่อนนอนตอน
กลางคืนวันละ 1 ครัง้ เท่านัน้
• ยำเม็ดคุมกำเนิด คืออะไร
•
ยาเม็ดคุมกาเนิด คือฮอร์ โมนสังเคราะห์ที่ฝ่ายหญิงใช้ กินเพื่อป้องกัน
การตังครรภ์
้
เป็ นฮอร์ โมนที่ทาเลียนแบบฮอร์ โมนของผู้หญิง คือ เอสโตรเจน
(Estrogen) และโปรเจสเตอโรน(Progesterone) ยาเม็ด
คุมกาเนิด มี 2 ชนิด คือ ชนิดแผงละ 21 เม็ดและชนิดแผงละ 28 เม็ด บาง
ชนิดจะมีฮอร์ โมนเพียงอย่างเดียว แต่สว่ นใหญ่จะมีทงั ้ 2 อย่าง เรี ยกว่า ชนิด
ฮอร์ โมนรวม ซึง่ นิยมใช้ มากกว่า สตรี ทกุ คนสามารถเลือกซื ้อหาได้ ทวั่ ไป
อย่างง่ายดาย ประชากรทัว่ โลกหลายล้ านคนเลือกใช้ ยาเม็ดคุมกาเนิด
เพราะกินง่ายสะดวกและเป็ นที่ยอมรับว่าให้ ผลในการคุมกาเนิดเป็ นอย่างดี
•
•
ยาคุมกาเนิดป้องกันการตังครรภ์
้
ได้ อย่างไร
ป้องกันการตังครรภ์
้
ได้ เพราะ ฮอร์ โมนในเม็ดยาทำให้ ไม่ มีไข่ สุกจำกรั งไข่ ทาให้ มกู ที่ปากมดลูกเหนียวข้ น ตัวอสุจิผ่านได้ ยาก และทาให้ เยื่อบุโพรง
มดลูกไม่เจริ ญไม่เหมาะกับการฝั งตัวของตัวอ่อน(หากเกิดการปฏิสนธิ) จึงป้องกันการตังครรภ์
้
ได้ เป็ นอย่างดี
ข้ อดีในการเลือกใช้ ยาเม็ด มีประสิทธิภาพสูง ใช้ ง่าย และไม่ต้องมีข้อปฏิบตั ิใดๆในขณะร่ วมเพศลดอาการที่เกี่ยวกับการมีประจาเดือน เช่น ลดการปวด
ท้ อง ลดการเสียเลือดมาก ลดการสูญเสียธาตุเหล็ก และการเกิดโลหิตจาง ช่วยให้ รอบประจาเดือนสม่าเสมอลดความเสี่ยงของการอักเสบของอวัยวะ
ในอุ้งเชิงกราน และการตังครรภ์
้
นอกมดลูก ลดการเกิดเนื ้องอกของรังไข่ และเนื ้องอกชนิดธรรมดาของเต้ านม และถุงน ้ารังไข่
ข้ อจากัดของยาเม็ดคุมกาเนิด
ต้ องกินทุกวันเป็ นประจา ในเวลาใกล้ เคียงกัน
อาจเกิดอาการข้ างเคียงในบ้ างคน
ยาเม็ดคุมกาเนิดบางชนิดไม่เหมาะสาหรับผู้ที่ให้ นมบุตร
อาการข้ างเคียงที่อาจพบได้
คลื่นไส้ อาเจียน
น ้าหนักเพิ่ม
ปวดศีรษะ หรื อเวียนศีรษะ
คัดตึงเต้ านม
ข้ อแนะนำในกำรใช้ ยำคุมกำเนิดที่ถูกต้ อง
• ยำคุมชนิด 21 เม็ด = การกินยาแผงแรก สามารถเริ่มได้ ตงแต่
ั ้ วนั ที่
1-10 ของการมีประจาเดือน (แต่วนั ที่ 5 จะเหมาะสมที่สดุ ) โดยเลือก
เม็ดยาให้ ตรงกับวันที่เริ่มกินยา เช่น เริ่มเม็ดแรกวันจันทร์ ก็ให้ กินเม็ดที่
ด้ านหลังแผงเขียนว่า “จ” หรื อ “Mon” กินคืนละ 1 เม็ด ก่อนนอน
ทุกคืน ตรงเวลา ห้ ามลืมกิน โดยกินไปตามลูกศร จนครบ 21 เม็ด เมื่อ
หมดแผงแรกแล้ ว ให้ หยุดยา 7 วัน แล้ วจึงเริ่มกินยาแผงใหม่ตอ่ ไป โดย
ในช่วง 7 วันที่หยุดยา จะมีประจาเดือนมา ไม่ต้องสนใจว่าจะมากี่วนั
ถึงแม้ จะยังไม่หมด แต่เมื่อหยุดยาแผงแรกครบ 7 วันแล้ ว ก็เริ่ มยาแผง
ใหม่ได้ เลย
ข้ อแนะนาในการใช้ ยาคุมกาเนิดทีถ่ ูกต้ อง
• ยำคุมชนิด 28 เม็ด = จะประกอบด้ วยฮอร์ โมน 21 เม็ด และอีก 7
เม็ด อาจเป็ นแป้ง วิทามิน หรื อเหล็ก ซึง่ จะมีสีหรื อขนาดเม็ดยาแตกต่าง
จาก 21 เม็ด เม็ดแป้งอีก 7 เม็ดที่เพิ่มเข้ ามา เพื่อให้ กินยาติดต่อกันทุก
วัน โดยไม่ต้องเว้ นช่วง จะได้ ไม่ต้องกังวลเรื่ องการนับวัน
การกินยาแผงแรก ให้ เริ่มกินในวันแรกที่มีประจาเดือน โดยให้ เริ่มกินใน
ส่วนที่เป็ นสีแดงในด้ านหลังของแผง และเลือกเม็ดยาให้ ตรงกับวันแรก
ของการมีประจาเดือน กินคืนละ 1 เม็ด ก่อนนอนทุกคืน ตรงเวลา ห้ าม
ลืมกิน โดยกินไปตามลูกศร จนครบ 28 เม็ด เมื่อกินหมดแผงแล้ ว
สามารถเริ่มยาแผงต่อไปได้ ทนั ที โดยไม่ต้องสนใจว่ากาลังมีประจาเดือน
อยูห่ รื อไม่ก็ตาม
ยาคุมกาเนิดฉุกเฉิ น
• ยาคุมฉุกเฉินมีข้อบ่งใช้ ในการป้องกันการตังครรภ์
้
ในกรณีฉกุ เฉิน คาว่า
“ฉุกเฉิน” หมายถึง การมีเพศสัมพันธ์ในคูส่ ามีภรรยา ที่มีการวางแผน
ครอบครัว และทาการป้องกันการตังครรภ์
้
แต่เกิดความผิดพลาดจากวิธี
คุมกาเนิดที่ใช้ เช่น การรั่วหรื อฉีกขาดของถุงยางอนามัย การลืมรับประทาน
ยาเม็ดคุมกาเนิดตังแต่
้ 2 เม็ดขึ ้นไป เป็ นต้ น หรื อใช้ ในกรณีผ้ หู ญิงที่ถกู ข่มขืน
• ยำเม็ดโปรเจสเตอโรนอย่ ำงเดียว ( หรื อที่ทรำบกันดีว่ำมีช่ ือกำรค้ ำว่ ำ
โพสตินอร์ ) มีสว่ นประกอบหลักเพียงอย่างเดียว คือ
Levonorgestrel ขนาดเม็ดละ 0.75 มิลลิกรัม โดยรับประทาน 2 ครัง้
ระยะห่างกัน 12 ชัว่ โมง และต้ องรับประทานภายใน 72 ชม หลังจากมี
เพศสัมพันธ์
ยาคุมกาเนิดฉุกเฉิน
ข้อแนะนาในการรับประทานยาคุมกาเนิดฉุ กเฉิ น
ยำคุมฉุกเฉินแต่ ละแผงมียำคุมฉุกเฉิน 2 เม็ด แต่ ละเม็ดประกอบด้ วย
ตัวยำที่เป็ นฮอร์ โมนขนำดสูง คือ levonorgestrel เม็ดละ 750
ไมโครกรั ม
การรับประทานยาที่ถกู ต้ องคือ รับประทานยาเม็ดแรกให้ เร็ วที่สดุ หลังจากมี
เพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ ป้องกัน โดยไม่ควรเกิน 72 ชัว่ โมง
และจะต้ องรับประทานยาเม็ดที่สองหลังจากรับประทานยาเม็ดแรกไม่เกิน
12 ชัว่ โมง
หากมีการอาเจียนภายใน 2 ชัว่ โมงหลังรับประทานยาแต่ละเม็ด ต้ อง
รับประทานยาใหม่
ไม่แนะนาให้ รับประทานยาเกิน 4 เม็ด หรื อ 2กล่อง ต่อเดือน
ข้ อแนะนำในกำรรับประทำนยำคุมฉุกเฉิน
• การรับประทานยาเม็ดแรกภายใน 72 ชัว่ โมง หลังการมีเพศสัมพันธ์
ดังกล่าวตามด้ วยยาเม็ดที่สอง จะให้ ประสิทธิภาพในการป้องกันการ
ตังครรภ์
้
ได้ 75% แต่หากเริ่มยาภายใน 24ชัว่ โมง หลังการมีเพศสัมพันธ์
จะให้ ประสิทธิภาพในการป้องกันการตังครรภ์
้
เพิ่มขึ ้นเป็ น 85% ดังนันจึ
้ ง
ควรรับประทานยาเม็ดแรกหลังการมีเพศสัมพันธ์ให้ เร็วที่สดุ
ผลข้างเคียงของยาคุมกาเนิดฉุกเฉิ น
• ผลข้ างเคียงที่อาจพบได้ บอ่ ยคือ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน คัดเต้ านม
และระดูมาผิดปกติ โดยอาจมาเร็วขึ ้นหรื อช้ าก็ได้ บางครัง้ อาจพบ
เลือดออกกระปริดกระปรอย ดังนันถ้
้ าขาดระดูหรื อระดูมากระปริ ดกระ
ปรอยหลังใช้ ยานี ้ จาเป็ นจะต้ องตรวจให้ ทราบว่าเป็ นการตังครรภ์
้
หรื อ
เป็ นผลของยา ในกรณีท่ ปี ้ องกันไม่ ได้ ยังมีโอกำสตัง้ ครรภ์ นอก
มดลูกสูงกว่ ำปกติอีกด้ วย
วิธีละลายยาผงแห้ งปฏิชีวนะ
• 1. หากต้ องใช้ ยามากกว่า 1 ขวด ให้ ละลายยาทีละขวด
2. เคาะผงยาในขวดให้ ร่วน
3. ใช้ น ้าต้ มสุกที่เย็นแล้ วหรื อน ้าดื่มที่สะอาดละลายยา ห้ ามให้ น ้าร้ อนหรื อ
น ้าอุ่น
4. เปิ ดฝาขวดยา เติมน ้าลงในขวดยาประมาณครึ่งขวด ปิ ดฝาขวด เขย่าให้
ผงยาเปี ยกทัว่ และกระจาย ไม่จบั เป็ นก้ อน
5. เปิ ดฝาขวดยาอีกครัง้ เติมน ้าลงในขวดจนถึงขีดที่กาหนดไว้ บนขวดยา
หรื อขีดบอกบนฉลากยา
6. ปิ ดฝาขวดยา เขย่าให้ ยากระจายเข้ ากันดี
7. ก่อนริ นยา ต้ องเขย่าขวดก่อนทุกครัง้ ยาที่ผสมแล้ วมีอายุการใช้ ไม่เกิน 7
วัน และเก็บยาไว้ ในที่เย็นหรื อในตู้เย็น
ช่องธรรมดา
วิธีใช้ ยาหยอดตา
• 1. ล้ างมือให้ สะอาด เขย่าขวดยา
2. นอนหรื อนัง่ แหงนหน้ ามองขึ ้นข้ างบน ใช้ มือดึงหนังตาล่างให้ เป็ นกระพุ้ง
3. หยอดตาตามจานวนหยดลงไป ระวังอย่าให้ หลอดหยดแตะกับตาหรื อ
เปลือกตา
4. หลับตาพร้ อมทังใช้
้ มือกดหัวตาไว้ ประมาณ 1 – 2 นาที ซับส่วนที่เกิน
ออก
5. หากจาเป็ นต้ องหยอดยาตาหลายชนิดในช่วงเวลาเดียวกัน ให้ เว้ นช่วง
ระยะเวลา 5 นาที เพื่อให้ ยาแต่ละชนิดออกฤทธิ์ได้ ดี
6. เมื่อเปิ ดยาใช้ แล้ ว ควรทิ ้งหลังจาก 1 เดือน ห้ ามล้ างหรื อทาความสะอาด
หลอดหยดระหว่างใช้
วิธีใช้ ยาป้ายตา
• 1. ล้ างมือให้ สะอาด
2. นอนหรื อนัง่ แหงนหน้ ามองขึ ้นข้ างบน ใช้ มือดึงหนังตาล่างให้ เป็ น
กระพุ้ง
3. บีบยาลงในกระพุ้งตา โดยเริ่มจากหัวตา ระวังอย่าให้ ปลายหลอด
แตะกันตาหรื อเปลือกตา
4. กะพริบตาเบา ๆ ประมาณ 1 – 2 นาที หรื อใช้ นิ ้วมือคลึงเบา ๆ
เช็ดยาส่วนเกินออก
5. ถ้ าจาเป็ นต้ องใช้ ยาป้ายตาร่วมกับยาหยอดตา ให้ ใช้ ยาหยอดตา
ก่อนยาป้ายตาประมาณ 5 นาที
Rights of Medication Administration
4. Right route
• Again, check the order and
appropriateness of the route
ordered.
• Confirm that the patient can take
or receive the medication by the
ordered route.
Rights of Medication Administration
5. Right time
• Check the frequency of the ordered
medication.
• Double-check that you are giving the
ordered dose at the correct time.
• Confirm when the last dose was given.
Rights of Medication Administration
6. Right documentation
• Document administration AFTER giving the
ordered medication.
• Chart the time, route, and any other specific
information as necessary. For example, the
site of an injection or any laboratory value or
vital sign that needed to be checked before
giving the drug.
Rights of Medication Administration
7. Right reason
• Confirm the rationale for the ordered
medication. What is the patient’s
history? Why is he/she taking this
medication?
• Revisit the reasons for long-term
medication use.
Rights of Medication Administration
8. Right response
• Make sure that the drug led to the desired
effect. If an antihypertensive was given, has
his/her blood pressure improved? Does the
patient verbalize improvement in depression
while on an antidepressant?
• Be sure to document your monitoring of the
patient and any other nursing interventions
that are applicable.
หลักการบริหารยา 6 R
หลักการที่ 1.
การประกันความถูกต้ องด้ านผู้ป่วย (Right patient)
หลักการที่ 2.
การประกันว่ าผู้ป่วยจะได้ รับยาที่ มีคุณภาพ เป็ น ไปตามเงื่อนไข
ผู้ป่วย หรือถูกต้ องตามทีแ่ พทย์ ต้องการ (Right drug)
หลักการที่ 3.
การประกันว่ าผู้ป่วยจะได้ รับยาทีม่ ี ความแรง ความเข้ มข้ น ขนาดยาตาม
ความเหมาะสม และเป็ น ไปตามทีแ่ พทย์ ต้องการ(Right dose)
โอกาสของความคลาดเคลือ่ นทางยา
การส่ งจ่ าย การกระจาย การส่ งมอบ และการบริหารยาให้ ผ้ปู ่ วย
ผิดคน
• การให้ ยาผิดชนิด
• การให้ ยาทีแ่ พทย์ ไม่ ได้ สั่ง เช่ น ยา ทีผ่ ู้ป่วยนาติดตัวมา
• การให้ ยาทีผ่ ู้ป่วยเคยมีประวัตกิ ารแพ้
• การให้ ยาทีห่ มดอายุ
• การให้ ยาเสื่ อมคุณภาพ
• การให้ ยาผิดขนาด
• การคานวณขนาดยาผิด
• ไม่ สามารถใช้ ยาทีม่ ี เทคนิคการ บริหารพิเศษ เช่ น ยาพ่น
• ผิดความแรง
• ผิดความเข้ มข้ น
• การเจือจางผิด
• การให้ ยาซ้า
• การให้ ยาทีแ่ พทย์ สั่งหยุด
• การต่ อยาโดยทีแ่ พทย์ไม่ ได้ สั่ง
• การลืมให้ ยา โดยข้ ามไปให้ ยาเวลาใหม่
หลักกำรที่ 4.
กำรประกันว่ ำ ผู้ป่วยจะได้ รับยำถูกต้ องตำมเวลำที่
เหมำะสม (Right time)
หลักกำรที่ 5.
กำรประกันว่ ำผู้ป่วยจะได้ รับยำถูกช่ องทำง หรือวิธีบริหำร
ยำที่เหมำะสม (Right route)
หลักกำรที่ 6.
กำรประกันว่ ำ ผู้ป่วยจะได้ รับกำรบริหำรยำ ด้ วย
เทคนิคที่เหมำะสม (Right technique)
• กำรให้ ยำผิดไปจำกเวลำที่กำหนด
• กำรลืมให้ ยำและมีกำรให้ เมื่อนึกได้
• กำรหยดให้ ยำเร็วกว่ ำที่แพทย์ กำหนด
• กำรหยดให้ ยำนำนกว่ ำที่แพทย์ กำหนด
•กำรให้ ยำคลำดเคลื่อน ระหว่ ำงกำรให้ ก่อนหรื อหลังอำหำร
• กำรให้ ยำผิดช่ องทำง เช่ น IV IM
IT
ID
Sc
Oral
SL
Inhaler
• กำรใช้ ยำหยอดตำ หยอดหู ผิดข้ ำง หรื อไม่ เป็ น ไปตำมที่
แพทย์ ส่ ัง
• กำรผสมยำเข้ ำดัวยกันโดยไม่ เหมำะสม
• กำรบริหำรยำที่เข้ ำกันไม่ ได้ เข้ ำทำง Y site
หรือร่ วมสำยเดียวกัน
• กำรบริหำรยำด้ วยเทคนิคที่ไม่
เหมำะสมส่ งผลให้ เกิดเหตุกำรณ์ ไม่ พงึ ประสงค์
• กำรเดินยำเร็วกว่ ำที่ควรเป็ น เช่ น IV push
นำนกว่ ำ 5นำที
Reference
• http://www.nursingcenter.com/Blog/post/201
1/05/27/8-rights-of-medicationadministration.aspx
Download