Anti-TB Drugs, Adverse Drug Reactions and MDR-TB Treatment น.พ.เจริญ ชูโชติถาวร ผู้ทรงคุณวุฒิ หัวหน้ าศูนย์ วิจัยทางคลินิค สถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ การวินิจฉัยวัณโรค การวินิจฉัยวัณโรค Development of TB Care TB treatment TB case management Quality TB case management ก่อนเริ่มการักษาวัณโรค สิ่ งที่ต้อง “ให้ ” แก่ผ้ ูป่วย • ให้ “เวลา” กับผู้ป่วยในการเตรียมตัวทีจ่ ะรับการ รักษา และสิ่ งที่จะตามมา • ให้ “ความรู้ ความเข้ าใจ” เกีย่ วกับวัณโรค และสิ่ งที่ จะพบ จะเจอในอนาคต • ให้ “คาแนะนาในการพาผู้สัมผัสโรคมาตรวจ” เตรียมผู้ป่วยก่ อนเริ่มการรักษา • ให้ สุขศึกษา และเซ็นรั บทราบไว้ • ในการรั กษาระยะแรกอาจจะไม่ ดี มีอ่อนเพลียบ้ าง เพราะเชือ้ สู้กับ ยา และจะดีขนึ ้ ประมาณ 2-4 อาทิตย์ หลังการรั กษา ถ้ ามีปัญหาให้ กลับมาหาหมอ • แนะนาว่ า การรั กษาใช้ ระเวลา 6 เดือน แต่ อาจจะเป็ น 9-18 เดือนได้ ขึน้ อยู่กับการแพ้ ยาหรื อไม่ • การแพ้ ยาวัณโรคพบได้ บ่อย ไม่ ใช่ เรื่ องผิดปกติ เพราะใช้ ยาแรงและ ระยะเวลาสัน้ ถ้ ามีปัญหาให้ กลับมาหาหมอ • อาการแพ้ ยาที่พบบ่ อย : คลื่นไส้ /อาเจียน ผื่นคัน ปวดข้ อ ตามัว • ถ้ าสามารถทาได้ ให้ เจาะ LFT, BUN/Cr, FBS เตรียมผู้ป่วยก่ อนเริ่มการรักษา • ผู้ป่วยหญิงในภาวะเจริญพันธุ์ ต้ องแนะนาการคุมกาเนิดที่ไม่ ใช้ ฮอร์ โมน • ผู้ป่วยสามารถใช้ ชีวิตประจาวันได้ ตามปกติ ไม่ ต้องแยกตัว • เวลาไอจาม ให้ ปิดปาก ปิ ดจมูก หรือใส่ หน้ ากากอนามัย • กินยาสม่าเสมอ ห้ ามปรับขนาดของยา หรือ เลือกกินยาเฉพาะ บางตัว หรือหยุดยาเป็ นบางวัน ถ้ ามีปัญหาให้ มาบอกหมอ • แนะนาผู้ป่วยว่ า ถ้ าต้ องย้ ายไปที่ใด ให้ มาบอกหมอ หมอส่ ง เรื่องไปรักษาต่ อเนื่องเพื่อจะได้ ไม่ ขาดยาและจะทาให้ เชือ้ ดือ้ ยา • พาคนในครอบครัว มาตรวจคัดกรองผู้สัมผัสโรค สู ตรยาในการรักษาวัณโรค • ผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ หรือ เคยรักษามาไม่ เกิน 1 เดือน – 2HRZE / 4HR ( 2HRE/7HR, 2SHE/16HE ) • ผู้ป่วยเคยรักษามาเกิน 1 เดือน ใน 2 กรณี คือ รักษาไม่ สม่าเสมอ หรือ รักษาหายแล้ วกลับเป็ นซา้ – 2HRZES / HRZE / 5HRE • ผู้ป่วยรักษา ล้ มเหลว – ≥ 6K,L,Et,Cs,PAS / ≥ 12 L,Et,Cs,PAS แนวทางปฏิบัตใิ นการเลือกสู ตรยา • ผู้ป่วยที่รักษาไม่ สม่าเสมอ หรื อ กลับเป็ นซา้ - 2HRZES /HRZE / 5HRE • ผู้ป่วยที่สงสัยวัณโรคดือ้ ยา และไม่ สามารถส่ งตรวจ rapid DST - เสมหะ positive ที่สนิ ้ เดือนที่ 3 ไม่ ต้องเปลี่ยนสูตรยา ให้ HR รอ ผล DST ก่ อนเปลี่ยนสูตรยา - เสมหะ positive ที่สนิ ้ เดือนที่ 5 หรื อหลังจากนัน้ ต้ อง ยืนยัน หลายๆ ครั ง้ ว่ า positive ให้ เปลี่ยนสูตรยาเป็ นสูตรดือ้ ยา • ผู้ป่วยที่ culture ขึน้ เป็ น non-tuberculous mycobacteria ( NTM ) ระหว่ างการรั กษา ให้ รักษาด้ วยสูตรยาวัณโรคจนครบสูตร รอผล identification ว่ าเป็ น species อะไรค่ อยพิจารณาการ รั กษา ระหว่ างการรักษาควรทา และ ไม่ ควรทา • • • • • • • • ควรรักษา โรคร่วม ให้ ดี และรักษา อาการ ให้ ดี ควร มองหาอาการไม่พงึ ประสงค์ จากการรักษา (ยา และโรค ) ควรตรวจเสมหะ ทุกเดือน โดย smear ถ้ าทาได้ ต้ องส่ง culture และ rapid DST ถ้ า สิ ้นเดือนที่ 3 เสมหะยัง positive ( ต้ อง positive 2 ตัวอย่าง เพื่อป้องกัน false positive ) ไม่ควร ตรวจ Chest X-ray เป็ น rountine ไม่ควร จะเจาะเลือดตรวจ liver function test เป็ น rountine ห้ าม !! เติม หรื อ เพิ่มยาครั ง้ ละ 1-2 ตัวลง ในสูตรยาที่ใช้ อยู่ เมื่อ ไม่ แน่ ใจว่ าเชือ้ ดือ้ ยาหรือไม่ ให้ ใช้ ประโยชน์ จาก rapid DST ยา rifampicin และ ofloxacin ห้ ามให้ ด้วยกัน แนวทางปฏิบัติในการปรับยาวัณโรค • ยาวัณโรคควรจะรั บประทานในช่ วง ท้ องว่ าง อาหารลดหารดูดซึมยา • ยาวัณโรคไม่ ควรหักเม็ดยา และ รั บประทานครั ง้ เดียว ห้ ามให้ เป็ น วันละ 2-3 ครั ง้ • ถ้ าต้ องการแยกยา ให้ ทาน INH, RMP เช้ า และ EMB, PZA ก่ อนนอน • ห้ ามแกะยาออกจาก foil หรื อแผงยาเป็ นเวลานานๆ • ยา SM ให้ ทุกวัน หรื อ อาทิตย์ ละ 5 วัน ไม่ แตกต่ างกัน • ยา RMP ไม่ ให้ ต่ากว่ า 9 mg./kg • ยา EMB ห้ ามให้ เกิน 20 mg./kg ยาวัณโรคชนิดรวมยาหลายอย่ างในเม็ดเดียวกัน ( fixed dose combination, FDC ) • แนะนาให้ ใช้ ใน ผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ ทุกราย • วิธีการจา ขนาดของ dose : 38 - 54 - 70 ช่ วงแรกให้ 3 เม็ด • จากการศึกษา randomized control clinical trials ยารั กษา วัณโรค FDC ให้ ผลการรั กษาเหมือนกับยาแยก และ มีอาการไม่ พึง ประสงค์ เหมือนกัน แต่ ผ้ ูป่วยยอมรั บยามากกว่ า • ข้ อโต้ แย้ ง ว่ า มียา INH ต่าไป ข้ อมูลจากการศึกษาทาง pharmacodynamic ขนาดของยาที่ ต่ากว่ า 300 mg. ยังสูง กว่ า MIC มาก ( 10-20 เท่ า ) • ข้ อโต้ แย้ ง ว่ า มียา RMP สูงไป ข้ อมูลจากการศึกษาทาง pharmacodynamic ขนาดของยา RMP ยิ่งสูง ยิ่งฆ่ าเชือ้ วัณ โรคได้ ดี INH Rifampicin การดูแลอาการไม่ พงึ ประสงค์ จากยา • อาการตามัว - ถามผู้ป่วย หรือ วัดสายตา ก่ อนการรักษา - ถามผู้ป่วย ว่ า ตามัว มากขึน้ กว่ าก่ อนการรักษาหรื อไม่ • ถ้ ามีอาการตามัวให้ หยุดยา ethambutol • ถ้ าหยุด ethambutol แล้ วอาการ ไม่ ดีขนึ ้ ควร หยุด isoniazid • ถ้ าหยุด isoniazid แล้ วอาการ ไม่ ดีขนึ ้ ควร หยุด rifampicin • ให้ vitamin supplement ในคนไข้ ตามัวทุกราย การดูแลอาการไม่ พงึ ประสงค์ จากยา • ถ้ ามีอาการ ปวดข้ อ และเป็ นข้ อ ใหญ่ ๆ มักจะเป็ นจาก pyrazinamide ถ้ าเป็ นข้ อ เล็ก ๆ จะเป็ นจากโรคอื่น ๆ • เจาะ uric acid และ หยุดยา pyrazinamide ให้ รักษาตาม อาการด้ วย NSAID ไม่ เห็นด้ วยที่ไม่ หยุดยา pyrazinamide • ปรับสูตรยาเป็ น 2HRE / 7HR • นัด follow up 1 อาทิตย์ ถ้ าเป็ นจาก hyperuricemia จะดีขนึ ้ ใน 3-4 วัน • ถ้ าให้ ofloxacin นานๆ จะมีปวดข้ อ หรือ ข้ อตึงๆบริเวณนิว้ มือได้ การดูแลอาการไม่ พงึ ประสงค์ จากยา • ผู้ป่วยมีอาการ คัน แต่ ไม่ มีผ่ ืน - ให้ antihistamine ถ้ าอาการแย่ ลงให้ หยุดยา • ผู้ป่วยมีอาการ คัน แต่ มีผ่ ืนไม่ รุนแรง - ให้ หยุดยา รั กษาตามอาการจนไม่ มีรอยโรค อาจให้ steroid - เริ่มยาใหม่ เริ่มจาก INH ขนาดน้ อยจนได้ เต็มขนาดใน 3-5 วัน - เริ่มยา RMP ขนาดน้ อยจนได้ เต็มขนาดใน 3-5 วัน แล้ วต่ อ ด้ วย PZA หรื อ EMB • ผู้ป่วยมีอาการ คันและมีผ่ ืนรุ นแรง เช่ น SJS, TEN, etc - refer ผู้ป่วยไป ร.พ. ศูนย์ หรื อ ใช้ second line drugs s หรื อ desensitization การดูแลอาการไม่ พงึ ประสงค์ จากยา • ห้ ามเจาะเลือดตรวจ LFT เป็ น rountine ถ้ าไม่ มีอาการ • ถ้ ามีการเจาะเลือดตรวจ LFT ถ้ าผลการตรวจไม่ มากกว่ า 5 UNL (>200 IU) และผู้ป่วยไม่ มีอาการใดๆ ให้ ยาต่ อและตรวจติดตาม อีก 3-5 วัน • ถ้ ามีการเจาะเลือดตรวจ LFT ถ้ าผลการตรวจมากกว่ า 5 UNL (>200 IU) และผู้ป่วยไม่ มีอาการใดๆ ให้ หยุดยาและตรวจติดตาม อีก 3-5 วัน • ถ้ ามีอาการ และเจาะเลือดตรวจ ถ้ าน้ อยกว่ า 3UNL ให้ ทานยาต่ อ และติดตามอีก 3-5 วัน • ถ้ ามีอาการ และเจาะเลือดตรวจ ถ้ ามากกว่ า 3UNL ให้ หยุดยาและ ติดตามอีก 3-5 วัน การดูแลอาการไม่ พงึ ประสงค์ จากยา • ให้ การรักษาด้ วย SM, OFX, EMB รอจนกว่ า LFT น้ อยกว่ า 3UNL ให้ เริ่ม challenge ยาใหม่ ต้ องทาทุกราย • Challenge ยา INH เต็ม dose รอ 3-5 วัน ถ้ าไม่ มีอาการ • ให้ challenge ยา RMP เต็ม dose และ OFF ยา SM รอ 3-5 วัน ถ้ าไม่ มีอาการ • ให้ OFF ยา OFX และปรับสูตรยาเป็ น 2HRE / 7HR • ถ้ ามีแต่ bilirubin ขึน้ เพียงอย่ างเดียว ให้ OFF ยา RMP ตัว เดียว การปรับสู ตรยาเมื่อทราบผล DST • ดือ้ ต่ อยา isoniazid เพียงตัวเดียว - 2HRZE / 10RE, 9RZE • ดือ้ ต่ อยา rifampicin เพียงตัวเดียว - 2HRZE / 16HE • ดือ้ ต่ อยา pyrazinamide เพียงตัวเดียว - 2HRZE / 7HR • ดือ้ ต่ อยา ethambutol เพียงตัวเดียว - 2HRZE / 4HR • ดือ้ ต่ อยา isoniazid และ rifampicin เป็ น MDR-TB - ใช้ สูตรวัณโรคดือ้ ยา การรักษาวัณโรคในผู้หญิงตั้งครรภ์ • แนะนาว่ า ยารักษา วัณโรคไม่ มีผลกับเด็ก ในประเทศไทย แนะนาให้ ใช้ pyrazinamide ได้ เด็กจะมีความพิการตาม ธรรมชาติได้ • ให้ vitamin B6 ทุกราย • เน้ นให้ ผ้ ูป่วยทานยาสม่าเสมอเพื่อหลังคลอดจะสามารถเลีย้ งลูก ด้ วยตัวเองได้ • สามารถให้ นมแม่ ได้ ตามปกติ • ระหว่ างการรักษาถ้ ามีการไอ จาม ให้ ใส่ หน้ ากากอนามัย • ถ้ า ลูก ไม่ ต้องกินยา INH ป้องกันวัณโรค ให้ ฉีด BCG ได้ Drug Resistant Tuberculosis is a “ Man Made Phenomenon ” วัณโรคดือ้ ยาเป็ นปรากฏการณ์ ท่ มี นุษย์ ทาให้ เกิดขึน้ Definition of Poly-drug and MDR • Poly-drug : strain of M.tuberculosis that resist to two or more drugs and must not be resisted to Isoniazid and Rifampicin • MDR-TB : strain of M.tuberculosis that resist to Isoniazid and Rifampicin whether it resist to other drugs or not • Pre-XDR : strain of MDR-TB which also resisted to any one member of fluoroquinolones “OR” one of injected antiTB drugs : kanamycin, amikacin, capreomycin Definition of XDR and TDR • XDR : strain of MDR-TB which also resisted to any one member of fluoroquinolones and one of injected anti-TB drugs : kanamycin, amikacin, capreomycin • PDR : strain of MDR-TB which also resisted to second line drug more than XDR • TDR : strain of MDR-TB which also resisted to six classes of second line drug (not international definition) สาเหตุของการรักษาล้ มเหลว •การรักษาไม่ สม่าเสมอ •เกีย่ วกับยา - คุณภาพของยา - ขนาดของยาสู งหรือตา่ เกินไป - สู ตรยาไม่ ถูกต้ อง •เกีย่ วกับเภสั ชจลนศาสตร์ - ยาไม่ ดูดซึม - ยาดูดซึมแต่ ไม่ ไปทีต่ าแหน่ งติดเชื้อ - เกิดปฏิกริ ิยาระหว่ าง ยา - ยา •เกีย่ วกับผู้ป่วย - ผู้ป่วยมีสภาพร่ างกายทรุ ดโทรม - ผู้ป่วยแพ้ยา •เกีย่ วกับเชื้อ - ผู้ป่วยมีเชื้อดือ้ ยา สิ่ งทีส่ าคัญทีส่ ุ ดในการดูแลผู้ป่วยวัณโรคดือ้ ยา การวินิจฉัยทางห้ องปฏิบัตกิ าร (drug susceptibility testing) ที่รวดเร็ ว และถูกต้ อง rapid susceptibility test in 1-2 days No Lab test = No Diagnosis กรณีศึกษา • ผู้ป่วย ชายไทย อายุ 40 ปี ภูมิลาเนา ปทุมธานี • กันยายน 2554 มีอาการ ไอ เหนื่อย มีเสมหะสีเขียว มา 2 เดือน ผุ้ ป่ วยมาตรวจที่ สถาบันโรคทรวงอก ตรวจพบ sputum AFB 2+ ผู้ป่วยเข้ าโครงการวิจัย REMox study • ผลการตรวจเสมหะ Hain test ไม่ มีการดือ้ ต่ อ INH และ RMP • ผลการตรวจเสมหะ ตุลาคม 2554 AFB 1+ พฤศจิกายน ธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม 2554 2554 2555 2555 2555 AFB 1+ AFB Negative AFB Negative AFB 3+ AFB 4+ กรณีศึกษา • 1 มีนาคม 2555 ผู้ป่วยได้ รับการวินิจฉัยว่ าการรักษาล้ มเหลว ผลการตรวจ Hain test ไม่ มีการดือ้ ต่ อ INH และ RMP New scheme of NHSO for TB DST • Every patients in Re-On-Pre category will allow to send DST with solid or liquid media with reimbursement of 400 Baht • Rapid DST allow to do in – Re : relapse, treatment after default – On : smear positive after 3rd month – Pre : household contact of MDR case • Rapid DST can be done in smear positive only Line Probe Assay Method Principle of MDR-TB Treatment • Number of drug used to treatment MDR : at least 4 drugs that are likely to sensitive • Duration of using aminoglycoside injection : 6 months and 4 months after culture conversion • Duration of treatment : 18 months after culture negative • Any case with known MDR from DST , treatment must be changed to MDR regimen สูตรยามาตรฐานในการรักษาวัณโรค • Regimen for new patient –2HRZE/4HR • Retreatment regimen –2HRZES/HRZE/5HRE • MDR treatment regimen –6KLPEtCs/12LPEtCs RESERVED DRUGS FOR TREATMENT Ofloxacin Levofloxacin Streptomycin Kanamycin Amikacin PAS Pyrazinamide Ethambutol Ethionamide Cycloserine Capreomycin 400-600 400-600 15 15 15 200 1.0-1.5 0.8-1.2 500-750 500-750 15 mg/day mg/day mg/kg/day mg/kg/day mg/kg/day mg/kg/day gm/day gm/day mg/day my/day mg/kg/day ADR of Fluoroquinolones • Levofloxacin : adjusted dose in renal insufficiency - Nausea/vomiting, GI disturbance - Athralgia (small joints-hand), Achilis tendinitis - Dizziness, drowsiness - Hypoglycemia, hyperglycemia • Moxifloxacin : metablised through liver - As levofloxacin - Hepatotoxicity ADR of Aminoglycoside • Neprotoxicity - monitor BUN/Cr every 2 wks if use 5-7 days per week - monitor BUN/Cr every 4 wks if use 2-3 days per week • Ototoxicity - Streptomycin more vestibular toxic: ataxia - Kanamycin more cochlear toxic: hearing loss • Painful at injection site, sciatica ADR of Cycloserine • Neuropsychiatric reactions: headache,dizziness, somnolence, depression, nervousness, confusion, seizure, psychosis (suicidal tendencies) • Preventable by high dose Vitamin B6 • Rarely skin hypersensitivity reactions • Cardiac arrythmia and congestive heart failure • Hepatotoxicity ADR of Ethionamide • Nausea/vomitting, diarrhea, abdominal pain, metallic taste, excessive salivation, anorexia • Psychotic disturbance, depression, restlessness, drowsiness, dizziness • Hepatotoxicity • Gynecomastia • Alopecia • Skin hypersensitivity reaction ADR of PAS • • • • • • • Nausea/vomitting, diarrhea Skin reaction, hypersensitivity Hepatotoxicity Malabsorption of Vitamine B12, folic acid Blood dyscrasia Goiter, hypothyroidism Rising of TSH over 10, thyroxin should be supplement TB and HIV co-infection เป็ นโรคติดเชือ้ ที่พบบ่ อยที่สุด ในผู้ป่วย HIV อาการที่สงสัย TB ไอ, ไข้ เรือ้ รัง, นา้ หนักลด, เหงื่อออกกลางคืน ผู้ป่วย TB ทุกรายจะต้ อง คัดกรองหาการติดเชือ้ HIV และ ในทางกลับกัน ผู้ป่วย TB-HIV ทุกรายจะต้ องให้ Cotrimoxazole ป้องกัน PJP แต่ ผ้ ูป่วย HIV ทุกรายจะให้ INH ป้องกัน TB ยังถกเถียงกันใน ประเทศไทย ผู้ป่วย TB-HIV ต้ องรักษา TB ก่ อน • TB • • • • • TB and HIV co-infection • เริ่ม anti-TB : ถ้ า CD4 <50 เริ่ม ART ภายใน 2 อาทิตย์ • ผู้ป่วย TB-HIV รายใหม่ จะเริ่มการรักษา ARV ด้ วย ให้ การ รักษา ด้ วย NRTIs 2 ตัว + Efavirez ถ้ าแพ้ Efavirez ให้ Nevirapine โดยไม่ ต้อง lead in • ผู้ป่วย HIV ที่เป็ น TB และได้ ยา ARV แล้ ว ให้ เริ่มยา HRZE เลย โดยไม่ จาเป็ นต้ องปรับ ARV • สูตรยา TB ในผู้ป่วย TB/HIV ที่ไม่ สามารถใช้ RMP คือ 9HSZE