เรานาเสี ยงการสรรเสริญ มายังวิหารของพระองค์ We bring the sacrifice of praise unto the house of the Lord เรานาเสี ยงการสรรเสริญ มายังวิหารของพระองค์ We bring the sacrifice of praise unto the house of the Lord เราถวายคาโมทนา เป็ นเครื่องบูชาแด่ พระผ้ ูเป็ นเจ้ า And we offer up to You The sacrifices of thanksgiving เราถวายคาสดุดี เป็ นเครื่องบูชาแด่ พระองค์ And we offer up to You the sacrifices of joy เรานาเสี ยงการสรรเสริญ มายังวิหารของพระองค์ We bring the sacrifice of praise unto the house of the Lord เรานาเสี ยงการสรรเสริญ มายังวิหารของพระองค์ We bring the sacrifice of praise unto the house of the Lord เราถวายคาโมทนา เป็ นเครื่องบูชาแด่ พระผ้ ูเป็ นเจ้ า And we offer up to You The sacrifices of thanksgiving เราถวายคาสดุดี เป็ นเครื่องบูชาแด่ พระองค์ And we offer up to You the sacrifices of joy เราถวายคาโมทนา เป็ นเครื่องบูชาแด่ พระผ้ ูเป็ นเจ้ า And we offer up to You The sacrifices of thanksgiving เราถวายคาสดุดี เป็ นเครื่องบูชาแด่ พระองค์ And we offer up to You the sacrifices of joy ชนะ ชนะ ชนะชั่วนิจนิรันดร์ พระเยซูชนะ ชนะชั่วนิจนิรันดร์ ชนะ ชนะ ชนะชั่วนิจนิรันดร์ พระเยซูชนะ โอ ฮาเลลูยา (2) พระองค์ จะกลับมารับข้ า โอ ฮาเลลูยา (2)พระองค์ จะกลับมารับข้ า ชนะ ชนะ ชนะชั่วนิจนิรันดร์ พระเยซูชนะ ชนะชั่วนิจนิรันดร์ ชนะ ชนะ ชนะชั่วนิจนิรันดร์ พระเยซูชนะ โอ ฮาเลลูยา (2) พระองค์ จะกลับมารับข้ า โอ ฮาเลลูยา (2)พระองค์ จะกลับมารับข้ า ชนะ ชนะ ชนะชั่วนิจนิรันดร์ พระเยซูชนะ ชนะชั่วนิจนิรันดร์ ชนะ ชนะ ชนะชั่วนิจนิรันดร์ พระเยซูชนะ โอ ฮาเลลูยา (2) พระองค์ จะกลับมารับข้ า โอ ฮาเลลูยา (2)พระองค์ จะกลับมารับข้ า ชนะ ชนะ ชนะชั่วนิจนิรันดร์ พระเยซูชนะ ชนะชั่วนิจนิรันดร์ ชนะ ชนะ ชนะชั่วนิจนิรันดร์ พระเยซูชนะ โอ ฮาเลลูยา (2) พระองค์ จะกลับมารับข้ า โอ ฮาเลลูยา (2)พระองค์ จะกลับมารับข้ า วิญญาณข้ าแสวงหาพระเจ้ า As the deer panteth for the water, ดุจดังกวางน้ อยกระหายหานา้ so my soul longeth after Thee ทรงเป็ นความปรารถนาแห่ งจิตใจข้ า You alone are my heart’s desire ที่อยากสรรเสริญพระองค์ and I long to worship Thee ทรงเป็ นโล่ กาบังที่เข้ มแข็ง You alone are my strength, my shield ทรงเป็ นผู้เดียวทีข่ ้ ารักเทิดทูน To You alone may my spirit yield วิญญาณข้ าแสวงหาพระเจ้ า As the deer panteth for the water, ดุจดังกวางน้ อยกระหายหานา้ so my soul longeth after Thee ทรงเป็ นความปรารถนาแห่ งจิตใจข้ า You alone are my heart’s desire ที่อยากสรรเสริญพระองค์ and I long to worship Thee ทรงเป็ นโล่ กาบังที่เข้ มแข็ง You alone are my strength, my shield ทรงเป็ นผู้เดียวทีข่ ้ ารักเทิดทูน To You alone may my spirit yield พระองค์ เจ้ าข้ า ข้ าเฝ้ ามองดูด้วยยาเกรง O Lord my God when I in awesome wonder เพราะพระองค์ เอง เป็ นผ้ ูสร้ างจักรวาล Consider all the works Thy hands have made เมือ่ มองดูดาว เมื่อคราวยินเสี ยงฟ้าคาราม I see the stars. I hear the rolling thunder เห็นฝี พระหัตถ์ ของพระองค์ บนท้ องฟ้า Thy power throughout the universe displayed จิตข้ าสรรเสริญ พระเจ้ าองค์ พระผู้ช่วย Then sings my soul My Savior God to Thee พระเจ้ ายิง่ ใหญ่ พระเจ้ ายิง่ ใหญ่ How great Thou art How great Thou art จิตข้ าสรรเสริญ พระเจ้ าองค์ พระผู้ช่วย Then sings my soul My Savior God to Thee พระเจ้ ายิง่ ใหญ่ พระเจ้ ายิง่ ใหญ่ How great Thou art How great Thou art เมื่อข้ าคิดถึง พระเจ้ าผู้ไม่ ทรงเสี ยดาย And when I think that God His Son not sparing พระบุตรองค์ เดียว เสด็จมาเป็ นผู้ไถ่ Sent Him to die, I scarce can take it in ถูกทรมาน ตรึงไว้ บนกางเขนเพือ่ ข้ า That on the cross My burden gladly bearing ข้ าขอบพระคุณ ที่พระองค์ ทรงเมตตา He bled and died to take away my sin จิตข้ าสรรเสริญ พระเจ้ าองค์ พระผู้ช่วย Then sings my soul My Savior God to Thee พระเจ้ ายิง่ ใหญ่ พระเจ้ ายิง่ ใหญ่ How great Thou art How great Thou art จิตข้ าสรรเสริญ พระเจ้ าองค์ พระผู้ช่วย Then sings my soul My Savior God to Thee พระเจ้ ายิง่ ใหญ่ พระเจ้ ายิง่ ใหญ่ How great Thou art How great Thou art ขอความรัก ขอฤทธา ทรงเติมใจข้ าให้ ล้นไหล More love More power More of you in my life ขอความรัก ขอฤทธา ทรงเติมใจข้ าให้ ล้นไหล More love More power More of you in my life เพือ่ ข้ าจะสรรเสริญ พระองค์ สิ้นดวงจิต I will worship you with all of my heart เพือ่ ข้ าจะสรรเสริญ พระองค์ สิ้นดวงใจ I will worship you with all of my strength เพือ่ ข้ าจะสรรเสริญ พระองค์ สิ้นกาลัง And I will worship you with all of my soul เพราะทรงเป็ นพระเจ้ า ทรงเป็ นพระเจ้ า for you are my God You are my God ขอความรัก ขอฤทธา ทรงเติมใจข้ าให้ ล้นไหล More love More power More of you in my life ขอความรัก ขอฤทธา ทรงเติมใจข้ าให้ ล้นไหล More love More power More of you in my life เพือ่ ข้ าจะสรรเสริญ พระองค์ สิ้นดวงจิต I will worship you with all of my heart เพือ่ ข้ าจะสรรเสริญ พระองค์ สิ้นดวงใจ I will worship you with all of my strength เพือ่ ข้ าจะสรรเสริญ พระองค์ สิ้นกาลัง And I will worship you with all of my soul เพราะทรงเป็ นพระเจ้ า ทรงเป็ นพระเจ้ า for you are my God You are my God 1I mean that the heir, as long as he is a child, is no different from a slave, though he is the owner of everything, 1ข้าพเจ้าหมายความว่า ตราบใดที่ทายาท ยังเป็ นเด็กอยู่ เขาก็ไม่ต่างอะไรกับทาส เลย ถึงแม้เขาจะเป็ นเจ้าของทรัพย์สมบัติ ทั้งปวง 2but he is under guardians and managers until the date set by his father. 2แต่เขาก็อยูใ่ ต้บงั คับของผูป ้ กครองและ ผูด้ ูแลทรัพย์ จนถึงเวลาที่บิดาได้กาหนด ไว้ 3In the same way we also, when we were children, were enslaved to the elementary principles of the world. 3ฝ่ ายเราก็เหมือนกัน เมื่อเป็ นเด็กอยู่ เรา ก็เป็ นทาสของวิญญาณต่างๆแห่งสากล จักรวาล 4But when the fullness of time had come, God sent forth his Son, born of woman, born under the law, 4แต่เมื่อครบกาหนดแล้วพระเจ้าก็ทรงใช้ พระบุตรของพระองค์มา ประสูติจาก สตรี เพศและทรงถือกาเนิดใต้ธรรม บัญญัติ 5to redeem those who were under the law, so that we might receive adoption as sons. 5เพื่อจะทรงไถ่คนเหล่านันที่อยูใ่ ต้ธรรม ้ บัญญัติ เพื่อให้เราได้รับฐานะเป็ นบุตร 6And because you are sons, God has sent the Spirit of his Son into our hearts, crying, “Abba! Father!” 6และเพราะท่านเป็ นบุตรของพระเจ้าแล้ว พระองค์จึงทรงใช้พระวิญญาณแห่งพระ บุตรของพระองค์ เข้ามาในใจของเรา ร้องว่า “อาบา” คือ พระบิดา 7So you are no longer a slave, but a son, and if a son, then an heir through God. 7เหตุฉะนันโดยพระเจ้า ท่านจึงไม่ใช่ ้ ทาสอีกต่อไป แต่เป็ นบุตร และถ้าเป็ น บุตรแล้ว ท่านก็เป็ นทายาท 8Formerly, when you did not know God, you were enslaved to those that by nature are not gods. 8แต่ก่อนนี้ เมื่อท่านทังหลายยังไม่รู้จก ั ้ พระเจ้า ท่านเป็ นทาสของสิ่ งซึ่งโดย สภาพแล้วไม่ใช่เทพเจ้าเลย 14 Romansโรม 8:14-17, 23 For all who are led by the Spirit of God are sons of God. 14เพราะว่าพระวิญญาณของพระเจ้าทรง นาผูใ้ ด ผูน้ ้ นั ก็เป็ นบุตรของพระเจ้า 15For you did not receive the spirit of slavery to fall back into fear, but you have received the Spirit of adoption as sons, by whom we cry, “Abba! Father!” 15เหตุวา่ ท่านไม่ได้รับนาใจทาสซึ่ งทาให้ ้ ตกในความกลัวอีก แต่ท่านได้รับพระ วิญญาณผูท้ รงให้เป็ นบุตรของพระเจ้า ให้เราทั้งหลายร้องเรี ยกพระเจ้าว่า “อับ บา” คือพระบิดา 16The Spirit himself bears witness with our spirit that we are children of God, 16พระวิญญาณนันเป็ นพยานร่ วมกับ ้ วิญญาณจิตของเราทั้งหลายว่า เรา ทั้งหลายเป็ นบุตรของพระเจ้า 17and if children, then heirs—heirs of God and fellow heirs with Christ, provided we suffer with him in order that we may also be glorified with him. 17และถ้าเราทังหลายเป็ นบุตรแล้ว เราก็ ้ เป็ นทายาท คือเป็ นทายาทของพระเจ้า และเป็ นทายาทร่ วมกับพระคริ สต์ เมื่อ เราทั้งหลายทนทุกข์ทรมานด้วยกันกับ พระองค์น้ นั ก็เพื่อเราทั้งหลายจะได้ ศักดิ์ศรี ดว้ ยกันกับพระองค์ดว้ ย 23And not only the creation, but we ourselves, who have the firstfruits of the Spirit, groan inwardly as we wait eagerly for adoption as sons, the redemption of our bodies. 23และไม่ใช่เท่านัน ้ แต่เราทั้งหลายเอง ด้วย ผูไ้ ด้รับพระวิญญาณเป็ นผลแรก ตัวเราเองก็ยงั คร่ าครวญคอยการที่พระเจ้า ทรงให้เป็ นบุตร คือที่จะทรงให้กายของ เราทั้งหลายรอดตาย 3Blessed be the Ephesians เอเฟซัส1:3-7 God and Father of our Lord Jesus Christ, who has blessed us in Christ with every spiritual blessing in the heavenly places, 3สาธุ การแด่พระเจ้าพระบิดาแห่ งพระ เยซูคริ สตเจ้าของเรา ผูท้ รงโปรด ประทานพระพรฝ่ ายวิญญาณแก่เรา นานาประการ ในสวรรคสถานโดยพระ คริ สต์ 4even as he chose us in him before the foundation of the world, that we should be holy and blameless before him. In love 4ในพระเยซูคริ สต์นน ั ้ พระองค์ได้ทรง เลือกเราไว้ต้ งั แต่ก่อนที่จะทรงเริ่ มสร้าง โลก เพื่อเราจะบริ สุทธิ์และปราศจาก ตาหนิในสายพระเนตรของพระองค์ 5he predestined us for adoption through Jesus Christ, according to the purpose of his will, 5พระองค์ทรงกาหนดเราไว้ดว้ ยความรัก ก่อนตามที่ชอบพระทัยพระองค์ ให้เป็ น บุตรโดยพระเยซูคริ สต์ 6to the praise of his glorious grace, with which he has blessed us in the Beloved. 6เพื่อจะให้เป็ นที่สรรเสริ ญพระคุณอัน ยิง่ ใหญ่ของพระองค์ ซึ่งทรงโปรด ประทานแก่เราในพระเยซูคริ สต์ ผูท้ รง เป็ นที่รักของพระองค์ 7In him we have redemption through his blood, the forgiveness of our trespasses, according to the riches of his grace, 7ในพระเยซูนน ้ ั เราได้รับการไถ่บาป โดยพระโลหิ ตของพระองค์ คือได้รับ การอภัยโทษบาป ของเราโดยพระกรุ ณา อันอุดมของพระองค์ Galatians 4:9 But now that you have come to know God, or rather to be known by God, how can you turn back again to the weak and worthless elementary principles of the world, whose slaves you want to be once more? 9แต่บด ั นี้เมื่อท่านรู้จกั พระเจ้าแล้ว หรื อ ที่ถูกก็คือ พระเจ้าทรงรู ้จกั ท่านแล้ว เหตุไฉนท่านจึงจะกลับไปหาวิญญาณ ต่างๆซึ่งอ่อนแอและอเนจอนาถ และ อยากจะเป็ นทาสของสิ่ งเหล่านั้นอีก 10You observe days and months and seasons and years! 10ท่านถือวัน เดือน ฤดู และปี 11I am afraid I may have labored over you in vain. 11ข้าพเจ้าเกรงว่าการที่ขา้ พเจ้าได้ทาเพื่อ ท่านนั้นจะไร้ประโยชน์ 12Brothers, I entreat you, become as I am, for I also have become as you are. You did me no wrong. 12ดูก่อนพี่นอ ้ งทังหลาย ข้าพเจ้าวิงวอน ้ ให้ท่านเป็ นเหมือนข้าพเจ้า เพราะว่า ข้าพเจ้าก็ได้กลายเป็ นอย่างท่านแล้ว เหมือนกัน ท่านไม่ได้ทาผิดต่อข้าพเจ้า เลย 13You know it was because of a bodily ailment that I preached the gospel to you at first, 13ท่านรู ้วา่ ตอนแรกที่ขา้ พเจ้าประกาศ ข่าวประเสริ ฐแก่ท่านนั้น ก็เป็ นเพราะ การป่ วยไข้ทางกาย 14and though my condition was a trial to you, you did not scorn or despise me, but received me as an angel of God, as Christ Jesus. 14และแม้วา่ สภาพของข้าพเจ้าจะเป็ นการ ทดลองใจท่าน ท่านก็ไม่ได้ดูหมิ่นหรื อ รังเกียจข้าพเจ้าเลย แต่ได้ตอ้ นรับข้าพเจ้า เหมือนกับว่าเป็ นเทวทูตของพระเจ้า หรื อเหมือนกับองค์พระเยซูคริ สต์ 15What then has become of the blessing you felt? For I testify to you that, if possible, you would have gouged out your eyes and given them to me. 15ท่านลืมความปลื้มใจของท่านเสี ยแล้ว หรื อ เพราะข้าพเจ้าเป็ นพยานให้ท่านได้ ว่า ถ้าเป็ นไปได้ ท่านก็คงจะควักตา ของท่านออกให้ขา้ พเจ้า 16Have I then become your enemy by telling you the truth? 16ข้าพเจ้าได้กลายเป็ นศัตรู ของท่าน เพราะข้าพเจ้าบอกท่านอย่าง ตรงไปตรงมาหรื อ 17They make much of you, but for no good purpose. They want to shut you out, that you may make much of them. 17คนเหล่านันเอาอกเอาใจท่านแต่ไม่ใช่ ้ ด้วยความหวังดีเลย เขาอยากจะกีดกัน พวกท่าน เพื่อท่านจะได้เอาอกเอาใจ พวกเขา 18It is always good to be made much of for a good purpose, and not only when I am present with you, 18การเอาอกเอาใจด้วยความหวังดีกเ็ ป็ น การดีตลอดไป ไม่ใช่เฉพาะแต่เมื่อ ข้าพเจ้าอยูก่ บั พวกท่านเท่านั้น 19my little children, for whom I am again in the anguish of childbirth until Christ is formed in you! 19ลูกน้อยของข้าพเจ้าเอ๋ ย ข้าพเจ้าต้อง เจ็บปวดเพราะท่านอีก จนกว่าพระ คริ สต์จะได้ทรงก่อร่ างขึ้นในตัวท่าน 24And the Lord's 2 Timothy ทิโมธี2:24-25 servant must not be quarrelsome but kind to everyone, able to teach, patiently enduring evil, 24ฝ่ ายผูร้ ับใช้ขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าต้อง ไม่เป็ นคนที่ชอบการทะเลาะวิวาท แต่ ต้องมีใจเมตตาต่อทุกคน เป็ นครู ที่ เหมาะสมและมีความอดทน 25correcting his opponents with gentleness. God may perhaps grant them repentance leading to a knowledge of the truth, 25ชี้ แจงให้ฝ่ายตรงกันข้ามเข้าใจด้วยความ สุ ภาพ ว่าพระเจ้าอาจจะทรงโปรดให้เขา กลับใจ และมาถึงซึ่งความจริ ง 20I wish I could be present with you now and change my tone, for I am perplexed about you. 20ข้าพเจ้าปรารถนาจะอยูก ่ บั พวกท่าน เดี๋ยวนี้ และเปลี่ยนน้ าเสี ยงของข้าพเจ้า เพราะว่าข้าพเจ้ามีขอ้ สงสัยในตัวท่าน 21Tell me, you who desire to be under the law, do you not listen to the law? 21ท่านที่อยากอยูใ่ ต้ธรรมบัญญัติ ท่าน ไม่ได้ฟังธรรมบัญญัติหรื อ จงบอก ข้าพเจ้าเถิด 22For it is written that Abraham had two sons, one by a slave woman and one by a free woman. 22เพราะมีเขียนไว้ในพระคัมภีร์วา่ อับ ราฮัมมีบุตรสองคน คนหนึ่งเกิดจาก หญิงทาส อีกคนหนึ่งเกิดจากหญิงที่เป็ น ไท 23But the son of the slave was born according to the flesh, while the son of the free woman was born through promise. 23บุตรที่เกิดจากหญิงทาสนันก็เกิดตาม ้ ธรรมดา แต่ส่วนบุตรที่เกิดจากหญิงที่ เป็ นไทนั้น เกิดตามพระสัญญา 24Now this may be interpreted allegorically: these women are two covenants. One is from Mount Sinai, bearing children for slavery; she is Hagar. 24ข้อความนี้ เป็ นอุปไมย ผูห้ ญิงสองคน นั้นได้แก่พนั ธสัญญาสองอย่าง คนหนึ่ง มาจากภูเขาซีนาย คลอดลูกเป็ นทาส คือนางฮาการ์ 25Now Hagar is Mount Sinai in Arabia; she corresponds to the present Jerusalem, for she is in slavery with her children. 25นางฮาการ์ นน ั ได้แก่ภเู ขาซีนายใน ้ ประเทศอาระเบีย ตรงกับกรุ งเยรู ซาเล็ม ปัจจุบนั เพราะกรุ งนี้กบั พลเมืองเป็ น ทาสอยู่ 26But the Jerusalem above is free, and she is our mother. 26แต่วา่ เยรู ซาเล็มซึ่ งอยูเ่ บื้องบนนัน เป็ น ้ ไทเป็ นมารดาของเราทั้งหลาย 27For it is written,“Rejoice, O barren one who does not bear; break forth and cry aloud, you who are not in labor! For the children of the desolate one will be more than those of the one who has a husband.” 27เพราะมีเขียนไว้ในพระคัมภีร์วา่ จงชื่ น ชมยินดีเถิด โอหญิงหมันเอ๋ ย ผู้ไม่ คลอด บุตร จงเปล่ งเสี ยงโห่ ร้อง เจ้าผูไ้ ม่เจ็บครรภ์ เพราะว่ าบุตรของแม่ ร้าง ก็ยงั มีมากกว่ า บุตรของหญิงที่อยู่กับสามี 28Now you, brothers, like Isaac, are children of promise. 28ดูก่อนพี่นอ ้ งทั้งหลาย เราเป็ นบุตรแห่ง พระสัญญาเช่นเดียวกับอิสอัค 29But just as at that time he who was born according to the flesh persecuted him who was born according to the Spirit, so also it is now. 29แต่ในครังนัน ผูท ้ ้ ้ ี่เกิดตามธรรมดาได้ ข่มเหงผูท้ ี่เกิดตามพระวิญญาณฉันใด ปัจจุบนั นี้กเ็ หมือนกันฉันนั้น 30But what does the Scripture say? “Cast out the slave woman and her son, for the son of the slave woman shall not inherit with the son of the free woman.” 30แต่พระคัมภีร์วา่ อย่างไร ก็วา่ “จงไล่ หญิงทาสกับบุตรชายของนางไปเสี ยเถิด เพราะว่ าบุตรของหญิงทาส จะรับมรดก ร่ วมกับบุตรของหญิงที่เป็ นไทไม่ได้” 31So, brothers, we are not children of the slave but of the free woman. 31เหตุฉะนันพี่นอ ้ ้ งทั้งหลาย เราไม่ใช่ บุตรของหญิงทาส แต่เป็ นบุตรของหญิง ที่เป็ นไท