English slide - FETP Thailand

หลักระบาดวิทยาและการเฝ้ าระวังโรค
สาหรับ SRRT
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร
สานักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค
กระทรวงสาธารณสุข
วันที่ 19 ธันวาคม 2554
ระบาดวิทยากับงานสาธารณสุข
1. การเฝ้ าระวังทางระบาดวิทยา
2. การสอบสวนโรค/ภัยสุขภาพ
3. การศึกษาวิจัยทางระบาดวิทยา
แผนที่แสดงการตายด้วยอหิวาตกโรค
กรุงลอนดอน เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2397 (1854)
John Snow, M.D.
(1813 -1858)
ผูป้ ่ วยเสียชีวิต 500 รายในเวลา 10 วัน
แต่ภายในเวลา 1 สัปดาห์หลังจากถอนหัวจ่ายน้ า การระบาดลดลง
Deaths from Cholera per 10,000 houses by
source of water supply, London 1854
Number of
Houses
Deaths from
Cholera
Southwark & Vauxhall
Company
40,046
1,263
315
Lamberth Company
26,107
98
37
256,423
1,422
59
Water Supply
Rest of London
Deaths
per
10,000 homes
การทางานระบาดวิทยาต้องอาศัย
1.Body of Knowledge (รูโ้ รค)
• มีองค์ความรูเ้ กีย่ วกับธรรมชาติของการเกิดโรค
2.Methods for studying disease (รูว้ ิธี)
• รูแ้ ละเข้าใจวิธีการศึกษา เพือ่ ให้ได้มาซึ่งความรู ้
เกีย่ วกับโรคเพิม่ ขึ้ น
การระบาดของ SARS ในโรงแรมแห่งหนึง่ ฮ่องกง 2546
8,422 cases
(916 deaths)
in 29 countries
Source: World Health Organization, 2004
Original Source of SARS Coronavirus: Civet
นิยามของระบาดวิทยา (Epidemiology)
 การศึกษาเกี่ยวกับการเกิดและการกระจายของปั ญหา
สุขภาพตลอดจนปั จจัยที่มีอิทธิพลต่ อการเกิดโรคใน
ประชากรที่ระบุ เพื่อนาความรู้ ไปใช้ ควบคุมโรค
“The study of the occurrence and distribution of health-related
states or events in specified populations, including the study of the
DETERMINANTS influencing such states, and the application of
this knowledge to control the health problems”
Source: Dictionary of Epidemiology, 5th Ed.
Oxford University Press, New York, 2008
การกระจายของโรค (Distribution)
 การกระจาย หมายถึง ลักษณะทางระบาดวิทยาของ
การเกิดโรค เมือ่ พิจารณาในด้านบุคคล เวลา สถานที่
 ไม่ใช่การกระจายของโรคจากคนหนึง่ ไปยังอีกคนหนึง่
ซึ่งมักใช้คาว่า การถ่ายทอดโรค (Transmission) แทน
 ดังนั้น การกระจาย ใช้กบั ทั้งโรคติดเชื้ อและโรคไร้เชื้ อ
ปั จจัยที่มีอิทธิพล (Determinants)
 ปั จจัยที่มีอิทธิพล หมายถึง สาเหตุหรือปั จจัยที่มีอิทธิพลต่อ
การเกิดโรค/ปั ญหาสาธารณสุข
 ตัวอย่าง ได้แก่

บุคคล เช่น เพศ อายุ ประวัติวคั ซีน พฤติกรรมเสี่ยง

สิง่ ก่อโรค เช่น เชื้ อโรค ชนิดอาหารปนเปื้ อนที่กิน

สิง่ แวดล้อมทีอ่ านวยต่อการเกิดโรค เช่น ความแออัด
ระบาดวิทยา (Epidemiology) ศึกษาอะไร
เวลา (Time)
การกระจายของโรค
ระบาดวิทยา
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อโรค
บุคคล (Person)
สถานที่ (Place)
สาเหตุ (Cause)
ปัจจัยเสี่ ยง (Risk factor)
คาถามพื้นฐานเมื่อศึกษาโรค/ปัญหาสุ ขภาพ
 ปัญหาอะไร? (What)
โรค
 ปัญหาเกิดกับผู้ใด? (Who)
 ปัญหาเกิดขึน้ ที่ไหน? (Where)
บุคคล
สถานที่
 ปัญหาเกิดขึน้ เมื่อใด? (When)
เวลา
 ปัญหาเกิดได้ อย่ างไร? (Why/How)
ปัจจัย/สาเหตุ
การกระจายของโรค
Time (เวลา)
Epidemic curve
Place (สถานที่) Spot map
Person (บุคคล) Table อายุ เพศ
ผูป้ ่ วยไข้หวัดนก H5N1 ตามวันเริ่ มป่ วย
ประเทศไทย พ.ศ.2547-2549 (N=25)
จานวน (ราย)
4
3
2
2547
ที่มา: สานักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค
2548
2549
37
30
23
16
9
2
47
40
33
26
19
12
5
50
43
36
29
22
15
8
0
1
1
week
ลักษณะผู้ป่วยไข้ หวัดนก H5N1 ในประเทศไทย
• ผู้ป่วยเด็ก (10 ราย):
 ชาย 9 ราย และ หญิง 1 ราย
 อัตราป่ วยตาย (CFR) 70%
• ผู้ป่วยผู้ใหญ่ (15 ราย):
 ชาย 7 ราย และ หญิง 8 ราย
 อัตราป่ วยตาย (CFR) 67%
ที่มา: สานักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค
N=25
ผู้ป่วยยืนยันไข้ หวัดนกในประเทศไทย
Province
2548
2549
Nongbuarampou
1
Uthaithani
1
Pichit
1
Karnchanaburi
2547
2548
2549
2547
2
2
Nonthaburi
1
Bangkok
1
Nakornnayok
1
Kamphangphet
2
Nakornratchasima
1
Prachineburi
1
Ayuthaya
1
Phetchabune
1
Lopburi
1
Sukhothai
2
Supanburi
3
Chaiyapoum
1
Khonkaen
1
Uttradit
1
ประวัตสิ ัมผัสแหล่ งโรค
- 15 ราย มีไก่ ท่ บี ้ านตายผิดปกติ
- 12 ราย จับไก่ ท่ ปี ่ วยหรือตายโดยตรง
- 1 ราย นั่งในพืน้ ที่ท่ มี ีไก่ ตาย/ป่ วยเป็ นประจา
- 1 ราย ไม่ มีประวัตสิ ัมผัสไก่ เลย
(Probable human-to-human transmission)
ที่มา: สานักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค
การกระจายของโรค
Cases
25
1200
1000
Person
800
Place
20
Time
15
600
400
10
200
5
0
0-4
0
'5-14 '15-44 '45-64 '64+
1
Age Group
2
3
4
5
6
7
8
ประเมินสถานการณ์ จากข้ อมูลระบาดวิทยา
Pathogen?
Source?
Transmission?
ตั้งสมมติฐาน: จากข้ อมูลระบาดวิทยาเชิงพรรณนาทีร่ วบรวมได้
9
10
แนวคิดของการเกิดโรค
การเกิด โรคในชุ ม ชนมิ ใ ช่ ก ารสุ่ม ตั ว อย่ า ง
แต่ จะเกิดมากหรือน้ อย หรือไม่ เกิดขึ้ นเลย
ในคนบางกลุ่ม จึงต้ องใช้ ความรู้ทางระบาด
วิทยา เพื่ออธิบายปั จจัยต่ างๆ ที่ทาให้ บาง
คนหรือบางกลุ่มมีโอกาสป่ วยมากกว่าปกติ
องค์ สามทางระบาดวิทยา
(Epidemiologic Triad)
Host (คน)
• Biological, chemical
• Infectivity
• Pathogenicity
• Virulence
• Antigenic stability
• Survival
Agent
(สิ่ งก่ อโรค)
• Age
• Sex
• Genotype
• Health status
• Behaviour
• Nutritional status
Environment
(สิ่ งแวดล้ อม)
• Weather
• Housing
• Geography
• Occupation
• Air quality
• Food
ภาวะสมดุลระหว่างองค์สามทางระบาดวิทยา
Host- คน
Agent- สิ่ งก่อโรค
Environment -สิ่ งแวดล้อม
การเสี ยสมดุลก่อให้ เกิดโรค เช่น Agent มากขึ้ น
Environment -สิ่ งแวดล้อม
การเสี ยสมดุลก่อให้ เกิดโรค เช่น Host อ่อนแอ
Environment -สิ่ งแวดล้อม
การเสี ยสมดุลก่ อให้ เกิดโรค เช่น สิ่ งแวดล้ อมเปลีย่ น
Host- คน
Agent- สิ่ งก่อโรค
Environment -สิ่ งแวดล้อม
ผูป้ ่ วยโรคคางทูมกระจายตามห้องเรียนและวันเริม่ ป่ วย
โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึง่ พฤษภาคม-กันยายน 2542 (N = 38)
NS 1
NS 2
1/1
1/2
3/2
10
3/1
2/1
8
6
4
2/2
2
18 - 24 May
25 - 31 May
1 - 7 Jun
8 - 14 Jun
15 - 21 Jun
22 - 28 Jun
29 Jun - 5 Jul
6 - 12 Jul
13 - 19 Jul
20 - 26 Jul
27 Jul - 2 Aug
3 - 9 Aug
10 - 16 Aug
17 - 23 Aug
24 - 30 Aug
31 Aug - 6 Sep
7 - 13 Sep
14 - 20 Sep
21 - 27 Sep
28 Sep - 4 Oct
5 - 11 Oct
0
ผู้ป่วยเด็ก 1 ราย
Weekly interval
ผู้ป่วยผู้ใหญ่ 1 ราย
ที่มา: นพ.ยงเจือ เหล่าศิริถาวร สานักระบาดวิทยา
Kit.
หากคนๆหนึ่งได้ รับเชื้อโรค
No infection
Death
Clinical
Carrier
Asymptomatic
Immunity
ผลลัพธ์ ทเี่ ป็ นไปได้
Carrier
No immunity
ทาไมจึงเกิดการระบาดของโรคคางทูมในโรงเรียน

การมี Agent เข้าไปในพื้นที่ที่ไม่เคยมีมาก่อน

Agent เพิม่ จานวน หรื อ ความรุ นแรงมากขึ้น

มีการถ่ายทอดโรค (Transmission) เพิ่มมากขึ้น

มีความไวรับต่อการเกิดโรคมากขึ้น (susceptibility)

สิ่งแวดล้ อม เช่น อุณหภูมิเหมาะสม

ปัจจัยอื่นๆ เช่น ความครอบคลุมวัคซีนต่า
การคิดแบบระบาดวิทยา
1. การคิดอย่างมีเหตุผล อธิบายได้ พิสจู นไได้
2. การคิดอย่างเป็ นระบบ เป็ นขั้นตอน
3. การคิดอย่างต่อเนื่องเชื่อมโยง
การประยุกต์ ระบาดวิทยาเพือ่ แก้ปัญหาสาธารณสุ ข
ความสาค ัญของปัญหา
(ขนาดปัญหา ความรุนแรง)
ติดตามประเมินผล
การกระจาย
(บุคคล เวลา สถานที)่
(การดาเนินงาน
ผลกระทบ)
บริหารจ ัดการ
Resource & Participation
• coverage
• compliance
• timeliness
สาเหตุและปัจจ ัย
ั
(ระด ับบุคคล ระด ับสงคม)
เลือกมาตรการแก้ปญ
ั หา
(Promotion, Prevention, Control,
Treatment, Rehabilitation)
ต้องทราบ Efficacy
การเฝ้ าระวังทางระบาดวิทยา
การเฝ้ าระวังในชีวติ ประจาวัน
การเฝ้ าระวังในชีวติ ประจาวัน
Weight (Kg)
100
80
60
40
20
7
ee
k
6
w
ee
k
5
w
ee
k
4
w
w
ee
k
3
ee
k
2
w
ee
k
w
w
ee
k
1
0
ใช้ ประโยชน์ ข้อมูลเพือ่ การแก้ ปัญหา
Weight (Kg)
100
80
60
40
20
8
ee
k
7
w
ee
k
6
w
ee
k
5
w
ee
k
4
w
w
ee
k
3
ee
k
2
w
ee
k
w
w
ee
k
1
0
นิยามของการเฝ้ าระวัง
กระบวนการจัดเก็บ วิเคราะห์ และแปลผล
ข้อมูล ทางสาธารณสุขที่เป็ นไปอย่างต่อเนื่ อง
และมีระบบ รวมถึงการ นาข้อมูลที่วิเคราะห์
ได้ไปเผยแพร่และใช้ให้เกิดประโยชน์ ในด้าน
การวางแผน การจัดทามาตรการป้ องกันและ
ควบคุมปัญหาสาธารณสุข รวมถึงการ
ประเมินผลมาตรการอย่างทันท่วงที
ตัวอย่ างระบบเฝ้ าระวัง

ระบบเฝ้ าระวังโดยการรายงานผูป้ ่ วย (รง.506)

ระบบเฝ้ าระวังการติดเชื้อเอชไอวี (HIV serosurveillance)

ระบบเฝ้ าระวังพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี

ระบบเฝ้ าระวังอาการคล้ ายไข้ หวัดใหญ่ (ILI)

ระบบเฝ้ าระวังการบาดเจ็บ (Injury surveillance)

การเฝ้ าระวังเหตุการณไ (Event-based surveillance)

ระบบเฝ้ าระวังพิเศษ ในภาวะอุทกภัย
ธรรมชาติของการรายงานโรค
ผู้ป่วยส่วนน้ อยที่มารักษาที่
สถานีอนามัยหรื อโรงพยาบาล
ผู้ป่วยจานวนมากที่อยูใ่ นชุมชน
ไม่ได้ มารักษาที่โรงพยาบาล หรื อ
ผู้เป็ นผู้ติดเชื ้อ
ประเภทของการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา
 การเฝ้ าระวังเชิ งรั บ (Passive surveillance): การรายงาน
เป็ นปกติประจา ตามระยะเวลาที่กาหนด เช่น ระบบเฝ้ า
ระวัง 506
 การเฝ้ าระวังเชิ งรุ ก (Active surveillance): เป็ นการค้นหา
เชิ งรุ ก เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับข้อมูลการเกิดโรคมากขึ้น
เช่น รายงานผูป้ ่ วยพบเชื้อ Vibrio cholerae ในระยะที่มีการ
ระบาดของอหิ วาตกโรค
ประเภทของการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา
 การเฝ้ าระวังเฉพาะกลุ่มเฉพาะพืน้ ที่ (Sentinel
Surveillance): การเฝ้ าระวังกลุ่มตัวอย่างที่เป็ นตัวแทนของ
กลุ่มประชากรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาที่สนใจ เช่น
HIV serosurveillance
 การเฝ้ าระวังพิเศษอื่นๆ (Special Surveillance): ดาเนินการ
เฝ้ าระวังภาวะหรื อสถานการณ์พิเศษ เช่น การเฝ้า
ระวังสาเหตุการตายในวิกฤติอุทกภัย ปี พ.ศ.2554
การเฝ้ าระวังผู้เสี ยชีวติ ในมหาอุทกภัย พ.ศ. 2554
(ข้ อมูลถึงวันที่ 11 ธค. 2554)
จานวนผู้เสียชีวติ ทัง้ หมด 728 ราย
• จากการจมนา้ 592 ราย (81.3%)
• จากไฟฟ้าช็อต 102 ราย (14.0%)
• ดินถล่ มทับ 21 (2.9%)
เปรียบเทียบสาเหตุการเสี ยชีวติ ระหว่ างกทม.และ
ปริมณฑล กับพืน้ ที่จังหวัดอืน่ ๆ
จมนา้
ไฟฟ้าช๊ อต
จมนา้
ไฟฟ้าช๊ อต
ดินทับ
3, (1%)
ต้ นไม้ ทบั
10, (2%)
21, (4%)
35, (6%)
68,
(39%)
108,
(61%)
กทมและปริมณฑล
ที่มา: สานักระบาดวิทยา
484,
(87%)
จังหวัดอื่นๆ
ไม่ ทราบ
สั ดส่ วนการเสี ยชีวติ จากไฟฟ้ าช็อต แยกรายเดือน
ประเทศไทย พ.ศ.2554
ที่มา: สานักระบาดวิทยา
อายุและเพศของผู้เสี ยชีวติ จากไฟฟ้ าช็อต
ประเทศไทย พ.ศ.2554
จานวน(คน)
ที่มา: สานักระบาดวิทยา
กลุม่ อายุ(ปี )
สถานที่ขณะที่เกิดไฟฟ้ าช็อต
สถานที่และกิจกรรม
ในบ้ านหรื อบริเวณบ้ าน
ขณะอยู่บนถนนที่มีนา้ ท่ วม
อยู่บนเรื อพาย
สถานที่อ่ ืนๆ
ที่มา: สานักระบาดวิทยา
ร้ อยละ
72.7
15.9
4.5
6.8
เหตุการณ์ 5 ลาดับแรกที่เป็ นสาเหตุของไฟฟ้ าช็อต (1)
เหตุการณ์ ขณะโดนไฟฟ้าช็อต
สัมผัสอุปกรณ์ไฟฟ้าโดยที่ร่างกายเปี ยกน ้า
 การเดินเข้ าไปขยับหรื อเสียบปลัก๊ เครื่ องปั๊ มน ้า(12)
 เสียบปลัก๊ ช๊ าตแบตเตอรี่ โทรศัพท์มือถือโดยเท้ าแช่น ้า(2)
เข้ าใกล้ รัศมีอปุ กรณ์ไฟฟ้าโดยที่ร่างกายเปี ยกน ้า (ในระยะ 1.5 เมตร)
 การเดินเข้ าใกล้ รัศมีเสาไฟฟ้าบนถนนที่มีไฟฟ้ารั่ว(6)
 การเดินเข้ าใกล้ รัศมีของเครื่ องปั๊ มน ้าที่มีไฟฟ้ารั่ว(4)
อุบตั ิเหตุสมั ผัสอุปกรณ์ไฟฟ้าโดยที่ร่างกายเปี ยกน ้า
 เดินลุยน ้าท่วมจับรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวที่พาดสายไฟฟ้า (2)
 ขณะเดินลุยน ้าในบ้ านปลัก๊ ไฟฟ้าสามตาบังเอิญตกลงในน ้า(2)
 ขณะทาสวนตัดต้ นกล้ วยที่มีสายไฟฟ้าพาด สายไฟขาดตกลงน ้า(1)
ร้ อยละ
27.7
16.0
8.4
เหตุการณ์ 5 ลาดับแรกที่เป็ นสาเหตุของไฟฟ้ าช็อต (2)
เหตุการณ์ ขณะโดนไฟฟ้าช็อต
สัมผัสสื่อนาไฟฟ้าโดยที่ร่างกายเปี ยกน ้า
 เกิดจากจับสิง่ ที่เป็ นเหล็ก เช่น ประตูเหล็ก ราวตากผ้ า หรื อ
รัว้ บ้ านที่สมั ผัสสายไฟ (4)
 การนัง่ บนเรื อที่ทาจากเหล็กพายหรื อไม้ พายไปโดน
สายไฟฟ้าที่รั่ว (2)
ย้ ายปลัก๊ ไฟหรื ออุปกรณ์ไฟฟ้าให้ พ้นน ้า
 พยายามย้ ายปลัก๊ ไฟให้ พ้นน ้าขณะร่างกายเปี ยกน ้า(3)
 พยายามย้ ายตู้เย็นขึ ้นที่สงู หนีน ้าโดยไม่ถอดปลัก๊ (1)
ร้ อยละ
8.4
5.9
การไหลเวียนของข้ อมูลเฝ้ าระวังโรคจากพืน้ ทีส่ ู่ สากล
Ministry of Public Health
Department of Disease Control
Regional
Disease
Control Center
World Health
Organization
Bureau of
Epidemiology***
Provincial
Epidemiological Unit
District Surveillance
information center
Private hospitals
and clinics
Hospitals and clinics under
universal coverage
schemes
Case Report
Information
HIV/AIDS Surveillance at Different Time Points
HIV PREVALENCE
SURVEILLANCE
BEHAVIOR
HIV INCIDENCE
SURVEILLANCE SURVEILLANCE
“WINDOW”
PERIOD
ASYMPTOMATIC PERIOD
INFECTION
VIRAL LOAD
HIV ANTIBODIES
AIDS
AIDS CASE
SURVEILLANCE DEATHS
HIV ILLNESS
& AIDS
DEATH
ตรวจจับการระบาด
Rate per 100,000 Pop.
25
Reported Cases of Leptospirosis per 100,000
Population, Thailand,1995-2004
20
15
10
5
0
1995
1996
1997
1998
1999
2000
2001
2002
Source: Bureau of Epidemiology, Ministry of Public Health, Thailand
2003
2004
จานวนผู้ป่วยโรคอุจจาระร่ วง จังหวัด ก
เดือน มกราคม – สิ งหาคม 2553 เปรียบเทียบกับค่ ามัธยฐาน 5 ปี
Number of cases
900
800
First Cholera Case
2010
5-year median
700
600
500
400
300
200
100
0
Week
1 3 5 7 9 11 13 15 17 19 21 23 25 27 29 31 33 35 37 39 41 43 45 47 49 51
Source: Bureau of Epidemiology, Ministry of Public Health, Thailand
ใช้ติดตามแนวโน้มสถานการณ์โรค
Fig 3 Reported Cases of S.T.I.,total (37-41, 79-81) per 100,000 Population,
by Age-group, Thailand, 2004 - 2008
70
Rate per 100,000 Pop.
60
50
40
30
20
10
0
2004
2005
0-4
5-9
2006
10-14
2007
15-24
25-34
Source: Bureau of Epidemiology, Ministry of Public Health, Thailand
2008
35+
พยากรณ์การเกิดโรค
350
Reported Cases of Mushroom Poisoning by
Month, Thailand, 2000-2004
Number of Cases
300
250
200
150
100
50
0
Jan
Feb
Mar
2000
Apr
May
2001
Jun
Jul
2002
Aug
Sep
2003
Source: Bureau of Epidemiology, Ministry of Public Health, Thailand
Oct
Nov
Dec
2004
อัตราอุบัตกิ ารณ์ ไข้ เลือดออกในประเทศไทย พ.ศ.2501 - 2553
350
Rate per 100,000 pop
1987
Big outbreak
(325/100,000)
300
250
200
150
100
1958
1st Outbreak
1978
Every district
50
0
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53
ปี พ.ศ. 25....
Source: Bureau of Epidemiology, Ministry of Public Health, Thailand
Seasonal Pattern of Dengue
Fig. 4 Reported Cases of D.H.F,Total(26,27,66) by Month, Thailand, 2003 - 2007
Number of C as es
14000
12000
10000
8000
6000
4000
2000
0
Jan
Feb
Mar
2003
Apr
May
2004
Jun
Jul
2005
Aug
Sep
2006
Source: Bureau of Epidemiology, Ministry of Public Health, Thailand
Oct
Nov
2007
Dec
Difference in Geographical Distribution of Dengue
Reported Cases of D.H.F,Total(26,27,66) per 100,000 Population,
by Region, Thailand, 2005 - 2010 (Oct)
Rate per 100,000 Pop.
350.00
300.00
250.00
200.00
150.00
100.00
50.00
0.00
2005
2006
Central
2007
North
2008
North-East
2009
South
Source: Bureau of Epidemiology, Ministry of Public Health, Thailand
2010
Demographic Distribution of Dengue
Fig 5 Reported Cases of D.H.F,Total(26,27,66) per 100,000 Population , by Agegroup, Thailand, 2005 - 2009
Rate per 100,000 Pop.
500
400
300
200
100
0
2005
2006
0-4
5-9
2007
10-14
2008
15-24
25-34
Source: Bureau of Epidemiology, Ministry of Public Health, Thailand
2009
35+
บอกปั ญหาของโรคตามพื้ นที่
Rae per 100,000 Pop.
500
Reported Cases of Food Poisoning per 100,000
Population, by Region, Thailand, 2000-2004
400
300
200
100
0
2000
2001
Central
2002
North
2003
North-East
Source: Bureau of Epidemiology, Ministry of Public Health, Thailand
2004
South
ใช้ติดตามแนวโน้มสถานการณ์โรค
Rate per 100,000 Pop.
.
Reported Cases of Malaria per 100,000 Population,
by Year, Thailand, 2000-2004
160
140
120
100
80
60
40
20
0
1995 1996
1997 1998 1999
2000 2001 2002
Source: Bureau of Epidemiology, Ministry of Public Health, Thailand
2003 2004
ประโยชน์ ของระบบเฝ้ าระวัง
 ตรวจจับการระบาดของโรค
 ติดตามสถานการณไโรค
 พยากรณไการเกิดโรค
 อธิบายธรรมชาติและการกระจายของโรค
 ประเมินผลมาตรการควบคุมป้ องกันโรค
Surveillance is
Information for
Action
How can we control
Core groups of
HIV transmission
HIV/AIDS epidemic?
Surveillance data are necessary
but not sufficient for
controlling the disease
Surveillance
system
AIDS control
programs
การสอบสวนทางระบาดวิทยา
การระบาด (Outbreak/Epidemic)
การระบาด คือ การมีผู้ป่วยจานวน มากกว่ า จานวนปกติทคี่ าดหมาย
ณ สถานที่ หรือในประชากร ทีช่ ่วงเวลาหนึง่
•การทีม่ ีผู้ป่วยเกิดขึ้ นในจานวนมากกว่ าปกติ เมื่อ
เปรียบเทียบกับจานวนผู้ป่วยในช่ วงเวลาเดียวกันในอดีต
เช่ น มากกว่ า ค่ ามัธยฐาน 5 ปี (median)
•โรคที่เกิดขึน้ กับคนตั้งแต่ 2 คนขึน้ ไปในระยะเวลาอันสั้ น
หลังจากเข้ าร่ วมกิจกรรมเดียวกัน
•ผูป้ ่ วยโรคอุบตั ิใหม่ 1 ราย
No. of Cases of a Disease
Endemic Vs. Epidemic
Endemic
Time
Epidemic
8
7
0
Onset
14-Jan
16-Jan
18-Jan
20-Jan
22-Jan
24-Jan
26-Jan
28-Jan
30-Jan
1-Feb
3-Feb
5-Feb
7-Feb
9-Feb
11-Feb
13-Feb
15-Feb
17-Feb
19-Feb
21-Feb
23-Feb
25-Feb
27-Feb
1-Mar
3-Mar
5-Mar
7-Mar
9-Mar
11-Mar
13-Mar
15-Mar
17-Mar
19-Mar
21-Mar
23-Mar
25-Mar
27-Mar
29-Mar
31-Mar
จานวนผู้ป่วยโรคหัดตามวันเริ่มป่ วย ในเรือนจาแห่ งหนึ่ง
14 มกราคม – 31 มีนาคม 2554(N=44)
No. cases
Suspected cases
MMR 1st
campaign
ที่มา: นพ.เอกชัย ยอดขาว สานักระบาดวิทยา
Confirmed cases
9
Local SRRT
MMR 2nd
campaign
6
5
4
3
2
1
การศึกษาวิจัยทางระบาดวิทยา
Measles Cases by Ward Distribution in a Prison,
14 Jan – 4 Mar 2011 (N=36)
Male 1
Index cases
Confirmed cases
Suspected cases
Male 3
Entry
Male
rehabilitation
Source: Eakachai Yodkalw, MD
Male 2
Age Specific Attack Rate of Measles Cases among
Prisoners in a Prison, 14 Jan – 4 Mar 2011 (N=36)
AR/1,000 Pop
30
25
22.5
20
15
10
5.3
5
3.2
0
18-25
Source: Eakachai Yodkalw, MD
26-30
>30
Age group
Protective immunity
ΔOD > 0.2
Non protective immunity ΔOD < 0.1
Equivocal
0.1 < ΔOD < 0.2
Immunological study
30
healthy
prisoners
Before
Vaccination
22 (73%)
Immune
3 (10%)
equivocal
Mean ΔOD=0.654
Mean ΔOD=0.128
5 (17%)
Non-immune
Mean ΔOD=0.067
3 weeks after vaccination
22
immune
2
immune
Mean ΔOD=0.627
Mean ΔOD=0.555
1
equivocal
ΔOD
0.1060.118
4
immune
1
equivocal
Mean ΔOD=0.717
ΔOD
0.0880.169
Mass vaccination for measles outbreak control
Coverage of MMR vaccination
95.9%(3,148/3,280) of target population (age
< 25 years)
Source: Eakachai Yodkalw, MD
8
7
0
14-Jan
16-Jan
18-Jan
20-Jan
22-Jan
24-Jan
26-Jan
28-Jan
30-Jan
1-Feb
3-Feb
5-Feb
7-Feb
9-Feb
11-Feb
13-Feb
15-Feb
17-Feb
19-Feb
21-Feb
23-Feb
25-Feb
27-Feb
1-Mar
3-Mar
5-Mar
7-Mar
9-Mar
11-Mar
13-Mar
15-Mar
17-Mar
19-Mar
21-Mar
23-Mar
25-Mar
27-Mar
29-Mar
31-Mar
Measles Cases by Date of Onset, Prison S,
Samut Prakan Province, 14 Jan – 31 Mar 2011 (N=44)
No. cases
Suspected cases
MMR 1st
campaign
Confirmed cases
9
Local SRRT
MMR 2nd
campaign
6
5
4
3
2
1
Onset
Basic Reproductive Number (R0) and Herd Immunity
Example:
R0 = 2+3+4 = 1.5
1+2+3
• R0 of measles
= 12 - 18
• Herd immunity = 1 – (1 / R0 )
= 1 – (1/12)
= 0.917
= 91.7%
แนะนาหนังสือสาหรับนักระบาดวิทยาภาคสนาม
The art of epidemiological reasoning
is to draw conclusions
from imperfect data
George W. Comstock, M.D.
ขอขอบคุณ