Diph.Chaum.ver2-2-2013

advertisement
รศ.(พิเศษ)นายแพทย์ ทวี โชติพทิ ยสุ นนท์
ผู้ทรงคุณวุฒริ ะดับ 11, สถาบันสุ ขภาพเด็กแห่ งชาติมหาราชินี
กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุ ข
โรคคอตีบ :โรคทีถ่ ูกลืมในเด็กและ
เป็ นโรคติดเชื้ออุบัตใิ หม่ ในผู้ใหญ่ ในประเทศไทย ?
ประวัตศิ าสตร์ ของโรคคอตีบ (Diphtheria)
 มาจากภาษากรีก diphthera (leather hide)
 โรคคอตีบพบโดย Hippocrates ศตวรรษที่ 5 ก่ อนคริสต์ กาล
 โรคคอตีบระบาดในคริสต์ ศตวรรษที่ 6
 เชื้อ C. diphtheriae พบโดย Klebs ปี
 DAT เริ่มใช้ ครั้งแรกปี
ค.ศ.1883
ค.ศ.1891
 Diphtheria toxoid พบในปี
ค.ศ.1920
Diphtheria Situation in Thailand :
1975 - 1995 & 2001-2010
DPT vaccinination
6
5
4
3
2
1
0
in EPI Program-1980
Case Rate
Fatality Rate
'75 '77 '79 '81 '83 '85 '87 '89 '91 '93 '95 01-05 06-10
Year
การระบาดโรคคอตีบ ในปี ก.ย. 2553
 พบ 12 ราย เสี ยชีวต
ิ 5 ราย
 เป็ นคนไทย 10 คน พม่ า 2 คน
 จากจังหวัดปัตตานี 9 ราย (ตาย 4) ตั้งแต่ ส.ค.-ก.ย.2553
 จากจังหวัดสมุทรปราการ กาญจนบุรี และชุ มพร จ.ว. ละ 1 ราย
 ทุกรายได้ รับวัคซีนไม่ ครบ หรื อไม่ ได้ วค
ั ซีน
 ไม่ พบความเชื่อมโยงทางระบาดวิทยา
( สานักระบาดวิทยา 29 ส.ค. – 4 ก.ย. 2553 )
สถานการณ์ โรคคอตีบ(Diphtheria) ในประเทศไทย
: มกราคม - 24 กันยายน 2555 (1)
ผู้ป่วย 72 ราย จาก 6 จังหวัด
 ตาย 3 ราย
 จ.เลย พบ 7.9 / แสนประชากร
 จ.เพชรบูรณ์ พบ 1.4 / แสนประชากร
 จ.ปัตตานี พบ 0.77 / แสนประชากร
 จ.ยะลา พบ 0.42 / แสนประชากร
 จ.หนองบัวลาภู พบ 0.2 / แสนประชากร

สถานการณ์ โรคคอตีบ(Diphtheria) ในประเทศไทย
: มกราคม - 24 กันยายน 2555 (2)
 อายุทพ
ี่ บมากทีส่ ุ ด
 สั ญชาติไทย
 นักเรียน
10-14 ปี = 29.17%
7-9 ปี
= 16.67%
35-44 ปี = 12.5%
98.6% , ลาว 1.4%
60% , เกษตรกร 26.4%
การระบาดของโรคคอตีบ ที่ จ.เลย / หนองบัวลาภู
 ผู้ป่วยโรคคอตีบ/พาหะ = พบเชื้อ C diphtheriae, Toxin positive
และ/หรือ Biochem positive
จ.เลย :- พบผู้ป่วยยืนยัน 53 ราย (3 รายล่ าสุ ดพบ 4 ต.ค.2555)
:- อ. ด่ านซ้ าย (37 ราย) อ.วังสะพุง (13 ราย) อ.อืน่ ๆพบ 3 ราย
:- พบพาหะ 33 ราย (พบ อ.ด่ านซ้ าย 32 ราย)
จ.หนองบัวลาภู :- พบผู้ป่วยยืนยัน 4 ราย (อ.สุ วรรณคูหา 4 ราย)
:- พบพาหะ 1 ราย (อ.สุ วรรณคูหา 1 ราย)
( ข้ อมูลจาก นพ.คานวณ อึง้ ชู ศักดิ์, สานักระบาดวิทยา วันที่ 5 ตค. 2555 )
Pathogenesis
เชื้อ Corynebacterium diphtheriae
 Gram positive bacillus, toxin producing
 มนุษย์ เท่ านั้นทีเ่ ป็ นแหล่ งรั งโรค
 พาหะ (Carrier) (ไม่ มีอาการ) พบได้ พอควร
 4 biotypes
:- C. diphtheriae biotype gravis
:- C. diphtheriae biotype mitis
:- C. diphtheriae biotype intermedius
:- C. diphtheriae biotype belfanti
พยาธิวทิ ยา & พยาธิสภาพของ Diphtheria (1)
 เชื้อ C. diphtheriae เจริญเติบโตเฉพาะทีท
่ างเดินหายใจ ผิวหนัง
 พยาธิวท
ิ ยาของโรคเกิดจาก exotoxin (เป็ น 62-kd polypeptide)
 Exotoxin
------> เกิดการตายของ epithelial cell,
fibrin, WBC, RBC etc.
Pseudomembrane สี เทา นา้ ตาล
ลอกออกยาก และมีเลือดออกได้
( Nelson Textbook of Pediatric, 17th edition, P886-889. )
พยาธิวทิ ยา & พยาธิสภาพของ Diphtheria (2)
 Exotoxin
---> Cardiomyopathy ---> myocarditis (1-2 wk)
---> Demyelination of nerve ---> neuritis (2-8 wks)
---> Necrosis of renal tubule ---> nephritis (2-10 wks)
---> Blood components ---> thrombocytopenia
(2-10 wks)
 การเฝ้ าระวังใน รพ. 2-4 สั ปดาห์ เป็ นสิ่ งจาเป็ น
( Nelson Textbook of Pediatric, 17th edition, P886-889. )
การวินิจฉัยโรค
แนวทางการวินิจฉัย “โรคคอตีบ”
1. ทางระบาดวิทยา
2. ทางด้ านคลินิก
3. ทางห้ องปฏิบัติการ
อาการทางคลินิกของโรคคอตีบ
 Incubation period ประมาณ 2-4 วัน
 Low grade fever
 เจ็บคอ (ไม่ ค่อยมีนา้ มูกไหล ไม่ ค่อยไอ) มี throat patch(สาคัญมาก)
 อาการตามตาแหน่ งของ diphtheriatic patch
1. Nasal นา้ มูกปนเลือด (มักเป็ นข้ างเดียว)
2. Tonsillar, pharyngeal เจ็บคอ ต่ อมนา้ เหลืองโต คอบวมใน
รายรุ นแรง ( Bullneck diphtheria)
3. laryngeal อาการ airway obstruction
4. Others eg. cutaneous, vaginal etc.
Diphtheria and Clinical Forms
1. Pharyngotonsillar diphtheria : very severe, high
fatality rate “Bull neck”(most severe form)
2. Laryngeal diphtheria : severe with airway obstruction
3. Nasal diphtheria : less severe, nasal obstruction
4. Others :- cutaneous, ear, eye, genital.
Frequency of presenting symptoms among all hospitalized
diphtheria patients and 19 diphtheria deaths, Kyrgyz Republic, 1995
Myocarditis 22%,
Neuritis 5%
(Kadirova R.JID2000;181(Suppl1):S110-5.)
การพิเคราะห์ แยกโรคของ“Throat Patch”
1. Diphtheria
2. Streptococcal Pharyngotonsillitis and other
streptococcal pharyngitis
3. Infectious mononucleosis
4. Moniliasis
5. Post Tonsillectomy
5. Adenoviral infection
6. Agranulocytosis
7. Histiocytosis X (Letterer-Siwe Syndrome)
การพิเคราะห์ แยกโรคของ“Croup Syndrome”
Croup = Upper airway obstruction from any causes
1.
Viral croup eg. PIV, influenza, RSV, etc.
2.
Bacterial croup eg. Diphtheria, Staphylococcal
tracheitis etc.
3.
Foreign body in upper or lower respiratory tract
4.
Epiglottitis eg. viral or bacteria (Hib)
5.
Spasmodic croup
แนวทางการวินิจฉัย “โรคคอตีบ”
1. ทางระบาดวิทยา
2. ทางด้ านคลินิก
3. ทางห้ องปฏิบัติการ
Laboratory Findings
การตรวจทางเชื้อแบคทีเรีย C. diphtheriae
 Swab จาก patch ทาการย้ อมสี กรัมพบ “Chinese letter” (แยกจาก
เชื้ออืน่ ๆ )
 Swab จาก patch, ใต้ patch หรือ patch ไปเพาะเชื้อลงใน sheep
blood and Tellurite media -Amie

Blood agar plate

Corynebacterium (วันที่ 3)
gram stain
(+ve bacilli)
Biochem.
Gel diffussion
ดู toxin (วันที่ 5-6)
การดูแลรักษาผู้ป่วยโรค diphtheria
การดูแลรักษาโรคคอตีบ(Diphtheria) ในรายที่ยนื ยัน/สงสั ย
1. ให้ DAT ทันทีหลังทดสอบปฏิกริ ิยาแพ้ทผี่ วิ หนัง
2. ให้ การวินิจฉัยทางห้ องปฏิบัติการ- culture with toxin test
3. ให้ ยาปฏิชีวนะทีเ่ หมาะสม- Penicillin, Erythromycin
4. ให้ การดูแลประคับประคอง ดูทางเดินหายใจและเฝ้ า
ระวังภาวะ myocarditis, neuritis etc.
การให้ DAT ในผู้ป่วย เมือ่ :1.
2.
3.
ยืนยันเป็ น diphtheria – toxicogenic strain
สงสั ยเป็ น diphtheria – toxicogenic strain เมื่อ
2.1 ยังวินิจฉัยเป็ นโรคอืน่ ไม่ ได้
2.2 มีอาการเลวลงอย่ างรวดเร็ว(ทางเดินหายใจ)
2.3 เดินทางไปประเทศที่มีการระบาดของโรคคอตีบ
2.4 สั มผัสกับผู้ทเี่ ดินทางมาจากประเทศทีม่ ีการระบาดของโรคคอตีบ
2.5 ไม่ เคยได้ รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ อายุ
ในผู้ป่วยทีเ่ ป็ น diphtheria ของจมูก ตา ผิวหนัง ทีม่ ีอาการรุนแรงควรให้
DAT (cutaneous diphtheria ทีอ่ าการไม่ รุนแรงอาจไม่ ต้องให้ DAT)
ขนาดของ DAT ทีใ่ ห้ ในผู้ป่วยยืนยัน/สงสั ยโรคคอตีบ
 ผสม DAT ใน Normal
saline, ให้ IV drip ช้ าๆ ใช้ เวลาเป็ นชั่วโมง
- Anterior nasal
10,000 - 20,000 units
- Pharyngeal or laryngeal (ภายใน 2วัน) 20,000 - 40,000 units
- Nasopharyngeal or combine type
40,000 - 60,000 units
- Bull neck หรืออาการมากกว่ า 3 วัน
80,000 -120,000 units
 ไม่ มีความจาเป็ นต้ องให้ DAT ซ้าเพราะอาจเพิม
่ อาการข้ างเคียง
การทดสอบปฏิกริ ิยาทางผิวหนังของ DAT


ปกติบุคคลจะแพ้นา้ เหลืองม้ า (horse serum) ประมาณ 5-20%
การทา skin test ดังนี้
:- ฉีดนา้ ยาทีเ่ จือจาง 1: 1000 ขนาด 0.02 ซี.ซี. ID
:- หากทาได้ - ให้ มี positive control ด้ วย Histamine
- ให้ มี negative control ด้ วย saline
:- รอนาน 15-20 นาที
:- อ่ านผลรอยนูน (wheal) ขนาดตั้งแต่ 3 ม.ม. ทีม่ ากกว่ า
negative control ถือว่ า positive
:- ให้ DAT ต้ องทา desensitization - ถ้ า skin test positive
(Feigin, Cherry. Textbook of Ped. Infect. Dis. edition 6th, 2009;p1399-1400)
Desensitization of Horse Serum, IV


IV ดีทสี่ ุ ด เตรียมยาและเครื่องมือให้ พร้ อม
ฉีด IV ทุก 15 นาที และเฝ้ าดูอาการ ;
0.1 ml of
0.3 ml of
0.6 ml of
0.1 ml of
0.3 ml of
0.6 ml of
0.1 ml of
0.3 ml of
0.6 ml of
0.1 ml of
0.3 ml of
0.6 ml of
1 ml of
1:1000
1:1000
1:1000
1:100
1:100
1:100
1:10
1:10
1:10
undilute
undilute
undilute
undilute
dilution. IV
dilution. IV
dilution. IV
dilution. IV
dilution. IV
dilution. IV
dilution. IV
dilution. IV
dilution. IV
dilution. IV
dilution. IV
dilution. IV
dilution. IV ทีเ่ หลือให้ IV ซ้าๆ จนหมด
(Feigin, Cherry. Textbook of Ped. Infect. Dis. edition 6th, 2009;p1399-1400)
การดูแลรักษาโรคคอตีบ(Diphtheria) ในรายที่ยนื ยัน/สงสั ย
1. ให้ DAT ทันทีหลังทดสอบปฏิกริ ิยาแพ้ทผี่ วิ หนัง
2. ให้ การวินิจฉัยทางห้ องปฏิบัติการ- culture with toxin test
3. ให้ ยาปฏิชีวนะทีเ่ หมาะสม- Penicillin, Erythromycin
4. ให้ การดูแลประคับประคอง ดูทางเดินหายใจและเฝ้ า
ระวังภาวะ myocarditis, neuritis etc.
ขนาดของ Antibiotics ทีใ่ ห้ ในผู้ป่วยยืนยัน/สงสั ยโรคคอตีบ
เด็ก
:- PGS 100,000 – 200,000 ยูนิต/กก/วัน แบ่ งทุก 6 ช.ม.x 14 วัน
:- Erythromycin 50 มก/กก/วัน แบ่ งทุก 6 ช.ม.x 14 วัน
:- Procaine Pencillin 25,000 – 50,000 ยูนิต/กก/วัน แบ่ งทุก
12 ช.ม.x 14 วัน (ไม่ มีใช้ แล้ว)
ผู้ใหญ่ **:- PGS 3-4 ล้านยูนิต, IV drip ทุก 6 ชั่วโมง x 14 วัน
:- Erythromycin 2 กรัม/วัน แบ่ งทุก 6 ช.ม.x 14 วัน
** คาแนะนาจากศ.นายแพทย์ ธีระพงษ์ ตัณฑะวิเชียร
Penicillin VS Erythromycin in the Treatment of Diphtheria



Penicillin group :- PGS 50,000 u/kg/d x5 d, then oral Pen V x 5d
Erythromycin group :- 50 mg/kg/d x 10d
Result :-
• N
• Fever clearance
Penicillin
Erythromycin
P
44
42
-
27 hr
46 hr
0.0004
(95% CI; 19-30) (95% CI; 34-54)
• Myocarditis
3
1
NS
• C. diphtherial
resistant
0
27%
-
Penicillin is recommended as drug of first choice
( Kneen R, et al. Clin Infect Dis 1998; 27: 845-50. )
การดูแลรักษาโรคคอตีบ(Diphtheria) ในรายที่ยนื ยัน/สงสั ย
1. ให้ DAT ทันทีหลังทดสอบปฏิกริ ิยาแพ้ทผี่ วิ หนัง
2. ให้ การวินิจฉัยทางห้ องปฏิบัติการ- culture with toxin test
3. ให้ ยาปฏิชีวนะทีเ่ หมาะสม- Penicillin, Erythromycin
4. ให้ การดูแลประคับประคอง ดูทางเดินหายใจและเฝ้ า
ระวังภาวะ myocarditis, neuritis etc.
วิธีการเฝ้ าสั งเกตอาการแทรกซ้ อนของโรคคอตีบ
1. Admit ในโรงพยาบาลและ absolute bed rest 2-4 สั ปดาห์
2. การตรวจผู้ป่วยประจาวัน
2.1 record vital sign ทุก 6 ชม.
2.2 record intake / output ทุกวัน
2.3 ฟังเสี ยงการพูดว่ า “มีเสี ยงขึน้ จมูกหรือไม่ ”
2.4 ดูการดืม่ นา้ กินอาหารว่ ามีอาการสาลักหรือไม่
3. Lab. Investigation
3.1 ตรวจ EKG ทุกวัน
3.2 ตรวจ urine exam ทุก 1-2 วัน/ครั้ง
3.3 culture เชื้อจากคอซ้าเมื่อให้ ยาปฏิชีวนะครบ 14 วัน
Diphtherial Myocarditis
 เกิดขึน
้ 1-6 สั ปดาห์ หลังป่ วย (พบบ่ อยสั ปดาห์ ที่ 2-3)
 อุบัติการณ์ พบ 10-25% ของผู้ป่วย; ตาย 50-60%
 ปัจจัยที่สาคัญ คือ ให้ DAT เร็ วที่สุด โด๊ ซเหมาะสมที่สุด
 การรั กษาเมื่อเกิด heart failure; dopamine, dobutamine, milrinone
 Steroid, IVIG ไม่ มีประโยชน์
 อาการ
:- sinus tachycardia
:- prolonged PR interval, ST-T wave change
:- 1st , 2nd , 3rd – degree heart block
Diphtherial Neuritis
 เกิดขึน
้ 2-3 สั ปดาห์ หลังป่ วย,
 อาการ
facial N. paralysis พบในสั ปดาห์ ที่ 5
:- ชา
:- paralysis of soft palate
:- paralysis of post pharyngeal, laryngeal, facial N
:- พูดเสี ยงขึน้ จมูก สาลักเวลากินนา้ &อาหาร
:- symmetric polyneuropathy eg. motor weakness,
reflex  , strabismus, blurred vision
:- GBS- like syndrome
ข้ อควรระวังในการดูแลรักษาโรคคอตีบ
1. หลีกเลีย่ งการใส่ endotracheal tube, ควรเจาะคอหากมีอาการ
airway obstruction เพราะขณะใส่ tube อาจเกิดเลือดออกมาก,
toxin แพร่ กระจายมากขึน้ ผู้ป่วยอาจมีอาการมากขึน้
2. ให้ oxygen mask มักไม่ ได้ ผล
3. Steroid ไม่ ได้ ผล
4. หากสงสั ย diphtheria ให้ DAT และ antibiotic ทันที
และส่ งเพาะเชื้อจากคอซ้าจนกว่ าไม่ พบเชื้อ 2 ครั้ง
การดูแลรักษาผู้สัมผัส diphtheria
การดูแลผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคคอตีบ(1)
 สั มผัสร่ วมบ้ านทีย่ น
ื ยันเป็ น C. diphtheriae, toxigenic strain
1. ให้ ยาปฏิชีวนะเพือ่ ป้ องกัน
1.1 Benzathine Penicillin 6000,000-1,2000,000 unit ครั้งเดียว(ไม่ มีแล้ ว)
1.2 Erythromycin 50 มก/กก/วัน นาน 7-10 วัน
2. ให้ ทาการเพาะเชื้อจากคอ
3. ให้ DPT หรือ Td หรือ Tdap กระตุ้น 1 ครั้งในผู้ทเี่ คยรับวัคซีนมาก่ อน
ในผู้สัมผัสที่ ไม่ เคยฉีดวัคซีนมาก่ อน หรือ ไม่ ทราบประวัตใิ ห้ ฉีด DPT
(ในเด็กอายุตา่ กว่ า 6 ปี ) หรือ Td จานวน 3 โด๊ ช ที่ 0, 1-2, 6-12 เดือน
4. อาจพิจารณาให้ DAT ขนาด 10,000 unit หลังทดสอบทางผิวหนังในรายทีจ่ าเป็ น
การดูแลผู้สัมผัสใกล้ ชิดกับผู้ป่วยโรคคอตีบ(2)
ผู้สัมผัสควรได้ รับ :- Erythromycin 7-10 วัน
:- TSC for toxigenic C. diphtheriae
ผล –ve
รักษาครบ
- หยุด* ถ้ า TSC +ve หลังจากนั้น
ควรมี TSC –ve ประมาณ 2 ครั้ง
ผล +ve (พาหะ, carrier)*
TSC ซ้า 24 ชม.
หลังรักษาครบ
ผล –ve
อีก 2 สั ปดาห์
ทา TSC อีกครั้ง
ผล –ve
อีก 2 สั ปดาห์
ทา TSC อีกครั้ง
ผล +ve (พบ 20%)
ให้ Erythromycinอีกx10วัน
TSC ซ้า
ผล +ve
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
รักษาต่ อ
การให้ DAT ในผู้สัมผัส เมือ่ :
DAT เพือ่ ป้องกันนั้นมีที่ใช้ น้อย อาจพิจารณาใช้ ดังนี้ (US-CDC)
1. ผู้ที่สัมผัสใกล้ ชิดผู้ป่วยที่มเี ชื้อ toxigenic C. diphtheriae
2. ผู้ที่สัมผัสหรือสงสั ยสั มผัสใกลชิด ผู้ป่วยที่มเี ชื้อ toxigenic
C. diphtheriae ที่ฉีดวัคซีนไม่ ครบ / ไม่ ทราบ
3. ผู้ที่สัมผัสใกล้ ชิดที่หรือสงสั ยสั มผัสใกล้ ชิดผู้ป่วยที่มเี ชื้อ toxigenic
C. diphtheriae ที่ไม่ สามารถติดตามได้
ให้ DAT 10,000 unit, IM หลังทดสอบผิวหนังแล้ ว
Number of hospitalized diphtheria patients in the Kyrgyz Republic in
1995,according to the WHO/UNICEF classification system.
(Kadirova R.JID2000;181(Suppl1):S110-5.)
Prognosis
ความเสี่ ยงในการเกิด Diphtheria และ Carrier (พาหะ)
 ความเสี่ ยงในการเกิด carrier ในผู้สัมผัสร่ วมบ้ านกับ
ผู้ป่วย ~ 0 - 25%
 ความเสี่ ยงในการเกิด diphtheria ในผู้สัมผัสร่ วมบ้ านกับ
ผู้ป่วย ~ 2%
 ความเสี่ ยงในการเกิด diphtheria ในการสั มผัสกับ
carrier ~ 0.3%
ความเสี่ ยงในการเกิดโรคคอตีบ
1.
2.
3.
4.
สั มผัสร่ วมบ้ านกับคนเป็ น diphtheria
ระดับ immunity (DAT) ของ host
การได้ รับ diphtheria toxoid มาก่ อน และ booster
ความแข็งแรงของ host
อัตราตายของโรคคอตีบ
ในอดีตโรคคอตีบมักเกิดในเด็ก อัตราตาย ~ 5-10%
 อัตราการเกิดโรคแทรกซ้ อน
- Myocarditis
~ 10-25%
- Neuritis
~ 5%
 อัตราตายจาก myocarditis ~ 50-60%
 อัตราตายจาก bull neck diphtheria ~ 50%
 อัตราตายจะลดลงถ้ าให้ DAT ขนาดที่เหมาะสมและทันที
 อัตราตายจะลดลงถ้ าผู้ป่วยมาหาแพทย์ หรื อ diagnosis ได้ เร็ว

การป้ องกัน
หลักการของวัคซีน Diphtheria Toxoid
1. ทามาจาก C. diphtheriae toxin มาทาลายพิษ แต่ ยงั คง
กระตุ้นภูมคิ ุ้มกัน (Diphtheria antitoxin : DAT) ได้
2. ภูมคิ ุ้มกัน (DAT) ป้องกันการติดเชื้อ C. diphtheriae
ไม่ ได้
3. ภูมคิ ุ้มกัน (DAT) ป้องกันโรคคอตีบ (มีอาการป่ วย) ได้
DAT Level for Protection
 DAT <0.01
IU/ml
 DAT 0.01-0.1 IU/ml
 DAT >0.1 IU/ml
 DAT >1.0 IU/ml
( N Emgl J Med 1954; 251: 459-66. )
= no protection
= partial protection
= full protection
= long term protection
(several years)
How many dose of Td for good protection?
ในช่ วงที่มีการระบาดของ diphtheria
ควรฉีดวัคซีน diphtheria toxoid (Td.) กีเ่ ข็ม
1 หรือ 2 หรือ 3 ???
Immunogenicity of Tetanus-Diphtheria Toxoids (Td) among
Ukrainian Adults: Implications for Diphtheria Control
(Sutter RW.JID2000;181(Suppl1):S197-202.)
Immunogenicity of Tetanus-Diphtheria Toxoids (Td) among
Ukrainian Adults: Implications for Diphtheria Control
Td 1 หรือ 2 เข็ม booster ในผู้ใหญ่ ผลเท่ ากัน
(Sutter RW.JID2000;181(Suppl1):S197-202.)
Immune Response to Diphtheria Booster Vaccine in
the Baltic States
A single dose of Td vaccine contain D 3,6,12 Lf : No different in response
(Ronne T..JID2000;181(Suppl1):S213-9.)
How Many Doses of Diphtheria Toxoid Are Required for Protection in Adults?
Results of a Case-Control Study among 40- to 49-Year-Old Adults in Russian
Td 3 เข็มในผู้ใหญ่ จงึ จะได้ ผลดีในการป้ องกัน
(Brennan M.JID2000;181(Suppl1):S193-6.)
วัคซีน DPT, Td ที่เริ่มใช้ ในประเทศไทย

DPT ใน EPI program เริ่ม พ.ศ.2520 (2 เข็ม)
(ให้ 3 เข็มปี พ.ศ.2528)
 Td เป็ นวัคซีนสาหรับ booster ในนักเรียนปี
 Td เป็ นวัคซีนสาหรับหญิงตั้งครรภ์ ในปี
พ.ศ.2525
พ.ศ.2548
การใช้ วคั ซีน Td ในกรณีปกติหรือเกิดการระบาด
ของโรค Diphtheria

ในกรณีระบาด การฉีดวัคซีนปูพรมจาเป็ นในการควบคุมโรค1

ในกรณีไม่ มีการระบาด การ booster Td ทุก 10 ปี จาเป็ นหรือ
อาจต้ องเร็วกว่ านั้นเพราะเชื้อจะลดลงเมื่อไม่ มีผู้ป่วย ซึ่งจะไม่
มีการกระตุ้นโดยธรรมชาติ2
 เมื่อมีการระบาดใหญ่ ควรใช้
Td vaccine ปูพรม 1 เข็มจะ
ได้ ผลดี, แต่ ถ้า 2 เข็มดียงิ่ ขึน้ ถ้ า 3 เข็มในกรณีไม่ เคยฉีดมาก่ อน
1 = Eur J Epidimiol 1995; 11: 107-17.
2 = Eur J Epidimiol 1995; 11: 95-105.
ผลข้ างเคียงของ Td. vaccine

อาการบวม แดง เจ็บเฉพาะที่ พบบ่ อย ไม่ ค่อยมีไข้ อาจพบเป็ นตุ่มไต
ที่ผวิ หนัง
 อาการบวมเจ็บรุ นแรง (Arthus-like reaction) อาจพบได้ บ้าง อาการ
บวมเจ็บจากหัวไหล่ ไปถึงศอกพบใน 2-8 ชม.หลังฉีด และพบในผู้ที่มี
ภูมิคุ้มกันในร่ างกายต่ อ Tetanus และ Diphtheria สู งมาก ควรงด
เข็มต่ อไป หรืองด booster อีกภายใน 10 ปี
การป้ องกันการแพร่ กระจายเชื้อ C. diphtheriae ในโรงพยาบาล
1. Respiratory diphtheria
- ป้องกันโดย droplet precaution
- ป้องกันโดยใช้ mask, glove, gown, (goggle)
2. Cutaneous diphtheria
- ป้องกันโดย contact precaution
- ป้องกันโดยใช้ glove, gown
3. Admit ในห้ องแยกเดีย่ ว, cohort ward
Download