Uploaded by chompoonoot boonsopa

การดูแลทารกแรกเกิดและการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

advertisement
การดู แลทารกแรกเกิดหลัง
คลอด
้
และการเลียงลู
กด้วยนมแม่
ผศ.พญ.ชมพู นุท บุญโสภา
กุมารแพทย ์ทารกแรกเกิด
อาจารย ์ คณะแพทยศาสตร ์
มหาวิทยาลัยนเรศวร
Outlines
• การดู แลทารกแรกเกิดหลังคลอด
่
• การเปลียนแปลงทางกายวิ
ภาคและสรีรวิทยา
• การตรวจร่างกายทารก
• การดู แลทารกประจาวัน
่
• ปั ญหาสุขภาพทีพบในทารกแรกเกิ
ด
้
• การเลียงลู
กด้วยนมแม่
้
• ประโยชน์ของการเลียงลู
กด้วยนมแม่
่ ้ านม
• กายวิภาคศาสตร ์สรีรวิทยาของการสร ้างและการหลังน
• กลไกการดู ดนมแม่
• การจัดท่าให้นม
การดู แลทารกแรกเกิดหลังคลอด
• ลักษณะทารกทางสรีรวิทยาและกายวิภาค
• การตรวจร่างกายทารก
• การพยาบาลทารกแรกเกิดทันที
• การดูแลทารกประจาว ัน
่
• ปั ญหาสุขภาพทีพบในทารกแรกเกิ
ด
After birth
่
การเปลียนแปลงทางสรี
รวิทยา
• ระบบหายใจ
• ระบบหัวใจและการไหลเวียน
เลือด
• ระบบโลหิต
• ระบบควบคุมอุณหภู ม ิ
• ระบบผิวหนัง
• ระบบประสาท
• ระบบทางเดินอาหาร
• ระบบขับถ่ายปั สสาวะ
• ระบบภู มค
ิ ม
ุ ้ กัน
• ระบบต่อมไร ้ท่อ
• ระบบอวัยวะสืบพันธุ ์
ระบบหายใจ
่
• ทารกจะเริมหายใจภายใน
30 วินาทีแรกคลอด
้ั
• อ ัตราการหายใจ 40-60 ครง/นาที
• ลักษณะการหายใจปกติ คือ ปี กจมู กไม่บาน ไม่มเี สียง
grunting หน้าอกไม่บุ๋ม
และไม่มป
ี ลายมือปลายเท้าเขียว
Normal of vital signs
• Temperature :
• Axillary or Rectal temperature ปกติอยู ่ในช่วง 36.5 37.5 ๐C
• Pulses :
้ั
• HR ปกติจะอยู ่ในช่วง 120-160 ครง/นาที
• จังหวะหัวใจต้องปกติ (regular rhythm)
• PMI at 3-4 intercostal space slightly to left
midclavicular line
ภาพการหายใจอกบุ๋ม
subcostal retraction
intercostal
Grunting [Internet]. 2017 [cited 2017 Jan 4].
Available from: https://youtu.be/6xQ5VmLfAMg
ระบบการไหลเวียนโลหิต
ระบบการไหลเวียนโลหิต
่
• มีการเปลียนจากระบบไหลเวี
ยนของทารกในครรภ ์ (fetal
circulation) มาเป็ นระบบ
ไหลเวียนของทารกแรกเกิด ทาให้มก
ี ารปิ ดของ bypasses
ทัง้ 3 โครงสร ้าง คือ
• ductus arteriosus
• foramen ovale
• ductus venosus
การไหลเวียนโลหิต : ทารกในครรภ ์
(fetal circulation)
ระบบโลหิต
• ปริมาณเลือดในร่างกาย 80-90 ml/kg
• ปริมาณเม็ดเลือด :
้ั (90 วัน), แรกเกิด Hct 45-65% ต่อมาจะค่อยๆ
• RBC : มีอายุสน
ลดลง จนถึงอายุหลัง 2 เดือน ค่า Hct จึงจะอยู่ในเกณฑ ์เทียบเท่ากับ
ผูใ้ หญ่
่
• WBC : 15,000-25,000 cells/mm3 จะลดลงเท่าผูใ้ หญ่เมืออายุ
13-14 ปี
่ าผูใ้ หญ่
• Platelet : 150,000-250,000 cells/mm3 จะค่อยๆเพิมเท่
่
เมืออายุ
3 เดือน
่ เต็มทีเพราะต
่
• Coagulation factors ทาหน้าทีไม่
้องอาศัย
ระบบการควบคุมอุณหภู มข
ิ องร่างกาย
่
่
• ช่วงอุณหภู มข
ิ องสิงแวดล้
อมทีเหมาะสม
คือ
• 26-27๐C ในทารกครบกาหนด
้ บอายุครรภ ์แรกเกิด)
• 31-34๐C ในทารกก่อนกาหนด (ขึนกั
• สร ้างความร ้อนโดยอาศ ัย brown fat โดยการใช้พลังงานและ
ออกซิเจน
• สู ญเสียความร ้อนได้ง่ายจาก
้ ผิ
่ วหนังกว ้างเมือเที
่ ยบกับนาหนั
้
• พืนที
กตัว
• ผิวหนังบาง
• เส ้นเลือดอยูใ่ กล ้ผิวหนังมาก
• ไขมันสะสมใต ้ผิวหนังมีนอ้ ย
Heat loss ในทารกเกิดจาก
1. Conduction (การนา)
ตัวทารกสัมผัสก ับวัตถุทเย็
ี่ นกว่า เช่น
่
ผ้าอ้อมทีแฉะ
2. Convection (การพา)
่ ลมพัดผ่าน
อยู ่ในทีมี
3. Evaporation (การระเหย)
่ ยก
จากตัวทีเปี
4. Radiation (การแผ่ร ังสี)
่
จากตัวทารกเองให้ก ับสิงแวดล้
อม
ระบบผิวหนัง
่
• ผิวหนังจะยึดติดกันอย่างหลวมๆ ทาให ้เกิดผดผืนได
้ง่าย
• ผมและขนอ่อน (lanugo) ตามหลังและไหล่ 2-3 เดือนจะหลุดร่วง มี
้
ผมขึนมาแทน
่ ดตัวมาตังแต่
้ แรกเกิด)
• ต่อมไขมันหลัง่ vernix caseosa (ไขสีขาวทีติ
• ต่อมเหงือ่ 2-3 วันไปแล ้ว ช่วยควบคุมความร ้อนในร่างกาย
ระบบประสาท
่
• สมองชน้ั cortex ยังเจริญไม่เต็มที่ พฤติกรรมทีแสดงออกจะถู
ก
ควบคุมด ้วยสมองส่วนล่างและไขสันหลัง ทาให ้เกิดปฏิก ิรยิ าสะท ้อน
กลับ เรียกว่า “Reflex”
• การร ับสัมผัสจะมีมากใน 30-45 นาทีแรก
• การร ับรส จะชอบรสหวาน
• การได ้ยินเสียง ร ับเสียงดังถึง 90 dB
• มองเห็น ในระยะ 7-12 นิ ว้
่ จะจากลินน
่ านมมารดาได
้
• กลิน
้ใน 2-3 วันแรก
ระบบทางเดินอาหาร
• Stomach : มีความจุ 6 ml/kg และขยายได ้ 90 ml ภายใน 2-3 วัน
แรก
• Cardiac sphincter : คลายตัว
่ วยสังเคราะห ์ Vit K
• Intestines : ยังไม่มี normal flora ทีช่
่ ออายุ
่
้ อยจากตับ
• Enzymes : salivary glands หลังเมื
3 เดือน นาย่
่ างานเมือ
่
อ่อน จะเริมท
อายุ 3-6 เดือน
• Hepatic : ยังทางานไม่สมบูรณ์ ส่งผลต่อระดับ blood glucose,
conjugation of bilirubin,
Before phototherapy
Phototherapy
Hyperbilirubinemia
่
• Physiologic jaundice : จะพบหลัง 24 ชัวโมงหลั
งเกิด
่
• Pathologic jaundice : จะพบภายใน 24 ชัวโมงแรกหลั
งเกิด
• Breast milk-associated jaundice :
• Breast feeding jaundice : เกิดจาก inadequate intake ได ้ร ับนม
แม่ไม่เพียงพอ จะพบในช่วง 3 วัน ถึง 2 สัปดาห ์หลังเกิด
้
• Breast milk jaundice : จะพบว่ามีตวั เหลือง ตังแต่
1-2 สัปดาห ์หลัง
่ นช่วงทีทารกได
่
้
เกิด จนถึงอายุ 2 เดือน ซึงเป็
้ร ับนมแม่เพียงพอและนานมแม่
่ าเกิดจากสาร betaไหลดีแล ้ว สาเหตุยงั ไม่ทราบแน่ ชดั แต่เชือว่
้
่
glucuronidase ในนานมมารดา
ขัดขวางการ conjugation หรือเพิม
การดูดซึม bilirubin จากลาไส ้
ระบบขับถ่ายปั สสาวะ
• Glomerulus มีขนาดเล็ก ทาให ้อัตราการกรองต่า
้ ทาให ้นาตาลและโปรตี
้
• Proximal tubules สัน
นไม่ถก
ู ดูดกลับ
้ และ ADH
• Loops of Henle, Distal & collecting tubules สัน
(antidiuretic hormone) มีนอ้ ย ทาให ้ปัสสาวะไม่มค
ี วามเข ้มข ้น
• Uric acid crystal ทาให ้ปัสสาวะมีสช
ี มพูหรือสีแดงอิฐ
• ความต้องการน้ าในทารกครบกาหนด
้ั น
• 2 วันแรก 65 ml/kg ปัสสาวะ 2-6 ครง/วั
้ั น
• หลัง 2 วันไปแล ้ว ต ้องการนา้ 100-150 ml/kg ปัสสาวะ 6-25 ครง/วั
ภู มค
ิ ม
ุ ้ กัน
• ภู มค
ิ ม
ุ ้ กันจะได้จากแม่ผ่านรก หลังคลอดจะลดลง ทาให้เกิด
physiological
hypogammaglobulinemia ในช่วง 3-5 วัน
• ภู มค
ิ ม
ุ ้ กันจะมี 3 ตัวหลัก คือ
้ ไตรมาสแรกและมากทีสุ
่ ดใน
• IgG ได ้จากมารดาผ่านทางรก ตังแต่
ไตรมาสที่ 3
• IgM ทารกเป็ นผูส้ ร ้างเอง
้
• IgA จะพบในนานมมารดา
ช่วยป้ องกันการติดเชือ้ GI & URI
ระบบต่อมไร ้ท่อ
• ทารกได ้ร ับ hormone จากมารดาผ่านทางรก โดยเฉพาะ steroid
hormone
• แรกเกิดต่อมไร ้ท่อทางานได ้สมบูรณ์
ระบบสืบพันธุ ์
• ในทารกแรกเกิด ระบบสืบพันธุ ์จะได ้ร ับอิทธิพลจาก hormone เพศ
่
จากมารดา ในทารกเพศหญิง อาจมี pseudomenstruation ซึงจะ
มีลก
ั ษณะคล ้ายประจาเดือนออกมาได ้
Assessment of the
normal newborn
Assessment of the normal
newborn
• Apgar score : for respiratory problems
• Assessing for anomalies : body examination
• Assessment of Gestational age
Apgar score
Normal of measurements
• Weight : 2,500-4,000 g (weight loss up to 10% in
early days)
• ทารกครบกาหนดน้ าหนักตัวน้อย (low birth weight) คือ น้อย
กว่า 2,500 กร ัม
• Length : 48-53 cm
• Head circumference : 35 (+ 2 cm)
• Chest circumference : 30.5-33 cm (2-3 cm less than
head circumference)
การวัดขนาดต่างๆในทารกแรกเกิด
Normal of Posture
• Flexed extremities, resist extension, return quickly
to flexed state
• Hands usually clenched
• Movement symmetric
• Slight tremors on crying
• Normal of cry
• ร ้องเสียงดัง
Normal of Skin
• Color : pink or tan (according to race with
acrocyanosis)
• Vernix caseosa
• Small amounts of lanugo over shoulders, forehead,
upper back
• Skin turgor : good with quick recoil
Abnormal Skin
• Skin color :
• Central cyanosis (เขียว)
่
• Plethora (แดงกา)
• Pale (ซีด)
• Jaundice (เหลือง)
Normal head
• 1/4 of the body size
• Molding : - shape of the head at long second stage of labor
- resolves within a few days to a week
Fontanelles
Anterior fontanel (กระหม่อมหน้า) :
• diamond shape 4-5 cm
• soft & flat, may bulge slightly with crying
่
่
• ปิ ดเมืออายุ
18 เดือน (1 ปี ครึง)
Posterior fontanel (กระหม่อมหลัง) :
• triangle shape
่
่
• ปิ ดเมืออายุ
6 สัปดาห ์ (1 เดือนครึง)
Abnormal of head
Normal of Ears
• อยู ่ในระดับมุมหางตา
• ใบหู รูปทรงดี
• Response to loud noises
• Alert to high pitched voice
Normal of Face
่
่ ้อง
• ใบหน้า : ค่อนข ้างกลม เคลือนไหวเท่
ากันทัง้ 2 ข ้างเมือร
• Eyes :
• มีลก
ู ตา, symmetric, pupils react to light, alert to interesting
sights
• อาจมี subconjunctival hemorrhage หรือการบวมของเปลือกตาได ้
เนื่ องจากแรงดันขณะเบ่งคลอด
้
• Nose : แบน แคบและเล็ก มีชอ่ งกันระหว่
างจมูกและเพดาน
ภาพความผิดปกติของใบหน้า
Facial paralysis
ภาพเด็ก Down syndrome
Normal of mouth
• ปากปิ ดสนิ ท มุมปากทัง้ 2 ข้างอยู ่ในระด ับเดียวกัน
้ สีชมพู
• ริมฝี ปาก เหงือก ลิน
้
่
• ลินขนาดปกติ
และเคลือนไหวได้
ดี
่
• ริมฝี ปากและเพดานเชือมติ
ดกัน
• ไม่มฟ
ี ั น เพดานปากเรียบ
• ไม่มก
ี ารหักของขากรรไกร
• สามารถดูดนมได้ไม่มก
ี ารสาลัก
Normal variation of mouth
้ (Natal tooth)
มีฟันขึน
ตุม
่ ขาวในปาก (Ebstein’s pearl)
Abnormal of mouth
Cleft lip cleft palate
Tongue tie
Abnormal of neck
 Torticollis or wry neck คอเอียง สาเหตุทพ
ี่ บบ่อยเกิดจาก
ั ้ กว่าปกติ
ความยาวของกล ้ามเนือ
้ sternocleidomastoid สน
หรือเกิดจากการคลอดท่า breech ทีม
่ ก
ี ารดึงรัง้ บริเวณคอ
 Web neck พบได ้ใน Turner syndrome
Torticollis
Web neck
Abdomen
 ความผิดปกติของผนังหน้าท้อง :
่ งท ้องเลือ
 Omphalocele การมีอวัยวะภายในชอ
่ นผ่านฐานของ
่ งท ้อง โดยมี membrane ทีเ่ ป็ น
สะดือมาอยูน
่ อกชอ
peritoneum หุ ้มและมี umbilical cord ติดอยูท
่ ย
ี่ อดของ
membrane
Abdomen
 ความผิดปกติของผนังหน้าท้อง :
่ งท ้อง ยกเว ้นตับ
 Gastroschisis เป็ นภาวะทีอ
่ วัยวะภายในชอ
่ งท ้อง โดยไม่ม ี membrane หุ ้ม
และม ้าม ออกมาอยูน
่ อกชอ
ตาแหน่งผนังหน ้าท ้องทีผ
่ ด
ิ ปกติจะอยูข
่ ้างสะดือ และสาย
สะดือยังติดอยูท
่ ผ
ี่ นังหน ้าท ้องในตาแหน่งปกติ
ลักษณะของอวัยวะเพศชายและหญิง
ตามอายุครรภ์
Primitive reflex
Placing reflex
Rooting
reflex
การดู แลทารกประจาวัน
การดู แลทารกประจาวัน
• การดูแลผิวหนังและการ
อาบน้ า
• การดูแลสะดือ
• การดูแลเล็บ
• เสือ้
• อาหาร
• การอุม
้ เด็กทารก
• การอุม
้ ทารกเรอ
• การจัดท่านอนทารก
• การสารอก
• การถ่ายอุจจาระ
• การถ่ายปั สสาวะ
• วัคซีน
ความต้องการของเด็กทารก
ด้านร่างกาย
• อากาศ การพักผ่อน ความสะอาดร่างกาย อว ัยวะเพศ
• การอาบน้ าลู ก การดู แลสะดือและการทาความสะอาดสะดือ
• การดู แลทารกประจาวน
ั
้ า
• การใส่เสือผ้
• การดู แลให้ลูกร ับว ัคซีน
• อาหาร และน้ า
การอาบน้ าลู ก
ประโยชน์
่ ักษาความสะอาดของร่างกาย
1. เพือร
่
2. เพือกระตุ
น
้ การไหลเวียนเลือด
่
3. เพือความสุ
ขสบายแก่ลูก
่ องก ันการติดเชือ้
4. เพือป้
่ งเกตอาการผิดปกติทอาจเกิ
้
5. เพือสั
ี่
ดขึน
่ งเสริมความผู กพันระหว่างแม่กบ
6. เพือส่
ั ลู ก
่
7. เพือการกระตุ
น
้ พัฒนาการของลู ก
่
้ าลู ก
การเลือกสถานทีอาบน
1. ไม่ควรมีลมโกรก มิดชิด ไม่มด
ื ทึบ
2. อากาศถ่ายเทสะดวก
่ แสงสว่างเพียงพอ
3. ควรเป็ นทีมี
การเตรียมอุปกรณ์ทใช้
ี่ ในการอาบน้ า
1. เบาะสาหร ับรองอาบน้ าลู ก
2. อ่างอาบน้ าลู ก : ควรเป็ นอ่างพลาสติกหรืออ่างเคลือบ
้
3. ผ้าห่อตวั ลู ก : ขนาดใหญ่ ประมาณ 40 x 60 นิ ว
้
4. ผ้าเช็ดตัว : ขนาดใหญ่ ประมาณ 30 x 54 นิ ว
5. ผ้าอ้อม : ควรเป็ นผ้าฝ้าย
้ ก : ควรเป็ นแบบผ่าหลัง
6. เสือลู
่ บขอบเรียบร ้อย
7. ถุงมือ ถุงเท้า ชนิ ดทีเย็
8. สาลีสาหร ับเช็ดก้นหรือเช็ดหน้า
9. สาลีสาหร ับเช็ดตา
การเตรียมอุปกรณ์ทใช้
ี่ ในการอาบน้ า
10. ไม้พน
ั สาลี ชุบแอลกอฮอล ์ 70% สาหร ับเช็ดสะดือ
11.สบู ่สาหร ับทารกแรกเกิด
่ั
่ กผิวแห้งลอก
12.โลชนหรื
อออยล ์ใช้ทาเมือลู
13.กระโถนหรือถุงพลาสติก
้ า ถุงมือและของใช้ลูก
14.ตะกร ้า ใส่เสือผ้
การดู แลสะดือและการทาความสะอาด
สะดือ
• ทาความสะอาดสะดือ ด้วยไม้พน
ั สาลีชบ
ุ แอลกอฮอล ์ 70%
• การเช็ดสะดือ ทาได้ 2 แบบ คือ
1. กรณี ทสะดื
ี่
อลู กยังไม่แห้ง ให้เช็ดจากปลายไปยังโคน
สะดือ
2. กรณี ทสะดื
ี่
อลู กแห้งแล้ว ให้เช็ดจากโคนสะดือจนรอบ
ไปถึงปลายสะดือ
การดู แลสะดือ
ปฏิบต
ั ด
ิ งั นี ้
1. ไม่จาเป็ นต้องใช้แป้ งฝุ่ นโรยหรือห่อสะดือด้วยผ้า
2. เช็ดสะดือด้วยแอลกอฮอล ์ 70% หลังอาบน้ าหรือสะดือลู กแฉะ
3. สะดือจะหลุดเอง ประมาณ 7-10 ว ัน
่ ต้
่ องเฝ้าระวงั คือ
4. สิงที
่
• สะดือมีกลินเหม็
น อ ักเสบ บวม แดง
• สะดือแฉะหรือมีน้ าเหลืองซึมออกมาหลังสะดือหลุด
การดู แลการขับถ่าย: อุจจาระ
้
• ทารกจะถ่ายอุจจาระช่วงแรกออกมา เรียกว่า “ขีเทา”
้
่ั
• ทารกจะถ่ายขีเทาใน
8-24 ชวโมงหลั
งเกิด
• ใน 2-3 วัน อุจจาระจะเป็ นสีเหลืองปนเขียว เรียก “transitional
่
้
stool” หรืออุจจาระช่วงเปลียน
จากขีเทาเป็
นอุจจาระปกติ
้ สีของอุจจาระ จะเป็ นสีและลักษณะตามนมทีทารกกิ
่
• หลังจากนัน
น
่ นนมแม่ อุจจาระจะมีสเี หลืองทอง ลักษณะคล้ายแป้ งเปี ยก
• ทารกทีกิ
และถ่ายบ่อย
่ นนมผสม อุจจาระจะมีสอ
้ า และค่อนข้าง
• ทารกทีกิ
ี อกเขียวขีม้
่ นนมแม่ อาจพบมีทอ
เหนี ยวข้นกว่าอุจจาระของทารกทีกิ
้ งผู กหรือ
ถ่ายยากได้
การดู แลการขับถ่าย: ปั สสาวะ
่ั
• ทารกจะถ่ายปั สสาวะภายใน 24 ชวโมงหลั
งเกิด ถ้าไม่ถา
่ ยปั สสาวะ
ควรรีบบอกเจ้าหน้าที่
้ั ทารกถ่
่
• การดู แลการขับถ่าย ควรดู แลทาความสะอาดทุกครงที
าย โดย
• การทาความสะอาด ควรทาด้วยน้ าสะอาด
่ องก ันการเกิดผืน
่
• เช็ดให้แห้งเพือป้
การร ับวัคซีน
• เป็ นการสร ้างเสริมภู มค
ิ ม
ุ ้ กันโรคให้แก่ทารก
่
• เนื่องจากเมือทารกคลอดแล้
ว ภู มค
ิ ม
ุ ้ กันจะลดลงเร็ว ประมาณ
1-2 เดือนหลังการ
่
้ ง่าย
คลอด ทาให้ทารกในขวบปี แรกเสียงต่
อการติดเชือได้
ี ใน 1 ปี แรก
ระยะเวลาในการรับวัคซน
อายุ
แรกเกิด
2 เดือน
ชนิ ดของวัคซีน (ว ัคซีนหลัก)
BCG, HBV1
DPT-HBV-Hib1, IPV1,
Rota1
4 เดือน
DPT-HBV-Hib2, IPV2,
Rota2
สามารถทบทวนได ้ใน
6 เดือน
DPT-HBV-Hib3, OPV3,
ี มพู
สมุดฝากครรภ์สช
(Rota3)
BCG = ป้ องกัน9-12
วัณโรค, เดื
HBV
= ป้ องกัMMR1
นตับอักเสบบี, OPV = ป้ องกันโปลิโอ(ชนิ ดหยอด),
อน
IPV = ป้ องกันโปลิโอ (ชนิ ดฉี ด) DPT = ป้ องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก, Hib = ป้ องกันเชือ้
12นไวร
เดืัสโรต
อน้า (ชนิดหยอด)
JE1
Hib, Rota = ป้ องกั
MMR = ป้ องกันหัด หัดเยอรมัน คางทูม
่
ี หลังอายุ 1 ปี
ระยะเวลาในการรับวัคซน
อายุ
18 เดือน
2 ปี
4-6 ปี
12 ปี
ทุก 10 ปี
ชนิ ดของวัคซีน (ว ัคซีนหลัก)
DPT4, OPV4 (กระตุน
้ 1),
MMR2
JE2
DPT5, OPV5 (กระตุน
้ 2)
dT
สามารถทบทวนได ้ใน
dT
ี มพู
สมุดฝากครรภ์สช
DPT = ป้ องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก, OPV = ป้ องกันโปลิโอ(ชนิ ดหยอด)
MMR = ป้ องกันหัด หัดเยอรมัน คางทูม
่ ้มสมองอักเสบเจอี
JE = ป้ องกันเยือหุ
dT = ป้ องกันคอตีบ บาดทะยัก
Update จากสมาคมโรคติดเชือ
้ ในเด็กแห่ง
แรกเกิด
่
วัคซีนทีทารกได ้ร ับ
อ ักเสบบี
วัคซีนบีซจี ี
วัคซีนตับ
ปฏิก ิรย
ิ าจากการฉี ดวัคซีน BCG
• หลังจากฉี ดว ัคซีน น้ ายาจะดน
ั ผิวหนังให้โป่ งนู น
่ั
• ประมาณ 1 ชวโมง
จะยุบหายไป คงเห็นเป็ นสีแดงๆ ตรงบริเวณรอย
เข็มแทง
้ เมือฝี
่ แตก
• ต่อมา 2-3 สัปดาห ์ จะมีตม
ุ่ นู นแดงและเป็ นตุม
่ หนองเกิดขึน
้
แผลนี จะปิ
ดๆเปิ ดๆอยู ่ประมาณ 3-4 สัปดาห ์ แล้วจะค่อยๆแห้งเป็ น
้
แผลเป็ นเกิดขึน
การดู แลแผล
1. ห้ามบ่ง แคะ บีบตุม
่ หนอง
2. ห้ามใส่ยาร ักษาแผลขณะตุม
่ หนองแตก
่ นแผลให้สะอาด โดยใช้สาลีชบ
3. ร ักษาผิวหนังบริเวณทีเป็
ุ น้ า
สะอาด / น้ าต้มสุก
ชะล้างแผล
วัคซีนป้ องกันโรคตับอ ักเสบบี
• ปฏิก ิรย
ิ าจากวัคซีน
่ อาการมักเริมประมาณ
่
• อาจมีอาการปวด บวม หรือมีไข้ตาๆ
่ั
3-4 ชวโมงหลั
งฉี ด
่ั
และเป็ นอยู ่ไม่เกิน 24 ชวโมง
่
กรณี ทมารดาเป็
ี
นพาหะของไวร ัสตับ
อ ักเสบบี
• กรณี ทตรวจพบว่
ี่
ามารดาเป็ นพาหะของไวร ัสตับอ ักเสบบี (HBsAg + )
• หลังทารกเกิด แพทย ์จะให้อม
ิ มูโนโกลบู ลน
ิ (Hepetitis B
immunoglobulin : HBIG)
่
่
ร่วมกับการให้ว ัคซีนป้ องก ันไวร ัสตับอ ักเสบบี (HBV) เพือเพิ
ม
ประสิทธิภาพในการป้ องกน
ั การ
้
ติดเชือจากมารดา
่
• และการนัดฉี ดว ัคซีน HBV เข็มที่ 2 ในทารกกลุ่มนี ้ จะนัดทีอายุ
1
่
ปั ญหาและข้อควรระวังเกียวกั
บทารก
• ไข้ : ไม่แนะนาให ้ยาลดไข ้ ในทารกอายุนอ้ ยกว่า 1 เดือน ถ ้าตัวร ้อนจัดให ้เช็ด
ตัวแล ้วรีบมาพบแพทย ์
้
• ฝ้าขาวในปาก : ป้ องกันโดยใช ้ผ้าชุบนาสะอาดเช็
ดหลังกินนม
่ นนมผสม แนะนาให ้ทารกกินนมแม่ หรือถ ้าท ้องผูก
• ท้องผู ก : มักพบในทารกทีกิ
มากอาจต ้องแนะนาพบแพทย ์
่ : ให ้ใส่เสือผ้
้ าทีสะอาด
่
• ผดผืน
และอากาศระบายดี
้ั งกินนม อุ ้มกินนมหัวสูง
• การแหวะนม : ป้ องกันโดยจับเรอทุกครงหลั
้
้ ก ไม่แนะนา
• อาการคัดจมู ก : ให ้ใช ้นาเกลื
อหยอดจมูก แล ้วใช ้ลูกยางดูดนามู
้ กในทารกอายุนอ้ ยกว่า 6 เดือน
ให ้ยาลดนามู
Breast milk nutrients
่ ับซ ้อนและอุดมไปด้วย
• Breast milk เป็ นของเหลวทางชีวภาพทีซ
สารอาหารนับพันชนิ ด
้
• ส่วนประกอบของสารอาหารมีป ริมาณแตกต่างก ัน ทังใน
• หัวนม (colostrum)
่
• ช่วงนมเปลียน
(transitional milk) และ
่ อทารกอายุ
่
• นมช่วงแก่เต็มทีเมื
2-3 สัปดาห ์ (mature milk)
่
• สารอาหารในนมทีออกมาจากเต้
าเดียวก ันยังแตกต่างก ันในช่วงแรก
(foremilk) และ
ช่วงท้ายของนมก่อนหมดเต้า(hind milk)
Transitional
Colostrum
Mature
Low fat
High fat
ส่วนประกอบและคุณค่าของ
น้ านมแม่
โปรตีน : Protein
• ในนมแม่มโี ปรตีน ประมาณ 0.9% ประกอบด้วย
• Whey, casein, lactoferrin, immunoglobulin, lysosyme
่
และ glycoprotein อืนๆ
• Breast milk มีป ริมาณโปรตีนน้อยกว่านมววั
• Whey มีลก
ั ษณะใส ย่อยง่ าย มีแอลฟ่าแลคตัลบู มน
ิ และแลคโตเฟ
อรินเป็ นองค ์ประกอบหลัก
• Whey เป็ นแหล่งของกรดอะมิโนจาเป็ น โดยเฉพาะทริปโตแฟน
่ ยวข้
่
ซึงเกี
องก ับการนอนหลับ
โปรตีน : Protein
• โปรตีนในนมแม่ มี whey : casein 90:10 ในหัวน้ านม และ
ลดลงเป็ น 60:40
่ นนมปกติ
เมือเป็
่
• แลคโตเฟอริน (lactoferrin) เป็ นโปรตีนทีจับกับเหล็
ก จึง
้
ยับยังการเจริ
ญเติบโตของ
่ องพึงพาเหล็
่
แบคทีเรียทีต้
ก ปกป้ องทารกจากการติดเชือ้
• ในหัวน้ านม (colostrum) 2-3 วันแรก มีอม
ิ มูโนโกลบู ลน
ิ สู ง
มาก โดยเฉพาะ secretory
่
IgA มีหน้าทีปกป้
องทารกจากการติดเชือ้ ป้ องกันแบคทีเรีย
และไวร ัสแทรกเข้าสู ่
คาร ์โบไฮเดรท : Carbohydrate
่ าคญ
• เป็ นแหล่งพลังงานทีส
ั ของร่างกาย โดย glucose เป็ น
คาร ์โบไฮเดรตหลักในเลือด และเป็ น
พลังงานสาคัญของสมอง
่
่ ดใน breast milk คือประมาณ 6.8• Lactose เป็ นน้ าตาลทีพบมากที
สุ
่ ป ริมาณ
7.4 gm/100ml ซึงมี
่
สู งเมือเที
ยบก ับนมววั
่ ดนมมารดาจึงมีกลินเปรี
่
้
• อุจจาระทารกทีดู
ยวเล็
กน้อยจาก lactose
intolerance
่ นสารทีทนต่
่
• นอกจากนี ้ นมแม่ยงั มี prebiotics ซึงเป็
อการย่อยใน
ลาไส้เล็ก ผ่านเข้าลาไส้ใหญ่
่ น normal flora ในลาไส้ของทารก
เป็ นตัวกระตุน
้ แบคทีเรียทีเป็
ไขมัน : Fat
• กรดไขมันไม่อมต
ิ่ วั สายยาว (long-chain polyunsaturated fatty
่ งใน breast milk และน้อย
acid; LCPUFA) เป็ นกรดไขมันอิสระทีสู
มากในนมว ัว
่
้
• LCPUFA เป็ นกรดไขมันทีพบสู
งมากในสมองทารกตังแต่
อยู ่ในครรภ ์
เพราะมีความสาคญ
ั ต่อการทางานของสมองและจอประสาทตา
• โดยเฉพาะ omega-3 (Arachidonic acid;AHA)และ omega6(Docosahexaenoic acid;DHA)
่ วยให้การย่อยไขมันในขณะทีนมว
่
• Breast milk มี lipase ซึงช่
ัวไม่ม ี
lipase
แร่ธาตุ : Mineral
ธาตุเหล็ก (Iron)
• เป็ นแร่ธาตุทจ
ี่ าเป็ นต่อการเจริญเติบโต การแบ่งเซลล ์ และกระบวนการ
metabolism ของร่างกาย
่ สร ้าง hemoglobin and
• เป็ นส่วนประกอบของ heme ทีใช้
myoglobin
่
• Breast milk มีธาตุเหล็กสู งไม่มากเมือเที
ยบกบ
ั นมววั แต่ธาตุเหล็กใน
นมแม่ถูกดู ดซึมได้
ดีกว่านมว ัว
่
• ในช่วง 6 เดือนแรกก่อนทีจะได้
ร ับอาหารเสริม ลาไส้ทารกสามารถ
ดู ดซึมธาตุเหล็กได้ถงึ ร ้อยละ
แร่ธาตุ : Mineral
• ปริมาณโซเดียมใน breast milk มีมากช่วงวันแรกหลังคลอด
(colostum) และจะ
่
่ 7-10 หลังคลอด
ลดลงจนคงทีวันที
่ ง้
• ปริมาณโซเดียมในนมวัวจะมีมากกว่า breast milk ซึงทั
่ มาก
โซเดียมและโปรตีนทีมี
ในนมวัวทาให้เกิดปั ญหาต่อการทางานของไตได้ ถ้าได้ร ับ
มากเกินไป
ประโยชน์ของนมแม่ดา้ นโภชนาการและ
สุขภาพของทารก
่
• มีส่วนประกอบของสารอาหารทีครบถ้
วนและเหมาะสมตามความ
ต้องการของทารก
่
• มีสด
ั ส่วนของโปรตีนและไขมันทีเหมาะสมกับการเจริ
ญเติบโต
่ ดซึมได้ง่าย
• มีธาตุเหล็กซึงดู
• มีกรดไขมันสู ง เช่น โอเมก้า 3 และ 6
่
• มันใจว่
านมแม่ย่อยได้ง่าย เช่น มีน้ าย่อยไขมัน
• ปกป้ องทารกจากการติดเชือ้
• ปกป้ องทารกจากการมีความผิดปกติของกรามและฟั น
้
ผลของการเลียงลู
กด้วยนมแม่ตอ
่ จิตใจ
่
• เพิมความผู
กพันทางอารมณ์ (Emotional bonding)
• ใกล้ชด
ิ ลู ก ก่อให้เกิดความร ักและผู กพันระหว่างแม่ลูก
• มารดามีความพึงพอใจในความเป็ นแม่
• ทารกร ้องกวนน้อยลง
่
้
• ทารกรู ้สึกมันคงและปลอดภั
ยมากขึน
่ ขนกว่
่ ร ับ
• มีพฒ
ั นาการและระดับสติปัญญา IQ ทีดี
ึ้
าทารกทีได้
นมผสม
ข้อเสียของการให้นมผสม
 Interferes with bonding
 More diarrhea and
respiratory infections
 More allergy and
milk intolerance
 Persistent diarrhea
 Increased risk of some
chronic diseases
 Malnutrition
Vitamin A deficiency
 Overweight
 More likely to die
Mother
 May become
pregnant sooner
 Lower scores on
intelligence tests
 Increased risk of anaemia,
ovarian and breast cancer
Adapted from: Breastfeeding counselling: A training course. Geneva, World Health Organization, 1993
(WHO/CDR/93.6).
่ ้ านม
กลไกการสร ้างและหลังน
่
่ วนมและ
• เมือทารกดู
ดนมมารดา จะกระตุน
้ ปลายประสาททีหั
ลานนม ส่งกระแสไปตามไขสันหลังสู ส
่ มองส่วน
hypothalamus แล้วจะกระตุน
้
• ต่อมใต้สมองส่วนหน้า (anterior pituitary gland) ทาให้
่
หลังฮอร
์โมน prolactin และกระตุน
้ alveolar cell ให้สร ้าง
น้ านม
• ต่อมใต้สมองส่วนหลัง (posterior pituitary gland) ทาให้
่
หลังฮอร
์โมน oxytocin และกระตุน
้ myoepithelium cells
่
ทีประสานอยู
่รอบ alveoli หดต ัวและบีบน้ านมออกจาก
่
alveoli ไหลผ่านท่อน้ านมออกมา ทาให้มน
ี ้ านมหลังออกมา
่ ้ านม
กลไกการสร ้างและหลังน
้
่
• ฮอร ์โมน Prolactin จะสู งมากขึนเมื
อทารกดู
ดนม และสู งมาก
ประมาณ 30 นาทีหลัง
่ ดประมาณ 3 ชม.
ให้ดูดนม และจะค่อยๆลดลงถึงระด ับตาสุ
หลังให้นม
• จะสร ้างมากเวลากลางคืน
• การให้ลูกดูดนมบ่อยๆ และสม่าเสมอทุก 2-3 ชม. เต้านมจะ
้
สร ้างน้ านมมากขึนและ
ตลอดเวลา ถ้าดูดน้อยจะมีการสร ้างน้ านมน้อย
่ ้ านม
กลไกการสร ้างและหลังน
่
้
• ฮอร ์โมน Oxytocin จะหลังมากหรื
อน้อยขึนอยู
่ก ับการกระตุน
้
้
และยับยังโดยประสาท
สัมผัส
่
• เช่น ได้ยน
ิ เสียงลู กร ้องหรือคิดถึงลู ก จะกระตุน
้ การหลังของ
oxytocin
• ความเจ็บปวด ความกังวล ความเครียด ความสงสัย จะยับยัง้
่
การหลังของ
oxytocin
กลไกการดู ดนม
่
• ทารกต้องอมหัวนม (latch on) อย่างถูกต้อง ซึงอาศ
ัย reflex
ต่างๆ ได้แก่ rooting reflex, sucking reflex, swallowing
reflex
• ใช้หวั นมสัมผัสริมฝี ปากล่างกระตุน
้ rooting reflex จังหวะที่
่
ทารกอ้าปากเต็มที่ มารดาเคลือนศี
รษะทารกเข้าหาหัวนม
ทันที ทาให้เหงือกทารกงับได้ลก
ึ ถึงลานหัวนม
่ เหงือกจะงับลงบนลานหัวนม
• การอมหัวนมและลานนมทีดี
้
่
ลินอยู
่ใต้หวั นมและทาหน้าทีกดลานหั
วนมแนบกับเพดาน
ปาก
กลไกการดู ดนม
่
่ ดนม
• หัวนมจะกระตุน
้ sucking reflex ทีเพดานปาก
ทารกเริมดู
แรงดู ดจะดึงหัวนมและลานนมลึกเข้าไปเกิดเป็ นหัวนมใหม่ (teat)
่
ซึงทารกจะดู
ดยึดไว้ทาให้ดูดได้ไม่หลุด
้
่
• ลินจะรองร
ับอยู ่ใต้หวั นม เมือทารกดู
ดนมเกิดการหดตัวของ
้
้
้ คลืนที
่ ปลายลิ
่
้
กล้ามเนื อปลายลิ
นไปสู
่โคนลิน
นจะกด
lactiferous
sinus กับเพดานปากไล่น้ านมผ่าน duct ไหลลงสู ่ปากทารก
• ในเวลาเดียวกันก็กระตุน
้ oxytocin reflex ช่วยขับน้ านมออกมา
้
ยัง lactiferous sinus ขณะทารกขยับเหงือกขึน
กลไกการดู ดนม
4
2
1
3
5
ใช้หลัก 3 ดู ด คือ
่ั
 ดู ดเร็ว ภายใน ½- 1 ชวโมงแรกหลั
งคลอด
้ั น
 ดู ดบ่อย ตามความต้องการของทารก ประมาณ 8-12 ครง/วั
้
 ดู ดถู กวิธ ี และดู ดให้เกลียงเต้
า
 ท่าให้นมลู กควรจัดให้เหมาะก ับสถานการณ์
่ วยเสริมใน
 ควรมีหมอนหรืออุปกรณ์อนๆ
ื่ เพือช่
การอุม
้ ลู กให้ถนัดและสบาย
 แม่รู ้สึกสบายและผ่อนคลาย
• การจับประคองเต ้านม
• ท่าอุ ้มให ้นมลูก (Positioning)
• การเอาหัวนมเข ้าปากลูกให ้ลึกถึงลานนม
(Latch on/attachment)
้
้
• การกระตุ ้นให ้ลูกดูดนมได ้เต็มที่ ให ้เกลียงเต
้าทังสองข
้าง
• การเอาหัวนมออกจากปากลูก
C-hold
U-hold
V-hold
Thai Breastfeeding Center Foundation 2012
่ วยให้ทารกอมงับหัวนมและลานนมและดู ดนมได้ด ี
เพือช่
มีหลายวิธ ี :
C hold”
ช่วยจัดรู ปของเต้านมให้
เหมาะกับการเข้าเต้าได้ด ี
้
ขึน
Thai Breastfeeding Center Foundation 2012
U hold”มักใช้กบั ทารกเกิด
่ ดนม
ก่อนกาหนด หรือทารกทีดู
ไม่
V hold”/ scissor hold”
แข็งแรง
ไม่แนะนาให้
้
นิ วจะขวางบริ
เวณลานนมทาให้
่ั
ใช้ทวไป...
ทารกอมหัวนม
ใช้ในกรณี ท ี่
ได้ไม่ลก
ึ พอ
เต้านมใหญ่
หรือน้ านมพุ่ง
C-Hold
Correct C - Hold
้
นิ วของแม่
อยู ่เหนื อขอบนอกของลาน
นม
หัวนมต้องพุ่งออกอยู ่แนวตรงหรือ
่ กน้อย
เฉี ยงตาเล็
้ วแม่มอ
นิ วหั
ื ไม่ควรกดให้หวั นม
้ จะทาให้หวั นมแตก
กระดกขึน
่
เมือทารกดู
ดนมแม่
Incorrect C-Hold
Thai Breastfeeding Center Foundation 2012
่ จะช่วยให้ลูกเข้าเต้าได้ด ี
• ท่าอุม
้ ทีดี
่ สามารถใช้ได้ :
• มีหลายท่าทีแม่
่
- ท่านั่ง นอน ยืน ท่าอืนๆ
- ลู ก
• 4 key points
1) ลู กศีรษะและลาต ัวตรง
2) ลู กหันหน้าเข้าหาเต้าแม่
3) ลาต ัวลู กชิดกับแม่
้ ัว
4) ลู กได้ร ับการรองร ับทังต
ลู กหันเข้าหา
เต้านมแม่
ศีรษะ ลาตัวอยู ่
ในแนวตรง
ตัวแนบชิดแม่
ตัวลู กได้ร ับการ
support
ท่าอุม
้ ขวางตักประยุกต ์
Cross cradle / modified cradle
• ลู กหันเข้าหาเต้านมแม่
• ศีรษะ คอ ลาต ัวอยู ่ในแนว
ตรง
Thai Breastfeeding Center Foundation 2012
ท่าอุม
้ ฟุ ตบอล
Football
• ตัวแนบชิดแม่
• ตัวลู กได้ร ับการ support
Thai Breastfeeding Center Foundation 2012
Latch on/ Attachment
วิธเี อาลู กเข้าเต้า
A.ประคองศีรษะลู กให้แหงนไปด้านหลังเล็กน้อย
่ กอ้าปากกว้าง เคลือนทารก
่
B. เมือลู
เข้าหาเต้านมแม่อย่างรวดเร็วและ
นุ่ มนวล
C. ลู กสามารถอมลึกถึงลานนม
Thai Breastfeeding Center Foundation 2012
Latch on/ Attachment
วิธเี อาลู กเข้าเต้า
Thai Breastfeeding Center Foundation 2012
เห็น areola ส่วนบน
มากกว่
า าง
อ้าปากกว้
ริมฝี ปากล่างม้วนออก(ปาก
บาน)
คางชิดเต้านม
Thai Breastfeeding Center Foundation 2012
การเอานมออกจากปากลู ก
☺สอดนิ ้วมือ ข้า งมุ ม ปากของลู ก
่
เคลือนลู
กออกจากเต้านม
้
่คางของลู ก เบาๆ
☺ใช้นิ้ วชีกดที
☺ ให้ลูกดู ดนมแม่ จนกว่าลู ก
จะหยุดดู ดและปล่อยหัวนม
เอง
Thai Breastfeeding Center Foundation 2012
้
การประเมินการเลียงลู
กด้วยนมแม่
่
้
สัญญาณทีแสดงว่านานมเพียงพอ
• ดูดนม > 8 ครง้ั / วัน
• สังเกตลักษณะการดู ดเป็ นจังหวะ
่
 หลังกินนม หลับได้ด ี ตืนอารมณ์
ด ี ไม่หงุ ดหงิด
 ปั สสาวะสีเหลืองอ่อนใส ชุม
่ ผ้าอ้อม > 6 ครง้ั / วัน
้ั อว ัน
 อุจจาระอย่างน้อย 3 ครงต่
้
่
่ ันละ
 น้ าหนักขึนเท่
าแรกเกิดเมืออายุ
7-10 ว ัน แล้วมีน้ าหนักเพิมว
20-40 กร ัมต่อวัน
่
สัญญาณทีแสดงว่
าน้ านมเพียงพอ
“Milk let
down
reflex”
ก่อนให้นม แม่จะรู ้สึกว่าเต้านมหนักและตึง ถ้าบีบน้ านมจะพุ่ง
่ กดู ดอิม
่ เต้านมจะเบา นิ่ มลง บีบน้ านมได้เป็ นหยด บาง
แรง เมือลู
่ กดู ดนม
คนมีน้ านมไหลจากเต้าอีกข้างหนึ่ งด้วย ขณะทีลู
ลักษณะอุจจาระปกติของทารก
Day 1-2
meconium
Day 3-4
transitional stool
Day 5
breast milk stool
การช่วยเหลือกรณี มารดาก ังวลว่าน้ านมไม่พอ
1. หาสาเหตุและประเมิน ร ับฟั งความรู ้สึกและความคิดเห็นแม่ อธิบาย
่
่ ้ านม
เกียวก
ับการสร ้างและการหลังน
2. ช่วยแม่แก้ไขการให้นมลู กอย่างถู กวิธ ี
้ั
3. ควรให้ลูกดู ดนมทัง้ 2 ข้าง > 8 ครง/วัน
หรือตามความต้องการของ
ลู ก
่
่
4. สร ้างความมันใจว่
าแม่จะสร ้างน้ านมได้เพียงพอ เมือแก้
ไขถู กต้อง
5. แนะนาวิธป
ี ลอบลู กทีร่ ้องโดยอุม
้ ให้กระช ับและกล่อม
่ ดและสม่าเสมอ
6. ถ้าแม่-ลู กต้องแยกกัน สอนให้บบ
ี นมโดยเร็วทีสุ
การช่วยเหลือกรณี มารดาก ังวลว่าน้ านมไม่พอ
7. แนะนาให้พก
ั ผ่อน กินอาหารและน้ าให้เพียงพอ
8. ถ้าจาเป็ น อาจให้ยากระตุน
้ การผลิตน้ านม (Domperidone)
่ ้ านมยังน้อย ไม่พอสาหร ับลู ก ถ้าต้องเสริมนมผสม อาจใช้วธ
9. ช่วงทีน
ิ ี
cup feed, syringe drop
หรือ lactation aid
้
่
10. ติดตาม BW ของเด็ก จนกว่าจะขึนปกติ
~ 1 wk ให้กาลังใจแม่เมือ
้
น้ าหนักขึน
Thai Breastfeeding Center Foundation 2012
แม่อม
ุ ้ ลู ก และให้นมถู กวิธ ี
แม่มค
ี วามรู ้ และทัศนคติทดี
ี่ ตอ
่
้
การเลียงลู
กด้วยนมแม่
แม่มน
ี ้ านมเพียงพอ
น้ านมไม่พอจริง
หรือคิดว่าไม่พอกันแน่ นะ ?
วิธก
ี ารบีบ เก็บน้ านม
่
• หาบริเวณทีสงบ
เป็ นส่วนตัว
• ทาใจให้สบาย ไม่เป็ นกังวล
• ล้างมือให้สะอาด
• นั่งในท่าสบายๆ
้
่
• นึ กถึงลู ก /นารู ปของลู กขึนมาดู
/ เปิ ดเทปฟั งเสียงลู ก เพือ
การกระตุน
้ น้ านม
่
่ ้ านม
• นวดคลึงเต้านมเพือกระตุ
น
้ การหลังน
้ วแม่ม ื
นิ วหั
อ Areola
้ ้
นิ วชี
้ หรือ
1-1½ นิ ว
3-4 ซม.
การบีบและเก็บน้ านม
1. บีบนมเก็บในภาชนะสะอาด มีฝาปิ ดมิดชิด อาจเป็ นแก้ว หรือ
พลาสติกแข็งซึง่
่ าเชือโรคได้
้
สามารถต้มในน้ าเดือดเพือฆ่
หรือใส่ในถุงเก็บน้ านม
่ กต้องการแต่ละมือ
้
2. แบ่งเก็บในปริมาณทีลู
่ บ ไว้ขา้ งภาชนะ แล้วแช่ตูเ้ ย็นทันที
3. บันทึกว ันที่ เวลาทีเก็
่ นทีสุ
่ ด อย่าเก็บทีประตู
่
ในบริเวณทีเย็
ตูเ้ ย็น เนื่ องจากความเย็นจะไม่
คงที่
่ งไม่ใช้ใน 2 วัน ควรเก็บในช่องแช่แข็ง
4. นมทียั
่
5. นมทีละลายหลั
งแช่แข็งแล้ว ไม่ควรนาไปแช่แข็งอีก
่ างาน ถ้าไม่มต
่ น้ าแข็ง
6. การเก็บในทีท
ี ู เ้ ย็น ให้เก็บในกระติกน้ าแข็งทีมี
ตูเ้ ย็น 1 ประตู
ตูเ้ ย็น 2 ประตู
2 สัปดาห ์
2-3 วัน
3 เดือน
3-5 วัน
้
ที่ 40ซ เก็บได้ 3 – 5 วัน แต่ถา้ อุณหภู มส
ิ ู งกว่านัน
้ั
เก็บได้สนลง
บ้านเราอากาศร ้อน แนะนา 2 – 3 ว ัน
่ น้ าแข็งหล่อตลอดเวลา เก็บได้ 24 ชม.
ในกระติกน้ าแข็งทีมี
Thai Breastfeeding Center Foundation 2012
น้ านมแม่แช่แข็ง
ตู แ
้ ช่แข็ง
๐
่
(ตากว่า -19 C)
นาน 6 - 12 เดือน
Thai Breastfeeding Center Foundation 2012
่
้ั
 นมในช่องแช่แข็ง ใช้นมเก่าก่อน เมือจะใช้
ให้ยา้ ยลงมาไว้ทช
ี่ นใต้
ช่องแช่แข็งให้ละลายก่อน
้ั
่
่
 นมในชนใต้
ชอ
่ งแช่แข็ง เมือจะใช้
หายเย็น
ให้วางไว้นอกตูเ้ ย็นเพือให้
ถ้ารีบให้แช่น้ าอุน
่
(ไม่อน
ุ่ บนเตาหรือเข้าไมโครเวฟ เพราะจะสู ญเสียภู มต
ิ า้ นทานใน
น้ านมแม่ )
่ นไม่หมด ให้เททิง้ ไม่เก็บไว้กน
่ ก
 นมทีกิ
ิ ต่อ จึงควรเก็บน้ านมเท่าทีลู
ต้องการกินในแต่ละมือ้
หนู ชอบกินนมแม่ทสุ
ี่ ดในโลก
Thai Breastfeeding Center Foundation 2012
การให้คาแนะนามารดาและครอบคร ัว
่ แลหญิงหลังคลอดทีบ้
่ าน
เมือดู
• การร ับประทานอาหาร
• การนอนหลับพักผ่อน
• การทาความสะอาดร่างกาย อว ัยวะเพศ แผลฝี เย็บ แผลหน้า
ท้อง
• การออกกาลังกายและการทางาน
• การมีเพศสัมพันธ ์
• การตรวจตามนัดหลังคลอดและพาบุตรมาร ับวัคซีน
้ั
• การมีประจาเดือนครงแรก
• การร ับประทานยา
่ องพามาพบ
อาการผิดปกติของทารกทีต้
แพทย ์
• มีไข้
• ตัวเหลือง
• ซึม ไม่ดูดนม
• หายใจหอบเหนื่อย
• ถ่ายเหลว
• เขียว
• ช ัก
Thank you
for your
attention
Download