Pharmacodynamics Panatda Panya, M.Pharm What is Pharmacodynamics? ▸ What a drug does to the body. ▸ The study of the biochemical, physiologic, and molecular effects of drugs on the body. 2 Drugs: ▸ Chemical agents that interact with components of a biological system to alter the organism’s function. ▸ Examples of such components, sites of drug action, are enzymes, ion channels, neurotransmitter transport systems, nucleic acids and receptors. ▸ Many drugs act by mimicking or inhibiting the interactions of endogenous mediators with their receptors 3 Mechanism of action 1. กลไกออกฤทธิไม่ ผ่านตัวรับ (Non-specific action) ใช้คุณสมบัติทางกายภาพของยา ต้องใช้ยาปริ มาณเยอะ ออกฤทธิไม่จาํ เพาะเจาะจง เช่น • ยาลดกรด => เป็ นด่าง (เบส) => Aluminium hydroxide • ยาบรรเทาอาการท้องเสี ย => ดูดซับสารพิษในทางเดินอาหาร => Activated charcoal • Mannitol มีคุณสมบัติ osmotic effect => ดึงนํDาเข้าสู่ กระแสเลือด => ขับนํDาออกจาก ร่ างกาย => ลดอาการบวมนํDา => ลดอาการสมองบวม • Alcohol => ฆ่าเชืDอแบคทีเรี ย Mechanism of action 2. กลไกออกฤทธิผ่ านตัวรับ (Specific action) Pharmacodynamics ▸ Almost all drug targets are “proteins” 6 Pharmacodynamics ▸ Almost all drug targets are “proteins” - Receptors - Ion channels - Enzymes - Carriers (Transporters) ▸ How a drug interacts with its target to produce therapeutics (and toxic) effects. - Agonist - Partial agonist - Antagonist - Inverse agonist 7 8 9 Ligand-gated Ion Channels Ion-channel: ควบคุมการเข้ า-ออกของไอออนต่ างๆ มี 2 กลไก • Ligand-gated channel receptor: กระตุน้ การเปิ ดโดยมีสารมาจับและ กระตุน้ (agonist) เช่น GABA, 5-HT3, Nicotinic receptor, Glutamate • Voltage-gated channel receptor: กระตุน้ การเปิ ดโดยศักย์ไ ฟฟ้าภายใน เซลล์ เช่น Na+, K +, Ca2+ receptor Ligand-gated Ion Channels Ligand-gated Ion Channels G-protein coupled receptors G-protein coupled receptor: GPCR => ทําหน้าที]เหมือนเป็ น ตัวกลางส่ งสัญญาณไปยังตัวแสดงผล (effector) • • • • เป็ น Receptor ชนิดที]พบมากที]สุด G-protein อยูใ่ นไซโทพลาสซึ มประกอบด้วย 3 หน่วยย่อย ได้แก่ และ Effector เช่น Adenyl cyclase, Phospholipase C เป็ นต้น ตัวรับชนิดนีD เช่น Muscarinic receptor, -adrenergic, Histamine, 2-adrenergic receptor เป็ นต้น G-protein coupled receptors α β γ G-protein coupled receptors Membrane α β γ G-protein coupled receptors α β γ G-protein coupled receptor Receptor-enzyme Enzyme linked receptor: ทําหน้ าทีคF วบคุมการทํางานของ เอนไซม์ • Receptor domain (integral protein) อยูน่ อกเซลล์ • Tyrosine kinase ภายในเซลล์ทาํ หน้าที] phosphorylation (เติมหมู่ phosphate) ให้ โปรตีนเป้าหมาย • เรี ยกตัวรับนีDวา่ “Receptor tyrosine kinase (RTK)” • ตัวรับชนิดนีD เช่น Insulin receptor, Epidermal growth factor (EGF) Receptor-enzyme Binding site Catalytic site Enzymelinked receptor Intracellular receptor Cytoplasmic and nuclear receptor • เป็ น Intracellular receptor คือ โปรตีนตัวรับที]อยูภ่ ายในเซลล์ เกี]ยวข้องกับการ ถอดรหัสทางพันธุกรรม (transcription factor) ทําให้เกิดการตอบสนอง แล้วสร้าง โปรตีนที]เซลล์ตอ้ งการ • ตัวรับชนิดนีD เช่น Steroid hormone receptor (e.g. Glucocorticoid, Estrogen, Androgen receptor), Thyroid hormone receptor, Vitamin A, Vitamin D receptor Cytosolic-Nuclear receptors Intracellular receptor Agonist ▸ Mimics the effects of an endogenous agonist molecule. ▸ Full agonist : can produce 100% of its desired effect. ▸ Partial agonist : cannot produce 100% of its desired effect. 24 Agonist 25 Effect of drug : Agonist กรณี ที]ใ ห้ยาร่ วมกัน => Synergism (เสริ มฤทธิกัน) ◺ Summation or addition: 1+1 =2 (เช่น ให้ Ibuprofen + Tramadol) ◺ Synergistic effect: 1+1 > 2 (เช่น Sulphamethoxazole + Trimetroprim = Bactrim® ) ◺ Potentiation: 0+1 > 2 (เช่น Clavulanic acid + Amoxicillin = Amoxiclav ) Antagonist ▸ Inhibits normal function of endogenous agonist - Physiologic antagonist - Chemical antagonist - Pharmacokinetics antagonist - Pharmacologic antagonist 27 Antagonist ▸ Physiologic antagonist: ตอบสนองทางสรี รวิทยาที]ตรงข้ามกัน โดยทํางานผ่าน ตัวรับที]ต่างกัน ▸ Insulin + Insulin receptor นํDาตาลในเลือดลดลง ▸ Glucocorticoid hormone + Glucocorticoid receptor นํDาตาลในเลือดสู งขึDน 28 Antagonist ▸ Chemical antagonist: ยาชนิ ดหนึ] งไปเกิดอันตรกิริยากับยาอีกชนิ ดหนึ] ง ทําให้ยา ชนิดนัDนไม่มีผลทางเภสัชวิทยา ▸ Protamine => มีประจุบวก ▸ Heparin => มีประจุลบ 29 30 Antagonist ▸ PK antagonist: ยาชนิ ดหนึ] งไปมีผลต่อกระบวนการทาง PK ของยาอีกชนิ ดหนึ] ง ทําให้ยานัDนมีค่า Bioavailability น้อยลง หรื อการออกฤทธิลดลง ▸ แคลเซี ยมมีผลรบกวนการดูดซึ มของยา Norfloxacin ▸ การให้ยา Cimetidine ร่ วมกับยา Theophylline => Cimetidine ยับยัDงการทํางานของ Enzyme => ลดการ metabolism theophylline => Theophylline ในเลือดสู ง => เพิ]ม ผลข้างเคียงของ Theophylline 31 Antagonist ▸ Pharmacology antagonist: ยาจับกับ Receptor ได้ แต่ไ ม่ตอบสนอง หรื อแย่งจับ กับ Receptor ชนิดเดียวกัน => ไม่มี intrinsic activity ▸ ดังนัNน ต้ องหลีกเลียF งการให้ ยาร่ วมกัน ▸ Competitive antagonist: competes with agonist for the same binding site on the receptor. ▸ Non-competitive antagonist: binds to a different non-overlapping binding site, but still prevents the binding of agonist. 32 Antagonist 33 34 เมือให้ย า Agonist + Competitive antagonist: การเพิมขนาดยาจะทํา ให้ผลการตอบสนองกลับมาเท่า เดิ ม เมือให้ย า Agonist + Irreversible antagonist: แม้ว ่า เพิมขนาด แต่ผลการรัก ษาทีได้จ ะไม่เหมือ นเดิ ม 36 37 38 39 40 เภสั ชวิทยาในระดับประชากร 42 43 TI= Therapeutic index = ค่าดัชนี การรักษา เป็ นตัวเลขทีแสดงให้ ทราบถึงความปลอดภัยในการใช้ยา ED50= Mean effective dose = ขนาดยาทีทําให้กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 50 มีการตอบสนองตามทีกําหนดไว้ TD50= Mean toxic dose = ขนาด ยาทีทําให้กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 50 เกิดความเป็ นพิษ LD50= Mean lethal dose = ขนาด ยาทีทําให้กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 50 เสียชีวติ ตัวอย่ าง Narrow therapeutic drugs เช่ น phenytoin, valproate, digoxin, amikacin, vancomycin 46