Uploaded by Miki MMRC

TMC2: การวางแผนสู่ความมั่งคั่ง (เกษียณรวย)

advertisement
TMC2: การวางแผนสู่ความมั่งคั่ง
สแกน QR Code เพื่อรับไฟล์ PDF
E-Handout
TMC2:
การวางแผนสู่ความมั่งคั่ง (เกษียณรวย)
The Money Coach Team
แอปพลิเคชันสำหรับช่วยคำนวณ
Android : Financial Calculator
iOS : EZ Financial Calculator
หัวข้อพูดคุย
01 แผนการออม
02 การวางแผนสู่ความมั่งคั่ง (เกษียณรวย)
03 การจัดสรรเงินเพื่อใช้จ่าย และลงทุนหลังเกษียณ
01
แผนการออม
“ มีเงินออมอยู่ 1 ก้อน ... ควรเอาไปทำอะไรดี
เอาไปลงทุนทั้งหมดเลยดีมั้ย?
หรือควรแบ่งไว้เพื่อเป้าหมายอื่นๆ ด้วย ”
*การจัดสรรเงินออมอย่างถูกวิธี ช่วยเราตอบคำถามเหล่านี้ได้
‹ 1-1 ›
เมื่อมีเงินออมควรบริหารอย่างไร?
Port
C
พอร์ตเงินสำรอง
เผื่อฉุกเฉิน
Emergency Fund
Port
Extra
B
Port
A
พอร์ตเกษียณรวย
พอร์ตเงินออม
เพื่อเป้าหมายระยะสั้น
พอร์ตเกษียณเร็ว
Retire Rich
Extra Saving
Retire Young
‹ 1-2 ›
การจัดสรรเงินออม
พอร์ตเงินออมและลงทุน
วัตถุประสงค์
เป้าหมาย
เครื่องมือที่เหมาะสม
การนำเงินไปใช้
เงินสำรองฉุกเฉิน (C)
เกษียณรวย (B)
เป้าหมายระยะสั้น (X)
เกษียณเร็ว (A)
สะสมไว้ใช้กรณีฉุกเฉิน
หรือสูญเสียรายได้
สะสมไว้ใช้หลังเกษียณ
(อายุ 55 หรือ 60 ปี)
สะสมเพื่อเป้าหมาย
การเงินในระยะ 0-3 ปี
สร้างรายได้จากทรัพย์สิน
เพื่อเกษียณการเงินให้เร็วขึ้น
6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน
เพียงพอใช้หลังเกษียณ
20 ปี (ตามไลฟ์สไตล์)
เท่ากับค่าใช้จ่าย
ตามเป้าหมาย
รายได้จากทรัพย์สิน
> รายจ่ายรวมต่อเดือน
เงินฝาก (ธนาคาร/สหกรณ์)
กองทุนรวมตลาดเงิน
กองทุนรวมตราสารหนี้
สลากออมทรัพย์
*ทองคำ
เฉพาะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
หรือรายได้สูญหาย
กองทุนบำเหน็จบำนาญ
ข้าราชการ (กบข.)
ประกันสังคม
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กองทุนการออมแห่งชาติ
กองทุนรวมที่มีสิทธิประโยชน์ทางภาษี (RMF/SSF)
กองทุนรวม / หุ้น
ประกันชีวิต /ประกันบำนาญ
หุ้นสหกรณ์ออมทรัพย์
ฯลฯ
หลังเกษียณ 55 หรือ 60 ปี
แล้วแต่ละบุคคล
‹ 1-3 ›
การลงทุนที่ให้
(1) ดอกเบี้ย (2) เงินปันผล
(3) ค่าเช่า (4) ค่าลิขสิทธิ์
เงินฝาก (ธนาคาร/สหกรณ์)
กองทุนรวมตลาดเงิน
กองทุนรวมตราสารหนี้
สลากออมทรัพย์
เมื่อครบกำหนดเวลาสะสม
ต้องใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญการลงทุนที่สูง
เน้นการใช้พลังทวี (Leverage)
จากเงินคนอื่น (OPM)
และทรัพยากรคนอื่น (OPR) เช่น
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
เครื่องมือการเงินขั้นสูง ฯลฯ
แล้วแต่แผนการแต่ละบุคคล
02
การวางแผนสู่ความมั่งคั่ง
(เกษียณรวย)
หัวใจของการวางแผนเกษียณ
เริ่มต้นเร็ว : วางแผนเกษียณตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำงาน
วางแผนชำระคืนหนี้ให้หมดก่อนเกษียณ
เริ่มต้นลงทุน ทีละน้อย เรียนรู้ สร้างประสบการณ์
เงินที่สะสมได้ ห้ามให้ใครแม้แต่ลูกหลาน
วางแผนใช้จนวันสุดท้ายของชีวิต
‹ 2-1 ›
แนวทางการวางแผนเกษียณ
1
ประเมินค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ
(หากต้องเกษียณในวันนี้)
2
ค่าใช้จ่าย ณ วันเกษียณ
3
ประเมินรายได้หลังเกษียณ
‹ 2-2 ›
คำนวณเงินที่ต้องสะสมเพิ่ม
4
เปรียบเทียบการสะสม
ในปัจจุบัน
5
วางแผน / ลงทุน
6
ตารางการคำนวณทุนเกษียณ
รายการจ่าย
รายจ่าย
ต่อเดือน
1
2
รายจ่ายรวม
ต่อเดือน
รายจ่ายรวม
ต่อเดือน
(*ปรับเฟ้อ)
3
หักรายได้
ณ วันเกษียณ
ค่าอาหาร
ค่าเดินทาง
สาธารณูปโภค
ค่าใช้จ่ายสุขภาพ
ค่าใช้จ่ายนันทนาการ
อื่นๆ
‹ 2-3 ›
4
ส่วนขาด
รายเดือน
เงินก้อนที่ต้องมี
ณ วันเกษียณ
5
6
ส่วนที่ต้อง
การเก็บสะสมที่มี
วางแผน
ในปัจจุบัน
ลงทุนเพิ่มเติม
STEP 1 :
ประเมินค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ
(หากต้องเกษียณในวันนี้)
รูปแบบการใช้จ่ายหลังเกษียณ
หลังเกษียณคนเราจะมีค่าใช้จ่ายหลายรายการลดลง อาทิ ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถยนต์
รวมไปถึงค่าใช้จ่ายบุตร ฯลฯ
ในขณะเดียวกันก็จะมีค่าใช้จ่ายบางรายการเพิ่มสูงขึ้น อาทิ ค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายนันทนาการ
โดยสถิติ ค่าใช้จ่ายหลังเกษียณโดยประมาณจะคิดเป็น 60-70% ของค่าใช้จ่ายก่อนเกษียณ
‹ 2-4 ›
STEP 1 :
ประเมินค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ
(หากต้องเกษียณในวันนี้)
นาย ก. อายุ 35 ปี ต้องการวางแผนเกษียณ
เขาประเมินว่า ถ้าพรุ่งนี้เกษียณ และไม่มีภาระหนี้ใดๆ แล้ว
เขาน่าจะมีค่าใช้จ่ายต่อเดือน ดังนี้
ค่าอาหาร
10,000
ค่าเดินทาง
2,000
รวมค่าใช้จ่ายต่อเดือน
ค่าสาธารณูปโภค
3,000
ค่าใช้จ่ายสุขภาพ
-
20,000
บาท/เดือน
นันทนาการ
2,000
อื่นๆ (สำรอง)
3,000
‹ 2-5 ›
STEP 1 :
ประเมินค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ
(หากต้องเกษียณในวันนี้)
รายการจ่าย
รายจ่าย
ต่อเดือน
ค่าอาหาร
10,000
ค่าเดินทาง
2,000
สาธารณูปโภค
3,000
1
2
รายจ่ายรวม
ต่อเดือน
รายจ่ายรวม
ต่อเดือน
(*ปรับเฟ้อ)
3
หักรายได้
ณ วันเกษียณ
20,000
ค่าใช้จ่ายสุขภาพ
-
ค่าใช้จ่ายนันทนาการ
2,000
อื่นๆ
3,000
‹ 2-6 ›
4
ส่วนขาด
รายเดือน
เงินก้อนที่ต้องมี
ณ วันเกษียณ
5
6
ส่วนที่ต้อง
การเก็บสะสมที่มี
วางแผน
ในปัจจุบัน
ลงทุนเพิ่มเติม
STEP 2 :
คำนวณหาค่าใช้จ่ายจริง ณ วันเกษียณ
(ด้วยการปรับเฟ้อ)
นาย ก. อายุ 35 ปี ตั้งใจเกษียณอายุ 60 ปี จะเหลือเวลาทำงาน 25 ปี
ดังนั้น ตัวคูณเงินเฟ้อจะเท่ากับ 1.8
อายุปัจจุบัน
ระยะเวลากว่าจะถึงเกษียณ​(ปี)
ตัวคูณเงินเฟ้อ
50-59 ปี
0 - 10 ปี
1.20
40-49 ปี
11 - 20 ปี
1.50
30-39 ปี
21 - 30 ปี
1.80
20-29 ปี
31 - 40 ปี
2.20
‹ 2-7 ›
STEP 2 :
คำนวณหาค่าใช้จ่ายจริง ณ วันเกษียณ
(ด้วยการปรับเฟ้อ)
รายการจ่าย
รายจ่าย
ต่อเดือน
ค่าอาหาร
10,000
ค่าเดินทาง
2,000
สาธารณูปโภค
3,000
ค่าใช้จ่ายสุขภาพ
-
ค่าใช้จ่ายนันทนาการ
2,000
อื่นๆ
3,000
1
2
รายจ่ายรวม
ต่อเดือน
รายจ่ายรวม
ต่อเดือน
(*ปรับเฟ้อ)
20,000
36,000
3
หักรายได้
ณ วันเกษียณ
*ตัวคูณเงินเฟ้อ 1.8
‹ 2-8 ›
4
ส่วนขาด
รายเดือน
เงินก้อนที่ต้องมี
ณ วันเกษียณ
5
6
ส่วนที่ต้อง
การเก็บสะสมที่มี
วางแผน
ในปัจจุบัน
ลงทุนเพิ่มเติม
STEP 3 :
ประเมินแหล่งรายได้หลังเกษียณ
การทำงาน หรือประกอบอาชีพหลังเกษียณ
ดอกเบี้ย
บำนาญข้าราชการ
เงินปันผล
บำนาญชราภาพ กองทุนประกันสังคม
ค่าเช่า
ประกันบำนาญ
ค่าลิขลิทธิ์
‹ 2-9 ›
STEP 3 :
ประเมินแหล่งรายได้หลังเกษียณ
พิจารณาจากงานหรือธุรกิจที่มีโอกาสทำได้หลังเกษียณ
เช่น งานเสริม หรืออาชีพเสริมที่ทำอยู่ในปัจจุบัน
02
01
กรณีที่ยังเป็นเพียงไอเดีย ยังไม่ได้ลงมือทำ
ให้ประเมินว่ารายได้ส่วนนี้เป็น “ศูนย์”
คำแนะนำ: ควรวางแผนสร้างรายได้ช่องทางใหม่ๆ
ก่อนเกษียณ เป็นส่วนหนึ่งของแผนเกษียณ
‹ 2-10 ›
03
บำนาญชราภาพ กองทุนประกันสังคม
ตรวจสอบข้อมูลเงินสะสม
SSO CONNECT
เงื่อนไข: 1) ผู้ประกันตนมีอายุ 55 ปีบริบูรณ์ และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน
2) จ่ายเงินสมทบมาไม่น้อยกว่า 180 เดือน (จะติดต่อกัน หรือไม่ติดต่อกันก็ได้)
3) ได้สิทธิบำนาญชราภาพรายเดือน ในอัตราร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย
ที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบ ก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
4) กรณีจ่ายสมทบเกิน 180 เดือน ให้ปรับเพิ่มบำนาญชราภาพ เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 1.5
ต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบทุก 12 เดือน ที่เกินจาก 180 เดือน
หมายเหตุ: กรณีผู้ได้รับบำนาญชราภาพถึงแก่ความตายภายใน 60 เดือน นับแต่เดือนที่เริ่มได้รับบำนาญชราภาพ
ทายาทของผู้ประกันตนจะได้รับบำเหน็จชราภาพ จำนวน 10 เท่า ของบำนาญชราภาพรายเดือน
‹ 2-11 ›
บำนาญชราภาพ กองทุนประกันสังคม
*ระยะเวลาส่งเงิน
สมทบ (ปี)
ร้อยละของ
เงินเดือน
บำนาญ
ชราภาพ**
*ระยะเวลาส่งเงิน
สมทบ (ปี)
ร้อยละของ
เงินเดือน
บำนาญ
ชราภาพ**
15
20
3,000
26
36.5
5,475
16
21.5
3,225
27
38
5,700
17
23
3,450
28
39.5
5,925
18
24.5
3,675
29
41
6,150
19
26
3,900
30
42.5
6,375
20
27.5
4,125
31
44
6,600
21
29
4,350
32
45.5
6,825
22
30.5
4,575
33
47
7,050
23
32
4,800
34
48.5
7,275
w = ค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย
24
33.5
5,025
35
50
7,500
t = ระยะเวลาที่ส่งเงินสมทบ
25
35
5,250
*คำนวณจากฐานเงินเดือน 15,000 บาท
**ระยะเวลาส่งเงินสมทบนับจากปี 2542
‹ 2-12 ›
สูตรคำนวณ
เงินบำนาญรายเดือน =
{[20+(1.5*(t-15))]*w}/100
กรณีชราภาพ
ตัวอย่าง บำนาญชราภาพ กองทุนประกันสังคม
นายปีเตอร์เกษียณจากการทำงานในวัย 60 ปี ตลอดชีวิตการทำงาน
เขาอยู่กับ 3 บริษัท ซึ่งมีระยะเวลาในการทำงานดังนี้
บริษัท A: 5 ปี
บริษัท B: 12 ปี
บริษัท C: 18 ปี
ถ้าช่วง 5 ปีสุดท้ายที่ทำงานกับบริษัท C ปีเตอร์มีรายได้อยู่ระหว่าง
50,000-55,000 บาท ถามว่าหลังเกษียณ ปีเตอร์จะได้ประกันชราภาพ
จากประกันสังคมหรือไม่ และได้บำนาญต่อเดือน คิดเป็นเงินเท่าไหร่
‹ 2-13 ›
ตัวอย่าง บำนาญชราภาพ กองทุนประกันสังคม
*ระยะเวลาส่งเงิน
สมทบ (ปี)
ร้อยละของ
เงินเดือน
บำนาญ
ชราภาพ**
26
36.5
5,475
27
38
5,700
28
39.5
5,925
29
41
6,150
30
42.5
6,375
31
44
6,600
32
45.5
6,825
33
47
7,050
34
48.5
7,275
35
50
7,500
ระยะเวลาส่งเงินสมทบรวม
ฐานเงินเดือนที่ใช้คำนวณ
เงินสมทบ
บำนาญชราภาพที่จะได้รับ
‹ 2-14 ›
= 5 + 12 + 18
= 35 ปี
= 15,000 บาท
= 50% x 15,000
= 7,500 บาท
แหล่งรายได้อื่น ๆ
ประกันบำนาญ
ค่าเช่า
ประเมินจากแผนประกันบำนาญที่ทำสะสมไว้
ประเมินโดยพิจารณาจะค่าเช่าทรัพย์สิน
ที่จะได้รับ ณ วันเกษียณ
เช่น ถ้าแผนประกันบำนาญของเรา จะจ่ายเงินคืนให้เรา
เช่น ปัจจุบันมีบ้านเช่าให้เช่าอยู่ที่ราคา 10,000 บาท
ในช่วงรับบำนาญปีละ 100,000 บาท ก็อาจประเมิน
ผ่อนธนาคารเดือนละ 8,000 บาท ก็อาจระบุว่าจะ
เป็นรายได้ต่อเดือน 8,000 บาทต่อเดือน เป็นต้น
มีรายได้จากค่าเช่า ณ วันเกษียณ 10,000 บาท
(คิดว่าภาระผ่อนจะหมดแล้ว) เป็นต้น
‹ 2-15 ›
แหล่งรายได้อื่น ๆ
ดอกเบี้ยและเงินปันผล
ดอกเบี้ยและเงินปันผล
สินทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ย เช่น เงินฝาก
เช่น นายป๋อมมีหุ้นมูลค่ารวมกัน 4,000,000 บาท
ปัจจุบันให้ผลตอบแทน 1% ต่อปี
คิดประมาณการปันผลต่อปี 3%
จะได้ปันผลต่อปีเท่ากัน 120,000 บาท
คิดเฉลี่ยเป็นปันผลรายเดือน 10,000 บาท เป็นต้น
สินทรัพย์ที่ให้เงินปันผล เช่น หุ้น
ปัจจุบันมีผลเฉลี่ยอยู่ระดับ 3% ต่อปี
กรณีเงินปันผลที่เป็นกิจการนอกตลาดหลักทรัพย์
จากนั้นประเมินเป็นรายได้รายปี และรายเดือน
อาจประเมินเงินปันผลเฉลี่ยที่ได้รับได้
เพื่อมาใช้คำนวณทุนเกษียณ
(ถ้าอีกนานกว่าจะเกษียณ จะประเมินค่อนข้างยาก)
‹ 2-16 ›
แหล่งรายได้อื่น ๆ
ค่าลิขสิทธิ์
ตัวอย่างรายได้จากค่าลิขสิทธิ์
เช่น งานเขียน งานเพลง บทความ ค่าโฆษณา ฯลฯ
ประเมินจากรายได้ขั้นต่ำที่น่าจะเป็นไปได้
อาจพิจารณาประเด็นความนิยม ประกอบการประเมิน
‹ 2-17 ›
STEP 3 :
ประเมินแหล่งรายได้หลังเกษียณ
แหล่งรายได้
รายได้ต่อเดือน
การทำงาน หรือประกอบอาชีพหลังเกษียณ
-
บำนาญข้าราชการ
-
บำนาญชราภาพ กองทุนประกันสังคม
7,500
ประกันบำนาญ
10,000
ดอกเบี้ย
-
เงินปันผล
-
ค่าเช่า
-
ค่าลิขสิทธิ์
รวมรายได้หลังเกษียณของ นาย ก.
‹ 2-18 ›
17,500
STEP 3 :
ประเมินแหล่งรายได้หลังเกษียณ
รายการจ่าย
รายจ่าย
ต่อเดือน
ค่าอาหาร
10,000
ค่าเดินทาง
2,000
สาธารณูปโภค
3,000
ค่าใช้จ่ายสุขภาพ
-
ค่าใช้จ่ายนันทนาการ
2,000
อื่นๆ
3,000
1
2
3
รายจ่ายรวม
ต่อเดือน
รายจ่ายรวม
ต่อเดือน
(*ปรับเฟ้อ)
หักรายได้
ณ วันเกษียณ
ส่วนขาด
รายเดือน
20,000
36,000
17,500
18,500
*ตัวคูณเงินเฟ้อ 1.8
‹ 2-19 ›
4
เงินก้อนที่ต้องมี
ณ วันเกษียณ
5
6
ส่วนที่ต้อง
การเก็บสะสมที่มี
วางแผน
ในปัจจุบัน
ลงทุนเพิ่มเติม
STEP 4 :
คำนวณเงินก้อนที่ต้องมี ณ วันเกษียณ
เงินก้อนที่ต้องสะสม =
‹#
(ค่าใช้จ่ายจริง
›
- รายได้หลังเกษียณ) x 240*
*คาดว่าจะมีชีวิตอยู่หลังเกษียณ 20 ปี
‹ 2-20 ›
STEP 4 :
คำนวณเงินก้อนที่ต้องมี ณ วันเกษียณ
รายการจ่าย
รายจ่าย
ต่อเดือน
ค่าอาหาร
10,000
ค่าเดินทาง
2,000
สาธารณูปโภค
3,000
ค่าใช้จ่ายสุขภาพ
-
ค่าใช้จ่ายนันทนาการ
2,000
อื่นๆ
3,000
1
2
3
รายจ่ายรวม
ต่อเดือน
รายจ่ายรวม
ต่อเดือน
(*ปรับเฟ้อ)
หักรายได้
ณ วันเกษียณ
ส่วนขาด
รายเดือน
เงินก้อนที่ต้องมี
ณ วันเกษียณ
20,000
36,000
17,500
18,500
4,440,000
*ตัวคูณเงินเฟ้อ 1.8
4
*คูณส่วนขาดรายเดือนด้วย
240
‹ 2-21 ›
5
6
ส่วนที่ต้อง
การเก็บสะสมที่มี
วางแผน
ในปัจจุบัน
ลงทุนเพิ่มเติม
STEP 5 :
ตรวจสอบการสะสมในปัจจุบันและ
วางแผนสะสมเพิ่ม
สะสมด้วยตัวเอง
ภาคบังคับ
เงินชดเชยกรณีเลิกจ้าง
เงินฝาก สลากออมสิน / สลากออมทรัพย์ ธกส.
พันธบัตร / หุ้นกู้ / กองทุนรวม / หุ้นสามัญ / หุ้นสหกรณ์
บำเหน็จชราภาพประกันสังคม
ประกันชีวิต / ประกันบำนาญ
ทรัพย์สินที่แปลงเป็นเงินสดได้
เช่น บ้าน ที่ดิน ทองคำ ของสะสม ฯลฯ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กระแสเงินสดจากทรัพย์สิน
เช่น ค่าเช่า ดอกเบี้ย เงินปันผล ฯลฯ
‹ 2-22 ›
เงินชดเชย กรณีเลิกจ้าง
การชดเชยกรณีเลิกจ้าง (เกษียณอายุ = เลิกจ้าง*)
ทำงานติดต่อกันครบ 120 วัน
แต่ไม่ถึง 1 ปี
ชดเชยไม่น้อยกว่า 30 วัน
ทำงานติดต่อกันครบ 1 ปี
แต่ไม่ถึง 3 ปี
ชดเชยไม่น้อยกว่า 90 วัน
ทำงานติดต่อกันครบ 3 ปี
แต่ไม่ถึง 6 ปี
ชดเชยไม่น้อยกว่า 180 วัน
ทำงานติดต่อกันครบ 6 ปี
แต่ไม่ถึง 10 ปี
ชดเชยไม่น้อยกว่า 240 วัน
ทำงานติดต่อกันครบ 10 ปี
แต่ไม่ถึง 20 ปี
ชดเชยไม่น้อยกว่า 300 วัน
ทำงานติดต่อกันครบ 20 ปี
ขึ้นไป
ชดเชยไม่น้อยกว่า 400 วัน
‹ 2-23 ›
บำเหน็จชราภาพประกันสังคม
กรณีสมทบเข้ากองทุนบำนาญชราภาพไม่ถึง 180 เดือน (15 ปี) รับเป็นเงินบำเหน็จ
กรณีส่งเงินเข้าประกันสังคม ต่ำกว่า 12 เดือน รับบำเหน็จเท่ากับเงินสมทบของผู้ประกันตนเอง
กรณีส่งเงินเข้าประกันสังคม ตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป รับบำเหน็จเท่ากับเงินสมทบของ
ทั้งส่วนผู้ประกันตน และนายจ้าง พร้อมผลประโยชน์ตอบแทนตามที่ประกันสังคมกำหนด
‹ 2-24 ›
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
การประมาณการเงินสะสม
ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
การประมาณการเงินสะสมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
‹ 2-25 ›
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
1. เงินเริ่มต้น
2. เงินเดือน
3. เงินเดือนขึ้นเฉลี่ยปีละ (%)
4. หักสะสมเข้ากองทุน (%)
5. นายจ้างสมทบ (%)
การประมาณการเงินสะสม
ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
6. อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ (%)
7. จำนวนปีสะสม (อีกกี่ปีเกษียณ)
8. รวมเงินสะสมทั้งหมด
9. ส่วนของนายจ้าง
10. ผลตอบแทนการลงทุน
11. รวมเงิน ณ วันเกษียณ
‹ 2-26 ›
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
การคำนวณอัตรา
ผลตอบแทนคาดหวัง
ผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาวตราสารทุน 8-10%
ผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาวตราสารหนี้ 2-3%
ผลตอบแทนคาดหวัง
= (0.40)(8%) + (0.60)(2%)
= 3.2 + 1.2
= 4.4%
‹ 2-27 ›
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ตราสารหนี้ 100%
ผลตอบแทนคาดหวัง 2.0-3.0% ต่อปี
ตราสารทุน
ตราสารหนี้ 90%
การคำนวณอัตรา
ผลตอบแทนคาดหวัง
10%
ผลตอบแทนคาดหวัง 2.6-3.7% ต่อปี
ตราสารทุน
ตราสารหนี้ 80%
20%
ผลตอบแทนคาดหวัง 3.2-4.4% ต่อปี
ตราสารทุน
ตราสารหนี้ 60%
40%
‹ 2-28 ›
ผลตอบแทนคาดหวัง 4.4-5.8% ต่อปี
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
2 ปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มเงินสะสมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
อัตราการออม
(เงินสะสม)
แผนลงทุน
Employee’s Choices
‹ 2-29 ›
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
แนวทางการเลือกแผนการลงทุนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ช่วงอายุ 20-45 ปี
ช่วงอายุ 45-59 ปี
‹ 2-30 ›
การวางแผนการลงทุนเอง
ผลตอบแทนการลงทุน 1,000 บาททุกเดือน ที่อัตราผลตอบแทนต่างๆ
อัตราผลตอบแทน
การลงทุน
สินทรัพย์
1.00%
เงินฝาก
3.00%
พันธบัตร+หุ้นกู้
7.00%
10.00%
จำนวนปีที่เหลือก่อนเกษียณ
10 ปี
20 ปี
30 ปี
40 ปี
265,561
419,628
589,891
137,742
328,302
582,736
926,059
หุ้น+ตราสารหนี้
173,084
520,926
1,219,971
2,624,813
หุ้น+กองทุนหุ้น
204,844
759,368
2,260,487
6,324,079
126,149
‹ 2-31 ›
ทางเลือกในการวางแผนการลงทุนเอง
หุ้น
กองทุนรวม
กองไม่ปันผล
ทยอยสะสม
กองทุนรวมทั่วไป
กองปันผล
DCA
SSF
จับจังหวะลงทุน
กองทุนรวม
สิทธิประโยชน์ทางภาษี
RMF
‹ 2-32 ›
ตัวอย่าง การวางแผนการลงทุนเอง
‹ 2-33 ›
ตัวอย่าง การวางแผนการลงทุนเอง
นาย ก. วางแผนลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
เป็นประจำทุกเดือนๆ ละ 3,000 บาท
ตั้งแต่อายุ 35 ปี ไปจนถึงวันเกษียณ​(อายุ 60 ปี) โดยเลือก
สินทรัพย์ในกองทุนเป็นหุ้น SET50 คาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยที่
ระดับ 6% ต่อปี
อยากทราบว่า พอร์ตการลงทุนนี้ เมื่อถึงวันที่นาย ก เกษียณ
จะมีเงินสะสมเท่าไหร่
‹ 2-34 ›
ตัวอย่าง การวางแผนการลงทุนเอง
นาย ก. วางแผนลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
เป็นประจำทุกเดือนๆ ละ 3,000 บาท
ตั้งแต่อายุ 35 ปี ไปจนถึงวันเกษียณ​(อายุ 60 ปี) โดยเลือก
สินทรัพย์ในกองทุนเป็นหุ้น SET50 คาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยที่
ระดับ 6% ต่อปี
อยากทราบว่า พอร์ตการลงทุนนี้ เมื่อถึงวันที่นาย ก เกษียณ
จะมีเงินสะสมเท่าไหร่
‹ 2-35 ›
-3,000
2,078,981.89
6
300
การลงทุนในกองทุน SET50
Investing in Index fund
‹ 2-36 ›
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(SET Index)
*ดัชนี คือ การคำนวณค่าทางสถิติเพื่อให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่เราสนใจ
‹ 2-37 ›
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์
คือ ดัชนีที่สะท้อนการเคลื่อนไหวของราคาหลักทรัพย์ทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
***วันที่ 30 เมษายน 2518 (วันเปิดทำการของ SET)
‹ 2-38 ›
มูลค่าบริษัท (Market Capitalization)
คือ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด คํานวณโดยการเอา “ราคาหุ้น” คูณกับ “จำนวนหุ้นของบริษัท”
เช่น บริษัท ABC มีหุ้นอยู่ 1,000 ล้านหุ้น ปัจจุบัน ราคาหุ้นละ 10 บาท
ก็จะมีมูลค่าบริษัท (ตามราคาตลาด)​เท่ากับ 1,000 ล้านหุ้น X 10 บาท (ต่อหุ้น) = 10,000 ล้านบาท
หากเราต้องการเป็นเจ้าของบริษัท ABC เพียงคนเดียว เราก็ต้องจ่ายเงิน 10,000 ล้านบาท
อันดับปี 2019
หุ้น
มูลค่าบริษัท (ล้านบาท)
1
PTT
1,392,446
2
AOT
1,097,141
3
CPALL
772,546
‹ 2-39 ›
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์
คือ ดัชนีที่สะท้อนการเคลื่อนไหวของราคาหลักทรัพย์ทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
***วันที่ 30 เมษายน 2518 (วันเปิดทำการของ SET)
‹ 2-40 ›
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์
ดัชนี SET50
ดัชนีที่ใช้แสดงระดับราคาหุ้นสามัญ 50 ตัว โดยคัดเลือกกลุ่มหลักทรัพย์
ที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization) และสภาพคล่อง
ในการซื้อขายสูงสุด 50 อันดับแรก
‹ 2-41 ›
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์
ดัชนี SET50
ดัชนีที่ใช้แสดงระดับราคาหุ้นสามัญ 50 ตัว โดยคัดเลือกกลุ่มหลักทรัพย์
ที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization) และสภาพคล่อง
ในการซื้อขายสูงสุด 50 อันดับแรก
100 อันดับแรก
“ดัชนี SET100”
‹ 2-42 ›
ดัชนี SET50 และ SET100
เกณฑ์ในการคัดเลือกของหลักทรัพย์ที่จะอยู่ใน SET50 และ SET100
คำนวณแบบถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด
(Market Capitalization Weight)
ไม่นำหลักทรัพย์ที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP เกิน 20 วันมารวมในการคำนวณ
มีสัดส่วนผู้ถือหลักทรัพย์รายย่อย (Free-float) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของทุนชำระแล้ว
SET50 คำนวณโดยใช้หุ้นสามัญจดทะเบียนที่ผ่านการคัดเลือก 50 อันดับแรก
SET100 คำนวณโดยใช้หุ้นสามัญจดทะเบียนที่ผ่านการคัดเลือก 100 อันดับแรก
*ข้อมูลและภาพประกอบจากเว็บไซต์
https://knowledge.bualuang.co.th/knowledge-base/set-50-set-100/
‹ 2-43 ›
หุ้นบริษัทอะไรบ้าง ที่อยู่ในดัชนี SET50
https://classic.set.or.th/th/market/constituents.html
‹ 2-44 ›
หุ้นบริษัทอะไรบ้าง ที่อยู่ในดัชนี SET50
‹ 2-45 ›
หุ้นบริษัทอะไรบ้าง ที่อยู่ในดัชนี SET50
‹ 2-46 ›
หุ้นบริษัทอะไรบ้าง ที่อยู่ในดัชนี SET50
‹ 2-47 ›
“ แล้วถ้าอยากซื้อหุ้นพร้อมกันทั้ง 50 บริษัท
เราจะซื้อยังไงดี??? ”
‹ 2-48 ›
กองทุนรวมดัชนี SET50
คือ กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุน ในหุ้นใหญ่และมีสภาพคล่องสูง 50 บริษัทแรกของตลาด (มีชื่ออยู่ใน SET50)
และมีจุดมุ่งหมายให้มีผลตอบแทนเลียนแบบดัชนี SET50 โดยกระจายการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยน้ำหนัก
***ไม่มีขั้นต่ำ!!
ในการลงทุน
‹ 2-49 ›
คำแนะนำจาก Warrent Buffett
Buffett is a master of value investing wherein
patience, discipline, and risk aversion are
the essential ingredients for success. But he
acknowledges that individual stock picking
is not for everybody.
In fact, most average, long-term investors
would benefit from a much simpler strategy,
he says: investing in low-cost index funds.
"My regular recommendation has been
a low-cost S&P 500 index fund,"
Buffett wrote in his 2016 Berkshire Hathaway
annual shareholder letter.
‹ 2-50 ›
กองทุนรวมดัชนี SET50
*เงินปันผลถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10%
‹ 2-51 ›
กองทุนรวมดัชนี SET50
‹ 2-52 ›
กองทุนรวมดัชนี SET50
‹ 2-53 ›
ผลตอบแทนกองทุนรวม SET 50 ในระยะยาว
31 มกราคม 2566
( 236 เดือน )
‹ 2-54 ›
6.98%
ผลตอบแทนกองทุนรวม SET 50 ในระยะยาว
31 มกราคม 2566
( 236 เดือน )
‹ 2-55 ›
6.98%
STEP 5 :
ตรวจสอบการสะสมในปัจจุบันและ
วางแผนสะสมเพิ่ม
แหล่งรายได้
มูลค่า
200,000
เงินชดเชยกรณีเลิกจ้าง
0
บำเหน็จชราภาพประกันสังคม
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ / กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
1,000,000
เงินฝาก / สลากออมทรัพย์ / พันธบัตร / หุ้นกู้
-
หุ้น
-
กองทุนรวม
2,000,000
ประกันชีวิต
-
อื่นๆ
รวมเงินก้อนสะสมของ นาย ก.
‹ 2-56 ›
3,200,000
STEP 5 และ 6 :
ตารางคำนวณทุนเกษียณของนาย ก
รายการจ่าย
รายจ่าย
ต่อเดือน
ค่าอาหาร
10,000
ค่าเดินทาง
2,000
สาธารณูปโภค
3,000
ค่าใช้จ่ายสุขภาพ
-
ค่าใช้จ่ายนันทนาการ
2,000
อื่นๆ
3,000
1
2
3
รายจ่ายรวม
ต่อเดือน
รายจ่ายรวม
ต่อเดือน
(*ปรับเฟ้อ)
หักรายได้
ณ วันเกษียณ
ส่วนขาด
รายเดือน
เงินก้อนที่ต้องมี
ณ วันเกษียณ
20,000
36,000
17,500
18,500
4,440,000
*ตัวคูณเงินเฟ้อ 1.8
4
*คูณส่วนขาดรายเดือน
ด้วย 240
‹ 2-57 ›
5
6
ส่วนที่ต้อง
การเก็บสะสมที่มี
วางแผน
ในปัจจุบัน
ลงทุนเพิ่มเติม
3,200,000
1,200,000
03
การจัดสรรเงินเพื่อใช้จ่าย
และลงทุนหลังเกษียณ
ข้อเท็จจริงที่พบในผู้เกษียณส่วนใหญ่
“ผู้เกษียณส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะใช้เงินมากกว่าที่ประมาณการไว้
เนื่องมาจาก “เวลา” ที่เพิ่มมากขึ้น
จากการไม่ต้องทำงาน จึงทำให้มีการจับจ่ายที่มากขึ้น“
‹ 3-1 ›
แนวโน้มการใช้จ่ายเงินในช่วงเกษียณ
1
2
3
ใช้จ่ายเยอะ
ในช่วงเริ่มต้นเกษียณ
หลังจากนั้นจะเริ่มปรับตัว
และควบคุมการใช้จ่าย
ให้เป็นปกติ
ใช้จ่ายเยอะอีกครั้ง
ช่วงบั้นปลายชีวิต
อันเนื่องมาจาก
ค่ารักษาพยาบาล
‹ 3-2 ›
แนวทางบริหารเงินหลังเกษียณ
ควรจัดทำเป็นงบประมาณให้ชัดเจนทั้งการใช้จ่ายและลงทุน
ห้ามแบ่งให้คนอื่น (แม้แต่ลูกหลาน) จนกว่าจะจัดสรรและมั่นใจว่าเงิน
เพียงพอสำหรับใช้จ่าย 20-25 ปี
อย่านำเงินเกษียณไปลงทุนในสิ่งที่ไม่รู้จักและไม่เข้าใจ
กรณียังมีภาระหนี้อาจจัดสรรเงินบางส่วนชำระหนี้ แต่ต้องเหลือเงินสด
ไว้ใช้จ่ายด้วย
ควรจัดสรรและเผื่อค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาล
‹ 3-3 ›
การจัดสรรเงินเกษียณ
แบบ 4% Rule
‹ 3-4 ›
การบริหารเงินเกษียณ 4% Rule
เป็นหลักการง่ายๆ
(Rule of Thumb)
ในการจัดสรรเงินเกษียณ
หลักการคือ
ตัดเงินออกมาใช้จ่ายจาก
เงินเกษียณที่มีทั้งหมด
ปีละ 4% เพื่อให้เพียงพอ
ใช้จ่ายได้ 20 ปี*
‹ 3-5 ›
เงินที่ยังไม่ใช้จ่าย
นำไปลงทุนให้ชนะเงินเฟ้อ
ตัวอย่าง การจัดสรรเงินตามกฎ 4% Rule
นายเอ มีเงินสะสมหลังเกษียณรวมมูลค่า 8,000,000 บาท
นายเอ ควรตัดเงินมาใช้เงินมาใช้ปีละเท่าไหร่?
เพื่อให้มีเงินเพียงพอใช้ได้อย่างน้อย 20 ปี
การคำนวณ
เงินใช้จ่ายต่อปี = 8,000,000 X 4% = 320,000 บาท/ปี
หรือประมาณ 26,000 บาทต่อเดือน
‹ 3-6 ›
ตัวอย่าง การประยุกต์ใช้ตามกฎ 4% Rule
นาย เอ มีเงินเพื่อเกษียณ 10 ล้านบาท ตั้งใจจะถอนเงินออกมาใช้จ่ายในอัตราปีละ 4%
โดยเลือกแบ่ง เงินออกเป็น 2 กอง เพื่อบริหารจัดการ ดังนี้
กองที่ 1: นำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น ฝากออมทรัพย์
ด้วยสัดส่วน 10 เท่าของอัตราการถอนเงินในปีแรก (**ตั้งใจไว้ใช้จ่าย 10 ปีแรก)
กองที่ 2: นำเงินที่เหลือจากหักออกจากกองแรก ไปลงทุนในสินทรัพย์ลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง
เช่น กองทุนรวมตราสารทุน กองทุนรวมดัชนีหุ้น (สะสมไว้ใช้จ่ายในปีทีเหลือ)
‹ 3-7 ›
ตัวอย่าง การประยุกต์ใช้ตามกฎ 4% Rule
กองที่ 1
ใช้จ่าย 10 ปี
ปีละ 400,000
(รวม 4 ล้านบาท)
4% Rule
เงินสะสม
ณ วันเกษียณ
10 ล้าน
ฝากเงินฝากออมทรัพย์
สลากออมทรัพย์
ตราสารหนี้
กองทุนรวมตราสารหนี้
4% ของ 10 ล้าน
= 400,000 บาท/ต่อปี
กองที่ 2
6,000,000 บาท
‹ 3-8 ›
กองทุนหุ้น
กองทุนดัชนี
ตัวอย่าง การประยุกต์ใช้ตามกฎ 4% Rule
ฝากเงินฝากออมทรัพย์
สลากออมทรัพย์
ตราสารหนี้
กองทุนรวมตราสารหนี้
กองทุนหุ้น
กองทุนดัชนี
กองที่ 1
ใช้จ่าย 10 ปี
ปีละ 400,000
(รวม 4 ล้านบาท)
เงื่อนไขการถอนเงิน
ถอนเงินตอนต้นปีของทุกปี
ถ้าปีที่แล้วเงินกองที่ 2 ขาดทุน ให้ถอนเงินจากกองที่
1
ปรับสมดุลพอร์ตการลงทุนทุก ๆ ต้นปี โดยให้ปรับ
หลังจากถอนเงินแล้ว
กองที่ 2
6,000,000 บาท
‹ 3-9 ›
การบริหารเงินเกษียณ
ด้วยกลยุทธ์เงิน 3 ถัง
3 Bucket of Retirements
‹ 3-10 ›
กลยุทธ์เงิน 3 ถัง
การประยุกต์ใช้กลยุทธ์เงิน 3 ถัง ในการถอนเงินเพื่อใช้จ่ายหลังเกษียณ
เงินใช้จ่าย
ก้อนที่ 2
ถัง 1
บัญชีเงินสดหรือการลงทุนที่มี
ความเสี่ยงต่ำ เพื่อให้สามารถ
นำเงินสดออกมาใช้จ่ายได้
เมื่อต้องการหรือจำเป็น
เงินใช้จ่าย
ก้อนที่ 3
ถัง 2
ลงทุนในสินทรัพย์ที่
ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ
มีเงินปันผล มีความเสี่ยงไม่สูง
‹ 3-11 ›
ถัง 3
จัดพอร์ตลงทุนให้เติบโต
และลงทุนในระยะยาว
เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี
เช่น ลงทุนหุ้นในสัดส่วนที่มากขึ้น
กลยุทธ์เงิน 3 ถัง
เงินใช้จ่าย
ก้อนที่ 1
เงินใช้จ่าย
ก้อนที่ 2
ปีที่ใช้เงิน
การสะสม
ระยะเวลาสะสม
‹ 3-12 ›
เงินใช้จ่าย
ก้อนที่ 3
กลยุทธ์เงิน 3 ถัง
เงินใช้จ่าย
ก้อนที่ 1
ปีที่ใช้เงิน
ปีที่ 1-3
การสะสม
เงินฝาก
กองทุนรวมตลาดเงิน
ระยะเวลาสะสม
เงินใช้จ่าย
ก้อนที่ 2
0-3 ปี
‹ 3-13 ›
เงินใช้จ่าย
ก้อนที่ 3
กลยุทธ์เงิน 3 ถัง
ปีที่ใช้เงิน
การสะสม
ระยะเวลาสะสม
เงินใช้จ่าย
ก้อนที่ 1
เงินใช้จ่าย
ก้อนที่ 2
ปีที่ 1-3
ปี 4-10
เงินฝาก
กองทุนรวมตลาดเงิน
เงินฝากดอกเบี้ยสูง
สลากออมทรัพย์
กองทุนรวมตราสารหนี้
พันธบัตร หุ้นกู้
0-3 ปี
3+ ปี
‹ 3-14 ›
เงินใช้จ่าย
ก้อนที่ 3
กลยุทธ์เงิน 3 ถัง
ปีที่ใช้เงิน
การสะสม
ระยะเวลาสะสม
เงินใช้จ่าย
ก้อนที่ 1
เงินใช้จ่าย
ก้อนที่ 2
เงินใช้จ่าย
ก้อนที่ 3
ปีที่ 1-3
ปี 4-10
ปี 10 จนสิ้นอายุขัย
เงินฝาก
กองทุนรวมตลาดเงิน
เงินฝากดอกเบี้ยสูง
สลากออมทรัพย์
กองทุนรวมตราสารหนี้
พันธบัตร หุ้นกู้
กลุ่มกองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
(REITs, IFF)
กองทุนรวมหุ้น
หุ้นสามัญ
0-3 ปี
3+ ปี
10+ ปี
‹ 3-15 ›
กลยุทธ์เงิน 3 ถัง (แบบประยุกต์)
ค่าใช้จ่าย
ต่อเดือน
เงินใช้จ่ายก้อนที่ 1
( ปีที่ 1-3 )
เงินใช้จ่ายก้อนที่ 2
( ปีที่ 4-10 )
‹ 3-16 ›
เงินใช้จ่ายก้อนที่ 3
( ปีที่ 10+ )
กลยุทธ์เงิน 3 ถัง (แบบประยุกต์)
ค่าใช้จ่าย
ต่อเดือน
เงินใช้จ่ายก้อนที่ 1
( ปีที่ 1-3 )
เงินใช้จ่ายก้อนที่ 2
( ปีที่ 4-10 )
20,000
720,000
1,680,000
(20,000 x 12 x 3 ปี)
(20,000 x 12 x 7 ปี)
‹ 3-17 ›
เงินใช้จ่ายก้อนที่ 3
( ปีที่ 10+ )
จัดสรรลงทุน
ด้วยเงินคงเหลือ
กลยุทธ์เงิน 3 ถัง (แบบประยุกต์)
ค่าใช้จ่าย
ต่อเดือน
เงินใช้จ่ายก้อนที่ 1
( ปีที่ 1-3 )
เงินใช้จ่ายก้อนที่ 2
( ปีที่ 4-10 )
20,000
720,000
1,680,000
30,000
1,080,000
2,520,000
40,000
1,440,000
3,360,000
50,000
1,800,000
4,200,000
‹ 3-18 ›
เงินใช้จ่ายก้อนที่ 3
( ปีที่ 10+ )
จัดสรรลงทุน
ด้วยเงินคงเหลือ
ลักษณะการหลอกลวงลงทุน
มีการ “รับประกัน’ ผลตอบแทน
พูดจาชี้ชวนอยากให้เข้าร่วมลงทุน
มากจนผิดสังเกต
ให้ผลตอบแทนการลงทุน
สูงเกิน 10% ต่อปี
ตรวจสอบไม่พบการรับรอง
จากทางภาครัฐ (โดยเฉพาะ กลต.)
รูปแบบการสร้างมูลค่าและกำไร
ไม่ชัดเจน อธิบายไม่ได้
ยิ่งชวนคน ยิ่งได้กำไรเพิ่ม
‹ 3-19 ›
ส่งคำถามมาคุยกัน talk@moneycoach.co.th
Download