Uploaded by Sekson Junsukpluk

อาหารบำรุงไต

advertisement
อาหารบาบัดผ้ ปู ่ วยโรคไตเรื้ อรั ง
ระยะก่ อนฟอกเลือด
( Pre - dialysis)
นางสาวนิตยา นาประจักษ์
นักโภชนาการ
กล่ มุ งานโภชนศาสตร์
โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
วัตถุประสงค์ ของโภชนบาบัดในผู้ป่วยโรคไต
ลดภาระการทางานของไตในการขับถ่ ายของเสี ย
ลดการคัง่ ของของเสี ยที่เกิดจากอาหารทีร่ ับประทาน
ชะลอการเสื่ อมของไต
ยืดเวลาที่ต้องล้ างไตให้ ช้าลง
ควบคุมระดับเกลือแร่ ให้ อยู่ในระดับปกติ
การควบคุมระดับกลูโคสให้ อยู่ในระดับที่
ต้ องการ
วัตถุประสงค์ ของโภชนบาบัดในผู้ป่วยโรคไต
ควบคุมระดับความดันโลหิตให้ อยู่ในเกณฑ์ ปกติ
ควบคุมระดับไขมันในเลือดให้ อยู่ในระดับปกติ
ป้องกันความผิดปกติของกระดูก
ให้ ผ้ ูป่วยได้ รับสารอาหารครบถ้ วน และเหมาะสมกับ
สภาวะของโรค
ช่ วยให้ มสี ุ ขภาพดี และมีคุณภาพชีวติ ทีด่ ขี นึ้
โรคไต
ไตอักเสบ
โรคไตเรื้อรัง
หน่ วยไตอักเสบเฉียบพลัน
รักษาให้ หายได้
หน่ วยไตถูกทาลายไปแล้ว
ไม่ สามารถรักษาให้ กลับคืนดีได้
สาเหตุเกิดจากโรคบางอย่ าง เช่ น
เบาหวาน ความดันโลหิตสู ง
โรคภูมิคุ้มกันบกพร่ อง ไตขาด
เลือดมาเลีย้ ง ได้ รับสารพิษ
เกิดการติดเชื้อ โรคพันธุกรรม ฯลฯ
สาเหตุส่วนใหญ่ ทที่ าให้ เป็ นโรคไต
 โรคเบาหวานทีไ่ ม่ ได้ ควบคุม
 โรคความดันโลหิตทีไ่ ม่ ได้ ควบคุม
โรคไตจากเบาหวาน
โรคเบาหวานเป็ นสาเหตุหนึ่งทีท่ าให้ เกิด
โรคไต ถ้ าไม่ ควบคมุ ระดับน้าตาลใน
เลือด
 หน่ วยกรองของเสี ยในไตจะถูกทาลาย
ทาให้ มีโปรตีนหลดุ ออกมาในปัสสาวะ

ปัญหาสาคัญของโรคไต
- โรคไตมีท้งั ชนิดเฉียบพลัน และชนิดเรื้อรัง บางชนิดสามารถ
รักษา ให้ หายขาดได้ แต่ บางชนิดไม่ สามารถรักษาให้ หายขาดได้
- โรคไตเป็ นปัญหาสาคัญ เพราะนับวันจะมีคนป่ วยเพิม่ มากขึน้ ทุก
ที ต้ องใช้ อุปกรณ์ และงบประมาณจานวนมาก ตลอดจนต้ องการ
บุคลากรทีม่ ีความชานาญเป็ นพิเศษในการบาบัดรักษาผู้ป่วย
- เป็ นโรคทีก่ ระทบเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวติ ของผู้ป่วย
และ ครอบครัวเป็ นอย่ างมาก
ตารางที่ 1 ค่ าตา่ สุ ด สู งสุ ดและค่ าเฉลีย่ ของค่ าใช้ จ่ายในการดูแลสุ ขภาพของ
ผู้สูงอายุ ทีป่ ่ วยด้ วยโรคเรื้อรังตลอดปี (หน่ วยเป็ นบาท)
โรค
1. ความดันโลหิตสู ง
2. เบาหวาน
3. หัวใจ
4. ไตวายเรื้อรัง
5. ไขมันในเลือดสู ง
6. กระดูกและข้ อเสื่ อม
7. แผลในกระเพาะอาหาร
8. หลอดเลือดในสมอง
ต่าสุ ด
สู งสุ ด
ค่ าเฉลีย่
216
1,500
540
12,000
200
1,500
200
360
69,000
13,320
45,960
585,984
43,200
13,320
7,644
74,040
5,372.78
5,605.00
7,947.00
278,137.00
10,508.50
4,992.80
4,992.80
19,678.00
ทีม่ า สานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) 2543
ระยะ
ของโรค
ระยะต่างๆ ของโรคไตเรือ้ รัง
อัตราการขจัดของเสียที่ไต
ซึ่งในที่นี้ให้ใช้ค่า CCr แทน
มิลลิลิตร/นาที
1
ไตเริ่มเสื่อมแต่ ยงั มีแรงม้ าปกติ
2
ไตผิดปกติและมีการทางาน (แรงม้ า) ลดบ้ าง
60 – 89
3
การทางาน (แรงม้ า) ของไตลดบ้ าง ประมาณครึ่ง
30 – 59
4
การทางาน (แรงม้ า) ของไตลดอย่ างมาก
เหลือตา่ กว่าร้ อยละ 30
15 – 29
5
ไตเรื้อรังระยะสุ ดท้ าย
เตรียมตัวฟอกเลือด
โรคไตเรื้อรัง
(0.1%)
> 90
< 15
ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม หรือ
< 10
ด้วยวิธีล้างไตทางช่องท้อง
Stage 3 – 5 CKD = 4.5% x 40 M. = 2 ล้ านคน
โรคไตเรื้อรัง(Chronic kidney disease,CKD)
 หน่ วยไตถูกทาลายอย่ างถาวร
 การทางานของไตเสื่ อมลง ค่ า creatinine ในเลือดเริ่มสู งขึน้
creatinine 1.5 – 2.0 mg/dl
 ธรรมชาติของโรคจะทาให้ ไตเสื่ อมลงเรื่อยๆ
 อัตราการกรองของเสี ยโดยไตจะลดลง ประมาณ 10% ต่ อปี
(ต่ างกันไปในแต่ ละคน) ขึน้ อยู่กบั ปัจจัยหลายประการ
เช่ น โรคที่เป็ น เหตุ ให้ เกิดโรคไตเรื้อรัง (DM,HT)
หน้ าทีข่ องไต
 กรองของเสี ย ที่เกิดจากการเผาผลาญอาหารโปรตีน (ซึ่งส่ วน
ใหญ่ คือ ยูเรีย)
 ควบคุมการเป็ นกรด – ด่ างในเลือด และปรับสมดุลของนา้
และ
เกลือแร่ ภายในร่ างกาย โดยเฉพาะโซเดียม โปแตสเซียม
 สร้ างฮอร์ โมนที่เกีย่ วข้ องกับการสร้ างเม็ดเลือดแดง และสร้ าง
วิตามินดี ทีเ่ กีย่ วข้ องกับกระดูก
 ไตทาหน้ าทีค่ ล้ายกับตัวกรองนา้ ไตทีก่ าลังเสื่ อมก็เหมือนกับ
รูกรองนา้ ทีค่ ่ อยๆ ตัน
รู ปหน่ วยไต (Nephron)
ทาอย่ างไรที่จะป้องกันไม่ ให้ คนไข้ ต้องฟอกเลือด
กินให้ ถูกต้ องนะคะ
ไตจะได้ เสื่อมช้ าลง
กินอย่ างไรเมื่อเป็ นโรคไต?
 กินอะไร ?
 กินเท่ าไร ?
 กินอย่ างไร ?
กินอาหารอะไร ?
กินอาหาร
ให้ ครบ 5 หมู่
สารอาหาร (Nutrients)
 ส่ วนประกอบทีม่ อี ยู่ในอาหาร
 สารอาหารแต่ ละชนิดมีหน้ าทีเ่ ฉพาะของมัน
 สารอาหารทีใ่ ห้ พลังงาน
คาร์ โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน
 สารอาหารทีค่ วบคุมระบบชีวเคมีต่างๆ
แร่ ธาตุ และวิตามินต่ างๆ
สารอาหารทีส่ าคัญสาหรับผู้ป่วยโรคไต







โปรตีน (เนือ้ สั ตว์ ไข่ นม)
โซเดียม
โปแทสเซียม
ฟอสฟอรัส
พลังงาน (ไขมัน ข้ าว แป้ ง)
นา้
พิวรีน ต้ นกาเนิดของกรดยูริค
โปรตีน
 อยู่ในร่างกาย 15 – 25 % ซึ่งเป็ นปริมาณที่มากเป็ นทีส่ อง
รองจากนา้
 เป็ นสารอาหารหลักที่ร่างกายต้องการ
 โปรตีนเป็ นส่ วนประกอบของกล้ ามเนือ้ และเนือ้ เยือ่ ทั่วร่ างกาย
 ถ้ าไตเสื่ อม ของเสี ยที่เกิดจากอาหารทีใ่ ห้ โปรตีน จะคั่งและไป
สะสมตามอวัยวะต่ างๆ ทาให้ อวัยวะต่ างๆทางานผิดไป
ย่ อย
 โปรตีน
กรดอะมิโนและยูเรีย(ของเสี ย)
ปริมาณโปรตีนในอาหาร
การรับประทานอาหารทีม่ ปี ริมาณโปรตีนสู ง
ในผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังมีผลเสี ยต่ อการทาหน้ าทีข่ อง
ไต
การให้ อาหารจากัดโปรตีนทาให้ ผ้ ูป่วยเข้ าสู่ ระยะ
ท้ ายของโรคไตวายเรื้อรัง (end–stage renal failure )
ช้ าลงหรือลดลง
โปรตีนสู งจะทาให้ เกิดสาร urea ทีต่ ้ องขับ
ออกทางไตเพิม่ ขึน้
อาหารสาหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในระยะก่ อนฟอกเลือด
โปรตีน
ต้ องได้ รับ ต่า กว่ าคนปกติ
คนปกติ 0.8 กรัม / 1 กิโลกรัม / Ideal body weight / วัน
 ผู้ป่วยCreatinine clearance (CCr) ระหว่าง 30 - 60 ml/min ;
Cr  1.5 mg/dl ให้ โปรตีน 0.6 กรัม/IBW/วัน
 Ccr < 30 ml/min ; Cr  2.5 mg/dl ให้โปรตีน 0.4 กรัม/IBW/วัน
 ถ้าจะโปรตีน < 0.4 กรัม/IBW/วัน จะต้องให้กรดอะมิโน
(Amino acid mixture) เสริม
ปริมาณโปรตีนในอาหาร
ผู้ป่วยCreatinine clearance (CCr) ระหว่ าง 30 60 มิลลิลติ ร/นาที ให้ โปรตีน 0.6 กรัม/IBW/วัน
Creatinine clearance (CCr) < 30 มิลลิลติ ร/
นาที ให้ โปรตีน 0.4 กรัม/IBW/วัน
โปรตีน
เราพบโปรตีนใน
เนือ้ สั ตว์
ข้ าว แป้ ง
ผัก
ผลไม้
โปรตีน
• โปรตีนทีม
่ ีคุณภาพดี (High biological value :HBV
protein)
• โปรตีนทีม่ ีคุณภาพตา่ (Low biological value
:LBV protein)
คณ
ุ ภาพของโปรตีน
 โปรตีนทีม่ ีคุณภาพดี (พบได้ ในเนือ้ สั ตว์
และผลิตภัณฑ์ จากสั ตว์ นม ไข่ )
 โปรตีนทีม่ ีคุณภาพตา่ (พบใน ข้ าว แป้ ง ผัก
ผลไม้ )
โปรตีนทีม่ ีคณ
ุ ภาพดี
• ประกอบด้ วย กรดอะมิโนจาเป็ น (Essential amino acids)
ครบถ้ วนในสัดส่ วนทีเ่ หมาะสม
• ร่ างกายจะนาเอาโปรตีนไปใช้ ได้ อย่ างเต็มทีท่ าให้ มีของเสีย
เกิดขึ้นน้ อย ไตจึงไม่ ต้องทางานหนัก
• โปรตีน ชนิดนี้จะช่ วยให้ มีการนากรด อะมิโนไม่ จาเป็ น
กลับมาใช้ อีก และลดการผลิตยเู รี ยน้ อยลง
(ไตทางานน้ อยลง)
โปรตีนทีม่ ีคณ
ุ ภาพดี
• ควรรั บประทานโปรตีนที่มี HBV อย่ างน้ อยที่สุด
50% ของปริ มาณโปรตีนทั้งหมดที่ได้ รับต่ อวันและ
ตามที่แพทย์ กาหนด
• โปรตีนทีม่ ีคณ
ุ ภาพดีพบได้ในอาหารประเภท
เนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์ จากสัตว์ เช่ น นม ไข่
อาหารโปรตีนทีม่ โี ปรตีนคุณภาพดี
อาหารทีม่ โี ปรตีนคุณภาพดี
 เนือ้ สั ตว์
- ควรเลือกเนือ้ สั ตว์ ทมี่ ไี ขมันน้ อย
- เนือ้ ปลาเหมาะสมทีส่ ุ ด
- ปลาทะเลนา้ ลึกจะได้ รับไขมันไม่ อมิ่ ตัว (PUFA)
ชนิด Omega 3 ช่ วยลดไตรกลีเซอไรด์ ในเลือดได้
- ได้ แก่ ปลาทู ปลาซาบะ ปลาโอ ปลาทูน่า ปลา
หลังแข็ง
อาหารทีม่ โี ปรตีนคุณภาพดี
ไข่
- เลือกรับประทานไข่ ขาวให้ บ่อยขึน้
- ในไข่ แดงมีท้งั ไขมันและ
โคเลสเตอรอล และยังมีฟอสเฟตมาก
ประมาณ 25 เท่ าของทีม่ ใี นไข่ ขาว
ไข่ ขาว
 เป็ นโปรตีนคุณภาพดี
 ปราศจากไขมัน และโคเลสเตอรอล
 มีของเสียขับถ่ายออกมาทางไตน้อย
 ควรรับประทานทุกวัน
 แต่ตอ้ งนับอยู่ในปริมาณโปรตีน
ที่กาหนด
อาหารทีม่ โี ปรตีนคุณภาพดี
 นม
- เป็ นอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพดี มีแคลเซียมสู ง
- แต่นมก็มีฟอสเฟตมากที่สุด ในบรรดาอาหารเนื้อสัตว์
- ภาวะฟอสเฟตในเลือดสูง เมื่อเกิดขึ้นแล้วมักจะแก้ไข
ได้ยาก
- มีผลเสี ยต่อกระดูก อาจทาให้เกิดโรคกระดูกเปราะ
และการทางานของต่อมพาราไธรอยด์
- หากจะดื่มนม จึงควรเลือกนมไขมันต่า หรื อนมขาด
ไขมัน
หมวดเนือ้ สั ตว์ และผลิตภัณฑ์ จากสั ตว์
ให้ โปรตีน 7 กรัม โซเดียม 25
– 60 มิลลิกรัม โปแทสเซียม 120
มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 70 มิลลิกรัม
พลังงานเฉลีย่ 65 – 75 กิโลแคลอรี
ตาราง แสดงปริมาณเนื้ อสัตว์ 1 ส่ วน (30 กรัม) มีโปรตีน 7 กรัม
ให้พลังงาน 70 กิโลแคลอรี
เนือ้ สั ตว์
ปริมาณอาหาร
เนือ้ หมู / เนือ้ ไก่
(ไม่ ติดมันและไม่ ติดหนัง)
เนือ้ หมู / เนือ้ ไก่สับ
กุ้งนาง
กุ้งกุลาดาลาย (ขนาด 2 นิว้ )
ปลาทู (เฉพาะเนือ้ )
ปลาทู (เฉพาะเนือ้ )
ปลาแดง (เฉพาะเนือ้ )
2 ช้ อนโต๊ ะ
2 ช้ อนโต๊ ะ
1 ตัวขนาดกลาง
4 ตัว
1 ตัวเล็ก
½ ตัวขนาดกลาง
1 ตัวเล็ก
ตาราง แสดงปริมาณเนื้ อสัตว์ 1 ส่ วน (30 กรัม) มีโปรตีน 7 กรัม
ให้พลังงาน 70 กิโลแคลอรี
เนือ้ สั ตว์
ปลาดุก / ปลาช่ อน (หนา ½ นิว้ )
ซี่โครงหมูทอด (1.5x1.5นิว้ )
ลูกชิ้น (ขนาดกลาง)
เนือ้ ปลานึ่ง (2x2x1/3 นิว้ )
ไข่ ท้งั ฟอง
ไข่ ขาว
น่ องไก่
ปลาทูน่า
เลือดหมู
เลือดไก่
ปริมาณอาหาร
3 แว่ น
4 ชิ้น
4 – 5 ลูก
1 ชิ้น
1 ฟอง
2 ฟอง
½ น่ องใหญ่
2 ช้ อนโต๊ ะ
6 ช้ อนโต๊ ะ
3 ช้ อนโต๊ ะ
แหล่ งทีม่ า ดัดแปลงจาก ADA .National Renal Diet.1992
หมวดเนื้ อสัตว์
ให้โปรตีน 7 กรัมพลังงาน 65- 75 กิโลแคลอรี
2 = ช้ อนโต๊ ะ
4-5 ตัว
ไข่ ท้งั ฟอง 1 ฟอง
ไข่ ขาว 2 ฟอง
1 ตัวเล็ก
4-5 ลูก
2 ช้ อนกินข้ าว (30 กรัม) มีโปรตีน 7
กรัม
ให้ พลังงาน 70 กิโลแคลอรี
เนือ้ สั ตว์ ทคี่ วรหลีกเลีย่ ง
เนือ้ สั ตว์ ทมี่ ีไขมันสู ง
- ไข่ แดง เครื่องในสั ตว์ หนังหมู หนังเป็ ด หนังไก่ ไข่ ปลา
- เนือ้ หมู / เนือ้ วัวติดมัน ซี่โครงหมูติดมันมาก
- หมูหัน เป็ ดปักกิง่ หมูสามชั้น หมูกรอบ เป็ ดย่ าง ห่ านพะโล้
เนือ้ สั ตว์ ที่มีกรดอมิโนจาเป็ นไม่ ครบ
- ทาให้ ไตต้ องทางานหนักขึน้ ในการขับถ่ ายของเสี ย
- เอ็นสั ตว์ ต่างๆ ได้ แก่ เอ็นหมู เอ็นไก่ เอ็นวัว หูฉลาม ตีนเป็ ด ตีนไก่
หนังสั ตว์ กระดูกอ่อน
โปรตีนทีม่ ีคณ
ุ ภาพต่า
 มีกรดอะมิโนจาเป็ นหรื อกรดอะมิโนที่ร่างกายสร้ างไม่ ได้ ไม่
ครบตามทีร่ ่ างกายต้ องการ (กรดอะมิโนไม่ จาเป็ น)
 มีความจาเป็ นในการเสริ มสร้ างร่ างกาย
 โปรตีนทีม่ ีคณ
ุ ภาพต่าพบได้ ในอาหารประเภท พืช ผัก ผลไม้
ถัว่ เมล็ดแห้ ง ธัญพืชต่ างๆ ข้ าวเจ้ า ข้ าวสาลี ข้ าวโพด
 ในเนื้อสัตว์ ประเภทเอ็น หนัง กระดกู อ่ อน
 เป็ นโปรตีนที่ต้องการ แต่ น้อยกว่ าโปรตีนทีไ่ ด้ จาก
สัตว์ และผลิตภัณฑ์ จากสัตว์
การควบคุมปริมาณโปรตีนในอาหาร
 โปรตีนเมื่อผ่ านการย่ อยและดูดซึม นาไปใช้ ในการ
เสริมสร้ างร่ างกายแล้ ว จะขับถ่ ายของเสี ยออกมาทางไต
 โปรตีนคุณภาพดี จะมีของเสี ยขับถ่ ายออกมาทางไตน้อย
กว่ าโปรตีนจากพืช ลดการทางานของไต
 เพือ่ ชะลอความเสื่ อมของไต จาเป็ นต้ องจากัดโปรตีน
 การควบคุมปริมาณโปรตีนในอาหาร ควรเริ่มตั้งแต่ มภี าวะ
ไตเรื้อรังในระยะเริ่มต้ น
การควบคุมปริมาณโปรตีนในอาหาร
 ถ้าจากัดโปรตีนตัง้ แต่มีระดับครีเอทินีนในเลือด 1.5 มก./ดล.
จะสามารถชะลอความเสื่ อมของไตได้ ดี
 จากัดโปรตีนวันละ 0.4-0.6 กรัม/นา้ หนัก 1 ก.ก./วัน
 รวมทัง้ โปรตีนในพืช และสัตว์
 โปรตีน 50 % ควรมาจากเนือ้ สั ตว์
 ควรมาจากเนื้ อสัตว์ไม่ติดมัน และหนัง
 โดยมากจะจากัดให้ได้รบั โปรตีนในอาหารวันละ
30 – 50 กรัม
การกาหนดโปรตีน
ผูท้ ีเ่ ป็ นโรคไต และยังไม่ได้ฟอกเลือด
ควร
กินโปรตีนวันละ 0.4 – 0.6 กรั มต่ อน้าหนักตัว
ที่ควรเป็ น 1 กิโลกรั ม
อาหารทีม่ โี ซเดียมสูง
โซเดียม
 อาหารที่มีเกลือมากมักมีโซเดียมมาก
 อาหารรสเค็มจัด ทาให้กระหายน้า ดื่มน้ามากขึ้ น
 ผูป้ ่ วยไตเรื้อรัง ไตไม่สามารถขับโซเดียมส่วนเกินออก
ทางปัสสาวะได้ โซเดียมส่ วนเกินคัง่ อยู่ในร่ างกาย เกิดอาการ
บวมนา้ ตามส่ วนต่ างๆของร่ างกาย
 ถ้ามีการคัง่ ของโซเดียมและน้ามาก จะทาให้นา้ ท่ วม
ปอด และความดันโลหิตสู งขึน้ เกิดภาวะหัวใจวายได้
โซเดียม
 การควบคุมโซเดียมในอาหารจะช่ วยรักษาสภาวะของนา้ ในร่ างกาย
ให้ อยู่ในระดับปกติ หลีกเลีย่ งการคัง่ ของนา้ ในร่ างกาย
ควบคุมและป้องกันความดันโลหิตสู ง รวมทั้งป้องกันการเกิดภาวะ
หัวใจล้มเหลว
ผู้ป่วยทีไ่ ด้ รับยาขับปัสสาวะ มีปัสสาวะออกมาก ไม่ ต้องจากัด
โซเดียม
 ถ้ามีอาการบวม จาเป็ นต้องจากัดโซเดียมในอาหาร
 โดยรับประทานอาหารรสอ่อนเค็ม และหลี กเลี่ยงอาหารที่มี
โซเดียมมาก
โซเดียม
• การกาหนดรายการอาหารทีจ่ ากัดโซเดียม
– หลีกเลีย่ งอาหารสาเร็ จรูปทีม่ ีโซเดียมสูง หรื อใช้ ผงชูรส
– ใช้เครือ่ งเทศ สมุนไพร มะนาว และน้ าตาล ในการช่วยชู
รสอาหาร
• ปริมาณโซเดียมทีค่ วรบริโภคใน 1 วัน =
2,000 มก
ปริมาณโซเดียมในอาหาร
• ในอาหารธรรมชาติที่ไม่ปรุงรส เราจะ
บริ โภคโซเดียม ประมาณ 800-1000
มกต่อวันเท่านั้น
อาหารที่มีโซเดียม
อาหารแทบทุกชนิด จะมีโซเดียมอยู่ด้วยโดย
ธรรมชาติ
อาหารจาพวกสัตว์จะมีโซเดียมมากกว่าพืช
อาหารแปรรูป หรือการถนอมอาหาร เช่น เนื้ อ
เค็ม ปลาเค็มตากแห้ ง กุนเชียง อาหารหมักดอง
แหนม ปลาส้ ม
เครื่องปรุงรสชนิ ดต่างๆ เช่น เกลือ น้าปลา
อาหารที่มีโซเดียม
ซอสปรุงรสที่มีรสเค็ม เช่น ซีอ้ ิวขาว ซอสถัว่
เหลือง ซอสถั่วเหลือง ซอสหอยนางรม เต้ าเจีย้ ว
ปลาร้ า นา้ บูดู เต้ าหู้ยี้ ซุปก้ อน เครื่องแกงต่ างๆ
อาหารบรรจุกระป๋องชนิ ดต่างๆ
ซอสปรุงรสที่ไม่มีรสเค็มหรือเค็มน้อย เช่น ซอส
มะเขือเทศ ซอสพริก น้าจิม้ ต่ างๆที่มีรสเปรี้ยวๆ
หวานๆ
อาหารที่มีโซเดียม
ผงชู รส (monosodium glutamate) สารปรุงรสทีไ่ ม่
มีรสเค็มแต่ มีโซเดียมเป็ นส่ วนประกอบประมาณ 15%
อาหารกึง่ สาเร็จรูป เช่ น บะหมี่ โจ๊ ก
อาหารสาเร็จรูป เช่น ขนมขบเคี้ ยว กรอบเป็ นถุง
มันฝรั่งทอด(สารกันบูด)
อาหารทีม่ ีโซเดียม
ขนมชนิดต่ างๆทีม่ ีการเติมผงฟู เช่ น เค้ ก ขนมปัง
คุกกี้
น้าฝน ไม่ มี โซเดียม (Na)
น้าบาดาลและน้าประปา มี โซเดียมปนอยู่บ้าง แต่
จานวนไม่ มาก
เครื่องดื่มเกลือแร่ เครื่องดื่มบรรจุขวด มี การ
เติมสารประกอบของโซเดียม
ตาราง ปริมาณโซเดียมในอาหารปรุงรส
อาหาร
ปริมาณ
โซเดียม (มิลลิกรัม)
เกลือ
ผงชู รส
1 ช้ อนชา
1 ช้ อนชา
2000
492
นา้ ปลา
1 ช้ อนชา
465 - 600
ซอสปรุ งรส
1 ช้ อนชา
ซีอวิ้ ขาว
1 ช้ อนชา
383.5
320 – 473.5
กะปิ
ซอสหอยนางรม
1 ช้ อนชา
1 ช้ อนชา
300 - 400
ซอสพริก
1 ช้ อนชา
73.5 - 77
นา้ จิม้ ไก่
1 ช้ อนชา
67 - 76
ซอสมะเขือเทศ
1 ช้ อนชา
55
แหล่ งทีม่ า สถาบันวิจยั โภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล
140 - 173
ปริ มาณโซเดียมโดยเฉลี่ยในอาหารหลักแต่ ละหม่ ู
ปริมาณ 1 ส่ วนแลกเปลี่ยน
หมวดอาหาร
ข้ าว - แป้ ง
เนือ้ สั ตว์
อาหารแลกเปลีย่ น 1 ส่ วน
ข้ าวเจ้ า ข้ าวเหนียว
ปริมาณโซเดียม
(มิลลิกรัม)
7
ขนมอบ ขนมปังปอนด์ (1แผ่ น)
130
เนือ้ สั ตว์ บก เนือ้ ปลา ปลาทะเล
25
เนือ้ สั ตว์ ทะเลพวกมีกาบ มีเปลือก
เช่ น กุ้ง หอย ปู
60
ไข่ เป็ ด ไข่ ไก่ (1 ฟองขนาดกลาง)
60
ปริ มาณโซเดียมโดยเฉลี่ยในอาหารหลักแต่ ละหม่ ู
ปริมาณ 1 ส่ วนแลกเปลี่ยน
หมวดอาหาร
อาหารแลกเปลีย่ น 1 ส่ วน
ปริมาณโซเดียม
(มิลลิกรัม)
ผัก
ผักสด มิได้ แปรรูป
15
ผลไม้
ผลไม้ สด มิได้ แปรรูป
2
ไขมัน
นา้ มันพืช 1 ช้ อนชา
-
เนยเค็ม 1 ช้ อนชา
44
ทีม่ า รศ.ชวลิต รัตนกุล หน่ วยงานโรคไต รพ.จุฬาลงกรณ์
ผู้ป่วยใช้ เกลือเทียมแทนนา้ ปลาหรือซอสรสเค็มได้ หรือไม่ ?
 เกลือเทียมมีรสเค็มน้ อยกว่าเกลือปกติ
 มีปริมาณโซเดียมคลอไรด์ ประมาณ 33 % และส่ วนที่
เหลือเป็ นโปแตสเซียมคลอไรด์
 รับประทานเกลือเทียมยิ่งจะทาให้ระดับโปแตสเซียมใน
เลือดสู งมากขึน้
เกลือแร่ โซเดียม โปแทสเซียม คลอไรด์
 ทาหน้ าทีร่ ั กษาความสมดลุ กรด ด่ าง
 ทางานร่ วมกันในการควบคมุ สมดลุ ของน้า และของเหลว
ในร่ างกาย
 เกีย่ วข้ องกับการหดตัวของกล้ ามเนื้อ
 การขาดทาให้ อ่อนเพลีย คลืน่ ไส้ ตะคริ ว
 ไตทาหน้ าทีค่ วบคมุ ระดับเกลือแร่ ในร่ างกายให้
อย่ ใู นสมดลุ
โปแตสเซียม
 พบมากในของเหลวภายในเซลล์
พบได้ ในอาหารทุกชนิด โดยเฉพาะ ผักและผลไม้ (ผักที่มสี ี
เขียวเข้ ม ผักสีเหลือง)
ผ้ ทู เี่ ป็ นโรคไตถ้าระดับโปแทสเซียมในเลือดสูงเกิน 5.2
มิลลิกรั ม/เดซิลิตร ต้ องมีการจากัดปริ มาณโปแทสเซียมในอาหาร
(งด ผัก ผลไม้ ทมี่ ีโปแทสเซียมสูง)
ถ้าระดับโปแตสเซียมสูงมากเกินไปอาจจะมีผลต่ อหัวใจ
เต้ นผิดปกติและอาจทาให้ หัวใจหยดุ เต้ นได้
ระดับโปแตสเซียมในเลือด
*** ไม่ ควรน้ อยเกินไปหรือมากเกินไป ***
 ค่ าโปแตสเซียมในเลือด น้ อยกว่ า หรื อเท่ ากับ 3.5
มิลลิกรัม/เดซิลิตร
อาจต้ องการโปแตสเซียมเสริม
ค่ าโปแตสเซียมในเลือดเท่ ากับ 3.5 – 5.2
มิลลิกรัมต่ อเดซิลิตร
ค่าปกติ
ค่ าโปแตสเซียมในเลือด มากกว่ า 5.2 มิลลิกรั ม
ต่ อเดซิลิตร
จากัดอาหารทีม่ ีโปแตสเซียมสูง
ปริ มาณโปแตสเซียมในผักและผลไม้
ปริมาณโปแตสเซียมในผักและผลไม้
ผักและผลไม้ ที่มีโปแตสเซียมตา่
ผักและผลไม้ ที่มีโปแตสเซียมปานกลาง
ผักและผลไม้ ทมี่ ีโปแตสเซียมสู ง
ผักและผลไม้ ทมี่ ีโปแตสเซียมสู งมาก
มีค่าระหว่ าง
(mg)
ค่ าเฉลีย่
1 - 100
70
101 - 150
200
201 - 270
300
มากกว่ า 301
ปริ มาณโปแตสเซียมในผลไม้ 100 กรั ม
ผลไม้ มมี ากทีส่ ุ ด
400 – 500 มิลลิกรัม
-ทุเรียนทุกชนิด
(ก้ านยาวมีมากทีส่ ุ ด)
- ขนุน
- แห้ ว
- กระท้ อน
- มะขามหวาน
ผลไม้ ทมี่ มี าก
200 – 300 มิลลิกรัม
- กล้ วยไข่ กล้ วยหอม
- กล้ วยนา้ ว้ า
- ลาไยพันธ์ ต่างๆ
- มะละกอสุ ก
- น้ อยหน่ า
- นา้ ส้ มคั้น นา้ มะพร้ าว
- มะม่ วงสุ ก
- แคนตาลูป
- ผลไม้ แห้ ง ลูกเกด ลูก
พรุน กล้ วยตาก ลาไย
แห้ ง มะขาม
ผลไม้ ทมี่ ปี านกลาง
100 – 200 มิลลิกรัม
ผลไม้ ทมี่ นี ้ อย
น้ อยกว่ า 100 มิลลิกรัม
- ส้ มเขียวหวาน ส้ มเช้ ง - แตงโม
- ส้ มโอ มะม่ วงดิบ
- ลูกท้ อสด
- ละมุด ฝรั่ง
- องุ่นเขียว
- ลิน้ จี่
- เงาะ สั บปะรด
- องุ่น
- แอปเปิ้ ลแดง
- สาลี่
- สตรอเบอรี่
-ลางสาด
- ชมพู่
ปริ มาณโปแตสเซียมในผัก 100 กรั ม
ผักมีมากทีส่ ุ ด
440 – 560 มิลลิกรัม
ผักทีม่ มี าก
200 – 400 มิลลิกรัม
ผักทีม่ ปี านกลาง
100 – 200 มิลลิกรัม
- เห็ดกระดุม เห็ดโคน
- เห็ดเปาหือ้ ชะอม
- ผักชีทุกชนิด หัวปลี
- ผักโขมน้ อย
- ต้ นกระเทียม
- ใบขีเ้ หล็ก ใบชะพลู
- ผักกระโดน ผักกระถิน
- ยอดขีเ้ หล็ก ผักหวาน
- แขนงกะหลา่ ฟักทอง
- ยอดฟักทอง คืน่ ช่ าย
- ยอดกระถิน ผักคะน้ า
- กะหลา่ ดอก แครอท
-ใบ-ดอกกุยช่ าย
- บร็อคโคลี่ กะหลา่ ปลี
- เห็ดตับเต่ า เห็ดนางรม
- เห็ดฟาง เห็ดหอมสด
- ถั่วฝักยาว มะเขือพวง
- ผักกาดหอม ผักกะเฉด
-ผักกวางตุ้ง ผักบุ้ง
- เห็ดนางฟ้ า เห็ดเผาะ
- แตงกวา พริกหวาน
- ฟักเขียว มะเขือยาว
- หัวผักกาดขาว ต้ นหอม
- พริกฝรั่ง มะระจีน
- มะละกอดิบ ถั่วงอก
- มะเขือเทศ บวบหอม
- มะเขือสี ดา ตาลึง
- ถั่วลันเตา
- ผักกาดขาวชนิด
- พริกฝรั่ง
ผักทีม่ นี ้ อย
น้ อยกว่ า 100 มิลลิกรัม
- บวบเหลีย่ ม
- ถั่วพู
- ถั่วพุ่ม
- หอมหัวใหญ่
- เห็ดหูหนู (สด)
ผักทีม่ โี ปแตสเซียมสู ง
ผักทีม่ โี ปแตสเซียมตา่
หมวดผัก 1 ส่ วน
ผัก 1 ส่ วน = 1 กรัมโปรตีน, พลังงาน 25 กิโลแคลอรี่
1 ทัพพี
1 ทัพพี
1 ทัพพี
1 ทัพพี
1 ทัพพี
1 ทัพพี
 อาหารทีม่ ีวติ ามิน และเกลือแร่ หลายชนิด
 มีใยอาหารมาก
 มีสารไฟโตเคมีคอล (Phytochemical) ช่ วยป้องกัน
โรคหัวใจขาดเลือด และมะเร็งหลายชนิด
 ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะเริ่มแรกและปานกลาง ถ้ าระดับ
โปแตสเซียมในเลือดไม่ สูง ยังคงรับประทาน ผักได้ ทุกชนิด
ไม่ ต้องจากัด
 ผู้ป่วยไตเรื้อรังระยะสุ ดท้ าย ทีม
่ รี ะดับโปแตสเซียม
ในเลือดสู งถึง 5.2 มก./ดล. ควรควบคุมปริมาณ
โปแตสเซียมในอาหาร
 เลือกรับประทานผักทีม่ โี ปแตสเซียมต่า ได้ วนั ละ
2 ครั้ง
 ไม่ ควรงด ผัก (ท้ องผูก)
 ผักดิบ 100 กรัม หรือผักสุ ก 1 ทัพพี มีโปรตีน
1 กรัม ให้ พลังงาน 25 กิโลแคลอรี
ผักที่รับประทานได้
 ผักทีม่ ีโปแตสเซี่ยมตา่ ถึงปานกลาง
 เลือกรับประทานได้ ท้งั ดิบ และผักสุ กวันละ 1 – 2 ครั้ง
 แตงกวา แตงร้ าน มะระ ฟักเขียว บวบ มะเขือยาว
 มะเขือเปราะ ถั่วแขก ถั่วฝักยาว หอมใหญ่ แห้ ว
 กะหลา่ ปลี ผักกาดแก้ ว ผักกาดหอม พริกหยวก
 อุดมด้ วยวิตามิน และเกลือแร่ ใยอาหาร มีนา้ ตาลมากด้วย
 เป็ นแหล่ งพลังงานที่สาคัญอันหนึ่ง
 ผลไม้ ส่วนใหญ่ มีโปแตสเซี่ยมสู ง
 ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุ ดท้ าย ซึ่งมีระดับโปแตสเซี่ยมใน
เลือดสู งกว่ า 5.2 มก./ดล.ควร งด ผลไม้ทุกชนิ ด
ผลไม้ ทมี่ โี ปแตสเซียมสู ง
ควรหลีกเลีย่ ง
ผลไม้ ทมี่ โี ปแตสเซียมตา่
หมวดผลไม้ 1 ส่ วน
ผลไม้ 1 ส่ วน = 0.5 กรัมโปรตีน, พลังงาน 40-80 กิโลแคลอรี่
7-8 ชิ้นคา
7-8 ชิ้นคา
1 ลูก
3-4 ลูก
4-5 ลูก
3 ลูก
 ผู้ป่วยไตวายระยะเริ่มต้ น และปานกลาง ไตยังขับถ่ าย
ของเสี ยได้ ดี มีปัสสาวะจานวนมาก ระดับ
โปแตสเซียมในเลือดไม่ สูงอยู่ในช่ วง 3.5 – 5.0 มก./ดล.
รับประทานผลไม้ ได้ ตามปกติ
 ถ้ าระดับโปแตสเซี่ยมสู งกว่ า 5.0 มก./ดล. และยังไม่
ถึง 5.2 มก./ดล. ต้ องควบคุมปริมาณผลไม้
 ควรเลือกรับประทานผลไม้ ที่มีโปแตสเซี่ยมตา่ วันละ
1 – 2 ครั้ง
 ผู้ป่วยทีร่ ับประทานยาขับปัสสาวะ ปัสสาวะมากมี
โปแตสเซี่ยมในเลือดต่ากว่ า 3.5 มก./ดล. ต้ องได้ รับ
ผลไม้ เพิม่
ข้ อควรระวัง !
 ผ้ ปู ่ วยทีม่ ีภาวะไตวายเรื้อรัง ควรระวัง ใน
การบริ โภค พืชสมุนไพร เนื่องจากพืช
สมุนไพรมักมีปริ มาณ โปแตสเซียมสูง
ซึ่งเป็ น อันตราย เช่ น น้าลกู ยอ
ฟอสฟอรัส
เป็ นแร่ ธาตุทมี่ ีมากเป็ นอันดับสองในร่ างกาย
 หน้ าทีเ่ ป็ นโครงสร้ างของกระดูกและฟัน
ร่ วมกับแคลเซียม
 กระตุ้นการหดตัวของกล้ ามเนือ้ รวมทั้งการ
หดตัวตามปกติของกล้ ามเนือ้ หัวใจ
ฟอสฟอรัส
 ผู้ป่วยทีม่ ภี าวะไตวายเรื้อรังมักจะมีระดับฟอสฟอรัส
ในเลือดสู ง
 ระดับฟอสฟอรัสทีเ่ พิม่ ขึน้ จะทาให้ แคลเซี ยมถูกดึง
ออกมาจากกระดูก
 ต้ องควบคุมปริมาณฟอสฟอรัสในอาหารเพือ่
ป้องกันและหลีกเลีย่ งโรคกระดูกทีอ่ าจจะเกิดขึน้
ระดับฟอสฟอรัสในเลือด
• ระดับฟอสฟอรัสในเลือดน้อยกว่า 3.0
มิลลิกรัม ต่ อเดซิลติ ร
อาจต้ องการ
ฟอสฟอรัสเสริม
• ระดับฟอสฟอรัสในเลือดอยู่ระหว่าง 3.5 – 5.2
มิลลิกรัมต่ อเดซิลติ ร
ค่าปกติ
• ระดับฟอสฟอรัสในเลือดมากกว่า 5.2
ฟอสฟอรัส
แหล่ งอาหารที่ให้ ฟอสฟอรัส





นมและผลิตภัณฑ์
ถั่วต่ างๆ
เบียร์
เบเกอรี่, เค้ ก, พาย
ช็อคโกแลต
อาหารที่มีฟอสฟอรัสสูง
เค้ ก
ไอศครีม
พาย
นม
ถั่วต่ างๆ
เนย
ถัว่ เมล็ดแห้ งควรงด
โปรตีนที่มีกรดอมิโนจาเป็ นไม่ ครบถ้ วน เป็ น โปรตีนคุณภาพไม่ ดี
เมื่อรับประทานเข้ าไปจะมีของเสี ยขับถ่ ายออกทางไตมาก ทาให้ ไตทางาน
หนักขึน้
ถั่วเมล็ดแห้ งมี ฟอสฟอรัสมาก
ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังจะขับถ่ ายฟอสฟอรัสได้ น้อย ทาให้ ระดับฟอสฟอรัสใน
เลือดสู ง ไตเสื่ อมเร็วขึน้
มีผลรบกวนการดูดซึมของแคลเซียม ในระบบทางเดินอาหาร
ทาให้ เสี ยสมดุลแคลเซียม และฟอสฟอรัส เกิดภาวะกระดูกพรุน ปวดกระดูก
กระดูกหักง่ าย
อาหารทีม่ ฟี อสฟอรัสสู งกับผู้ป่วยไตเรื้อรัง
 ควรควบคุมอาหารทีม่ ีฟอสฟอรัสสู งตั้งแต่ ระยะเริ่มต้ น
 ถ้ าปล่ อยให้ มีฟอสฟอรัสคัง่ ในร่ างกายเป็ นเวลานาน ต่ อม
พาราไธรอยด์ จะถูกกระตุ้นให้ ทางานมากขึน้ อย่ างต่ อเนื่อง ทา
ให้ มีขนาดโตขึน้ และผลิตฮอร์ โมนเพิม่ ขึน้ ทาให้ มีการสลาย
แคลเซียมจากกระดูกออกมา
 เกิดโรคกระดูกพรุน กระดูกเปราะ และกระดูกหักได้
 แนะนาให้ ผู้ป่วยจากัดฟอสฟอรัสในอาหาร ระหว่ าง 800
–
1,200 มิลลิกรัมต่ อวัน
ตาราง ปริมาณฟอสฟอรัสในอาหาร
ต่ างๆ
ประเภทอาหาร
นา้ นมไขมันเต็ม
น้านมช็อกโกแลต
น้านมพร่องมันเนย
นมผงขาดมันเนย
นมเปรี้ยว
โยเกิรต์
ไข่ไก่
ปริมาณ/นา้ หนัก
ฟอสฟอรัส
(มก.)
1 ถ้ วยตวง (240
มล.)
1 ถ้ วยตวง (240
มล.)
1 ถ้ วยตวง (240
มล.)
5 ช้ อนโต๊ ะ
(30กรัม)
228
251
232
295
108
171
115
ตาราง ปริมาณฟอสฟอรัสในอาหาร
ต่ างๆ
ประเภทอาหาร
ไข่นกกระทา
หอยแมลงภู่
ปลาไส้ตนั แห้งทอด
ปลาซิวแห้ง
ปลาแก้วแห้ง
ปริมาณ/นา้ หนัก
ฟอสฟอรัส
(มก.)
1 ฟอง
1 ขีด
1 ขีด
½ ขีด
15
500
601
1,312
822
½ ขีด (20 – 23 ตัว)
แหล่ งทีม่ า สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล Thai Food Composition.Table1999
Whiney EN.Hamilton EMN.Understanding Nutrition1987.
พลังงาน
 แหล่ งของพลังงานส่ วนใหญ่ มาจากการกินข้ าว แป้ง
นา้ ตาล และนา้ มัน
 พลังงานทีผ่ ้ ูป่วยควรจะได้ รับขึน้ อยู่กบั ผู้ป่วยแต่ ละราย
 ควรได้ รับพลังงานจากอาหารให้ พอในแต่ ละวันเพื่อ
ป้องกันไม่ ให้ เกิดภาวะกล้ ามเนือ้ ลีบ
 ชนิดของไขมันส่ วนใหญ่ ควรเป็ นไขมันดี (ไขมันไม่
อิม่ ตัว)
พลังงาน
- สาคัญทีส่ ุ ดเพือ่ ป้องกันมิให้ โปรตีนถูกเผาผลาญ ให้ เพียงพอกับการใช้
- ซึ่งขึน้ กับกิจกรรมของผู้ป่วย
- ประมาณ 30-35 กิโลแคลอรี่ / 1 กิโลกรัม/Ideal body weight / วัน
แหล่ งอาหารที่เหมาะสม ( จากอาหารหลัก 5 หม่ ู )
พวกข้ าว
ไขมัน
ปริมาณจากัด ( เพราะมีโปรตีนอยู่บ้าง )
ปริมาณจากัด ( < 35% ของพลังงาน )
พลังงานส่ วนที่ยงั ขาดควรได้ รับจาก :แป้ งปลอดโปรตีน และ น้าตาล - ให้ คาร์ โบไฮเดรตล้ วนๆ
เป็ นแหล่ งให้ พลังงานได้ มากเท่ าที่ต้องการ
ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังควรได้ รับพลังงานวันละเท่ าไร
 พลังงานควรได้ รับ 30 – 45 กิโลแคลอรี/นา้ หนัก 1 กิโลกรัม/
วัน
 คิดจากนา้ หนักตัวทีค่ วรจะเป็ น
สู ตร การหานา้ หนักตัวทีค่ วรเป็ น
ชาย = ความสู ง (เซนติเมตร) – 100
หญิง = ความสู ง (เซนติเมตร) – 100(-10%)ของนา้ หนักทีไ่ ด้
ตัวอย่ าง
ผู้ป่วยหญิงสู ง 155 เซนติเมตร
นา้ หนักทีค่ วรเป็ น = 155 – 100 = 55 – 5.5
= 49.5 กิโลกรัม
พลังงานทีค่ วรได้ รับ = 49.5 x 30
= 1,485 – 1500 กิโล
แคลอรี
หมู่ข้าว แป้ง
 เป็ นอาหารที่มีคาร์ โบไฮเดรตมาก
 แหล่ งพลังงานที่สาคัญของร่ างกาย
 เพือ่ การทางานของอวัยวะต่ างๆ ในร่ างกาย
 การทากิจกรรมต่ างๆ ภายนอกร่ างกาย
หมู่ข้าว แป้ ง
ผู้ป่วยไตเรื้อรังทีจ่ ากัดโปรตีนในอาหารจาเป็ นต้ อง
ได้ รับอาหารคาร์ โบไฮเดรตให้ เพียงพอ
 เพือ่ ป้องกันไม่ ให้ ร่างกายนาโปรตีนทีถ่ ูกจากัดมา
ใช้ เผาผลาญเป็ นพลังงาน
คาร์ โบไฮเดรตมีอยู่ในอาหารจาพวกแป้ง
น้าตาล
อาหารจาพวกแป้ง
 แป้ งที่มีโปรตีน
 แป้งที่ไม่ มีโปรตีน
แป้ งทีม่ ีโปรตีน
 แป้งที่มีโปรตีน ได้แก่ ข้ าว ก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง ขนมจีน
บะหมี่ ข้ าวโพด เผือก มัน และอาหารจาพวกแป้งต่ างๆ
 อาหารในกลุ่มนีม้ โี ปรตีนอยู่ด้วย และเป็ นโปรตีนคุณภาพ
ไม่ ดี
 ถ้ าเป็ นข้ าวที่ไม่ ได้ขดั สี เช่ น ข้ าวกล้อง ข้ าวซ้ อมมือ
บะหมี่
ข้ าวโอต ลูกเดือย จะมีสารฟอสฟอรัสมากอีกด้ วย
แป้ งทีม่ ีโปรตีน
 ผู้ป่วยไตเรื้อรังจึงควรเลือกรับประทานข้ าวขาว ขนมปังขาว
 ผู้ป่วยจากัดโปรตีน จึงไม่ ควรรับประทานข้ าวหรือแป้งมาก
เกินไป
 ควรรับประทานมือ้ ละ 2 – 3 ทัพพีเล็ก (ทัพพีในหม้ อหุง
ข้ าว
ไฟฟ้า)
 ถ้ าไม่ อมิ่ ให้ ใช้ แป้ งที่ไม่ มีโปรตีนทดแทน
ตาราง ข้ าวและแป้ ง มีคาร์ โบไฮเดรต 18 กรัม โปรตีน 2 กรัมให้ พลังงาน 70 กิโล
แคลอรี
อาหารแป้ง
ข้ าวสุ ก
ขนมปัง
ก๋วยเตี๋ยว
ข้ าวโพด
แพนเค้ ก
แครกเกอร์ กลม
แครกเกอร์ เหลีย่ ม
ข้ าวเหนียวนึ่ง
ปริมาณ
1 ทัพพี (1/2 ถ้ วยตวง)
1 แผ่ นปกติ
½ ถ้ วยตวง
½ ฝักใหญ่
1 อันเล็ก
6 อัน
3 อัน
½ ทัพพี (1/4 ถ้ วยตวง)
แหล่ งทีม่ า ดัดแปลงจาก ADA National Renal Diet
หมวดข้ าวและแป้ ง 1 ส่ วน
ข้ าวและแป้ ง 1 ส่ วน = 1.3-2 กรัมโปรตีน, พลังงาน70-90 กิโลแคลอรี
1 ทัพพี
1/2 ก้อน
4-6 แผ่ น
1 ทัพพี
1 แผ่ น
1/2 ทัพพี
โปรตีน
โปรตีน
พลังงานเฉลีย่
7
70
1
25
2
70
½
70
แป้งไม่ มีโปรตีนหรือมีโปรตีนต่า
 อาหารแป้ งจาพวกที่มีโปรตีนน้ อยมากหรือไม่ มีเลย
 วุ้นเส้ น ทั้งทาจากถัว่ เขียว และแป้ งมัน
 ก๋ วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ แป้ งถั่ว แป้ งมัน แป้ งข้ าวโพด
แป้ งข้ าวท้ าวยายม่ อม สาคู
 รับประทานแทนข้ าว หรือก๋ วยเตี๋ยวใน
บางมือ้ จะทาให้ ได้ พลังงานเพิม่ โดย
ไม่ เพิม่ โปรตีน
แป้งทีม่ ีปริมาณ โปรตีนต่า
• วุ้นเส้ น 1 กา(40 กรัม) = ข้ าว 2 ทัพพี
• แป้งมัน สาคู
• ให้โปรตีนน้อย, พลังงาน 70 กิโลแคลอรี
สาคู
ขนมชั้น
ก๋ วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้
อาหารจากแป้ ง
ไม่ มีโปรตีน
อาหารจากแป้ งไม่ มีโปรตีนทีค่ วรรับประทาน
เป็ นประจา
 วุ้นเส้ นนา้ วุ้นเส้ นแห้ ง วุ้นเส้ นต้ มยา ลาบวุ้นเส้ น
 แกงวุ้นเส้ น ผัดวุ้นเส้ น วุ้นเส้ นผัดไท ยาวุ้นเส้ น
 วุ้นเส้ นผัดนา้ พริกเผา
 ก๋ วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ น้า/แห้ ง ก๋ วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ ต้มยา
 ยาก๋ วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้
 ขนมกุยช่ ายจากแป้ งมัน
ขนมที่ควรเลือกรับประทาน
 ขนมจากแป้ งทีไ่ ม่ มีโปรตีน
 ขนมจากแป้งที่มีโปรตีน
ขนมจากแป้งทีไ่ ม่ มีโปรตีน
วุ้นนา้ หวาน ขนมรวมมิตร ลอดช่ องสิ งคโปร์ สาคูบัวลอย
สาคูลอยแก้ ว สาคูเปี ยกมะพร้ าวอ่ อน สาคูเปี ยกแคนตาลูป
(Kสูง)
ซาหริ่ม ทับทิมกรอบ วุ้นลอยแก้ ว ขนมหยกมณี วุ้นใบเตย
ขนมลืมกลืน(ไม่ มีไส้ ) ลูกชิดนา้ แข็ง วุ้นกรอบ ลูกชิดเชื่อม
ขนมชั้น ตะโก้ (Naสูง) จากแป้ งถั่ว มันสาปะหลังเชื่อม
ลูกตาลเชื่อม ขนมครองแครงทาจากแป้งมัน นา้ เชื่อม
ขนมจากแป้ง
ไม่ มีโปรตีน
ของหวานทีไ่ ม่ มโี ปรตีนสาหรับผู้ทไี่ ม่ เป็ นเบาหวาน
อาหารสาหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในระยะก่ อนฟอกเลือด
ไขมัน
ปริมาณ ให้ พลังงาน 30-35% ของพลังงาน
ที่ได้ รับจากอาหาร / วัน
คุณภาพ มีกรดไขมันอิม่ ตัว < 10% ,
PUFA ปริมาณ 10%
หรือ มีสดั ส่วนของกรดไขมันไม่อิ่มตัว > 2 เท่ าของกรดไขมันอิม่ ตัว
แหล่ งอาหารที่เหมาะสม ( จากอาหารหลัก 5 หม่ ู )
น้ ามันถัว่ เหลือง ผสมน้ ามันรา ( 1:1 )
( unsat : sat = 2 : 1 )
น้ ามันถัว่ เหลืองมี PUFA ชนิดโอเมก้า 6 + 3 สูง
น้ ามันรา วิตามินอี สูง
หมายเหตุ ในกรณีที่เลือกใช้ น ้ามันที่มีสว่ นสัดที่เหมาะสมดังกล่าว อาจใช้ มากกว่า 35 %
(ได้ถึง 40%) ของพลังงาน เมื่อจาเป็ น
หมู่ไขมัน
 เป็ นอาหารที่ให้ พลังงานเป็ นหลัก
 ช่ วยดูดซึมวิตามินทีล่ ะลายในไขมัน
 ในน้ามันพืชบางชนิดยังมีกรดไขมันจาเป็ น ที่
ร่ างกายสร้ างไม่ ได้ (Linoleic acid)
 ควรได้ รับประมาณ 30 – 40 %ของพลังงาน
ทั้งหมด
ไขมันในอาหาร
 กรดไขมันอิม่ ตัว (Saturated Fatty acid;SFA)
 กรดไขมันไม่ อมิ่ ตัว (Unsaturated Fatty acid)
 ไขมันทรานส์ (Trans Fatty acid)
นา้ มันพืชที่ควรเลือกใช้
 นา้ มันถั่วเหลือง นา้ มันข้ าวโพด/ราข้ าว/ถั่วลิสง/ปาล์ ม
 ควรใช้ นา้ มันราข้ าวสลับกับนา้ มันถั่วเหลือง
 หรือนา้ มันข้ าวโพดสลับนา้ มันราข้ าวในการทาอาหาร
 ใช้ นา้ มันราข้ าว หรือนา้ มันปาล์ มในการทอด
 ใช้ นา้ มันข้ าวโพด หรือนา้ มันถั่วเหลืองในการผัด
นา้ มันและไขมันทีค่ วรหลีกเลีย่ ง
 นา้ มันหมู นา้ มันมะพร้ าว เนย ครีม
 หมูตดิ มัน เนือ้ วัวติดมัน หมูกรอบ
 หมูหัน หมูสามชั้น หนังเป็ ด หนังไก่
อาหารทีม่ ีโคเลสเตอรอลสู งมาก ควรหลีกเลีย่ ง
 เครื่องในสั ตว์ เช่ น ตับ ไต ปอด ไส้ กระเพาะ
 ไข่ แดง ไข่ ปลา ปลาหมึก หอยนางรม มันกุ้ง มันปู
 เนย ครีม เนยแข็ง ขนมอบต่ างๆ ครัวซอง พัฟ พาย
 อาหารฟาสฟูด เช่ น แฮมเบอร์ เกอร์ พิซซ่ า
ควรหลีกเลีย่ ง
 ความสามารถในการขับนา้ และปัสสาวะของ
ผู้ป่วยไตวายจะลดลง
 อาจมีอาการบวม (มีนา้ รอบๆปอด,ความดัน
โลหิตสู ง)
 ผู้ป่วยไตวายระยะสุ ดท้ าย มีการคัง่ ของของ
เสี ยเพิม่ ขึน้ ปัสสาวะน้ อยลง มีอาการบวม
 ถ้ าบวมมากอาจเกิดภาวะหัวใจล้ มเหลวได้
 ควรจากัดนา้ และอาหารทีม่ ีนา้ มาก เครื่องดืม่
ต่ างๆ
นา้
 ควรเลีย่ งอาหารรสเค็ม อาหารรสจัด ซึ่งจะทาให้
กระหายนา้ และดืม่ นา้ มากขึน้
 ถ้ าผู้ป่วยสามารถขับปัสสาวะได้ มาก ไม่ มอี าการบวม
ไม่ตอ้ งจากัดน้า
 ปริมาณทีค่ วรได้ รับต่ อวัน จะขึน้ กับปริมาณ
ปั สสาวะที่ขบั ถ่ายออกมาบวกกับปริมาณน้ าที่เสีย
ไป
ทางอุจจาระ เหงื่อและลมหายใจ
นา้
 ดื่มน้าได้ วน
ั ละประมาณ 500 – 1,000
ซี.ซี.บวกปริมาตรของปัสสาวะทีข่ ับถ่ ายต่ อวัน
 ถ้าปั สสาวะได้นอ้ ยกว่า 500 มิลลิลติ ร/วัน
ควรจากัดน้าให้ เหลือวันละ 750 – 1,000
มิลลิลติ ร/วัน
อาหารที่ควรจากัด
ชา กาแฟ น้าแข็ง น้าอัดลม น้าผลไม้ /ผัก
ก๋ วยเตีย๋ วนา้ ข้ าวต้ มนา้ มาก โจ๊ ก ซุปใส ซุปข้ น
แกงจืด เกาเหลา แกงต้ มยา สุ กยี ากี้ ลอยแก้ ว หวาน
เย็น ไอศกรีม เยลลี่
ผู้ป่วยไตเรื้อรังรับประทานผลิตภัณฑ์ เสริมอาหารได้
หรือไม่ ?
 ผลิตภัณฑ์ เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์ จากสมุนไพรอาจมีสารบาง
ตัวในปริมาณมาก เช่ น โปแตสเซียม ฟอสฟอรัส โซเดียม สารพิว
รีน หรือกรดอมิโนบางชนิด
 เป็ นสารทีผ่ ู้ป่วยจาเป็ นต้ องได้ รับการควบคุม
 ถ้ าได้ รับปริมาณมาก อาจทาให้ เกิดอันตรายได้
 ควรหลีกเลีย่ งการรับประทานอาหารเหล่ านี้
ผู้ป่วยทีเ่ ป็ นไตเรื้อรังต้ องควบคุมนา้ ตาลในเลือด
หรือไม่ ?
 จาเป็ นต้ องได้ รับการจากัดอาหารทีใ่ ห้ โปรตีน
 จากัดโปรตีนที่ 0.4 – 0.6 กรัม/นา้ หนักตัว 1
กิโลกรัม/วัน
 ต้ องควบคุมนา้ ตาลในเลือด ให้ อยู่ในเกณฑ์ ใกล้เคียงกับ
ระดับปกติด้วย
 ควรงดขนมหวานทีม่ นี า้ ตาล และไขมันมาก
อาหารทีผ่ ู้ป่วยโรคไตวายระยะเริ่มต้ นควรหลีกเลีย่ ง
 อาหารพิษหรือปนเปื้ อนสารพิษ
 การบริโภคอาหารเค็มหรืออาหารทีใ่ ช้ ผงชู รส
 อาหารกระป๋ อง อาหารหมักดอง
 อาหารสาเร็จรู ป หรือกึง่ สาเร็จรู ป
 เครื่องในสั ตว์ ไขมันสั ตว์ หรือกะทิ
อาหารทีผ่ ู้ป่วยโรคไตวายระยะเริ่มต้ นควรหลีกเลีย่ ง
 อาหารทีม่ รี สหวานจัด ควรลดการเติมนา้ ตาลใน
อาหาร
 อาหารทอด อาหารทีม่ ไี ขมันและโคเลสเตอรอลสู ง
 อาหารทีม่ ฟี อสฟอรัสสู ง
อาหารทีผ่ ้ ูป่วยโรคไตวายระยะเริ่มต้ นควรรับประทาน
เนือ้ ไม่ ติดมัน ไก่ ไข่ หรือปลา ไข่ ขาว โดยรับประทาน
ตามปริมาณทีแ่ พทย์ กาหนด
อาหารทีส่ ด สะอาดและปลอดภัย พยายามทาอาหารทาน
เองที่บ้าน
ใช้ นา้ มันพืชในการประกอบอาหาร
อาหารทีผ่ ู้ป่วยโรคไตวายระยะเริ่มต้ นควร
รับประทาน
ในการปรุงอาหารสามารถใช้ นา้ ปลาได้ ประมาณ 3
ช้ อนชา/วัน
 ถ้ าต้ องการพลังงานเพิม่ ควรใช้ แป้ งโปรตีนต่า เช่ น
สาคู วุ้นเส้ น แป้งมัน
รับประทานอาหารให้ ครบ 5 หมู่
แบบแผนการบริโภค
หมู่อาหาร
65
โปรตีน (กรัม/วัน)
70
75
80
แป้ ง(2)
7
7
7
8
เนือ้ สั ตว์ (7)
6 1/2
7 1/2
8
8 1/2
ผัก(1)
3
ผลไม้ (0.5)
2
4
2
4
2
8
8
8
6
นา้ มัน ( ช.ช)
10
3
2
10
นา้ ตาล ( ช.ช)
8
8
สรุป
ผู้ป่วยไตเรื้อรังควรเลือกรับประทานอาหาร ดังนี้
 เลือกรับประทานเนื้ อสัตว์ที่ไม่ติดมันและหนัง
 รับประทานไข่ขาววันละ 2 ฟอง
 รับประทานข้าว ก๋วยเตี๋ยว ขนมปั งให้เพียงพอทุกมื้อและ
ควรเลือกข้ าวที่ขดั สี และขนมปังขาว
 รับประทานแป้งที่ไม่มีโปรตีนให้บ่อยขึ้ น
 รับประทานอาหารรสอ่อนเค็ม และไม่เติม จิ้มหรือเหยาะ
นา้ ปลา เกลือ ซอสปรุ งรสขณะรับประทานอาหาร
สรุป
ผู้ป่วยไตเรื้อรังควรเลือกรับประทานอาหาร ดังนี้
 งดเว้นการเติมผงชูรสในอาหารที่เตรียมเอง หรืออาหาร
ตามสั่ ง เช่ น ก๋ วยเตี๋ยว
 หลี กเลี่ ยงอาหารหมักดองทุกชนิ ด
 หลี กเลี่ ยงการรับประทานเครื่องในสัตว์ ไข่ปลา ถัว่
เมล็ดแห้ ง รวมทั้งเมล็ดฟักทอง/ทานตะวันและ
ถั่วเปลือก
แข็ง
 ใช้น้ามันพืชในการประกอบอาหาร
สรุป
การรักษาและดูแลผู้เป็ นโรคไตต้ องประกอบด้ วย ทีมงาน
 แพทย์ พยาบาล นักกาหนดอาหาร เภสัชกร
นักสังคมสงเคราะห์ และบุคลากรทางการแพทย์ ทเี่ กีย่ วข้ องที่
ทางานสัมพันธ์ กนั ทราบหน้ าที่และบทบาทของกัน
และกันและร่ วมกันทางานเป็ นทีม
ตระหนักถึงการดูแลด้ านโภชนาการว่ าเป็ นสิ่ งทีจ่ าเป็ นและ
เป็ นรากฐานทีส่ าคัญของการดูแลสุ ขภาพของผู้เป็ นโรคไต
แหล่ งที่มา รศ.ชวลิต รั ตนกลุ
แหล่ งที่มา อาจารย์ ดร.ชนิดา ปโชติการ
แหล่ งที่มา อาจารย์ ดร.สุนาฏ เตชางาม
Download