Uploaded by MRttiittllee

ไทยป๋าเสี่ยเติ้ล

advertisement
บทวิเคราะห์วรรณคดี
เรื่องหัวใจชายหนุ่ม
โดย
นายธนบดี เอี่ยมเจริญศักดิ์
เสนอ
ม.วิเชียร จันทะชารี
ผลการวิเคราะห์เรื่องนี้ประกอบการเรียนวิช
าภาษาไทยพื้นฐาน
ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๑
โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ
๑.
ที่มาของเรื่อง
หัวใจชายหนุ่ม
เป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเ
จ้าอยู่หว
ั
โดยทรงใช้พระนามแฝงว่า
“รามจิตติ”
เพื่อพระราชทานลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ “ ดุสต
ิ สมิต” เมือ
่
พ.ศ.๒๔๖๔
ลักษณะการพระราชนิพนธ์เป็นรูปแบบของจดหมาย
มีจานวน
๑๘
ฉบับ
รวมระยะเวลาทีป
่ รากฏตามจดหมายทัง้ หมด ๑ ปี ๗ เดือน
๒.
เรื่องย่อ
นายประพันธ์
ประยูรสิริ
เป็นหนุ่มไทยทีเ่ ดินทางไปศึกษาต่อยังประเทศอังกฤษ
เมื่อสาเร็จการศึกษาก็เดินทางกลับประเทศไทยโดยทางเรื
อ ขณะเดินทางก็เขียนจดหมายถึงเพื่อนชื่อ นายประเสริฐ
สุวัฒน์
ที่ยังคงศึกษาอยู่ทป
ี่ ระเทศอังกฤษ
เขียนเล่าเรื่องราวเมื่อกลับมาถึงเมืองไทยโดยผ่านจดหมา
ย
๑๘
ฉบับ
ด้วยการระบายความรู้สึกทีค
่ ิดถึงประเทศอังกฤษและคนรั
กชาวอังกฤษ
การเดินทางกลับเมืองไทยในครั้งนี้
ประพันธ์ตอ
้ งเข้ารับราชการด้วยการฝากเข้าตามเส้นสาย
ซึ่งเขาไม่ชอบ
แต่เขาก็ไม่สามารถหางานทาเองได้
และพ่อได้เตรียมหาคูค
่ รองที่เหมาะสมให้ชอ
ื่
แม่กิมเน้ย
ซึ่งประพันธ์ไม่ประทับใจ
ด้วยเห็นว่าแม่กิมเน้ยหน้าตาเหมือนนางชุนฮูหยิน
สวมเครื่องประดับมากเกินไป
ดูพะรุงพะรังราวต้นคริสต์มาส
และทีส
่ าคัญประพันธ์ไม่ชอบการแต่งงานแบบคลุมถุงชน
ประพันธ์ไม่มีความสุขเพราะไม่มีสถานเริงรมย์ให้เลือกเที่
ยวมากมายเหมือนที่องั กฤษ
แต่เขาเริ่มมีความสุขเพลิดเพลินขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้รู้จักกั
บหญิงชือ
่
อุไร
สาวงามที่มค
ี วามทันสมัยไม่ต่างจากสาวฝรัง่
ประพันธ์และอุไรคบหากันอย่างสนิทสนมและออกเที่ยวเต
ร่ด้วยกันจนทาให้อุไรเกิดตัง้ ครรภ์และพ่อต้องจัดการแต่ง
งานทั้งๆที่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
หลังจากแต่งงานอุไรยังชอบเทีย
่ วเตร่และใช้จา่ ยอย่างฟุ่ม
เฟือยจนทั้งสองมีปากเสียงกัน
ทาให้อุไรหันไปคบกับชายคนใหม่ชื่อ พระยาตระเวนนคร
ทั้งๆที่เขามีภรรยาแล้วถึง
๗
คน
ในที่สด
ุ ประพันธ์และอุไรก็ต้องหย่าขาดกัน
ครัน
้ ประพันธ์ได้เลื่อนยศเป็นหลวงบริบาลบรมศักดิ์
อุไรจึงได้กลับมาขอคืนดี
เพราะพระยาตระเวนนครมีภรรยาสาวคนใหม่จึงขอบ้านที่
เธออยูค
่ ืน
แต่ประพันธ์ไม่ใจอ่อนและแนะนาให้เธอกลับไปอยูบ
่ ้านพ่
อ ไม่นานอุไรก็แต่งงานใหม่กับ หลวงพิเศษผลพานิช
พ่อค้าที่มีฐานะดี ทาให้ประพันธ์รู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก
ต่อมาประพันธ์ได้พบกับหญิงสาวคนหนึง่ ชือ
่
ศรีสมาน
และรู้สึกพึงใจในตัวเธอมาก
ทั้งนี้ผใ
ู้ หญ่สองฝ่ายก็ชอบพอกัน
ประพันธ์จงึ หวังว่าจะแต่งงานครองคูอ
่ ยู่กับศรีสมานอย่าง
มีความสุขยัง่ ยืนในอนาคต
๓.
เนื้อเรื่อง
จดหมายฉบับที่ ๑
เรือ “ โอยามะมารุ ”
เดินในทะเลแดง
วันที่ ๒๓ กันยายน , พ.ศ. ๒๔๖-
ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก
เพื่อนคงนึกเคืองฉันอยู่แล้วละสิ
ที่ฉันยังไม่ได้เขียนจดหมายมาถึงเพื่อนก่อนหน้านี้.
ที่จริงฉันอยากเขียนมานานแล้ว,
แต่มันทาใจไม่ลงว่าจะเขียนว่ากระไร.
จึง่ รีๆ
รอๆ
มาจนถึงวันนี้.
นี่ไม่ใช่เพราะไม่คด
ิ ถึงเพือ
่ นหามิได้,
แต่ตรงข้ามฉันคิดถึงเหลือเกินจนไม่รจ
ู้ ะเขียนไปอย่างไ
รถูก, ตั้งแต่จากกันมาแล้ว ฉันคิดถึงเพื่อนทุกวัน, จริงๆ
นะไม่แกล้งพูดเลยและฉันออกนึกริษยาเพือ
่ นพิลึกด้วย.
นึกถึงตัวเองที่มาตกอยู่ในทีอ
่ ย่างไร,
และพ่อประเสริฐตกอยู่ในที่อย่างไร
จะไม่ให้ฉันริษยาอย่างไรได้
?
ส่วนฉันสิมาตกอยู่บนเรือซึง่ กาลังแล่นอยู่ในทะเลแดง,
ร้อนแทบสิ้นสติ,
และเดินห่างออกจากถิ่นที่เคยได้รบ
ั ความสุข
แลดูไปข้างหน้าก็หวังได้แต่จะได้เห็นความคับแคบและ
อึดอัดใจ
อย่าเข้าใจผิดว่าฉันไม่รักกรุงสยามหรือชาติไทย.
ชาติบา้ นเมืองของฉันทาไมฉันจะไม่รู้จักรัก,
แต่เป็นธรรมดาคนเราต้องมีความรักหลายอย่าง, เช่น
รักพ่อแม่หรือญาติพี่นอ
้ งก็ผิดกับการรักลูกรักเมียจริงไ
หม
?
การรักเมืองไทยเปรียบเหมือนรักพ่อแม่,
แต่การรักเมืองอังกฤษเหมือนรักเมีย,
แล้วก็เมื่อต้องจากเมืองอังกฤษมาเมืองไทย
จะไม่ให้ฉันอาลัยได้หรือ
?
คนเราที่ไม่เคยพ้นจากอกพ่อแม่ก็รู้สึกพอใจอยู่แล้วในก
ารทีอ
่ ยูบ
่ ้านพ่อบ้านแม่
แต่พอได้เคยออกไปเห็นสิ่งงามๆ
นอกบ้านแล้ว
,
และพบคนอื่นๆ
คงรู้สึกว่าบ้านพ่อแม่เป็นทีค
่ บ
ั แคบอึดอัดอยูบ
่ า้ ง,
ทั้งการคุยกับคนแก่ครึอย่างพ่อแม่
ก็คงไม่ออกรสเท่าคุยกับหนุ่มๆ สาวๆ , จริงไหม ?
ขอให้นึกดูเถิดเพื่อนเอ๋ย.
ต่อนี้ไปฉันจะไม่มีเวลาได้ไปดูละครอย่างที่เราได้เคยไป
ด้วยกันบ่อยๆ
ในลอนดอน,
จะไม่ได้ไปเที่ยวกินข้าวตามเร็สตอรังต์และดูผู้หญิงสวย
ๆ
และทีร่ ้ายทีส
่ ุด
จะไม่ได้เต้นรา
!
พ่อประเสริฐก็รอ
ู้ ยู่แล้วว่าการเต้นราเกือบจะเป็นชีวิตขอ
งฉันทีเดียว เมือ
่ ยังอยู่เมืองนอกด้วยกัน, เพื่อนเคยล้อว่า
ถ้าฉันไม่ได้เต้นรานานๆ
ถึงปวดท้อง
!
นี่ต่อไปฉันมิตอ
้ งปวดท้องแย่หรือ ? แต่พูดกันจริงๆ นะ,
อ้ายการเต้นรานะ
มันก็ไม่สู้สาคัญนักดอก.
มันสาคัญอีเรือ
่ งที่จะไม่ได้กอดผู้หญิงนัน
่ แหละ.
ถ้าไม่มเี ต้นรากันบ้าง
เราจะวิง่ ไปกอดเขาดื้อๆ
ใครเขาจะยอม.
อีกอย่างหนึง่ ในเมืองไทยยังมีคนครึเหลืออยูม
่ าก
ที่ชอบเก็บลูกสาวไม่ให้ใครพบเห็นผู้ชาย,
เพราะฉะนั้นดูออกจะหาโอกาสได้ชื่นใจยากอยู่สักหน่อ
ย.
ฉันนึกๆ
ไปแทบอยากพาเอาลิลี่เข้าไปเสียด้วยแล้วเทียว,
แต่ก็นึกสงสารหล่อนจะต้องไปตกอยู่ในหมูค
่ น
“
อันศิวิไลซ์
”
จะทนทานไม่ไหว.
ท่านบิดามารดาของฉันนะท่านทาโก้พอใช้จริงอยู,่
แต่พื้นของท่านไม่ใช่ “ศิวิไลซ์” จริงจังดอกนะเพื่อน.
ฉันได้หวังอยู่วา่ ในระหว่างเวลาเดินทางทะเล
บางทีจะได้มีโอกาสพบปะสมาคมกับผู้หญิงอะไรบ้างสัก
คนสองคน.
พอลงเรือฉันก็ตั้งใจมองหาผูท
้ ี่หน้าตาท่าทางจะพอแก้ขั
ดได้,
และฉันนึกกระหยิ่มใจเมื่อได้เห็นผู้หญิงคน
ซึ่งออกจะพอใช้.
เขาชื่อ
มิสส์
๑
มิลเล่อร์,
รูปร่างออกจะคล้ายๆ ลิลี่, ซึง่ ทาให้ฉันคิดถึงลิลี่พิลึก,
แต่ก็มีความเสียใจที่จะต้องกล่าวว่าเขาค่อนข้างจะจอง
หองอยู่หน่อย,
เพราะถึงแม้ฉันกับหล่อนนัง่ กินข้าวอยูโ่ ต๊ะเดียวกันก็จริ
ง
หล่อนไม่ใคร่จะยอมพูดกับฉันเลย.
หรือจะเป็นเพราะหล่อนกลัวตาพ่อของหล่อนก็ไม่ทราบ,
เพราะตาพ่อนั้นหน้าตาแกออกจะบ้าระหึ่มอยู่สก
ั หน่อย.
แต่เพื่อนก็รอ
ู้ ยูแ
่ ล้วว่าฉันเป็นคนที่พยายามปานใด,
เพราะฉะนั้นในไม่ช้ามิสส์มิลเล่อร์ก็ตกลงต้องพูดกับฉัน.
ฉันนึกออกยินดีว่าจะได้มีเพือ
่ นเดินทางทีอ
่ าจจะช่วยทา
ให้ใจค่อยหายเหี่ยวสักหน่อย,
แต่ที่ไหนเล่า
ในไม่ช้าก็ได้ความว่าหล่อนจะไปเพียงอียป
ิ ต์เท่านัน
้
ฉะนัน
้ พอถึงอียป
ิ ต์
หล่อนก็ขึ้นจากเรือ.
ฉันหวังใจอยู่วา่ จะได้เห็นหล่อนแสดงความเสียใจสักเล็
กน้อยในการทีต
่ ้องจากกัน,
แต่เปล่าเลย
หล่อนมัวแต่โบกผ้าเช็ดหน้าให้ใครคน
ที่มาคอยรับอยูท
่ ี่ทา่ เรือ,
และซึง่ ฉันเข้าใจว่าดูเหมือนจะเป็น
ของหล่อน !
!
๑
“หวานใจ”
จวนถึงเวลาต้องส่งจดหมายแล้ว,
เพราะฉะนั้นต้องขอจบที.
ถ้าพ่อประเสริฐมีโอกาสขอให้บอกลิลี่ว่าฉันฝากความรั
กมาถึงหล่อนด้วย.
จากเพื่อนที่รัก.
ประพันธ์
จดหมายฉบับที่ ๔
ถนนหัวลาโพง
วันที่ ๑ ธันวาคม , พ.ศ. ๒๔๖ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก.
ฉันไม่ได้เขียนจดหมายมาถึงพ่อประเสริฐเดือนกว่าแล้ว
, ซึ่งไม่ใช่เพราะไม่คด
ิ ถึง, แต่เพราะไม่ใคร่จะมีเวลา
ฉันได้จบ
ั ปากกาขึ้นหลายหนแล้วด้วยความตัง้ ใจที่จะเขี
ยน, แต่เผอิญมีธุระอื่นมาแทรกเสียเสมอ.
ตั้งแต่ฉันกลับเข้ามาถึง
ฉันได้ถูกคุณพ่อพาไปหาใครต่อมิใครแทบไม่เว้นแต่ละ
วัน,
และฉันต้องไหว้คนมาเสียมากต่อมากจนนับหนไม่ถ้วน,
จนฉันแทบจะลงรอยเป็นท่าประนมอยู่เสมอแล้ว.
และหลังก็เกือบโค้งเสียแล้ว เพราะคานับคนไม่ได้หยุด.
คุณพ่อท่านตัง้ ใจจริงๆ
ที่จะทาตามหน้าที่พอ
่ ,
คือช่วยลูกให้ได้ดีตามแบบโบราณ.
ท่านยังแลเห็นไม่ได้เลยว่าคนเราอาจจะได้ดีหรือมีชื่อเสี
ยงได้โดยอาศัยความสามารถของตัวเอง
นึกๆ
ไปทีจ
่ ริงก็น่าขันที่เราได้อุตส่าห์ออกไปหาวิชาถึงเมืองน
อก, แล้วกลับมาถึงบ้านก็ตอ
้ งมาเดินเข้าท้ายครัวเท่าๆ
กับคนที่ไม่ได้ไปเมืองนอกเสียเลยนั่นเอง.
ความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ของคุณพ่อก็คอ
ื อยากให้ฉัน
ได้เข้าไปรับราชการในพระราชสานัก.
แต่ผู้ที่ตอ
้ งการเข้าไปรับราชการในพระราชสานักสมัย
นี้
มันมีมากมายจนเหลือตาแหน่ง,
เพราะฉะนั้นฉันก็เข้าไปไม่ได้
คุณพ่อพาฉันไปหาเจ้าคุณผู้สาเร็จราชการมหาดเล็ก,
ท่านก็พด
ู จาปราศรัยอย่างดี,
แต่ท่านแสดงความเสียใจว่าไม่มีตาแหน่งว่างจริงๆ.
ในชั้นต้นฉันออกจะไม่ใคร่เชือ
่ ,
เพราะมัน
่ ใจเสียว่าเขาไม่ตอ
้ งการคนหัวนอก,
โดยเกรงจะไม่หมอบราบคาบแก้วอย่างเต็มที่,
แต่ฉันสืบๆ
ดูจึงได้ความว่าแท้จริงตาแหน่งเขาบรรจุไว้เต็มแล้วจริง
ๆ
จนไม่มีทว
ี่ ่าง,
และยังมีคนคอยจะเข้าอีกมาก,
และในพระราชสานักเวลานี้มีนก
ั เรียนยุโรปหลายคนอ
ยู่ในตาแหน่งดีๆ
ด้วย,
เมื่อเข้ารับราชการในพระราชสานักไม่ได้เช่นนั้นแล้ว,
ฉันก็เที่ยวระเหระหน
หางานทาอยู่หลายวัน,
พบแต่ที่เต็มๆ
เสียแทบทุกแห่ง
ฉะนัน
้ จนบัดนี้ฉน
ั ก็ยังไม่ได้รบ
ั ราชการ.
ฉันได้บอกคุณพ่อว่า
ฉันจะลองประกอบอาชีพทางค้าขายดูบ้าง,
แต่ท่านก็ไม่ยอมที่จะให้ฉน
ั ทาเช่นนั้น.
ท่านว่าค้าขายไม่มีหนทางที่จะเป็นใหญ่เป็นโตต่อไปได้
, และถึงจะทามาค้าขายดีอย่างไรๆ ก็จะเป็นอะไรไม่ได้
นอกจากขุนนางกรมท่าซ้าย,
ทั้งกว่าจะได้เป็นหลวงก็อีกหลายปี,
แล้วอาจจะเป็นหลวงตัง้ แต่อายุ ๓๐
เมื่ออายุ
๔๕
จึงได้เป็นพระ
,
แล้วก็ยังเป็นพระอยูจ
่ นทุกวันนี,้
และไม่แลเห็นทางทีจ
่ ะได้เป็นพระยาด้วย
พอฉันกลับถึงบ้านได้สัก
๗
คุณพ่อก็บอกว่าได้หาเมียไว้ให้คนหนึง่ แล้ว
วัน
!
ฉันหมายว่าท่านพูดเล่นจึงหัวเราะ,
แต่พูดกันไปพูดกันมาจึงรู้วา่ ท่านพูดจริงๆ
ไม่ใช่พูดเล่น. ผู้หญิงนัน
้ คือแม่กิมเน้ย ลูกสาวอากรเพ้ง,
ซึ่งพ่อประเสริฐก็คงจะรูอ
้ ยูว
่ ่าเป็นคนมัง่ มีพอใช้อยู่.
ทั้งคุณพ่อคุณแม่สรรเสริญเยินยอมากว่าเป็นคนดีนัก,
วิเศษต่างๆ
ราวกับนางฟ้าตกลงมาจากสวรรค์
ฉันบอกว่าฉันยังไม่ได้เห็นตัวผูห
้ ญิงนัน
้ เลย
จะให้รับรองว่าจะแต่งงานกับเขาอย่างไรได้,
คุณพ่อกลับพูดอย่างหน้าตาเฉยว่า
:
“
พ่อรับรองว่าเขาเป็นคนดี
สมควรแก่ลูกด้วยประการทั้งปวง”
ฉันตอบว่า
ฉันเชื่อแล้วว่าเขาเป็นคนดีจริงตามทีค
่ ุณพ่อกล่าวแล้วทุ
กประการ,
แต่ต้องขอให้คณ
ุ พ่อเข้าใจว่า
ฉันเป็นคนที่ได้ไปเรียนมาจากยุโรปแล้ว,
จะแต่งงานอย่างที่เรียกว่าคลุมถุงชนไม่ได้เลย.
ท่านออกจะฉุนเอาใหญ่.
จนคุณแม่ต้องไกล่เกลี่ยว่า
ขอให้ฉน
ั ได้ดูตว
ั แม่กิมเน้ยเสียก่อน
แล้วจึงค่อยตกลงไปสู่ขอกันจะดีกว่า,
เสียงอึงคับบ้าน,
คุณพ่อจึงตกลงตาม.
พอลุกออกมาพ้นหน้าคุณพ่อคุณแม่แล้ว
ฉันรีบจับตัวประภาซักดูว่ารูจ
้ ักแม่กิมเน้ยหรือเปล่า.
เขาตอบว่ารู้จัก.
ฉันถามว่าเป็นอย่างไร,
ประภาก็ตอบแต่ว่า : “ คุณพี่คอยดูเอาเองก็แล้วกัน ”
แล้วก็หัวเราะ. ฉันจะซักเท่าไรก็ไม่ตอบตรงๆ เลย,
เป็นแต่หัวเราะอยู่เรือ
่ ยเท่านั้น.
ฉันหวังใจว่าหน้าตาเจ้าหล่อนจะไม่เป็นนางงิว
้ ตุ้งแช่อะ
ไรตัว ๑!
ฉันขอบอกโดยจริงว่า
ตั้งแต่ฉันเข้ามาถึงกรุงเทพฯ
แล้วฉันยังไม่ได้พบผู้หญิงที่ตอ
้ งตาเลย,
จนทาให้นึกว่าจะต้องเลยเป็น
“
แบซะเล่อร์
”
เสียละกระมัง.
แต่พวกเพื่อนๆ
เขาพากันหัวเราะและบอกว่าให้ดูๆ
ไปก่อนเถิดคงจะพบที่ดีเข้าบ้าง, สมัยนี้ผู้หญิง “ ฟรี ”
ขึ้นกว่าแต่ก่อนมากและพบปะง่ายกว่าด้วย.
ความจริงมีอยู่อย่าง
๑
คือ
ในเวลานี้เห็นผูห
้ ญิงไทยไว้ผมยาวมากกว่าเมื่อก่อนเรา
ไปเมืองนอกเป็นอันมาก
คนไว้ผมสั้นเกือบจะมีเหลือแต่คนแก่กับไพร่ๆ
;
เท่านั้นแล้ว.
ข้อนี้เป็นข้อควรยินดีอยู่,
เพราะการไว้ผมยาวทาให้ผู้หญิงสวยขึ้นมากเป็นแน่นอ
น.
นี่ก็ยังคงมีอีกชัน
้
๑
คือการนุง่ ผ้าให้ผิดกับผู้ชาย.
ที่จะเดินขึ้นต่อไป,
ในเวลานี้ก็มีผู้หญิงนุง่ ซิน
่ อยูก
่ ับบ้านบ้างแล้ว,
แต่ยังไม่กล้านุง่ ไปไหนมาไหน.
เพราะยังไม่มีใครเป็นหัวหน้านา “ แฟแช่น ” นุ่งซิน
่ ขึ้น.
ถ้าผู้หญิงไทยเรานุง่ ซิ่นคงงามเป็นแน่...
ในกรุงเทพฯ นี้มีข้อเสียสาคัญที่หาที่เที่ยวยากจริงๆ .
เพราะขาดเร็สตอรังต์และโรงละครดีๆ อย่างลอนดอน.
พวกโฮเต็ลฝรั่งทางบางรักมีอยูก
่ ็จริง,
แต่มันก็ไม่ถึงใจเลย,
และไปสักครั้งสองครัง้ ก็เบื่อ,
เพราะนอกจากจะไปกินอาหารหรือเครือ
่ งดื่มแล้ว
ก็ไม่มีอะไรที่ยวนใจให้สนุกเลย.
พวกผู้หญิงไทยๆ
เขาไม่ใคร่จะไปตามโฮเต็ลเหล่านั้น,
โฮเต็ลเจ๊กก็ได้เกิดมีขึ้นหลายแห่ง,
แต่มันยิ่งซ้าร้ายไปกว่าโฮเต็ลฝรั่ง,
เพราะกับข้าวของกินก็เต็มกลืน,
และไม่ใคร่จะพบคนไทยด้วย, มีแต่เจ๊กแน่นๆ ไปทัง้ นัน
้ .
ละครก็มีดอ
ู ยู่โรงเดียว,
แต่ดูสองหนก็เบื่อ,
เพราะเรื่องที่เล่นมัน
“
อัน
”
เหลือประมาณ,
ภาพยนตร์แหละค่อยยังชั่วหน่อย.
ทั้งมีโอกาสได้พบเห็นคนไทยๆ
มากด้วย
เมื่อคืนวานซืนนี้เองฉันได้เห็นผู้หญิงที่ทา่ ทางออกจะเข้
าทีคน
๑
ที่โรงพัฒนากร
แต่เห็นไม่ใคร่ถนัดเพราะนัง่ อยูห
่ ่างกัน.
ฉันจะต้องพยายามสืบสาวดูสก
ั หน่อยว่าหล่อนเป็นใคร,
ถ้าได้ความจะบอกข่าวมาให้เพือ
่ นทราบด้วย.
แต่เพื่อนที่รัก.
ประพันธ์
จดหมายฉบับที่ ๕
ถนนหัวลาโพง
วันที่ ๑๕ ธันวาคม , พ.ศ. ๒๔๖-
,
ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก.
ฉันมีข่าวทีจ
่ าจะต้องรีบบอกมาให้ทราบ,
คือฉันได้ตกลงเข้ารับราชการแล้ว.
คุณหลวงพิพฒ
ั น์ไปจัดการอย่างไรไม่ทราบ, แต่ในที่สด
ุ
ฉันเป็นอันได้เข้ารับราชการในกรมพานิชย์และสถิติพย
ากรณ์.
งานที่ตอ
้ งทาไม่มีอะไรแปลกพอที่จะต้องเล่ามาให้เพื่อน
ฟังโดยพิสดาร, เพราะฉะนัน
้ ขอยุติไว้เถิด.
คุณพ่อได้พาฉันไปดูตัวแม่กิมเน้ยแล้ว.
หน้าตาเจ้าหล่อนเหมือนนางซุนฮูหยิน,
ตายาว,
หลังตาชัน
้ เดียว, แต่ผิวขาวดี, และรู้จักแต่งผมดีพอใช้.
การแต่งตัวของหล่อนก็ใช้เสือ
้ ผ้าดีๆ. ถูก “ แฟแช่น ”
แต่แต่งเครือ
่ งเพชรมากเหลือเกิน ; มีอะไรต่อมิอะไรห้อย
,
แขวน
,
และติดพะรุงพะรังไปทัง้ ตัวจนดูราวกับต้นไม้คริสต์มาส.
พูดจาพาทีก็พอใช้ได้
เพราะยังกระดากอยู่.
แต่ไม่ใคร่ได้พูดกับฉันมากนัก,
รายทีฉ
่ ันเล่ามาในจดหมายฉบับก่อนว่าได้เห็นที่โรงพัฒ
นากรนัน
้ , ฉันได้พยายามสืบสาวจนรู้แล้วว่าเป็นใคร.
ฉันได้หมัน
่ ไปโรงภาพยนตร์นน
ั้ บ่อยๆ
จนเห็นหล่อนอีกคืน ๑ , แล้วชี้ให้เพือ
่ นคน ๑ ดู
จึงได้ความจากเขาว่าหล่อนชือ
่ นางสาวอุไร
พรรณโสภณ,
ลูกสาวพระพินฐ
ิ พัฒนากร.
ฉันจะพยายามรู้จักกับหล่อนให้จงได้ในไม่ชา้ ,
ได้ข่าวว่าหล่อนเป็นผู้หญิงอย่างสมัยใหม่แท้,
ไม่หดหู่กลัวผู้ชาย,
และเขาว่าหล่อนได้หัดเต้นราแล้วด้วย.
ถ้าจริงเช่นนั้นคงจะได้มีโอกาสคุ้นเคยกันสักวัน
๑
เป็นแน่นอน.
อย่างช้าก็ในงานฤดูหนาว,
ซึ่งในปีนไ
ี้ ด้ข่าวว่าจะมีโรงเต้นราด้วย.
เป็นเคราะห์ดีของฉันที่ประไพก็รู้จักหล่อนด้วย.
ฉะนัน
้ คงจะนาให้ฉันรูจ
้ ักหล่อนได้.
ถ้าได้รู้จักกับผูห
้ ญิงอย่างเช่นแม่อุไรนี้แล้ว
จะทาให้ฉน
ั ค่อยวายคิดถึงเมืองอังกฤษได้
และจะทาให้ชว
ี ต
ิ เป็นของน่าดารงอยู่อีกด้วย.
แต่ถึงแม้เมื่อได้รู้จักกับหล่อนแล้ว
หล่อนจะพอใจในตัวฉันหรือไม่ก็ยังรู้ไม่ได้,
เพราะหล่อนเป็นผู้ที่มีชายตอมมานานแล้ว
ขอจบเพียงเท่านี้ที. อีกไม่ชา้ จะเขียนมาอีก.
แต่เพื่อนที่รัก.
ประพันธ์
จดหมายฉบับที่ ๖
ถนนหัวลาโพง
วันที่ ๑๑ มกราคม , พ.ศ. ๒๔๖
ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก
ฉันไม่ได้เขียนจดหมายมาถึงเพื่อนตัง้ เดือน
๑
,
ซึ่งฉันไม่มอ
ี ะไรที่จะแก้ตัวกับเพื่อนผูส
้ นิทอย่างเช่นพ่อป
ระเสริฐ,
จึงขอสารภาพเสียตามตรงว่าฉันมัวเพลิดเพลินเสียเท่า
นั้น
แต่ถ้าพ่อประเสริฐเป็นฉันบ้างก็คงต้องเพลินเช่นเดียวกั
บฉันเหมือนกัน.
เวลานี้เผอิญมีเวลาว่าง
เพราะฉะนั้นขอเขียนจดหมายนี้มาเพื่อแก้ตว
ั และขออภั
ยด้วย.
ฉันต้องขอบอกว่าประไพเป็นน้องสาวที่ดีมาก
เมื่อคืนวันที่
๒
เดือนนี้
ประไพได้จัดการเชิญแม่อุไรให้ไปดูการแต่งไฟทางลา
น้า,
เพราะฉะนั้นเราจึงมีโอกาสได้นั่งไปด้วยกันนานในเรือ
ยนต์
ในที่มด
ื
!
แน่ทีเดียวฉันไม่ได้ปล่อยให้โอกาสเช่นนั้นเปลืองเปล่า,
และภายในเวลา
๒
ชั่วโมงที่ไปดูไฟนั้น
นับว่าฉันกับแม่อุไรได้รจ
ู้ ักกันดีเกือบเท่ากับคนที่ได้คุ้นเ
คยกันมาแล้วตลอดชีวิต.
ต่อนัน
้ มา, ในระหว่างงานฤดูหนาว, ก็ได้พบปะกันมาก,
โดยประไพได้เอื้อเฟือ
้ มากจริงๆ
จนฉันบอกแก่ประไพตรงๆ
ว่า
ถ้าเราเป็นฝรั่งฉันจะจูบหล่อนให้ถึงใจทีเดียว
เพือ
่ แสดงความขอบใจในการที่ช่วยอุดหนุนให้สมประส
งค์.
นึกๆ
ก็น่าประหลาดอยู่ที่ในเมืองเรานี้
พี่น้องจูบกันไม่ได้เหมือนอย่างฝรั่งเขา
แต่นึกไปอีกทีกเ็ ห็นว่าห้ามไว้ดก
ี ว่า,
เพราะประเพณีของเรากับของเขาผิดกันอยู่.
;
ของฝรั่งเขาพีน
่ อ
้ งแต่งงานกันไม่ได้,
แต่ของเราเป็นผัวเมียกันได้เท่ากับไม่ได้เป็นญาติกัน !
ในระหว่างานฤดูหนาว
ฉันอยู่ข้างจะสนุกมาก,
และหวังใจว่าแม่อุไรก็ได้รบ
ั ความพอใจไม่นอ
้ ยเหมือนกั
น. แต่คงมีคนไม่พอใจอยูบ
่ ้างเหมือนกัน, คือพวกหนุ่มๆ
ที่ได้เคยตอมแม่อุไรอยู่แต่กอ
่ น.
ในงานนั้นแหละฉันได้เห็นอย่างแน่นอนว่าหล่อน
“ปอปูล่าร์”
ปานใด
;
หล่อนราวกับดวงไฟที่มีแมลงบินตอมว่อนอยู.่
แต่ฉันยอตัวฉันว่า
แม่อไ
ุ รชอบฉันมากกว่าใครๆ
ในหมู่นั้น.
และเต้นราด้วยกัน,
คนอื่นๆ
หล่อนได้ยอมให้ฉันพาเที่ยวทุกคืน,
กิน
“สัปเป้อร์”
ด้วยกันทุกคืน
พากันริษยาฉันเป็นแถวไปหมด,
ซึ่งเป็นธรรมดาไม่อัศจรรย์อะไร
เพราะถ้าเป็นใจฉันบ้างก็ตอ
้ งริษยาเหมือนกัน.
ดูเหมือนฉันยังไม่ได้เคยเล่ามาให้เพื่อนฟังเลยว่า
แม่อุไรนั้นหน้าตารูปร่างเป็นอย่างไร
,
ที่จริงนึกจะเล่าให้ฟังก็เล่าไม่ถก
ู ,
เพราะถึงจะชมด้วยถ้อยคาอย่างไรก็ไม่เพียงพอที่จะให้เ
พื่อนรู้ได้ว่าหล่อนเป็นคนสวยงาม
,
น่ารัก
,
น่าพึงใจปานใด.
ฉันไม่ใช่จินตกวี,
เพราะฉะนั้นขอบอกโดยย่อแต่ว่าหล่อนเป็นผูห
้ ญิงที่งาม
ที่สุดที่ฉน
ั ได้เคยพบในกรุงสยาม,
และไม่ใช่งามแต่รป
ู
ทั้งกิริยาก็งามยวนใจ,
พูดก็ดีและเสียงเพราะราวกับเพลงดนตรี,
และทีด
่ ีทส
ี่ ุดคือหล่อนไม่ทาตัวเป็นหอยจุบ
๊ แจงอย่างผู้ห
ญิงไทยๆ
โดยมาก.
พูดกันสั้นๆ
,
หล่อนคล้ายผู้หญิงฝรัง่ มากกว่าผู้หญิงไทย, และนับว่ามี
“เอดูเคชั่น”
ดีพอใช้
;
เขียนหนังสือไทยเก่ง.
อ่านและพูดภาษาอังกฤษได้บา้ ง
,เต้นราเป็น,
และแต่งตัวดี
,
รูจ
้ ักใช้เครือ
่ งเพชรแต่พอควร
ไม่รุงรังเป็นต้นไม้คริสต์มาส.
กล่าวถึงต้นไม้คริสต์มาสทาให้นึกถึง
ที่คุณพ่ออยากได้เป็นลูกสะใภ้นัก.
ในงานฤดูหนาวแต่งตัวไปเสียเพียบเพื่อ
“ซุนฮูหยิน”
“โช”
คน.
ไปนัง่ อยูท
่ ี่รา้ นเจ้าคุณภักดีพี่เขย,
ดูพราวไปทัง้ ตัวราวกับหุน
่ ที่เขาติดของสาหรับขาย
คืนวันแรกเมือ
่ เห็นฉันเดินผ่านไป
อุตส่าห์รอ
้ งเชิญฉันให้แวะเข้าไป
,
แต่ฉันขอตัวว่ามีธุระซึ่งเป็นความจริง
,
เพราะฉันนัดกับแม่อุไรว่าจะไปรับเขาที่ราชภัตตาคาร.
ภายหลังฉันเดินผ่านร้านเจ้าคุณภักดีไปกับแม่อุไร,
“ซุนฮูหยิน”
ออกฉิวค้อนเสียสามสีว
่ ง,
แล้วเลยไม่พูดกับฉันอีกเลย. ฉันคิดถึงพ่อประเสริฐพิลึก,
แต่เพื่อนที่รัก.
ประพันธ์
จดหมายฉบับที่ ๙
หัวหิน
วันที่ ๒๑ พฤษภาคม , พ.ศ. ๒๔๖-
ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก.
ฉันเขียนจดหมายฉบับนีม
้ าบอกว่าให้ทราบว่า
ฉันได้แต่งงานกับแม่อุไรแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๑๙ เดือนนี้.
การแต่งงานของฉันหาได้เป็นไปโดยสมปรารถนาทุกป
ระการไม่,
แต่ข้อสาคัญก็คอ
ื ว่าได้แต่งงานกันแล้ว
,
เป็นผัวเมียกันแล้วตามกฎหมาย,
ซึ่งทาให้ฉน
ั รูส
้ ก
ึ ค่อยโล่งใจไปมาก,
เพราะตามที่เป็นอยู่แต่กอ
่ น รูส
้ ึกว่ามันไม่งดงามเลย.
เมื่อฉันกลับมาจากหัวหินแล้ว
บอกคุณพ่อว่าฉันมีความรักแม่อุไร ขอให้ทา่ นไปขอ ,
ท่านเอะอะเอาฉันใหญ่
ท่านว่าท่านไม่อยากได้ผู้หญิงเช่นแม่อุไรมาเป็นลูกสะใ
ภ้ของท่าน,
โดยท่านรังเกียจว่าได้เคยรูจ
้ ักมักคุ้นกับผูช
้ ายมาหลาย
คนแล้ว
,
และกล่าวว่าใครๆ
เขาก็รู้จักทัง้ นั้นว่าทีบ
่ ้านนัน
้ เขาใช้คาเรียกกันว่า
“โรงเรียนฝึกหัดเจ้าชู”้
ฉันโกรธจนท่านแลเห็นสีหน้าถนัด
,
คุณพ่อจึงพูดเป็นเชิงไกล่เกลี่ยว่า
ขอให้รอดูตอ
่ ไปอีกสักปี
๑
เถิด,
และถ้าเมื่อเวลาล่วงไปได้ปี ๑ แล้ว ฉันยังคงชอบใจอยู่
ท่านก็ไม่ขด
ั ใจ.
ฉันตอบท่านว่าคอยไม่ได้
,
ท่านก็พด
ู แต่ผัดเพี้ยนร่าไป
,
จนในที่สุดฉันต้องบอกแก่ท่านว่า
“
ถ้าจะขืนให้คอยต่อไปอีกถึงปีหนึ่งละก็
คุณพ่อคงจะได้หลานเสียก่อนนั้นแล้ว
!
”
ท่านได้ฟังฉันตอบเช่นนั้นออกจะตะลึงไปครู่
๑
.
แล้วจึงกล่าวว่า
“
เมื่อเจ้าได้ไปชิงสุกก่อนห่ามเสียเช่นนั้นแล้ว
พ่อก็สิ้นพูด. ” แล้วเลยตกลงรีบไปจัดการขอแม่อุไร
และพระพินิฐก็ยกให้โดยทันทีเทียว
ท่าทางจะได้รู้แล้วเหมือนกันว่ามีความจาเป็นอยู่.
เมื่อการสู่ขอเป็นอันตกลงกันแล้ว
คุณพ่อได้ไปหาเจ้าคุณผูส
้ าเร็จราชการมหาดเล็กเพื่อข
อให้ท่านช่วยเป็นธุระจัดการให้ได้รบ
ั เกียรติยศ
โดยขอพระราชทานให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หว
ั ทร
งแต่งพระราชทาน
แต่เจ้าคุณผู้สาเร็จราชการท่านตอบว่า
ในระหว่างนี้มพ
ี ระราชธุระมาก
,
ต้องรอไปก่อนจึงจะกราบบังคมทูลได้
ข้างฝ่ายเราก็เผอิญรอไม่ได้,
จึงตกลงเป็นอันต้องจัดการแต่งกันเองที่บา้ น
,
ซึ่งทั้งสองฝ่ายรูส
้ ึกกันว่าออกจะไม่พอใจ , แต่อย่างไรๆ
ก็ดีกว่ารอช้าไป.
เมื่อแต่งกันแล้วได้ตกลงมา
“
ฮันนี่มน
ู ”
ที่หัวหิน
แม่อุไรว่าเราได้เริ่มรักกันจริงจังที่หว
ั หิน
จึงอยากมาอีก
,
แต่เวลานี้ไม่ใช่ฤดูที่คนมากัน,
ฉะนัน
้ ก็ออกจะเงียบๆ อยู่ แม่อุไรบอกว่าไม่เป็นอะไร,
เพราะการที่ไม่มีคนมากๆ
ก็ยิ่งจะเป็นโอกาสดีสาหรับเราทั้งสองจะได้อยูด
่ ้วยกันเป็
นสุขสาราญ.
ไม่ต้องราคาญเพราะคนกวน.
แต่ฉันขอบอกตามตรงว่าฉันออกจะนึกสงสัยอยู่
,
เพราะตามความจริงแม่อุไรเป็นคนชอบสมาคม
,
เพราะฉะนั้นเมือ
่ ต้องมาอยู่ในที่ซงึ่ ไม่ได้พบปะกับใครน
อกจากฉัน
อาจทาให้หล่อนรู้สึกเบือ
่ ที่นี่ในไม่ช้าก็เป็นได้.
ในเวลานี้ ลมก็เริ่มพัดออกจากชายฝั่งเสียแล้วด้วย.
ขอจบเรือ
่ งเพียงนี้ทีกอ
่ น. ถ้ามีข่าวจะเขียนมาอีก
ประพันธ์
จดหมายฉบับที่ ๑๑
บ้านเลขที่ ๐๐ ถนนสี่พระยา
วันที่ ๒๑ มิถุนายน , พ.ศ. ๒๔๖ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก.
ฉันได้กลับมากรุงเทพฯ
ได้
๓
อาทิตย์แล้ว,
และฉันเขียนจดหมายฉบับนี้มาจากบ้านใหม่ของฉัน.
“บ้าน”
!
คานีท
้ ี่จริงควรที่จะเป็นคาไพเราะที่สด
ุ สาหรับมนุษย์,
เพราะเมือ
่ กล่าวคานี้ขน
ึ้ แล้ว
ควรจะชวนให้นึกถึงทีอ
่ ันเต็มไปด้วยความสุขสาราญ ;
สุขกายเพราะมีที่พักอาศัยอันพึงใจและเต็มไปด้วยสมบั
ติอันพึงใจของเราเอง
และสุขใจเพราะได้เห็นหน้าเมียผู้ร่วมใจร่วมชีวิต
,
แต่อนิจจา
,
ฉันนี้เป็นคนอาภัพไม่ได้รบ
ั ความสบายกายสบายใจด้วย
คาว่า
“
บ้าน
”
นี้เลย
ถ้าแม่พ่อประเสริฐไม่ใช่เพือ
่ นที่รักที่สุด
,
และฉันไม่นึกเชื่อใจว่าพ่อประเสริฐจะเห็นใจฉันแล้ว
,
ฉันคงจะไม่เขียนจดหมายฉบับนี้มาก่อนเลย
,
เพราะฉันคงจะต้องรู้สึกอายทีส
่ ุดในการทีจ
่ ะต้องประจา
นตนเองให้ฟงั
,
แต่เอาเถิด
เมื่อพ่อประเสริฐเป็นผู้ทฉ
ี่ ันเชือ
่ ว่าเป็นมิตรแท้ของฉัน
,
,
ฉันจึงขอเล่าข้อความให้ฟังโดยสัตย์จริง
,
ด้วยความหวังว่าเมื่อได้อ่านตลอดแล้วจะไม่ติโทษฉันม
ากนัก.
เมื่อวันที่
๒๙
ฉันกับแม่อุไรได้กลับจากเพชรบุรี
เดือนก่อนนี้
,
และการที่กลับนั้นไม่เร็วเกินไปเลย
,
เพราะถ้าขืนอยูท
่ ี่เพชรบุรีต่อไปอีกสักสองหรือสามวัน
ก็คงต้องขายหน้าเขาเป็นแน่
,
และชาวเพชรบุรีคงได้เห็นฉันกับเมียวิวาทกันกลางเมือ
ง
!
พ่อประเสริฐก็รอ
ู้ ยู่แล้วว่าฉันเป็นคนพยายามอดกลั้นโท
โสมากที่สุด
,
เพราะฉันเคยรูส
้ ึกดีอยู่นานแล้วว่าการมีโทโสไม่เป็นปร
ะโยชน์แก่ตัว
,
และถึงจะไม่มีผลร้ายอย่างอื่น
ก็ทาให้หน้าตาของเราบึง้ บูดไม่เป็นที่เจริญตาแก่ผู้อื่นเล
ยเป็นแน่นอน.
ฉะนัน
้ ถึงแม้ใครจะทาให้ฉันมีเหตุควรโกรธ
ฉันก็มักเหนี่ยวใจรอไว้จนไปถึงที่ลบ
ั ตาคนมาก
จึ่งจะยอมตัวให้โกรธ.
แต่แม่อุไร,
เมียรักของฉันเขาดูเหมือนจะถือคติตรงกันข้าม
,
คือเห็นว่าโกรธผัวได้ตอ
่ หน้าคนเป็นเกียรติยศดี
,
อาจจะทาให้คนนับถือว่าเขาเป็นผู้หญิงแห่งสมัยใหม่
ไม่ต้องยาเกรงผัวเสียเลย. ฉะนั้นฉันพูดจากับเขาทีไร
เขาจึ่งต้องขู่ฟอ
้ ๆ
ราวกับแมวที่ดุเสมอๆ
จนฉันไม่ใคร่กล้าพูดกับเขาต่อหน้าคน.
ฉันเข้าใจเสียว่าการที่แม่อุไรพื้นเสียเสมอๆ
เช่นนั้น
คงจะเป็นเพราะเบื่อการอยู่หว
ั เมือง
ฉันจึงชวนกลับกรุงเทพฯ.
,
การกลับมากรุงเทพฯ
กลับทาให้เป็นเหตุราคาญใจมากขึ้นตั้งแต่ตน
้ ทีเดียว.
เมื่อกลับมาถึงสถานีบางกอกน้อยไม่มีใครไปรับเลยจนค
นเดียว.
ซึง่ ทาให้แม่อุไรโกรธและบ่นไม่รู้จก
ั จบ
และหล่อนพูดราวกับว่า
เป็นความผิดของฉันในการทีไ
่ ม่มีใครไปรับ
ฉันชี้แจงว่าส่วนญาติขา้ งหล่อนนั้น
ฉันไม่มอ
ี านาจอะไรที่จะบังคับเขาให้ไปรับได้.
,
และส่วนญาติของฉันนัน
้
คุณพ่อท่านไม่สส
ู้ บายอยู่
และพ่อประภาก็ไปอยู่เสียที่โรงเรียนมหาดเล็ก
,
จึ่งไปรับไม่ได้
,
แม่อุไรก็ยงิ่ ไม่พอใจหนักขึ้นและพูดจาแดกดันต่างๆ
จนฉันต้องขอว่าเอาไว้ขึ้นจากเรือจ้างแล้วจึ่งค่อยทะเลา
ะกัน
,
เพราะการทะเลาะกันต่อหน้าคนแจวเรือจ้างดูไม่เป็นกา
รงดงามเลย. เมื่อข้ามมาถึงฝั่งตะวันออกแล้วฉันชวนว่า
ให้ไปบ้านคุณพ่อด้วยกันก่อน
,
เพราะฉันไม่แน่ใจว่าบ้านใหม่ของเราที่ถนนสีพ
่ ระยาจะ
ได้จัดเรียบร้อยหรือยัง
,
โดยเหตุที่ได้กาหนดไว้เดิมว่าจะมาอยู่ปลายเดือนนี้
;
แต่แม่อุไรตอบดื้อๆ ว่า ถ้าจะพาไปบ้านคุณพ่อละก็
พาไปสาเพ็งเสียดีกว่า...แต่ฉันเห็นว่าจะโต้เถียงกันไปก็
อายคนขับรถยนต์
ฉันจึ่งตกลงพามาบ้านถนนสี่พระยา.
,
พอมาถึงก็แลเห็นทันทีว่าบ้านนีย
้ ังไม่พรักพร้อมเลย.
ถนนพึ่งจะโรยกรวดใหม่ๆ
และสวนก็ยังไม่ได้ลงมือทาเลย
;
ภายในเรือน
สีก็ทายังแทบจะไม่แห้ง
และเครื่องเรือนก็ยังไม่ได้จด
ั เป็นระเบียบเรียบร้อย.
,
แม่อุไรเดินกระทืบตีนปังๆ
ขึ้นไปถึงห้องรับแขก
นั่งลงทาหน้ามูท
่ ู่ไม่พูดไม่จาอะไรเป็นครู่ใหญ่ๆ.
ฉันเห็นท่าทางไม่ดี
จึ่งพูดอย่างใจดีว่า
:
,
“
เราต้องลงมือจัดบ้านของเราทีเดียว
,
ท่าทางก็เห็นจะสนุกดีนะหล่อน
!
”
หล่อนตอบเสียงกระชากว่า
“
ดิฉันไม่ใช่บา่ วจะได้แบกหามเครือ
่ งเรือนให้คณ
ุ
! ”
ฉันก็พูดไปอย่างยิ้มๆ
ว่า
“
ฉันไม่ได้เห็นหล่อนเป็นบ่าวเลย.
ฉันชวนหล่อนให้ช่วยกันจัดบ้านอย่างผัวหนุ่มเมียสาวที่
ได้กันใหม่ๆ
การจัดบ้านเป็นของสนุกเพลิดเพลินอย่างหนึ่งทีเดียวนะ
หล่อน…”
หล่อนตอบกระชากมาอีกว่า
“
ดิฉันเสียใจทีค
่ วามเห็นไม่ตรงกับคุณ. ดิฉน
ั เป็นลูกผู้ดี
ไม่เคยต้องยกขนของอะไรเอง
!
”
ฉันออกรูส
้ ึกเลือดขึ้นหน้า , จึ่งงดไม่ตอบว่ากระไร ,
เป็นแต่ลุกไปดูห้องอื่นๆ
ในเรือน
และเรียกคนใช้ให้ช่วยจัดวางเครือ
่ งแต่งให้พอดูได้.
,
ครัน
้ ถึงเวลากินข้าวเย็นก็เกิดความอีก
,
เพราะอาหารไม่ถูกปากแม่อุไร
,
หล่อนก็ลุกจากโต๊ะอาหารเสียกลางคันเฉยๆ
และเรียกรถยนต์ขึ้นไปบ้านพ่อ. ฉันไม่ได้ไปกับหล่อน
เพราะไม่อยากไปกีดขวางในการที่พอ
่ แม่กบ
ั ลูกเขาจะพ
บปะพูดจากัน.
ฉันนั่งอ่านหนังสือคอยอยูจ
่ นดึก
เลยหลับไปกับเก้าอี้.
นี่เป็นคืนแรกที่เราได้ไปอยู่บา้ นของเรา !
,
ในวันต่อๆ
มาก็ได้มีเหตุขด
ั ใจกันเรือ
่ ยๆ
ซึ่งจะเล่าให้ฟงั โดยละเอียดก็เปลืองหน้ากระดาษเปล่าๆ
,
จึ่งขอเล่ามาแต่โดยย่อว่า
ฉันทาอะไรดูผด
ิ ไปเสียหมดทุกอย่าง.
ฉันไปทางานทีก
่ ระทรวงก็เป็นความผิดหาว่าทิ้งหล่อนไ
ว้คนเดียวในกลางป่า.
ฉันไปหาพ่อแม่หรือเพือ
่ นฝูงบ้างก็มีความผิด
,
และเพื่อนฝูงมาเยี่ยมที่บา้ น ฉันต้อนรับเขาก็มีความผิด.
มีงานการที่ไหนฉันพาหล่อนไป
หล่อนก็บ่นว่าพาไปให้เหน็ดเหนื่อยและอดนอน
,
แต่ครัน
้ ไม่พาไปก็ว่าหวงกัน
จะไม่ให้หล่อนไปพบปะผูค
้ น.
เช่นนี้การกลับบ้านจึ่งเลยเป็นของที่ฉน
ั รู้สึกเกือบเท่ากับ
ไปโรงเรียนเมื่อเด็กๆ
และตกลงฉันมีเวลาได้สบายแต่เมื่ออยูน
่ อกบ้านของตัวเ
ท่านัน
้ . ขอจบทีละเหี่ยใจนัก !
จากเพื่อนผูอ
้ าภัพ.
ประพันธ์
จดหมายฉบับที่ ๑๒
บ้านเลขที่ ๐๐ ถนนสี่พระยา
วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน , พ.ศ. ๒๔๖
ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก.
ฉันได้กล่าวเปรยๆ
มาบ้างแล้วในจดหมายฉบับก่อนๆ
นี้ว่า
ฉันมองไปในอนาคตแลเห็นแต่เมฆหมอก
และในจดหมายฉบับสุดท้ายของพ่อประเสริฐ
เพื่อนได้กล่าวเตือนฉันมาว่า
อย่าให้ลืมสุภาษิตอังกฤษที่กล่าวว่า
เมฆทุกก้อนมีซบ
ั ในเป็นเงิน
ซึ่งฉันเข้าใจว่าพ่อประเสริฐคงตั้งใจว่า
หวังใจว่าในไม่ช้าฉันกับแม่อไ
ุ รจะปรองดองกันได้
ถูกไหม
?
“
”
,
ถ้าเพื่อนนึกและหวังเช่นนี้ละก็
ต้องเสียใจละเพื่อน
เพราะความเป็นจริงมิได้เป็นเช่นนั้นเลย.
นับจาเดิมแต่เวลาที่แม่อุไรได้แท้งลูกแล้ว
เมื่อกลางเดือนกรกฎาคม
,
)
,
,
(
พอหล่อนหายเจ็บ
กิริยาอาการของหล่อนก็ได้เปลีย
่ นแปลงไปเป็นลาดับ ,
และในไม่ช้าหล่อนก็ได้ทาให้ฉันแลเห็นได้โดยชัดเจน
ทีเดียวว่าหล่อนสิ้นรักฉันเสียแล้ว.
แน่ทีเดียวเมือ
่ ฉันรู้สึกเช่นนั้น ฉันมีความเสียใจมาก ,
แต่เพราะยังมิได้มีเหตุอะไรมาทาให้ฉน
ั รูส
้ ึกว่าจะอยู่ไป
ด้วยกันไม่ได้แท้ๆ.
ฉันจึงสูน
้ ิ่งทนอยู่กับหล่อนไปทั้งๆ
ที่รู้แล้วโดยแน่ใจว่า
แม่อุไรเท่ากับไม่ใช่เมียฉันแล้ว.
ทั้งนี้ก็เพราะ
ฉันเป็นคนที่กลัวคนนินทาเสียจริงๆ.
จึ่งตั้งใจว่าเมื่อเป็นกรรมของฉันแล้ว
ก็จะก้มหน้าทนกรรมไปจนถึงที่สุด
,
ฉันนึกเสียว่าเท่ากับอุทิศตัวเป็นพรหมจรรย์เสียชาติหนึ่
งทีเดียว.
แต่อยู่มาไม่ช้า
ก็ได้เกิดมีเหตุการณ์ขน
ึ้ เป็นลาดับ
ดังฉันฉันจะขอเล่าให้ฟังโดยย่อพอเป็นสังเขป.
จาเดิมแต่เมื่อแม่อุไรแท้งลูกและหายเจ็บแล้ว
หล่อนชอบเที่ยวเสมอๆ
และชอบไปคนเดียว
,
ไม่ไปกับฉัน.
และฉันจะถามบ้างว่าไปแห่งใด
ก็โกรธฉุนเฉียวทุกคราว
จนฉันต้องงดถามเพื่อรักษาสันติภาพในบ้าน.
แต่ในไม่ช้า
ฉันก็จาเป็นต้องพูดเตือนเรือ
่ งเที่ยวของหล่อน.
เพราะห้างและร้านต่างๆ
เริ่มส่งใบทวงเงินมามาก,ในเดือนหนึง่
แม่อุไรเที่ยวทาหนี้ไว้ตงั้ พันบาท
แต่เงินเดือนของฉันก็เพียง
๒๐๐
,
บาทเท่านั้น.
ฉันจึ่งต้องเตือน แต่การเตือนกลับเป็นผลตรงกันข้าม ,
เพราะในเดือนต่อมา
หล่อนไปทาหนีไ
้ ว้อีกตัง้ พันห้าร้อยบาท ! ฉันต่อว่าเข้า
หล่อนก็กลับตอบว่า “ เมื่อก่อนคุณจะมาแต่งงานกับดิฉัน
ทาไมคุณไม่สืบสวนให้ได้ความเสียก่อนว่าดิฉน
ั ต้องใช้
จ่ายอย่างไร.
ดิฉันจะยอมเปลีย
่ นแปลงความสาราญเช่นที่เคยมีมาแต่
ก่อนเพื่อความพอใจของคุณไม่ได้.”
ในที่สด
ุ ตกลงฉันต้องไปขอเงินจากคุณพ่อมาใช้หนี้ของ
แม่อุไร.
คุณพ่อท่านโกรธมาก.
บ่นอะไรต่อมิอะไรมากมาย
แต่ในที่สด
ุ ก็ให้เงินนั้นตามที่ขอ
ฉันก็นึกว่าคงจะเป็นอันสิ้นเรือ
่ งราคาญไปพักหนึ่ง.
ที่ไหนเล่า
,
,
ต่อนั้นมาไม่อีกกี่วน
ั
เห็นแจ้งความลงในหนังสือพิมพ์
,
ความว่า
ฉันไม่ขอรับผิดชอบในหนี้สินของภรรยาอีกต่อไป
,
และจะยอมใช้ให้แต่ที่ฉันได้ลงชื่อรับรองไว้ด้วยเท่านั้น.
แม่อุไรเห็นแจ้งความนี้เข้าฉิวใหญ่
,
และในชั้นต้น
ฉันก็มิรท
ู้ ี่จะเถียงเขาอย่างไร
นอกจากว่าฉันไม่ได้เป็นผูส
้ ่งแจ้งความนั้นไปลง
ฉันสบถสาบานให้เท่าใด
หล่อนก็ไม่เชือ
่
ฉันจึ่งรับปากว่าจะไปสืบให้ได้ความว่าใครส่งแจ้งความ
นั้นไปลง
;
แต่แม่อุไรไม่ยอมฟังคาพูดฉันเสียเลยจนคาเดียว
,
ยืนยันอยูค
่ าเดียวแต่ว่าฉันแกล้งประจานหล่อนกลางเมื
อง
,
และในบ่ายวันนั้นเอง
หล่อนขึน
้ รถไปอยู่บา้ นพ่อของหล่อน
แม่อุไรก็ไปลงแจ้งความบ้างว่า
,
เช้าวันรุ่งขึ้น
หล่อนไม่ขอรับผิดชอบในเรื่องหนี้สินของฉัน
,
และว่าฉันไม่มอ
ี านาจเกี่ยวข้องในทรัพย์สมบัติของหล่อ
นอีกต่อไป.
ฉันอุตส่าห์ไปสืบจนได้ความว่าแจ้งความที่ลงในนามขอ
งฉันนั้น
หลวงบรรยายนรคดี
,
ทนายความ
,
ได้ส่งไปลงโดยคาสัง่ ของคุณพ่อของฉันเอง
ฉันก็ไปหาบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์
,
ขอให้งดการลงแจ้งความนั้นต่อไป
แล้วฉันก็ไปหาแม่อุไรทีบ
่ ้านพระพินิฐ.
,
แต่ได้รบ
ั คาตอบจากคนใช้ว่า
ลงมาพบกับฉันไม่ได้.
,
แม่อุไรไม่สบาย
ในคืนวันเดียวกันนั้นเอง
คุณหลวงเทพปัญหามาหาฉันที่บา้ น.
และเมื่อพูดจากันถึงเรื่องต่างๆ
พอสมควรแล้ว
,
คุณหลวงเทพฯ
จึงกล่าวขึ้นว่า
บ่ายวันนัน
้ ได้พบแม่อุไรขึ้นรถยนต์เที่ยวอยู่กบ
ั พระยาต
ระเวนนคร.
ฉันได้ฟงั เช่นนัน
้ ก็ใจหายวาบ
,
เพราะทราบชื่อเสียงของเจ้าคุณผู้นี้ดีอยู่แล้วว่าเป็นอย่า
งไร
,
แต่ฉันก็ตีหน้าเฉยเพื่อไม่ให้หลวงเทพฯ
รู้ว่าข่าวที่แกเล่านั้นทาให้ฉันสะดุ้งใจปานใด.
พอหลวงเทพฯ
ไปพ้นเรือน
ฉันก็รบ
ี เขียนจดหมายฉบับหนึง่ ถึงแม่อไ
ุ ร
เตือนสติในการที่คบสนิทสนมกับคนมีชอ
ื่ เสียง
,
เช่นพระยาตระเวนนคร
,
และในที่สุดอ้อนวอนขอให้หล่อนกลับมาบ้าน
,
รุ่งขึ้นฉันได้รบ
ั ซอง
๑
ซอง
,
ซึ่งเมื่อฉีกผนึกก็มีกระดาษฉีกเป็นชิน
้ เล็กชิ้นน้อยร่วงออ
กมา
ฉันเทออกแล้วจึงจาได้วา่ เป็นจดหมายที่ฉันมีไปถึงแม่อุ
ไรนั่นเอง
ขอให้นึกเถิดว่าฉันรู้สก
ึ สะดุ้งปานใด.
ยิ่งกว่านัน
้
,
ในบ่ายวันเดียวกันนัน
้ เอง
แม่อุไรได้ขึ้นรถยนต์กับพระยาตระเวนนครขับผ่านหน้า
บ้านฉันไป
,
และเมื่อผ่านบ้านนี้แกล้งขับช้าๆ
เพื่อให้ฉันเห็นถนัดๆ ด้วย !
ต่อแต่นน
ั้ มา
ก็มีแต่หนักขึ้นทุกที
,
จนในไม่ช้าก็ลอ
ื กันทัว
่ พระนครว่า
พระยาตระเวนนครกับแม่อุไรสนิทสนมกันมากจนเกือบเ
ท่ากับเป็นผัวเมียกันโดยเปิดเผย.
การที่เขาพากันพูดเช่นนัน
้ ก็ออกจะน่าพูดอยู่บา้ ง
,
เพราะผู้หญิงใดทีค
่ บค้ากับพระยาตระเวนนครแล้วรอด
ตัวมาโดยไม่ดา่ งพร้อยนัน
้
หาไม่ได้ทีเดียว.
ฉันได้มจ
ี ดหมายไปถึงแม่อุไรหลายฉบับ
,
ชวนให้กลับบ้าน แต่ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ส่งคืนมาทุกฉบับ.
ครัน
้ เมื่อปลายเดือนก่อนนี้
หลวงเทพปัญหามาบอกฉันว่า
แม่อุไรได้ไปค้างคืนบ้านพระยาตระเวนนครแล้ว
ฉันก็ปรึกษาหารือกับหลวงเทพฯ
,
และในที่สุดหลวงเทพฯ
,
รับธุระไปพูดจากับแม่อุไร
ขอหย่าขาดจากกัน.
ในชั้นต้นหล่อนจะไม่ยอม,
แต่หลวงเทพฯ
ชี้แจงว่า
ถ้าไม่ยอมหย่า
ฝ่ายฉันก็ไม่มท
ี างอืน
่ นอกจากฟ้องชายชู้.
หล่อนไปปรึกษาหารือกับพระยาตระเวนฯ
แล้ว
จึงบอกหลวงเทพฯ ว่าเป็นอันยอมหย่า. หลวงเทพฯ
ก็ช่วยเป็นธุระทาหนังสือสัญญาหย่าขาดจากสามีภรรย
ากัน , และได้ลงชื่อกันแล้วเมือ
่ วานนี้.
ฉะนัน
้ บัดนี้
ฉันก็กลับเป็นโสดอีกแล้ว.
และคงจะไม่รีบร้อนหาคู่โดยด่วนเช่นครัง้ ก่อนอีกละ
ขอให้พอ
่ ประเสริฐจาเรือ
่ งของฉันไว้เถิด.
จากเพื่อนผูโ้ ล่งใจ
ประพันธ์
จดหมายฉบับที่ ๑๓
บ้านเลขที่ ๐๐ ถนนสี่พระยา
วันที่ ๒๒ ธันวาคม , พ.ศ. ๒๔๖-
ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก.
ฉันไม่ได้เขียนจดหมายมาถึงพ่อประเสริฐตัง้ เดือนหนึ่งแ
ล้ว
,
ซึ่งฉันสารภาพว่าเป็นความผิด
,
ต้องขอโทษด้วยเถิด
,
แต่ถึงหากว่าจะเขียนมาถึงคงไม่ได้มีข่าวอันน่าฟังบอก
มาให้ทราบ , ฉันจึ่งเห็นว่างดเสียดีกว่า.
มาบัดนี้มีข่าวทีน
่ ่าบอกให้พอ
่ ประเสริฐทราบอยู่บ้าง
,
จึ่งเขียนจดหมายฉบับนี้มา ; แต่ก่อนทีจ
่ ะบอกข่าวนั้น
ฉันขอเล่าเรื่องส่วนตัวของฉันสักเล็กน้อย.
ตั้งแต่ฉันได้กลับเป็นคนโสดอีกแล้ว
ฉันรู้สึกว่ามีความสุขกายสุขใจมากขึ้น.
จริงอยู่การทีฉ
่ น
ั หย่ากับแม่อุไรนั้น
ได้ถูกบางคนนินทาติโทษ
,
แต่ฉันถือคติว่าการแต่งงานเป็นกิจส่วนตัวของฉันโดยเ
ฉพาะ
,
ไม่มีผู้ใดจะมารับสุขรับทุกข์แทนฉันได้.
มีบางคนออกความเห็นแก่ฉันว่าไม่ควรจะหย่าให้ขายห
น้าเขา
,
เมื่อไม่พอใจเมียที่แต่งงานกันแล้ว
ก็ควรหาเมียอีกคนหนึง่ ที่พอใจอยู่กินด้วยกันหาความสุ
ขเสียก็แล้วกัน
,
แต่ฉันเถียงว่าถ้าทาเช่นนั้นก็เท่ากับลวงโลก
,
กลับได้รับคาตอบว่าคนอื่นๆ
เขาทากันถมไป
;
ครัน
้ เมื่อฉันขอให้เขานึกดูว่า
แม่อุไรนั้นพอใจคบกับพระยาตระเวนนครมากกว่าอยู่กั
บฉันฉะนี้
,
เขาก็ยังยืนยันว่ามีเช่นนัน
้ ถมไป
เขาก็มิได้หย่าร้างกัน , เพราะเกรงจะขายหน้า , เช่นนี้ ,
ฉันก็ต้องสารภาพว่าฉันรูส
้ ึกพ้นวิสัยที่จะแลเห็นตามเขา
ได้.
ส่วนตัวฉันเห็นว่า
การทีฉ
่ ันจะคงเป็นผัวหญิงที่ไม่ได้อยูบ
่ ้านฉันแล้ว
และไปอยู่ในบ้านชายอื่นนัน
้ เป็นการหน้าด้านพ้นวิสัยที่
จะทาไปได้. ฉันยินดีทป
ี่ ระไพมีความเห็นตรงกับฉัน ,
และตั้งแต่ฉันหย่ากับแม่อไ
ุ รแล้ว
ประไพได้มาบ้านฉันบ่อยๆ , และท่านชายก็มาด้วย ,
นับว่าน้องสาวกับน้องเขยของฉันเมตตาต่อฉันมาก.
นอกจากนี้มีพวกเพื่อนๆ
ที่เห็นใจได้มาเยี่ยมเยียน,
นับว่าช่วยกันทาให้ฉันคลายความเหงาใจได้มาก.
คราวนีจ
้ ะขอจับเล่าข่าวต่อไป.
แม่อุไรหย่าขาดจากฉันแล้วก็ไปอยูท
่ บ
ี่ ้านพระยาตระเว
นโดยเปิดเผย, และพากันไปไหนๆ อย่างเปิดเผยทีเดียว.
ใครๆ
ที่รู้จักทั้งพระยาตระเวนทั้งแม่อุไรต่างถามกันแลกันว่าจ
ะยืดยาวไปได้สก
ั ปานใด
เพราะเป็นข้อทีท
่ ราบกันอยู่ดว
ี า่ พระตระเวนเป็นนักเลงช
นิดทีช
่ อบแต่พยายาม
,
คือ
ถ้าเห็นผูห
้ ญิงสวยๆ
และมีคนตอม เป็นต้องพยายามให้ได้ผู้หญิงนัน
้ จนได้ ,
แต่เมื่อใดได้แล้วก็มักจะชักเบื่อ
,
หรืออย่างดีก็ยด
ื ไปได้จนกว่าจะเห็นผู้หญิงทีต
่ ้องตาอีกค
น
๑.
แม่อุไรนั้นเขาก็พยายามเป็นอันมากทีจ
่ ะสนิทสนมตั้งแต่
ก่อนได้กบ
ั ฉัน,
และเมื่อมาได้กบ
ั ฉันแล้ว
เขาก็ยิ่งกระทาความพยายามแรงกล้ายิง่ ขึ้นจนเป็นผล
สาเร็จ. แต่ท่านเจ้าคุณผูน
้ ี้เป็นคนอยู่ตว
ั คนเดียวไม่ได้,
เพราะฉะนั้นในระหว่างเวลาทีก
่ าลังทาทางเข้าหาแม่อุไ
รนั้น
เขาจึ่งได้หานางบาเรอแก้ขัดไว้เป็นลาดับ,
จนในเมือ
่ ถึงเวลาแม่อุไรได้ไปอยู่กับเขานั้น
พระยาตระเวนมีนางบาเรอประจาบ้านอยู่แล้วถึงเจ็ดนา
ง
!
เก่งไหม
?
แน่ทีเดียว
เขาปิดข้อนี,้
แต่เรื่องชนิดนีป
้ ิดให้สนิทยากที่สุด,
เพราะมันเป็นเรือ
่ งสาหรับผู้หญิงชอบรู้ชอบเล่าสู่กันฟัง ;
คนหนึง่ เล่าให้เพื่อนรัก,
สั่งว่าอย่าพูดไปนะ,
แล้วเพื่อนคนนัน
้ ก็ไปเล่าให้เพือ
่ นรักของตัวอีกคนหนึง่ ,
และต่อๆ
กันไปเช่นนี้เป็นแถวไป
และความลับจากปากผู้หญิงคนเดียวอาจที่จะรู้ถึง
,
๒๐
คนภายในอาทิตย์เดียว , ฉะนัน
้ เมื่อมีผู้หญิงที่มี “
อินเตอเร็สต์
”
อย่างเดียวกันอยู่
๗
คน
ก็ขอให้นึกดูเถิดว่าความลับนัน
้ จะแพร่หลายได้มากและ
รวดเร็วปานใด ? ส่วนตัวฉันได้ทราบเรือ
่ งนางทั้ง ๗
ของพระยาตระเวนนี้จากประไพ
,
และประไพได้ทราบมาจากแม่สอ
่ งแสงลูกสาวของพระย
าตระเวนเอง
ถ้าเมื่อฉันได้รู้เช่นนี้แล้ว
,
อย่างไรๆ
แม่อุไรก็ตอ
้ งได้รู้แล้วเหมือนกันในเรือ
่ งนางทัง้ ๗ นั้น ,
แต่บางทีหล่อนจะหวังว่าจะได้เป็นนางสุวิญชาของพระ
ยาตระเวนกระมัง
?
พ่อประเสริฐจาได้ไหม
เพลงขอทานที่เคยได้ยินร้องๆ
อยู่วา่
,
“
เจ็ดนางเธอไม่รก
ั ไม่ใคร่ เธอมัวหลงแต่แม่สว
ุ ิญชา ? ”
แต่พอได้เข้าไปอยู่ในบ้านพระยาตระเวนได้สก
ั หน่อย
แม่อุไรก็รูสึกว่าทนนางทั้ง
๗
ไม่ไหว
;
ในเวลาที่พระยาตระเวนอยูบ
่ ้านก็พอทาเนา
,
แต่พอเจ้าคุณไปพ้นบ้าน แม่ทงั้ ๗ ก็แผลงฤทธิ์ต่างๆ ,
ฟ้องเจ้าคุณก็ไม่ใคร่เป็นผลสมปรารถนา
ในที่สด
ุ แม่อไ
ุ รเลยเปิดกลับไปอยู่บ้านกับพ่อ.
ฝ่ายเจ้าคุณก็ตามไปง้อ,
แต่แม่อุไรยืน
่ คาขาดว่า
เพราะกาลังรักอยู่
,
ถ้าจะให้ไปอยูด
่ ้วยต้องไล่นางทั้ง
๗
ไปเสียก่อน,
หรือมิฉะนั้น ก็ต้องหาบ้านให้แม่อุไรอยู่ต่างหากอีกบ้าน
๑
,
เขาตกลงหาบ้านให้แม่อุไรอีกบ้าน
๑
ที่ถนนราชประสงค์. เขาได้เงินเดือน ๗๐๐ บาท, มีบ้าน
๒ บ้าน , เมีย ๘ คน , ม้า ๔ ตัว , และเล่นกีฬาต่างๆ เสมอๆ
, และเลี้ยงเพือ
่ นฝูงบ่อยๆ ด้วย. เก่งไหม ?
คราวนี้มีขา่ วดีส่วนตัวฉันซึ่งต้องเล่าให้พ่อประเสริฐฟัง.
ฉันได้บอกมาให้ทราบในจดหมายฉบับ
๑
แล้วว่าฉันได้เข้ารับราชการในพระราชสานักตั้งแต่มิถุ
นายน ศกนี้ , และได้อยู่ในกรมบัญชาการมหาดเล็ก ,
ครัน
้ เมื่อต้นเดือนธันวาคมนี้
ฉันได้ย้ายตาแหน่งมาเป็นผู้ชว
่ ยเจ้ากรมโรงเรียนในพร
ะบรมราชูปถัมภ์ , นับว่าเป็นของถูกใจของฉันทีเดียว ,
เพราะฉันแลเห็นหนทางทีอ
่ าจจะได้ทาการตรงตามทาง
ที่ฉันได้เล่าเรียนและชอบอยู่แล้ว.
ฉันหวังใจว่าจะได้ไปเป็นผู้เล็กเช่อร์พิเศษทีโ่ รงเรียนมห
าดเล็กหลวงด้วย.
ส่วนทางเสือป่า
ฉันก็ได้เข้าไปประจาอยู่กรมม้าหลวงสมปรารถนาหลาย
เดือนมาแล้ว
,
และการที่ฉน
ั ได้เคยเข้าไปฝึกหัดอยู่ในกองฝึกหัดนายท
หารที่ออ
๊ กซ์ฟอร์ดนั้นเป็นผลดีแก่ฉันมากทีเดียว
,
ตั้งแต่ฉันได้เข้าไปประจาในกรมม้าหลวงแล้วฉันไม่ได้
ขาดฝึกหัดเลย
,
และฉันได้ตั้งใจฝึกหัดและฟังคาสัง่ สอนจริงๆ
.
มาถึงเวลานี้ เขากาลังบรรจุตาแหน่งผูบ
้ ังคับบัญชาการ
,
เตรียมสาหรับไปซ้อมรบในปลายปีนี้,
ฉันได้เป็นผู้รงั้ ผู้บังคับหมวดผู้
๑
,
และได้เลือ
่ นยศเป็นนายหมู่เอก
,
เพราะฉะนั้นขอให้พ่อประเสริฐแสดงความยินดีกับฉันด้
วย.
ฉันคิดถึงพ่อประเสริฐจริงๆ
,
อยากให้กลับเข้ามาอยูด
่ ้วยกันในกรุงเทพฯ
,
ถ้าเข้ามาฉันจะต้องจูงเอาพ่อประเสริฐเข้าไปในกรมม้า
หลวงด้วยอย่างแน่นอน
,
และเชื่อว่าพ่อประเสริฐก็จะชอบด้วย. ขอจบที ; ว่างๆ
จะบอกข่าวคราวมาอีก
จากเพื่อนผู้กาลังตื่นตัว.
ประพันธ์
จดหมายฉบับที่ ๑๕
ที่พักกรมเสือป่าม้าหลวง ร.อ.
พระราชวังสนามจันทร์
วันที่ ๒๓ มกราคม , พ.ศ. ๒๔๖ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก.
ฉันมีเวลาว่างอยู่วันนี้
จึ่งเขียนจดหมายฉบับนี้มาเพื่อบอกข่าวอะไรๆ
ให้ฟังบ้างตามอย่างที่เคยมา.
งานเฉลิมพระชนมพรรษาปีนอ
ี้ ยู่ข้างจะสนุกมาก
,
และไม่ใช่แต่ฉน
ั ที่เห็นเช่นนั้น
;
คนอื่นก็เห็นด้วยเช่นเดียวกัน.
เจ้าคุณตระเวนนครก็สนุกมากเหมือนกันตามประสาขอ
งเขา, เมื่อวันที่ ๑ มีการเต้นราของกระทรวงต่างประเทศ
พระยาตระเวนพาลูกสาวของเขาไป
,
แต่ไม่ได้พาแม่อุไรไปด้วย
,
เพราะยังไม่ได้เป็นผัวเมียกัน
“โดยทางราชการ”
พระยาตระเวนแนะนาว่าถ้าแม่อุไรอยากไปในงานเต้น
รานี้ดว
้ ย
ก็ให้ไปกับพ่อ
,
แต่แม่อุไรฉุนเลยไม่ไป.
ข้อนั้นกลับทาให้พระยาตระเวนสนุกมากขึ้น,
เพราะได้ไปวางท่าเป็นชายโสดได้อย่างถนัดดีตามเขา
ชอบ.
ในคืนนั้นมีผส
ู้ ังเกตเห็นว่าเขาออกจะชอบผู้หญิงสาวคน
หนึ่งมาก
เพราะเห็นเต้นราด้วยกันหลายหน
และเมื่อกินของว่างก็ไปนัง่ กินอยู่ด้วยกัน.
,
หญิงคนนีช
้ ื่อสร้อย , เป็นลูกหลวงอะไรฉันก็ฟังไม่ถนัด ,
รู้แต่ว่าเป็นเพือ
่ นร่วมโรงเรียนกับแม่ส่องแสงลูกสาวพระ
ยาตระเวน
,
ฉะนั้นจึ่งรู้จก
ั กันได้โดยสะดวกทีเดียว.
ในคืนนั้นเมือ
่ กลับจากเต้นราเขาเลยพากันไปกินข้าวต้
มราชวงศ์ด้วยกัน.
ในระหว่างงานฤดูหนาว
พระยาตระเวนก็ไปเดินควงอยูก
่ ับแม่สร้อยโดยมาก
;
ส่วนแม่อุไรนั้นไม่ได้ไปด้วยกัน
โดยอ้างเหตุอย่างเดียวกับทีอ
่ ้างในการที่ไม่ไปในการเต้
นราด้วยกันนัน
้ เอง.
ฉันต้องยอมว่าเขาช่างหาเหตุขด
ั ข้องเก่งจริงๆ
.
เมื่อเป็นเช่นนี้
ก็เป็นธรรมดาอยู่เองที่แม่อุไรจะต้องรูส
้ ึกแค้นไม่น้อย ,
และถ้าเป็นผู้ชาย ป่านนี้ก็คงไว้หนวดเคราเต็มหน้าแล้ว.
นึกๆ ก็ออกจะน่าสงสารแม่อุไร , ที่ตอ
้ งรู้สึกตัวเร็วเช่นนี้
, และคนอย่างแม่อุไรคงจะต้องรู้สึกช้าใจมากที่สุด ,
เพราะเขาถือตัวว่าเป็นหญิงงามและยั่วยวนมากที่สุดใน
เมืองไทย
,
และเชื่อตัวของเขาว่าจะผูกใจอันรวนเรของพระยาตระ
เวนได้ชว
ั่ กาลนาน
เมื่อมาต้องแพ้เด็กนักเรียนอายุยังไม่เต็ม
ปีเช่นนีค
้ งต้องเสียใจมากเป็นแน่.
ฉันคอยฟังอยูว
่ า่ จะแผลงฤทธิอ
์ ย่างไรบ้าง
;
๑๕
,
แต่ก็เงียบอยู่ไม่กระโตกกระตากอะไร
และยังคงอยูท
่ บ
ี่ ้านถนนราชประสงค์นั้นเรือ
่ ยมา.
,
ฉันนึกประหลาดใจที่แม่อุไรยอมนิง่ อยู่ได้เช่นนี้
,
และยังแปลไม่ออกว่าทาไมจึ่งยังนิ่งอยู่ได้.
หรือจะเป็นเพราะรูส
้ ึกขึ้นมาว่าถ้าจะเลิกกับพระยาตระเ
วนก็จะได้ความลาบาก
,
คือจะหาที่อยู่ไม่ได้
นอกจากที่จะต้องกลับไปง้อพ่ออีก
,
ซึ่งจะทาไม่ได้มากนัก
เพราะเจ้าความหล่อนได้อวดดีไว้เสียมากแล้วว่าไม่จาเ
ป็นต้องพึ่งพ่ออีกต่อไป ; ฉะนั้นจึ่งจาใจยอมนิ่งทนอยู่
เพราะอย่างไรๆ
ก็ยังมีบา้ นอยู่เป็นอิสระ
,
และเงินทองก็คงยังมีใช้
,
รวมความก็เป็นอันว่าหล่อนคงเห็นชอบตามสุภาษิตอังก
ฤษว่า “ ขนมครึ่งก้อนยังดีกว่าไม่มีเลย ” นึกๆ
ไปก็น่าอนาถใจที่ผู้หญิงหรูเช่นแม่อุไรต้องมาตกอยู่ใน
ที่ลาบากเช่นทีก
่ ล่าวมานี้
ที่จริงนึกๆ
ไปน่าประหลาดที่ผู้หญิงทาไมพอใจไปยอมเป็นเมียคน
อย่างพระยาตระเวน
,
ถ้าเป็นใจฉัน
ฉันคงอยากได้ผัวที่ไม่มีเมียอยูอ
่ ีกคน
๑
หรือหลายๆ
คนแล้วเป็นแน่
;
แต่ความจริงมันมีอยูว
่ า่
ผู้ชายใดยิง่ มีชอ
ื่ เสียงเป็นนักเลงผู้หญิง
ก็มักจะยิ่งหาเมียง่าย
ซึ่งฉันแลไม่เห็นเลยว่าทาไมจึง่ เป็นเช่นนั้น.
มีผู้พูดกันอยู่หลายคนว่าถึงเวลาแล้วที่ไทยเราควรจะใช้
ธรรมเนียมมีเมียคนเดียว
,
แต่ก็ดูไม่มีใครเต็มใจทีจ
่ ะเป็นผูเ้ ริ่มถือธรรมเนียมนั้นโด
ยเคร่งครัดเลย.
แม้ผู้ที่ได้ไปเรียนยุโรปกลับมาก็มีเมียมากๆ เหมือนกัน ,
เพราะฉะนั้นจะหวังความเปลี่ยนแปลงจากคนพวกที่เรีย
กว่า
“
หัวนอก
”
อย่างไรได้.
ใครมีเมียคนเดียวออกจะถูกหาว่าเป็นคนโง่ดว
้ ยซ้า.
การมีเมียหลายๆ
คน
ไม่ทาให้ต้องรับความเสือ
่ มเสียอย่างไรเลย
,...ฉะนั้นจะมีทห
ี่ วังอยู่ก็แต่ที่ตว
ั ผู้หญิงเองเท่านั้น
;
ถ้าเมื่อไรผู้หญิงไทยที่ดีๆ
พร้อมใจกันตัง้ กติกาไม่ยอมเป็นเมียคนที่เลี้ยงผู้หญิงไว้
อย่างเลี้ยงไก่เป็นฝูงๆ
เท่านั้นแหละ
,
ผู้ชายพวกมักมากในกามจึง่ จะต้องกลับความคิดและเป
ลี่ยนความประพฤติ.
เออฉันได้ยน
ิ แตรตรวจแล้ว , ต้องขอจบเท่านีท
้ ีก่อน
จากเพื่อนผูค
้ ิดถึง
หลวงบริบาลบรมศักดิ์
๔.
คาศัพท์น่ารู้
กรมท่าซ้าย
หมายถึง
ส่วนราชการในสมัยก่อนซึง่ สังกัดกรมพระคลัง
ขุดอู่
ครึ
คลุมถุงชน
โช
หมายถึง ปลูกเรือนตามใจผู้นอน
หมายถึง เก่า ล้าสมัย
หมายถึง การแต่งงานที่ผใ
ู้ หญ่จัดหาให้
หมายถึง อวดให้ดู
เทวดาถอดรูป
หมายถึง
มีรูปร่างหน้าตาดีราวกับเทวดา
แบชะเล่อร์
หมายถึง ชายโสด
ปอปูลาร์
หมายถึง ได้รบ
ั ความนิยม
พิสดาร
หมายถึง ละเอียดลออ กว้างขวาง
พื้นเสีย
หมายถึง โกรธ
ไพร่
หมายถึง ชาวบ้าน
ฟรี
หมายถึง
เป็นอิสระจากกฎเกณฑ์หรือการควบคลุม
เร็สตอรังต์
หมายถึง ภัตตาคาร ร้านอาหาร
เรี่ยม
หมายถึง สะอาดหมดจด
ลอยนวล
หมายถึง ตามสบาย
เล็กเช่อร์
หมายถึง บรรยาย
ศิวิไลซ์
หมายถึง เจริญ มีอารยธรรม
สิ้นพูด
หมายถึง หมดคาพูดที่จะกล่าว
หดหู่
หมายถึง หอเหี่ยวไม่ชื่นบาน
หมอบราบ
หมายถึง ยอมตามโดยไม่ขัดขืน
หมายว่า
หมายถึง คาดว่า
หัวนอก
หมายถึง คนที่นิยมแบบฝรั่ง
หัวเมือง
หมายถึง ต่างจังหวัด
อยู่ข้าง
หมายถึง ค่อนข้าง
อินเตอเร้สต์
หมายถึง ความสนใจ
เอดูเคชัน
่
หมายถึง การศึกษา
ฮันนี่มูน
หมายถึง
การไปเที่ยวด้วยกันของคู่แต่งงานใหม่
หลวง
หมายถึง
บรรดาศักดิ์ข้าราชการที่สงู กว่าขุนและต่ากว่าพระ
๕.
ประวัติผู้แต่ง
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หว
ั
พระราชสมภพเมื่อวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๒๓
เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอ
ยู่หัว
และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินี
โดยพระองค์ได้ทรงเข้าศึกษาวิชาพลเรือนและวิชาทหาร
บกทีท
่ วีปยุโรปตั้งแต่พระชนมพรรษา
๑๔
พรรษา
ก่อนจะเสด็จนิวต
ั ิพระนคร
และเถลิงถวัลยราชสมบัติเมือ
่ วันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ.
๒๔๕๓
ทัง้ นี้พระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่
๒๕
พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๘ รวมพระชนมพรรษา ๔๕ พรรษา
๖.
สาระน่ารู้
หนังสือพิมพ์ดส
ุ ต
ิ สมิต
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หว
ั ทรงเป็นผู้จด
ั ทาแ
ละเป็นบรรณาธิการให้กับหนังสือพิมพ์ดุสิตสมิต
โดยมีนายจ่ายวด
(ปาณี
ไกรฤกษ์)
เป็นผู้ชว
่ ยบรรณาธิการ และมี ม.จ.ดุลภากร วรวรรณ
ม.ล.ปิ่น มาลากุล และพระมหาเทพกษัตรสมุห (เนือ
่ ง
สาคริก)
ร่วมกันบริหารงาน
โดยหนังสือพิมพ์จะวางขายทุกวันเสาร์ ราคาเล่มละ ๑
บาท
ซึ่งรายได้จากการจาหน่ายจะนาไปบารุงราชนาวีไทย
ข้อคิด คติคาสอน และความจรรโลงใจ
๑.
เราควรเลือกรับเฉพาะวัฒนธรรมตะวันตกทีด
่ ีงามมาปรับใ
ช้ในสังคมไทย
๒.
เราควรเรียนรู้กน
ั และกันให้มน
ั่ ใจก่อนตัดสินใจแต่งงาน
๓.
สตรีที่ใช้เสรีภาพในทางที่ผิดจะทาให้ตนเองและครอบครั
วต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง
๔.
ความผิดพลาดในอดีตสามารถนามาเป็นบทเรียนสาหรับก
ารดาเนินชีวิตได้
๕.
การประกอบอาชีพโดยใช้ความสามารถของตนเองย่อมก่
อให้เกิดความภาคภูมิใจ
๗.
แนวทางในการวิจารณ์วรรณคดีแ
ละวรรณกรรม
๗.๑ เนื้อเรื่อง
มีการใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษในการประพันธ์ดว
้ ย
ซึ่งไม่ได้เขียนเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษโดยตรง
แต่เป็นการเขียนทับศัพท์แทน
โดยการเขียนเป็นภาษาไทย
ตามสาเนียงภาษาอังกฤษที่ได้ยิน เช่นคาว่า ปอปูล่าร์ ฯลฯ
๗.๒ ตัวละคร
-ประพันธ์
คือ
ตัวแทนชายหนุม
่ ไทยที่ไปศึกษาที่ต่างประเทศและได้ประ
ทับใจในวัฒนธรรมของต่างประเทศอีกทั้งยังเปรียบ
“รักไทยเหมือนพ่อแม่
รักเมืองอังกฤษเหมือนรักเมีย”เมื่อพบอุไรสาวไทยผู้ทน
ั สมั
ยมีแนวคิดและมีค่านิยมแบบตะวันตกเต็มทีป
่ ระพันธ์จงึ ดูจ
ะมีความสุขมากขึ้น
และทัง้ สองได้มค
ี วามสัมพันธ์อย่างใกล้ชด
ิ
จนอุไรตัง้ ครรภ์จึงต้องแต่งงานกันโดยเร็ว
เวลาผ่านไปประพันธ์ได้รู้วา่ เข้าและอุไรไม่เหมาะสมกันแ
ละทัง้ คู่ได้หย่ากัน
ทาให้ประพันธ์ได้คิดว่า
“ผู้หญิงที่เหมาะสมกับเขานัน
้ ไม่ใช่ผู้หญิงทีค
่ ร่าครึอย่างแ
ม่กิมเน้ย
หรือทันสมัยอย่างแม่อไ
ุ ร
แต่ควรเป็นผู้หญิงที่มีลักษณะผสมผสานกันระหว่างความเ
ป็นไทยกับความเป็นตะวันตก นั้นก็คอ
ื ศรีสมาน
-อุไร
เป็นสาวทันสมัยใจตะวันตก
และทาให้ประพันธ์ถูกใจและชื่นชมมาก
จึงได้คบหาสมาคมสนิทสนมจนได้แต่งงานกัน
หลังจากแต่งงานพฤติกรรมของอุไรก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง
อุไรก็ยงั ไม่ได้ทาหน้าที่แม่บา้ นและข่มขู่สามีดถ
ู ูกคนอืน
่
แม้กระทั่งหลังจากแท้งลูกจนถึงกระทัง่ ไปข้างแรมบ้านชา
ยอื่น
ทาให้ประพันธ์ขอหย่าอุไรจึงไปอยู่กบ
ั พระยาตระเวนนคร
ซึ่งได้เรียกว่าเป็นชายชู้
ต่อมาได้หวนกลับมาขอคืนดีกบ
ั ประพันธ์อีกเพราะถูกพระ
ยาตระเวนนครทอดทิง้
แต่ประพันธ์ปฏิเสธ
อุไรจึงกลับไปอยู่บ้านพ่อและแต่งงานกับหลวงพิเศษพานิ
ชพ่อค้าผู้มงั่ คัง่
๗.๓ ศิลปะการประพันธ์
มีการเริ่มต้นเรือ
่ งได้อย่างน่าติดตาม
อีกทัง้ การดาเนินเรื่องก็ชวนให้ติดตามไปจนจบเรือ
่ ง
สานวนภาษาในการเขียนจดหมายและการเลือกใช้คาทับ
ศัพท์ภาษาอังกฤษ
รวมทั้งคาแสลงมากมายสอดคล้องกับลักษณะของประพัน
ธ์ผู้ยังอยู่ในวัยหนุ่ม และเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศใหม่ๆ
ทาให้ทราบเกี่ยวกับการใช้ภาษาทีป
่ ัจจุบันไม่ได้ใช้แล้ว
นอกจากนั้นเนือ
้ ความของจดหมายก็เป็นมุมมองหรือทัศน
ะที่ตรงไปตรงมาเหมือนจดหมายส่วนตัวทัว
่ ๆ
ไป
กลวิธีที่กล่าวมาทั้งหมดนีท
้ าให้หัวใจชายหนุ่มมีความสมจ
ริงเป็นอย่างยิง่
และสามารถสือ
่ แนวคิดทีต
่ ้องการนาเสนอได้แจ่มแจ้งชัดเ
จน
๗.๔ ข้อคิด คติคาสอน
๑.
พฤติกรรมของนายประพันธ์เป็นพฤติกรรมที่มท
ี ั้งข้อดีและ
ข้อเสีย
ทั้งความถูกต้องและผิดพลาด
เปรียบเสมือนกับมนุษย์ที่สามารถผิดพลาดได้ตลอดเวลา
แต่อย่าลืมนาความผิดพลาดนัน
้ มาใช้ในการแก้ไขตนเอง
และปรับทัศนคติที่ผิดอยู่ให้ดีขน
ึ้
๒.
อย่าหลงวัฒนธรรมตะวันตกจนลืมจิตสานึกแห่งความเป็น
ไทย
ควรเก็บสิง่ ทีด
่ ีมาปฏิบัติ
แล้วเก็บสิ่งที่ไม่ดีไว้เป็นอุทาหรณ์
ขณะเดียวกันก็อย่าดูถูกบ้านเกิดเมืองนอนว่าหัวโบราณ
๓.
การแต่งงานของหนุ่มสาวที่มาจากการชอบพอกันแค่เพีย
งเปลือกนอก
ขาดการรู้จักและเข้าใจกันอย่างแท้จริงย่อมไม่ยั่งยืนและอั
บปางลงอย่างง่ายดาย
๔.
การใช้เสรีภาพในทางที่ผิดโดยปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนกระ
ทั่งพลาดพลัง้ ชิงสุกก่อนห่ามจะต้องประสบชะตากรรมอันเ
ลวร้าย
๗.๕ การเชื่อมโยงกับชีวิตประจาวัน
สอนให้รู้จักการอนุรักษ์วฒ
ั นธรรมอันดีงามของไทยแ
ละรูจ
้ ักเลือกวัฒนธรรมตะวันตกมาปรับใช้ให้เหมาะสมใน
ชีวิตจริง
เราควรอนุรักษ์ความเป็นไทย
ไม่แต่เพียงวันเทศกาลไทยต่างๆ
ควรจะอนุรักษ์ทุกวัน
เช่น
การพูดภาษาไทยให้ถูกต้อง
หรือ
นาวัฒนธรรมชาติตะวันตกมาประยุกต์ใช้
แต่ยังคงอนุรักษ์ความเป็นไทย
๘.
ลักษณะการแต่ง
หัวใจชายหนุ่มเป็นร้อยแก้วในรูปแบบของจดหมายโดยมี
ข้อควรสังเกตสาหรับรูปแบบจดหมายทัง้ หมด
๑๘
ฉบับในเรือ
่ ง ดังนี้
๑.หัวจดหมาย ตั้งแต่ฉบับที่ ๑ วันที่ ๒๓ กันยายน
พ.ศ. ๒๔๖- จนถึงฉบับสุดท้ายวันที่ ๓๐ มีนาคม พ.ศ.
๒๔๖- จะเห็นว่ามีการเว้นเลขท้ายปี พ.ศ.ไว้
๒.คาขึ้นต้นจดหมาย
ทัง้
๑๘
ฉบับ
ใช้คาขึน
้ ต้นเหมือนกันหมด คือ “ถึงพ่อประเสริฐเพื่อนรัก”
๓.คาลงท้าย จะใช้คาว่า “จากเพื่อน...” “แต่เพื่อน...”
แล้วตามด้วยความรูส
้ ึกของนายประพันธ์
เช่น
“แต่เพื่อนผูใ
้ จคอออกจะยุ่งเหยิง” (ฉบับที่ ๑๐) มีเพียง ๙
ฉบับเท่านั้น ทีไ
่ ม่มีคาลงท้าย
๔.การลงชื่อ
ตั้งแต่ฉบับที่
๑๔
เป็นต้นไปใช้บรรดาศักดิท
์ ี่ได้รับพระราชทาน
คือ“บริบาลบรมศักดิ์”โดยตลอด แต่ฉบับที่ ๑-๑๓ ใช้ชื่อ
“ประพันธ์
๕.ความ สั้นยาวของจดหมาย มีเพียงฉบับที่ ๑๔
เท่านั้นที่มีขนาดสั้นที่สุด
เพราะเป็นเพียงจดหมายที่แจ้งไปยังเพือ
่ นว่าตนได้รบ
ั พระ
ราชทานบรรดาศักดิ์
Download